Download App
30% Risk To Live : พิชิตนรกกู้โลก / Chapter 6: มิติปิดกั้น - สี่

Chapter 6: มิติปิดกั้น - สี่

"เปิดค่าสถานะ"

ผู้ถูกเลือก เลเวล 23

ชื่อ ทวีโชค ใจงาม

สัญชาติ ไทย

พลังชีวิต 185 พลังเวท 10

ความแข็งแกร่ง 12 ความอดทน 50

ความว่องไว 10 (+5) ความแม่นยำ 10

พลังโจมตี 6 (+15) พลังป้องกัน 100 (+10)

แต้มทักษะ 10

ทักษะ​

- ฟื้นฟู​ขั้นกลาง

- ช่องเก็บของต่างมิติขั้นต้น

- ซ่อนเร้นขั้นต้น

ความสามารถ​พิเศษ​ - ควบคุมประจุไฟฟ้าในร่างกายและพลังงานไฟฟ้าในอากาศ​

ผมเปิดหน้าต่างสถานะออกมาดูเพื่อยืนยันสิ่งที่ได้ยิน และทักษะซ่อนเร้นขั้นต้นก็ปรากฏอยู่ในส่วนของทักษะจริงๆ

"อยากตบหน้าตัวเองที่ไม่อ่านรายละเอียดให้ดีจริงๆ"

เสียงสบถของผมดังขึ้นเป็นระยะด้วยความหงุดหงิดผสมโกรธเคืองในความโง่ของตัวเอง แต่ในเมื่อรู้แล้วก็ต้องหาวิธีเอาทักษะที่มีประโยชน์มาไว้ใช้ให้ได้ ทว่าทักษะที่ไม่ต้องใช้แต้มแลกนั้น ไม่มีคำอธิบายว่าต้องทำยังไงถึงได้มา

"พระเจ้านี่ก็โหดจริงเชียว แต่ดูจากที่ได้ทักษะซ่อนเร้นมาด้วยการลอบโจมตี มันก็คงไม่ยากนักหรอก"

ผมเดินกลับมาที่ทุ่งหญ้าชายป่าเพื่อหาที่นั่งคิดทบทวนแผนการใหม่ เพราะในตอนแรกตั้งใจจะเก็บเลเวลให้ถึงเป้า แล้วเอาแต้มไปแลกทักษะฟื้นฟูขั้นสูง จากนั้นค่อยหาทักษะโจมตีเพิ่ม

แต่ในเมื่อมันมีทักษะที่ได้มาฟรีๆ โดยขอแค่ทำตามเงื่อนไขได้สำเร็จแบบนี้ ก็ขอใช้สัตว์มายาในทุ่งหญ้าที่อ่อนแอกว่าเป็นหนูทดลองละกัน เพราะไหนๆตอนนี้ก็ยังไม่ได้ภารกิจใหม่อยู่ดี

"รู้สึกแถวนี้จะเป็นถิ่นของสุนัขช็อกโกแลต กับแมววานิลลา ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องระวังเท่าไหร่หรอกมั้ง"

จากนั้นผมก็ถือโล่พร้อมกับดาบหนอนชาเขียวตามหาสัตว์มายา จนมาเจอกับแมวสีขาวนวลที่ส่งกลิ่นหอมจางๆอยู่ตรงหน้า และไม่ต้องดูข้อมูลจากระบบก็รู้ได้ว่ามันคือ แมววานิลลา

แต่ไอ้แมวนี้มันตัวเท่าหมาได้เลยแฮะ แถมยังดูจะดุกว่าหมาช็อกโกแลตอีก แต่ยังดีที่มันอยู่ตัวเดียว แล้วในบริเวณนี้ก็ไม่มีสัตว์มายาอยู่ในรัศมีสายตา โอเค ลองทำอะไรเสี่ยงๆสักหน่อยก็แล้วกัน

"เฮ้ย ไอ้แมวหน้าโง่"

เสียงเรียกทำให้แมวหันมามองอย่างดุร้าย แต่มันก็ไม่ยอมเข้ามาโจมตี ที่น่าจะเป็นเพราะเลเวลที่ต่างกันระหว่างผมกับมัน ดังนั้นผมก็ต้องลงมือยั่วยุมันให้มากขึ้น

"แน่จริงเข้ามาสิวะ"

