Download App
78.57% Promise in the land of garden / Chapter 11: Chapter 1 ep 8

Chapter 11: Chapter 1 ep 8

ในเช้าวันรุ่งขึ้น...

หลังจากที่ออกจากโรงเตี๊ยมตอนนี้ทั้งสองก็กำลังเดินเลือกซื้อเสบียงและของใช้จำเป็นในการเดินทางต่อ...

แต่ทางเซเลน่านั้นรู้สึกเหมือนว่ากำลังมีคนมองพวกเขา และพยายามสะกดรอยตามดูอยู่ห่างๆ เธอที่สัมผัสได้ดังนั้นเลยถามแมม่อนไปด้วยความที่เป็นกังวล

"นี่! ฉันรู้สึกว่าเหมือนมีใครกำลังสะกดรอยตามพวกเราอยู่... เมื่อวานไม่เห็นมีอะไรแบบนี้เลย เกี่ยวกับเรื่องที่นายออกไปเมื่อคืนหรือเปล่า?"

"...นายท่านคิดว่าเสบียงแค่นี้เพียงพอที่จะเดินทางต่อหรือเปล่า?" ดูเหมือนว่าทางแมม่อนนั้นจะไม่ได้ฟังเซเลน่าพูดตะกี้นี้ เพราะว่าดูเหมือนว่าเขากำลังกังวลกับจำนวนเสบียงที่ซื้อมา "ข้าว่าจะซื้อเพิ่มอีกสักหน่อย พอดีเห็นว่าท่านกินเยอะเลยเกรงว่าแค่นี้จะไม่พอ"

"เดี๋ยวเถอะ! นายไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเลยหรือไง เมื่อตะกี้นี้!?" เซเลน่าตะคอกเสียงใส่แมม่อน

"เมื่อตะกี้ท่านพูดอะไรด้วยอย่างนั้นหรอ? ขอโทษทีที่ข้าไม่ได้ฟังพอดีมันมีของที่จำเป็นต้องซื้ออยู่มาก...เลยเพลินไปหน่อย" แต่ทางนั้นก็เหมือนว่าจะไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่กลับมองหาดูร้านค้าที่จะซื้อเสบียงตุนไว้ในการเดินทางครั้งต่อไป

"ช่างเถอะ! ในเมื่ออีกฝั่งไม่ได้คิดจะโจมตีทางนี้ คงไม่ต้องทำอะไรมากหรอกมั้ง?"

ใช้เวลาสักพัก ทั้งสองก็เดินซื้อของจนเสร็จ...

"เฮ้อ~! พวกเราซื้อของมาเยอะเลยนะเนี่ย!" เซเลน่าทำท่าทางสบายใจ

"อย่างน้อยก็น่าจะอยู่ได้ราวเกือบ 3 สัปดาห์ละนะ" แมม่อนดูและตรวจสอบจำนวนของเสบียงที่ซื้อมา

" 3 สัปดาห์! ตลอด 3 สัปดาห์นั่นฉันจะต้องกินแต่เนื้อตากแห้งอย่างนั้นสินะ?" สีหน้าของเซเลน่าดูหดหู่อย่างเห็นได้ชัด "แค่นึกก็รู้สึกทรมานแล้ว..."

"ไม่หรอก! พวกเราต้องเดินทางและอาศัยอยู่ในป่าสามส่วนอีกด้วย ในระหว่างนั้นเสบียงแค่นี้ไม่น่าจะพอ ฉะนั้นแล้วพวกเราจึงจำเป็นต้องล่าสัตว์ในนั้นด้วย"

"พวกสัตว์ในนั้นมันกินได้ด้วยอย่างนั้นหรอ? แต่จะว่าไปนายทำอาหารเป็นด้วยหรอ? จากที่ดูปลาย่างก่อนหน้านี้แล้ว" พอเซเลน่านึกถึงปลาย่างในตอนนั้นถึงกับสะบัดหัวไป-มา

"ข้าก็บอกท่านไปแล้วนี่ ว่าตอนนั้นเราไม่มีเครื่องปรุง ตัวข้าเองก็พอจะทำอาหารได้อยู่ ถึงจะไม่เก่งขนาดพ่อครัวในราชวังที่ท่านอาศัยอยู่ก็เถอะ!"

"...อย่างน้อยจะขอคาดหวังหน่อยก็แล้วกัน"

"ข้าขอตอบรับความคาดหวังของท่านอย่างเต็มใจ...."

