Download App
15% Risk To Live : พิชิตนรกกู้โลก / Chapter 3: มิติปิดกั้น - หนึ่ง

Chapter 3: มิติปิดกั้น - หนึ่ง

เอ๋ง

เสียงร้องของหมาสีน้ำตาลเข้มแถมมีกลิ่นเหมือนช็อกโกแลตดังขึ้น หลังจากผมใช้ขวานจามหัวมันจนเลือดสาด แต่ถ้าจะพูดให้ถูก มันเหมือนน้ำเชื่อมมากกว่าเลือดแฮะ

แถมความแปลกประหลาดของสัตว์มายาในพื้นที่ทุ่งหญ้าก็ต่างจากป่าหิมพานต์มาก ราวกับว่าเป็นคนละโลกก็ว่าได้ เพราะชื่อสัตว์มายาในส่วนของทุ่งหญ้าจะมีชื่อของขนมหวานผสมอยู่

แต่ในป่าหิมพานต์จะเป็นสัตว์หิมพานต์ตามตำนานของไทย อย่างไอ้ลิงครึ่งนกก็เรียกตามตำนานเลย แถมความแข็งแกร่งก็ต่างกันมาก ทำให้คาดเดาได้ว่าการเข้าพื้นที่แต่ล่ะแห่งในมิติปิดกั้นจะเป็นเหมือนการฝึก

ที่จะต้องเริ่มจากพื้นที่ที่มีสัตว์มายาระดับต่ำและสามารถกำจัดได้ง่าย จากนั้นก็ค่อยๆเพิ่มระดับความยากไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นก็หมายความว่า ผมเมื่อเช้าดันลองของข้ามขั้นสินะ แหม่ รู้สึกดีใจที่รอดตายมาได้เลยแฮะ

"พอเป็นสัตว์มายาในพื้นที่ทุ่งหญ้า ค่าปะสบการณ์ที่ได้ก็ดูจะน้อยลงรึเปล่านะ หรือว่ามันจะเหมือนเกมที่พอเลเวลสูงเกินแล้วค่าประสบการณ์ที่ได้จะลดลง"

ตอนนี้ผมกำจัดสุนัขช็อกโกแลตไปแล้วสามสิบกว่าตัว แต่เลเวลกลับไม่เพิ่มขึ้นแม้แต่เลเวลเดียว แต่จะทิ้งภารกิจก็ไม่ได้ เพราะถ้าทำภารกิจเดิมไม่เสร็จ ก็จะไม่ได้รับภารกิจใหม่ ทำให้ผมต้องรีบกำจัดเป้าหมายให้ครบ จะได้ไปพื้นที่อื่นซะที

"แถวนี้ก็ไม่เหลือแล้วสิ ลองเปิดแผนที่ดูดีกว่า"

แล้วในระหว่างที่ผมกำลังค้นหาเป้าหมายจากแผนที่ของระบบ เสียงร้องก็ดังขึ้นจากด้านหลัง และเสียงนี้ทำให้ผมรู้สึกสังหรณ์ร้ายอย่างช่วยไม่ได้

"ช่วยด้วยค่า"

ผมก้มต่ำทันที เพราะไม่อยากตกเป็นเหยื่อของพวกโรคจิต เพราะมันเคยมีข่าวว่าผู้ถูกเลือกทำร้ายปล้นฆ่ากันเองอยู่ ดังนั้นสำหรับผมแล้ว ผู้ถูกเลือกคนอื่นไม่ถือว่าเป็นพวกเดียวกัน แต่ตัวตนที่ควรระวังอย่างมาก

ซึ่งจะว่าไป ถ้าคิดให้เหมือนกับเกมที่มีระบบสู้กันเองของผู้เล่นโดยไม่จำกัดพื้นที่ แถมยังแย่งชิงของใช้ได้ทุกอย่างจากศพ มันก็พอจะยอมรับได้อยู่ เพียงแต่การทำแบบนั้นในชีวิตจริงมันก็ออกจะน่ารังเกียจไปสักหน่อย

และในระหว่างที่ผมคิดแผนรับมือในสถานการณ์ต่างๆ เสียงฝีเท้าก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แต่มันแปลกตรงที่เสียงฝีเท้ามีแค่เสียงเดียว ที่หากถูกไล่ตามจากสัตว์มายา มันก็น่าจะมีเสียงอื่นด้วย