ก้อนหินและก้อนดินถูกขวางใส่แมววานิลลาจนมันเริ่มที่จะโกรธ แต่มันก็ยังไม่เข้ามาโจมตีทันที เพียงเดินวนไปรอบๆเหมือนจะหาช่องว่าง ผมจึงหันไปเผชิญหน้ากับมันพร้อมยกโล่ขึ้นเตรียมพร้อม

"เข้ามาๆ"

แมววานิลลาเริ่มมีปฏิกิริยากับเสียงของผม จนมันตัดสินใจโจมตีด้วยการตะปบใส่ โดยมีเป้าหมายที่หน้าของผม แต่โลหนังปลาเสือลายเมฆในมือก็พร้อมรับการโจมตีอยู่แล้ว

ตึง

เสียงปะทะดังทึบๆก่อนที่แรงกระแทกจะทำให้แขนชาเล็กน้อย ซึ่งในจังหวะที่มันถอยหลังด้วยแรงปะทะ ดาบในมือของผมก็แทงเข้าใส่สีข้างของมัน

แง้ว

และด้วยการเสริมพลังจิตเข้าไปในการโจมตี แมววานิลลาก็สิ้นชีพลงอย่างง่ายดาย พร้อมกับเสียงของระบบที่ผมคาดหวังเอาไว้

-ท่านทำตามเงื่อนไข ได้รับทักษะยั่วยุขั้นต้น-

"ได้จริงเว้ยเฮ้ย"

แต่การได้ทักษะน่าจะสัมพันธ์กับการกำจัดสัตว์มายา เพราะระหว่างที่ผมทดลองยั่วโมโหแมววานิลลา ระบบก็ไม่มีการแจ้งเตือนอะไรเข้ามาสักนิด ทำให้สรุปได้ว่าการจะได้ทักษะ จะต้องเป็นหลังจากกำจัดสัตว์มายาไปแล้ว เหมือนกับการใช้คำสั่งของระบบ ที่ต้องอยู่สถานะพักนั่นเอง

"แบบนี้ชักอยากได้ทักษะสายสร้างของแฮะ แต่ไม่รู้ว่ามันจะมีรึเปล่า สงสัยไว้กลับบ้านต้องนั่งอ่านให้ถี่ถ้วนอีกที"

จากนั้นผมก็เดินวนเวียนเข้าต่อสู้กับสัตว์มายาในทุ่งญ้าไปเรื่อยๆ เพื่อทดลองดูว่าจะได้รับทักษะเพิ่มหรือไม่ แต่ด้วยจินตนาการที่จำกัดของผม ทำให้วิธีที่พอจะนึกออกก็มีไม่กี่อย่าง

ตั้งแต่ลองขว้างขวานใส่ ใช้โล่กระแทก หรือแม้แต่ต่อยเตะโดยไม่ใส่อาวุธ แต่ดูเหมือนการโจมตีธรรมดาจะไม่ทำให้ได้ทักษะ ทำให้ไม่มีอะไรคืบหน้าเท่าไหร่ แถมจะให้ขุดหลุมทำกับดัก หรือสร้างของในตอนนี้ก็ไม่มีอุปการณ์ด้วย

"ช่วยไม่ได้แฮะ กลับเข้าไปในป่าดีกว่า ชักเบื่อสัตว์มายาแถวนี้แล้วด้วย"

จากนั้นพอผมเข้ามาในพื้นที่ป่า ก็เริ่มทดลองสังเกตรอบตัวให้ละเอียดมากขึ้น ตั้งแต่ต้นไม้ใบหญ้า ก้อนหิน รวมถึงพื้นดิน เพราะเคยดูในสารคดีเกี่ยวกับการเอาชีวิตรอด ว่าร่องรอยพวกนี้สามารถใช้แกะรอยสัตว์ป่าได้

ดังนั้นในป่าหิมพานต์ที่มีสัตว์มายาอยู่แถมมีความคล้ายคลึงกับสัตว์ป่า การทำแบบนี้ก็น่าจะทำให้ผมได้ทักษะจำพวกแกะรอย หรือสังเกตได้บ้าง และหากตามรอยไปจนกำจัดสัตว์มายาได้ ก็น่าจะได้ทักษะเช่นกัน