หลังจากนั้นทั้งสองก็เดินทางตรงไปยังที่รถม้าที่มีเกวียนขนาดใหญ่กำลังจอดอยู่ ตรงหน้ามีชายที่มีหนวดเคราดูเหมือนจะเป็นคนขับกำลังตะโกนเรียกลูกค้าแถวนั้น

"รถม้านี้กำลังจะเดินทางไปที่หมู่บ้านโควกะ! รถม้านี้กำลังจะเดินทางไปที่หมู่บ้านโควกะ! ไม่ทราบว่ามีท่านใดสนใจที่จะขึ้นรถไปบ้าง! เหลือเพียงไม่กี่ที่นั่งแล้วตอนนี้!"

แมมม่อนเดินตรงเข้าไปถามกับชายคนนั้นอย่างทันที "ข้าอยากจะเดินทางไปที่หมู่บ้านโควกะ สองคนราคาเท่าไหร่?"

"อะ...โอ้ว!" ชายคนนั้นตกใจออกมาเล็กน้อยทันทีที่เห็นแมม่อน "เอ่อ...คือ สองท่านราคา 10 เหรียญเงินครับ"

"เอานี่!" แมม่อนยื่นเงินให้ไปแล้วทั้งสองก็ขึ้นไปยังรถม้าอย่างทันที แต่ถึงกระนั้นบนรถม้าก็ยังมีที่นั่งหลงเหลืออยู่ เลยจำเป็นต้องรอคนเข้ามาให้ครบอีกสักระยะ

ในตอนนั้นเองก็มีชายที่ดูคุ้นเคยขึ้นมาบนรถม้า นั่นคือเรย์... ทางเซเลน่าที่เห็นเลยพยายามที่จะพูดทักทายออกไป

"เจอกันอีกแล้วนะ..."

กลับกันครั้งนี้มันต่างออกไปทางเรย์นั้นมองกลับมาด้วยสายตาที่ดูเหมือนจ้องจะเอาชีวิต เขาปล่อยจิตสังหารที่รุนแรงจนบรรยากาศรอบอึดอัดเต็มไปด้วยแรงกดดันที่มองไม่เห็น จนทางผู้คนโดยรอบๆต่างก็เริ่มรู้สึกได้

ที่มือจับไปดาบแน่นเเตรียมพร้อมที่จะชักโจมตีออกมาได้ทุกเมื่อ แต่ทว่าทันใดนั้นก็มีเด็กหญิงคนหนึ่งที่นั่งข้างๆเซเลน่าเกิดร้องไห้ขึ้นมา...

"แง~~~~~~!!! พี่ชายคนนั้นน่ากลัว!"

"โอ๋~ โอ๋~ ...ไม่เป็นไรนะ" คนเป็นแม่พยามจะปลอบลูกที่ตื่นตระหนก จนเด็กนั่นเงียบไป...

ทางเรย์นั้นคิดว่าเพราะว่าตัวเองเลยทำให้เด็กหญิงคนนั้นตื่นขึ้นมา เขาเลยปล่อยมือออกจากดาบและเดินเข้าไปอย่างอารมณ์เสียและนั่งแต่โดยดี

"ชิ!!!"

"จู่ๆ ก็เป็นอะไรของเขากันนะ?" เซเลน่าถึงกับเกาหัวด้วยความสงสัย เลยหันไปถามกับทางแมม่อน "นายพอจะรู้อะไรบ้างไหม?"

"นั่นสินะ...บางทีเขาอาจจะตกใจที่อยู่ๆ ท่านก็ทักไปละมั้ง"

"...ความผิดฉันหรอ?"

ใช้เวลาไปสักพักใหญ่... พอทางชายที่เป็นคนขับเห็นว่าบนรถม้าคนเต็มแล้ว เขาก็รีบออกเดินทางอย่างทันที

การเดินทางนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น วันแรกไม่ได้มีการดักปล้นจากกลุ่มโจรแต่อย่างใด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงวางใจไม่ได้ เพราะว่าการเดินทางไปที่หมู่บ้านโควกะนั้นยังต้องใช้เวลาอย่างน้อยถึง 2 วันเต็มๆ

พวกเขาจึงตัดสินจะหยุดพักผ่อนกันในเวลากลางคืน ที่ตรงทุ่งกว้างเพื่อที่จะหลบเลี่ยงกับพวกสัตว์อสูรที่ออกหากินในช่วงเวลากลางคืน ก่อกองไฟและตั้งแคมป์นอนกันเสียซะตรงนั้น...

ขณะที่ทุกคนต่างกำลังเตรียมอาหารและที่นอน ซึ่งต่างคนต่างเตียมเอามาเอง ทางแมม่อนและเซเลน่าเองก็เช่นกัน...