แต่แล้วสิ่งที่ปรากฏขึ้นก็คือ ผู้หญิงร่างเตี้ยที่น่าจะสูงไม่เกินร้อยห้าสิบเซนติเมตร กำลังวิ่งหนีฝูงผีเสื้ออมยิ้มมากกว่าสิบตัวอย่างสุดฝีเท้า และนี่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำไมถึงมีแค่เสียงฝีเท้าอย่างเดียว

"เฮ้ยๆ อะไรมันจะบังเอิญเหมือนเหตุการณ์ในนิยายแบบนี้ฟระ แม่งวิ่งตรงมาหากันเลยนี่หว่า"

ผมสบถขึ้นอย่างหัวเสีย เพราะยัยเตี้ยนี่ดันวิ่งมาทางผมพอดี และถ้ายังอยู่กับที่แบบนี้ ฝูงผีเสื้ออมยิ้มก็จะมาโจมตีผมด้วยแน่นอน ให้ตายสิ ทำไมมีแต่เรื่องวะ

"วิ่งไปทางซ้าย"

ผมตัดสินใจลุกขึ้นตะโกนให้ยัยเตี้ยวิ่งไปทางซ้าย แต่ดูเหมือนสมองของยัยนี่จะหยุดทำงานไปแล้ว ถึงได้ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งตรงมาที่ผมอย่างเดียว และในเมื่อฝ่ายนั้นไม่ยอมทำตามที่บอก ผมก็จำเป็นต้องพึ่งตัวเองเท่านั้น

"โธ่โว๊ย"

เสียงสบถของผมดังขึ้นพร้อมกับสองขาที่ออกวิ่งไปทางขวามือของผมเอง ซึ่งเป็นทิศทางที่อยู่ตรงข้ามกับป่าหิมพานต์ เพราะการวิ่งหนีเข้าไปในป่ามันเท่ากับฆ่าตัวตาย ดังนั้นถ้ายัยเตี้ยนั่นอยากตายก็เชิญไปคนเดียวก็แล้วกัน

"เดี๋ยวดิ มาช่วยกันก่อน"

แล้วยัยนี่ยังมีหน้ามาขอให้ช่วยอีกต่างหาก แต่ในเมื่อวิ่งไปคนละทางแบบนี้แล้ว ผมก็ไม่มีความจำเป็นต้องสนใจอีก เพราะผมไม่คิดจะเป็นพระเอกนิยายในสถานการณ์เสี่ยงตายแบบนี้อยู่แล้ว

หลังจากวิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิตมาได้ราวห้านาที รอบด้านก็ไม่พบสัตว์มายาหรืออันตรายอะไรอีก ผมจึงทรุดตัวลงนั่งบนพื้นหญ้า ทว่ากลับมีสิ่งหนึ่งที่ผมแปลกใจ เพราะไม่มีอาการเหนื่อยหอบเลยแม้แต่น้อย

ซึ่งสิ่งเดียวที่สามารถอธิบายเรื่องนี้ได้ก็คือ ค่าสถานะความอดทนของผมที่เพิ่มขึ้นมาก ได้ส่งผลต่อร่างกายของผมโดยตรง จนทำให้อาการเหนื่อยล้าจากการใช้แรงวิ่งเต็มฝีเท้าไม่มีแม้แต่น้อย

"ได้รู้แบบนี้แล้ว ก็ยิ่งอยากเพิ่มค่าอื่นด้วยขึ้นมาเลย แต่จะให้เสี่ยงตายเหมือนเมื่อเช้านี้ละก็ ขอผ่านดีกว่า"

จากนั้นเมื่อเปิดแผนที่ของระบบก็ทำให้พบว่า ตอนนี้ผมอยู่ห่างจากเขตป่าหิมพานต์เกือบสองกิโลเมตร และสุนัขช็อกโกแลตจะพบได้บริเวณรอบป่า ทำให้ต้องเดินกลับไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ซึ่งก็ได้แต่หวังว่ายัยเตี้ยนั่นจะวิ่งหนีจนหายไปแล้วเท่านั้น แล้วตลอดทางที่เดินผ่านสัตว์มายาก็ไม่มีตัวไหนเข้ามาโจมตีผมก่อน ทำให้คิดว่าเลเวลน่าจะมีส่วนในเรื่องนี้ และน่าจะมีประโยชน์มากกว่าใช้แค่เก็บแต้มทักษะเท่านั้น

"โอ๊ะ ยัยนั่นตายยากดีแฮะ"