โดยเมื่อลองสังเกตดูให้ดีแล้ว ร่องรอยส่วนใหญ่มันจะเป็นสิ่งที่เกิดจากตัวผมเอง เพราะการเข้าออกป่าหลายครั้งทำให้ทิ้งรอยเท้าเอาไว้ แต่ก็ยังสงสัยว่าการเจอร่องรอยที่ตัวเองทิ้งไว้นี้มันนับเป็นหนึ่งในเงื่อนไขรึเปล่านะ

"โอ๊ะ เจอรอยเท้าอย่างอื่นแล้วแฮะ"

ซึ่งลักษณะรอยเท้านี้เหมือนกับสัตว์กีบ ที่ทิ้งรอยเป็นหลุมลงไปเป็นคู่ ที่ดูแล้วน่าจะเป็นตัวที่มีน้ำหนักไม่มากนัก เพราะรอยยุบค่อนข้างตื้น ทำให้คาดเดาว่าไม่น่าจะใช้พวกควาย หรือหมูป่า ที่มักจะมีน้ำหนักมาก

แต่ความรู้เรื่องสัตว์ของผมก็เรียกได้ว่าน้อยมาก ที่อย่างมากก็รู้เพราะอาศัยดูสารคดีเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นจะหวังให้ตัวเองมีความสามารถตามรอยจนเจอคงเป็นไปไม่ได้ ยกเว้นมันจะบังเอิญเจอพอดี

ดังนั้นผมจึงลองเสี่ยงดวงเดินตามรอยเท้าสัตว์กีบไปเรื่อยๆ แต่ถ้ามันลึกเข้าไปในป่ามากเกินไปก็คงต้องล้มเลิกความคิด เพราะยังไม่อยากเสี่ยงตายเหมือนเมื่อเช้า ถึงพลังจิตของผมมันจะช่วยให้เอาชีวิตรอดได้ก็ตาม

"ทางแยกเหรอ"

เมื่อเดินตามมาได้ระยะหนึ่ง ก็ปรากฏทางแยกอยู่เบื้องหน้าผม แต่ถึงจะเรียกทางแยกมันก็ไม่ได้เป็นเส้นทางชัดเจนขนาดนั้น เพราะด้านหน้ามันเป็นป่ารกทึบที่เดินเข้าไปลำบากแม้แต่สัตว์แค่นั้นเอง

แล้วพอดูจากรอยเท้าแล้ว สัตว์ที่ผมกำลังตามรอยอยู่ก็มุ่งหน้าไปทางขวา ที่ดูจากแผนที่แล้วไม่ได้มุ่งหน้าลึกเข้าไปในป่า แต่เป็นบริเวณชายป่าที่หากกะระยะจากแผนที่ของระบบ มันน่าจะอยู่ที่ราวสองกิโลเมตรได้

"วิ่งเต็มที่ในระยะสองกิโล ก็น่าจะเอาตัวรอดได้แหละน่า"

พอตัดสินใจได้ก็เริ่มออกเดินอีกครั้ง ซึ่งเส้นทางนี้เหมือนจะมีการใช้งานค่อนข้างบ่อย เพราะหญ้าสั้นกว่าจุดอื่น แถมยังมีรอยเท้าอื่นๆอีกหลายรอย ทำให้เดาได้ว่าข้างหน้าจะมีสิ่งที่สัตว์พวกนี้เดินทางไปหาบ่อย

ที่หากเป็นป่าธรรมดา มันก็ควรจะเป็นแหล่งน้ำหรือไม่ก็แหล่งอาหาร แต่ในป่าหิมพานต์ที่เกิดจากฝีมือของพระเจ้า ที่สร้างขึ้นเพื่อฝึกฝนผู้ถูกเลือก การจะหวังให้มันเป็นอะไรแบบนั้นคงยาก

"ใกล้ถึงแล้ว ลองใช้ทักษะซ่อนเร้นดูดีกว่า"

แต่พอลองใช้ทักษะกลับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีแต่ความรู้สึกที่ว่าเสียงฝีเท้าเบาลง กับสังเกตเห็นจุดที่สามารถหลบซ่อนตัวได้ง่ายขึ้นเท่านั้น แต่ก็อย่างว่า มันเป็นขั้นต้นนี่นะ

จากนั้นผมก็ค่อยๆเดินเข้าไปหาเป้าหมายโดยดูแผนที่ไปด้วย เพราะสัตว์มายาจะปรากฏเป็นจุดสีแดงในแผนที่ หากอยู่ใกล้มากกว่าร้อยเมตร และจะทำให้ผมได้หนีทัน