"ไหนดูสิ! ว่าสิ่งที่นายพูดอวดโม้เอาไว้ จริงหรือเปล่า?" เซเลน่าพูดด้วยท่าทางที่หยิ่งผยองใส่แมม่อนที่ซึ่งกำลังเตรียมวัตถุดิบ

"ท่านนี่พอเป็นเรื่องปากท้องนี่ ค่อนข้างเอาแต่ใจน่าดูเลยนะ"

"หึหึ...! ถึงแม้จะเรื่องมาก แต่ต่อให้จะเป็นอาหารห่วยแค่ไหนฉันก็กนหมดนะ" เซเลน่าพูดมาด้วยใบหน้าที่ภูมิใจ

"นั่นมัน... ก็แค่หิวไม่ใช่หรือไง?"

ช่วงจังหวะนั้นเองที่ก็มีเด็กสาวคนหนึ่ง ที่ร้องไห้ก่อนหน้านี้เข้ามาหาทั้งสองพร้อมกับอาการที่กำลังหิวท้องร้องดังจนไส้กิ่ว...

***โครก~!!!***

ซึ่งทางแมม่อนและเซเลน่าเองก็รับรู้ถึงสายตานั้นได้ ต่างก็หันไปมองเป็นสายตาเดียวกัน และหลังจากนั้นแม่ของเด็กสาวก็เข้ามา ก่อนจะขอโทษที่ลูกสาวทำให้เสียมารยาท

"ต้องขอโทษจริงๆ นะคะ ที่ลูกสาวของดิฉันทำตัวเสียมารยาท" ระหว่างที่เธอกำลังขอโทษอยู่นั้น เสียงท้องร้องก็ดังขึ้นมาเช่นกัน...

***โครก~!!!***

ทางเซเลน่าที่เห็นสถานการณ์ของทั้งสอง ก็เริ่มชักชวนพวกเธอว่า... "ถ้าไม่รังเกียจ มาทานด้วยกันไหมคะ?"

"แต่ดิฉันเกรงว่า...จะเป็นการรบกวนพวกคุณเสียมากกว่า" แต่เมื่อเธอหันไปมองที่ลูกสาวที่ ซึ่งกำลังมองแมม่อนกำลังทำอาหาร และน้ำลายกำลังไหล

เซเลน่าที่เห็นก็ถึงกับยิ้มออกมา "ดูท่าลูกสาวของท่านจะไม่คิดอย่างนั้นนะ ถ้าอย่างนั้นเชิญนั่งเลย"

"ถ้าอย่างนั้นก็ขอรบกวนด้วยค่ะ..." แล้วเธอก็เดินไปนั่งข้างของเซเลน่า ก่อนจะเริ่มแนะนำตัวว่า... "ดิฉันชื่อ "เอวา" ส่วนลูกสาว "เอเรน" พอดีพวกเราใช้เงินไปกับค่าเดินทางจนหมด เลยไม่ได้เตรียมอาหารมา ต้องขอบคุณท่านทั้งสองจริงๆ ที่ช่วยแบ่งปันอาหารบางส่วนมาให้"

"ถ้าอย่างนั้นท่านเอวา ทำไมถึงต้องลำบากเดินทางไปที่หมู่บ้านโควกะด้วยล่ะ? ทั้งที่ถ้าอาศัยอยู่ในเมืองนั้นก็น่าจะหาเงินได้ง่ายแท้ๆ"

"สามีของดิฉัน เขาทำงานเป็นทหารเฝ้ายามที่หมู่บ้านโควกะ เขามักจะยุ่งอยู่ตลอดเลย หลังจากที่เอเรนเกิดก็ไม่ค่อยมีเวลากลับมาเสียสักเท่าไหร่ ดิฉันเกรงว่าเอเรนจะจำหน้าพ่อของตัวเองไม่ได้ เลยว่าจะหาซื้อบ้านอาศัยอยู่ที่นั่น กะว่าจะไปทำให้เขาตกใจเสียหน่อย..."

"เพราะอย่างนี้สินะ ที่ทำให้ไม่สามารถเตรียมเสบียงที่ใช้สำหรับในการเดินทางมา"

"อื้ม! เพราะราคาบ้านค่อนข้างสูงเอาเรื่องเลย แต่อย่างน้อยถ้ามันทำให้พวกเราสามคนอยู่ด้วยกันได้ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว..." เอวาพูดพลางยิ้มออกมา

ในขณะที่ทั้งสองกำลังพุดคุยกัน เอเรนก็กำลังจ้องแมม่อนที่กำลังทำอาหารอย่างขะมักเขม้นเช่นกัน

"นี่พี่ชาย... กำลังทำอาหารอะไรอยู่อย่างนั้นหรอ?"