แล้วเมื่อมาถึงจุดเดิมที่เคยล่าสุนัขช็อกโกแลต ยัยเตี้ยก็กำลังวิ่งวนไปวงกลมเพื่อหนีฝูงผีเสื้ออมยิ้ม เออ ก็ยังดีที่ฉลาดพอจะไม่หนีเข้าป่าละนะ

"วิ่งไปแบบนั่นแหละ ที่เหลือเดี๋ยวผมช่วยเอง"

เสียงตะโกนของผมทำให้ยัยเตี้ยพยักหน้าอย่างมีความหวัง ก่อนที่ผมจะหยิบมีดดายหญ้าออกมาใช้ เพื่อใบมีดที่หนาและหนักนั้น เหมาะจะใช้จัดการผีเสื้ออมยิ้มที่มีขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือ

โพละ

เสียงอมยิ้มแตกระจายดังขึ้นเป็นระยะ แล้วดูเหมือนว่าเป้าหมายของพวกมันจะมีแค่ยัยเตี้ยนี่เท่านั้น หรือไม่ก็เพราะเลเวลมันห่างจากผมมากจนไม่กล้าเข้ามาโจมตี แถมผมยังฆ่ามันได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวโดยไม่ต้องใช้พลังจิตอีกด้วย

แบบนี้เลเวลาน่าจะส่งผลกับการล่าสัตว์มายามากกว่าที่คิดซะแล้ว แต่ตอนนี้ผมควรสนใจยัยเตี้ยที่กำลังนั่งหอบตรงหน้าก่อน เพราะผมไม่คิดจะช่วยใครฟรีๆ

"นี่เธอ คนเขาช่วยแล้วก็หัดขอบคุณซะบ้างสิ"

"อ๊ะ ขอบคุณค่า โอ๊ย นึกว่าจะตายซะแล้ว"

ผมมองยัยผู้หญิงไร้ยางอายที่นั่งอ้าขาทั้งๆที่ใส่กระโปรงสั้น หรือจะเรียกว่าไม่มีสามัญสำนึกดี เพราะคนปกติที่ไหนจะใส่กระโปรงมามิติปิดกั้นเพื่อฝึกฝนกัน สงสัยจะเป็นพวกสมองกลวงแฮะ

"แล้วนึกยังไงถึงใส่กระโปรงมามิติปิดกั้นห๊ะ แถมอาวุธก็ไม่มี อยากตายรึไง"

"แหม อย่าพึ่งด่ากันสิ ไอ้ฉันก็ไม่ได้อยากมาทั้งแบบนี้หรอก แต่โดนบังคับมาต่างหาก"

เอาแล้วไง อย่าบอกนะว่ายัยนี่เป็นหนึ่งในผู้ถูกเลือก ที่ไปลงทะเบียนไว้กับรัฐบาลนะ

"ต่อให้โดนบังคับมา มันก็ควรจะเตรียมตัวให้พร้อมกว่านี้ไม่ใช่รึไง อย่างน้อยก็ควรจะมีอาวุธสิ"

"ก็มีหรอก แต่มันหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้"

ผมกุมขมับกับคำตอบของยัยนี่ ที่ทำเหมือนเป็นเรื่องเล่นๆ ทั้งๆที่ตัวเองเกือบตายด้วยซ้ำ แถมคนแบบนี้ยังเป็นประเภทที่ผมเกลียดที่สุดด้วย ดังนั้นรีบจบเรื่องแล้วเผ่นดีกว่า

"เฮ้อ ช่างเหอะ แล้วตอนนี้เธอก็ออกจากมิติปิดกั้นได้แล้ว ผมไปละ"

"อ๊ะ เดี๋ยวสิ อย่างน้อยให้ฉันได้ตอบแทนนายก่อน"

"ไม่ต้องหรอก"

แล้วผมก็รีบเดินจ้ำอ้าวไปทันที และดูเหมือนยัยเตี้ยจะยอมแพ้เรื่องตอบแทนแล้ว ดังนั้นผมก็แค่ทำภารกิจให้เสร็จ แล้วค่อยลองสำรวจพื้นที่ต่อไปเพื่อดูว่าเลเวลแบบนี้ควรจะไปล่าแถวไหน

เอ๋ง

-ท่านทำภารกิจ กำจัด สุนัขช็อกโกแลต จำนวนห้าสิบตัวสำเร็จ ได้รับสนับมือเขี้ยวสุนัขช็อกโกแลต-