แต่แผนที่ของระบบก็ให้ความรู้สึกสับสนนิดหน่อย เหมือนกับมันจะทำการบันทึกสัตว์มายาที่เคยเจอไว้ให้ แล้วเมื่อมาเจออีกครั้งจะรู้ได้ทันที่ว่าอยู่ไหนบ้าง เหมือนอย่างตอนหาหนอนชาเขียวกับหมาช็อกโกแลต ที่สามารถเดินตามแผนที่ได้เลย

ซึ่งมันเหมือนเป็นการบอกให้ตามหาสัตว์มายาในมิตินี้ให้ครบทุกตัว ถ้าอยากจะรู้ว่ารอบตัวมีสัตว์มายาชนิดไหนอยู่บ้าง และหากรู้แบบนั้นมันก็ทำให้การฝึกฝนทำได้ง่ายขึ้นมาก

"แอ่งน้ำเหรอ แสดงว่านี่เป็นที่ดื่มน้ำของสัตว์มายาในป่าสินะ"

แอ่งน้ำด้านหน้าของผมมีลักษณะคล้ายกับแอ่งน้ำบริเวณชายป่า ที่ใช้ล่าปลาเสือลายเมฆ เพียงแต่ตอนนี้ผมน่าจะอยู่นอกระยะของแอ่งน้ำ ทำให้ระบบไม่แจ้งเตือนการเข้าสู่พื้นที่ใหม่

แล้วไม่นานสัตว์มายา หรือสิ่งที่เหมือนสัตว์มายาก็ปรากฏขึ้นจากอีกด้านหนึ่งของแอ่งน้ำ มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์เพศหญิงแค่ท่อนบน โดยมีเขากวางบนหัว กับท่อนล่างที่เป็นกวางยืนสี่ขา

แต่เท่าที่ดูจากสายตา มันน่าจะมีสติปัญญาไม่มากก็น้อย เพราะรู้จักปกปิดที่ลับแบบหน้าอกด้วยผ้าแถบ แถมยังมีลวดลายสวยงามเกินกว่าจะเป็นฝึมือของคนป่าไร้อารยธรรมซะด้วย

"อยู่ไกลไปเลยไม่มีการแจ้งเตือนจากระบบก็ดีไปอย่าง เพราะเสียงดังแบบนั้นมีหวังถูกเจอแน่"

ผมเฝ้าดูจากระยะเกินร้อยเมตรได้ โดยอาศัยทักษะซ่อนเร้น กับพุ้มไม้เป็นที่กำบัง เพราะไม่รู้ว่าคนครึ่งกวางจะแข็งแกร่งขนาดไหน แถมการสู้กับสิ่งที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์มันทำใจค่อนข้างยาก โดยเฉพาะที่อีกฝ่ายเป็นผู้หญิงด้วยยิ่งทำใจลำบาก

"หือ มีพวกมาด้วยเหรอ"

คราวนี้สิ่งที่วิ่งเข้ามายังแอ่งน้ำคือสัตว์มายาที่น่าจะเป็นชนิดเดียวกัน เพียงแต่ท่อนบนของมันน่าจะเป็นเพศชาย และมีลักษณะเหมือนลิงมากกว่ามนุษย์ แต่มันก็อาจจะเป็นลักษณะเฉพาะของสัตว์มายาชนิดนี้ก็ได้

แต่แล้วสิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น เมื่อสัตว์มายาที่เหมือนลิงครึ่งกวางเข้าไปทำร้ายผู้หญิงครึ่งกวาง จนอีกฝ่ายที่มีจำนวนน้อยกว่าต้องวิ่งหนี แต่ไอ้พวกลิงครึ่งกวางก็ไม่ยอมให้หนีง่ายๆเช่นกัน

"พึ่งรู้ว่าสัตว์มายามันสู้กันเองด้วยแฮะ แต่จะว่าไปก็คงไม่แปลก เพราะพวกมันเหมือนสัตว์ป่านี่นะ"

แต่การดูผู้หญิงถูกทำร้ายมันไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากทำ โดยเฉพาะในตอนนี้ที่ผมมีพลังมากพอจะช่วยเหลือ เพียงแต่ที่ยังลังเลอยู่ก็เพราะกลัวจะทำคุณบูชาโทษเนี่ยแหละ เอาไงดีหว่า

"โอ๊ย ช่วยด้วยเจ้าค่า"

หือ พูดได้ด้วยวุ้ย แบบนี้ไม่น่าจะเป็นสัตว์มายาแล้วมั้ง

ผู้หญิงครึ่งกวางร้องขอความช่วยเหลืออย่างไร้ความหวัง พลางยกมือป้องกันตัวเอง แต่ไอ้พวกลิงครึ่งกวางก็ยังรุมทำร้ายเหมือนไม่สนใจการขอร้องนั้น เหมือนกับพวกมันเป็นแค่สัตว์ป่าที่กำลังทำร้ายผู้หญิงธรรมดาเท่านั้น

"เอาวะ"

เมื่อตัดสินใจได้ ผมก็ลุกขึ้นจากที่ซ่อนแล้วใช้ทักษะยั่วยุ เพื่อดึงความสนใจของไอ้ลิงครึ่งกวางสองตัว ที่กำลังรุมเตะต่อยผู้หญิงครึ่งกวางอย่างเมามัน

"เฮ้ย ไอ้ลิงเฮงซวย แน่จริงมาทางนี้สิวะ"

แล้วทักษะยั่วยุก็ทำงานได้ตามต้องการ ที่แม้จะเป็นขั้นต้นแต่มันก็ทำให้ลิงครึ่งกวางสองตัวละความสนใจจากผู้หญิงครึ่งกวาง ก่อนจะวิ่งลุยแอ่งน้ำมาหาผมอย่างบ้าคลั่ง

ส่วนผมที่ยืนรออยู่ก็ยกโล่ขึ้นเพื่อบังมือขวาที่ถือดาบหนอนชาเขียวเอาไว้ และเมื่อลิงครึ่งม้าตัวแรกเข้ามากระโดดใส่ผม เหมือนจะตั้งใจเหยียบให้จมดิน ผมก็หลบออกด้านขวาแล้วจ้วงแทงดาบเข้าที่ชายโครงของมันทันที

เจี๊ยก

และด้วยพลังจิตของผมที่ช่วยเสริมพลังโจมตี ที่แม้จะไม่ได้บอกเป็นตัวเลขในหน้าต่างสถานะ แต่ทุกครั้งที่ใช้ผมก็จะสามารถล้มศัตรูลงได้แทบจะทันที และไอ้ลิงครึ่งกวางตัวนี้ก็ไม่ต่างกัน

-ท่านได้รับภารกิจฉุกเฉิน กำจัดพานรมฤคชั้นต่ำ จำนวนสองตัว-

ชื่อแม่งพิลึกอีกแล้วว้อย แต่ช่างแม่งก่อน

หลังจากกำจัดลิงครึ่งกวางตัวแรกไปแล้ว อีกตัวที่วิ่งตามกันมาก็มีทีท่าระมัดระวังมากขึ้น แต่การที่มันยังไม่หนี แสดงว่ามันยังไม่เห็นผมเป็นภัย และคิดว่าจะเอาชนะผมได้

ซึ่งก็เป็นเรื่องดี เพราะภารกิจของผมจะต้องกำจัดสองตัวถึงจะสำเร็จ ดังนั้ถ้ามันหนีไปละก็ ภารกิจของผมก็จะไม่มีวันเสร็จ แล้วถ้ายังทำภารกิจเดิมไม่เสร็จ ก็อย่าหวังจะได้ภารกิจใหม่

"เฮ้ย ปอดแหกแล้วรึไง"

ด้วยทักษะยั่วยุ ทำให้ลิงครึ่งกวางดูจะโมโหที่โดนท้าทาย จึงวิ่งเข้าใส่เหมือนต้องการจะจับผมให้ได้ แต่การวิ่งมาหาแบบนี้มันก็เข้าทางผมพอดี

ตึง

โล่กระแทกเข้ากับหน้าของมันอย่างจัง ก่อนที่ดาบในมือขวาจะแทงเข้าไปที่กลางหน้าอกของมัน และเพียงเท่านี้ ภารกิจฉุกเฉินของผมก็สำเร็จ

-ท่านทำภารกิจฉุกเฉิน กำจัดพานรมฤคชั้นต่ำ จำนวนสองตัวสำเร็จ ได้รับแต้มทักษะสิบหน่วย-