หลังจากวนเวียนหาหมาชะตาขาดอยู่เกือบชั่วโมง ผมก็ได้รับของรางวัลเป็นสนับมือที่มีเขี้ยวติดอยู่ แถมพอใส่แล้วยังถืออาวุธอื่นได้อีกด้วย แบบนี้ค่อยสมกับเป็นโลกจริงหน่อย เพราะถ้าเป็นเกมมันจะบังคับให้ใส่แค่อย่างเดียวเท่านั้น

แต่การใส่อาวุธซ้อนกันแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าพลังโจมตีจะเพิ่มขึ้นรึเปล่า ดังนั้นเพื่อเป็นการทดสอบผมจึงเรียกหน้าต่างสถานะออกมาดู โดยใส่สนับมือพร้อมกับถือดาบหนอนชาเขียวไว้ด้วย

ผู้ถูกเลือก เลเวล 20

ชื่อ ทวีโชค ใจงาม

สัญชาติ ไทย

พลังชีวิต 185 พลังเวท 10

ความแข็งแกร่ง 10 ความอดทน 50

ความว่องไว 10 (+5) ความแม่นยำ 9

พลังโจมตี 5 (+15) พลังป้องกัน 100

แต้มทักษะ 80

ทักษะ​ ฟื้นฟู​ขั้นกลาง

ความสามารถ​พิเศษ​ - ควบคุมประจุไฟฟ้าในร่างกายและพลังงานไฟฟ้าในอากาศ​

แล้วพอผมปักดาบลงบนพื้น ก็พบว่าค่าพลังโจมตีของผมกลายเป็นบวกสิบ ซึ่งหมายความว่าปกติแล้ว ทั้งดาบและสนับมือจะเพิ่มพลังโจมตีสิบหน่วย แต่พอใส่ด้วยกันพลังโจมตีของชิ้นใดชิ้นหนึ่งเลยลดลงครึ่งหนึ่ง ก็โอเคนะ

และเพียงเท่านี้ผมก็ได้วิธีเพิ่มพลังโจมตีแล้ว ที่เหลือก็แค่หาเหยื่อลองของเท่านั้น แต่จะให้เข้าป่าหิมพานต์ก็ยังไม่กล้า ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะเดินไปตามชายป่า เผื่อจะได้เจอเขตอื่นบ้าง

-ท่านเข้าสู่พื้นที่สระน้ำย่อย สระสาขาของสระสีหัปปาตะ-

มันคืออะไรวะ พอดีเคยได้ยินแต่สระอโนดาต แต่ช่างเหอะ มันก็คงเป็นสระน้ำในป่าหิมพานต์สักสระนั่นแหละ

ผมลองเดินตามแผนที่ไปจนเจอกับแอ่งน้ำขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ซึ่งแอ่งนี่มีทางน้ำไหลออกมาจากป่า ที่หากเดินตามไปคงเจอกับสระน้ำใหญ่ที่ระบบบอกว่าชื่อ สี-หับ-ปา-ตะ คงอ่านแบบนี้เนอะ

-ท่านได้รับภารกิจ กำจัด ปลาเสือลายเมฆ วัยเยาว์ จำนวนสิบตัว-

โอเค ได้ภารกิจใหม่แล้ว แถมดูจะไม่ยากเท่าไอ้ลิงครึ่งนกเมื่อเช้า เพราะจำนวนที่ให้กำจัดมีมากกว่า

"แต่ให้จับปลาแบบนี้ ไอ้ของที่ซื้อมาก็ไม่ได้ใช้น่ะสิ เสียตังเปล่าอีกแล้วเรอะ"

ผมบ่นด้วยเสียดายเงินที่เสียไปกับมีดดายหญ้าและขวาน เพราะผมเลือกที่จะปิดบังว่าตัวเองเป็นผู้ถูกเลือก จึงไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากทางรัฐบาล แต่การแลกอิสรภาพกับเงินมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากจะทำเท่าไหร่

แถมตอนนี้ผมก็ยังอยู่ในป่าที่มีต้นไม้ให้เลือกใช้ทำหอกได้ไม่ยาก ดังนั้นการลองสร้างอาวุธเองก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะไม่แน่ว่าผมอาจจะได้วิธีประหยัดเงินแบบไม่รู้ตัวก็ได้

"ก่อนอื่น ลองหาต้นไม้เหมาะๆก่อน"

ผมลองเดินดูต้นไม้รอบป่าที่แท่งยอดสูงชะลูดขึ้นไปบนฟ้าจนคอตั้งบ่า แล้วต้นไม้แบบนี้ไม่ได้มีแค่ต้นเดียว แต่เป็นแบบนี้แทบทุกต้นก็ว่าได้ ทำให้ผมตัดใจจากการตัดกิ้งไม้มาทำหอก ก่อนหันไปมองหาท่อนไม้ตามพื้นแทน

แล้วพอเดินหาได้สักสิบนาที ผมก็เจอท่อนไม้ขนาดพอเหมาะที่จะเอามาทำหอก ก่อนจะเริ่มลงมือด้วยการเหลาให้เรียบทั้งท่อน เพื่อไม่ให้เสี้ยนตำมือ จากนั้นก็ค่อยๆเหลาปลายให้แหลม เพียงเท่านี้ผมก็ได้หอกไม้ไว้ใช้งาน

"คงหวังเรื่องพลังโจมตีไม่ได้ แต่ก็คงไม่มีปัญหาหรอก"

เพราะผมมีพลังจิตให้ใช้เพิ่มพลังโจมตีอยู่ ดังนั้นต่อให้หอกไม้นี่มีพลังโจมตีแค่หนึ่งเหมือนมีดทำครัว ผมก็มั่นใจว่ามันพอที่จะกำจัดเป้าหมายในภารกิจได้ ถึงจะไม่รู้ว่าไอ้ปลาเสือลายเมฆมันเก่งกว่าหนอนชาเขียวแค่ไหน

แต่เป็นปลาอยู่ในแอ่งน้ำแบบนี้ก็ไม่น่าจะจัดการยากอะไรหรอกมั้ง

ฉึก

แล้วเสียงหอกไม้แท่งลงบนโคลนก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมันทำให้ผมรู้ว่าการแทงปลามันยากกว่าที่คิด ทั้งๆที่ดูจากสารคดีแล้วเหมือนจะง่ายแท้ๆ แต่ยังไงซะมันก็ดีกว่าไปเสี่ยงตายกับฝูงสัตว์มายาในป่าละนะ

"เฮ้อ จะเป็นชั่วโมงแล้ว ยังแทงไม่ถูกสักตัวเลยวุ้ย"

ผมนั่งบนพื้นหญ้าริมแอ่งน้ำด้วยความเหนื่อยใจ จนอยากจะเอามือแช่น้ำแล้วปล่อยกระแสไฟฟ้าให้รู้แล้วรู้รอด แต่การทำแบบนั้นมันก็เสี่ยงตายจากการใช้พลังจิตมากเกินไป แถมกระแสไฟฟ้าจะไหลตามน้ำไปถึงไหนก็ไม่รู้ เกิดซวยไปกระตุกต่อมตัวอันตรายเข้ามีหวังตายลูกเดียว

"เออ มันมีหนอนที่เป็นเหยื่อปลานี่หว่า ลองดูดีกว่า"

แล้วความคิดพิสดารก็แล่นเข้ามาในหัวของผม ด้วยการใช้หนอนชาเขียวเป็นเหยื่อล่อปลาให้อยู่นิ่ง จากนั้นผมก็น่าจะจัดการได้ไม่ยากนัก ดังนั้นเมื่อตัดสินใจได้แล้วผมก็ลงมือทันที

"แต่แบบนี้เดินไปมาก็เสียเวลาน่าดู แต่เอาเหอะ ถือว่าทดลองก็แล้วกัน"

จากแผนที่ของระบบ ทำให้รู้ระยะจากจุดที่เป็นแอ่งน้ำไปถึงที่อยู่ของหนอนชาเขียวห่างกันถึงสามกิโลเมตร ถ้าเดินไปกลับก็หกกิโลเมตร เฮ้อ เสียเวลาเป็นบ้า


next chapter
Load failed, please RETRY

Weekly Power Status

Rank -- Power Ranking
Stone -- Power stone

Batch unlock chapters

Table of Contents

Display Options

Background

Font

Size

Chapter comments

Write a review Reading Status: C3
Fail to post. Please try again
  • Writing Quality
  • Stability of Updates
  • Story Development
  • Character Design
  • World Background

The total score 0.0

Review posted successfully! Read more reviews
Vote with Power Stone
Rank NO.-- Power Ranking
Stone -- Power Stone
Report inappropriate content
error Tip

Report abuse

Paragraph comments

Login