*แต้มทักษะ 20

โว้ว เจ๋งเลย พึ่งรู้ว่าภารกิจก็ให้แต้มทักษะเป็นรางวัลนะเนี่ย

แต่ไม่ทันที่ผมจะได้ดีใจนากนัก ผู้หญิงครึ่งกวางก็เดินเข้ามาหาผมพร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณอย่างงดงาม

"ขอขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะ หากไม่ได้ท่านช่วยกำจัดพวกพานรมฤคชั้นต่ำสองตัวนี้ ข้าพเจ้าก็คงสิ้นชีพเป็นแน่"

เออ ไอ้เหตุการณ์เหมือนตัวเอกนิยายเจอนางเอกแบบนี้มันก็ดีอยู่หรอก แต่จะดีกว่านี้ถ้าเป็นผู้หญิงปกติอ่ะนะ

แต่ถึงผมจะรู้สึกผิดหวังนิดหน่อย มือก็ยกขึ้นรับไหว้เรียบร้อยแล้ว และถ้าคิดในแง่ดี การได้คนในพื้นที่ค่อยให้ข้อมูลก็น่าจะดีกว่าเดินสำรวจมั่วไปเรื่อยๆ ดังนั้นผมจึงเลือกจะผูกมิตรกับผู้หญิงครึ่งกวางคนนี้

"ไม่เป็นไรครับ ผมแค่ทนเห็นผู้หญิงถูกทำร้ายไม่ได้เท่านั้นเอง"

"ท่านช่างมีจิตใจดีงาม สมกับเป็นผู้ถูกเลือกจากพระเจ้าจริงๆนะเจ้าคะ"

ผมสะดุ้งกับคำเรียกขานของเธอ แต่ก็ยังเก็บอาการไม่ให้ผิดสังเกต ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้เป็นปกติ

"คุณรู้ว่าผมเป็นผู้ถูกเลือกงั้นเหรอ"

"เพราะมีเพียงมนุษยผู้ถูกเลือกเท่านั้น ที่จะเข้ามาในป่าหิมหานต์แห่งนี้ได้เจ้าค่ะ"

แบบนี้สงสัยพระเจ้าจะสร้างตัวละครสนับสนุนไว้ให้ซะละมั้ง แต่ก็ยังเชื่อไม่ได้เต็มร้อย เพราะเรื่องแบบนี้ไม่เคยมีการเปิดเผยมาก่อน ทั้งๆที่มีผู้ถูกเลือกก่อนผมถึงห้ารุ่น ซึ่งหมายถึงมีคนห้าร้อยคนตายไปโดยที่ไม่มีข้อมูลเรื่องนี้หลุดออกมาเลย

"แล้วไอ้ลิงครึ่งกวางที่เรียกว่า พา-นอน-มะ-รึก-คะ อะไรนี้ ทำไมพวกมันถึงมาทำร้ายคุณล่ะ"

ผู้หญิงครึ่งกวางมีสีหน้าสงสัยก่อนจะทำหน้าเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ แล้วตอบคำถามของผมด้วยน้ำเสียงหดหู่

"เพราะพวกมันเห็นอัปสรสีหะเช่นข้าพเจ้าเป็นศัตรู เพราะพระเจ้ามอบหมายให้พวกเราคอยช่วยเหลือผู้ถูกเลือกเช่นท่านเจ้าค่ะ"

โอเค รู้สึกเหมือนเจอภารกิจลับเลยวุ้ย เพียงแต่จะให้เชื่อทันทีก็คงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นคงต้องรอดูท่าทีก่อน

"งั้นคุณจะช่วยผมยังไงงั้นเหรอ"

"หน้าที่ของพวกเราอัปสรสีหะ คือการสอนทักษะให้กับผู้ถูกเลือกเจ้าค่ะ"


next chapter
Load failed, please RETRY

Weekly Power Status

Rank -- Power Ranking
Stone -- Power stone

Batch unlock chapters

Table of Contents

Display Options

Background

Font

Size

Chapter comments

Write a review Reading Status: C6
Fail to post. Please try again
  • Writing Quality
  • Stability of Updates
  • Story Development
  • Character Design
  • World Background

The total score 0.0

Review posted successfully! Read more reviews
Vote with Power Stone
Rank NO.-- Power Ranking
Stone -- Power Stone
Report inappropriate content
error Tip

Report abuse

Paragraph comments

Login