"...ก็แค่ซุปเนื้อตากแห้งธรรมดาน่ะ"

"แต่ทำไมกลิ่นมันถึงได้หอมขนาดนี้ล่ะ?"

"นั่นแหละ เป็นหลักฐานที่แสดงว่า หนูกำลังหิว... ถ้างั้นก็อย่าลืมกินมันให้หมดล่ะ เข้าใจไหม?"

"อื้ม! หนูสัญญาว่าจะกินให้หมดเลย" ทันใดนั้นที่เอเรนเห็นว่าในหม้อนั้นมีแครอทอยู่ด้วยก็ถึงกับแสดงสีหน้าที่เจื่อนๆ ออกมา "นี่พี่ชาย...หนูไม่ชอบแครอทอะ"

"อะ... พูดแล้วห้ามคืนคำนะ"

หลังจากที่แมม่อนทำอาหารเสร็จก็เริ่มแจกจ่ายให้พวกเซเลน่าอย่างทันที ดูเหมือนว่าอาหารจานซุปธรรมดาจะถกปากพวกเธอเป็นอย่างดี ทางเอเรนถึงแม้ว่าจะไม่ชอบแครอทก็ตาม แต่ตัวเธอก็กลั้นใจกินจนหมดไม่มีเหลือ พวกเธอก็เข้านอน มีเพียงแค่แมม่อนเท่านั้นที่ยังคงตื่นอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์และดวงดาว

เช้าวันรุ่งขึ้น...พวกเขารีบออกเดินทางกันในตอนสายๆ ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้อย่างโดยดี คาดการณ์กันว่าน่าจะถึงหมู่บ้านในเวลาค่ำของวันนี้

แต่ทว่า ในจังหวะนั้นเอง...ที่รถม้าก็หยุดวิ่งอย่างกะทันหัน ภายภาคหน้าปรากฏเป็นอัศวินเข้ายืนขวางทางรถม้าอยู่กันหลายคน ไม่นานนักก็มีอัศวินสาวคนหนึ่งเดินออกมา ผมสั้นสีน้ำตาล แววตาดูหยิ่งผยองขัดกับใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์และสวยงาม เธอตะโกนออกเสียงดังกับทางรถม้าที่บรรทุกชาวบ้านว่า...

"จงฟัง!! เหล่าราษฎรทั้งหลายที่ได้อาศัยแผ่นดินนี้ของประเทศนี้ ข้าชื่อ "ทาเนียร์" หัวหน้าของกองอัศวินพยัคฆ์ขาว พวกเราเป็นอัศวินเมืองหลวงราชอาณาจักรเรนาเลีย ซึ่งตอนนี้กำลังประสบปัญหาในการเดินทางทำภารกิจของพระราชา จึงอยากจะให้พวกเจ้าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม จงมอบเสบียงและรถม้าคันนี้ให้แก่พวกเรา..."

ทันใดนั้นก็มีชายคนหนึ่งที่อยู่บนรถม้าเกิดความไม่พอใจ หลังจากที่ได้ยินแบบนั้นเลยตะโกนกลับไปด้วยอารมณ์ที่โกรธจัด

"อย่ามาล้อเล่นกันนะเว้ย! แบบนี้มันปล้นกันชัดๆเลย เงินก็เงินพวกเรา ใช่ไหม? พวกเรา!!!"

ไม่นานนักก็เริ่มมีเสียงของอีกหลายคนดังขึ้นมา พูดด้วยความไม่พอใจ "ใช่! ใช่! แบบนี้มันปล้นกันชัดๆเลย!!!"

ทางทาเนียร์นั้นเริ่มมีน้ำโหขึ้นเล็กน้อย แต่เธอก็พยายามยับยั้งเอาไว้ และพูดขึ้นอีกครั้ง "นี่!! เป็นโอกาสครั้งสุดท้าย...จงมอบเสบียงและรถม้าให้กับพวกเรา ไม่เช่นนั้น!"

แต่ดูเหมือนว่าทางชาวบ้านที่โดยสารมานั้นจะไม่ค่อยพอใจ เริ่มมีคนปาข้าวของมาที่ทางทาเนียร์

"ไม่เอาเว้ย!!! ฟังไม่รู้เรื่องหรือยังไง?!!!"

ทาเนียร์ทนไม่ไหวสีหน้าดูบึ้งตึง และเริ่มสั่งการกับทางอัศวินลูกน้องที่ยืนล้อมหน้าอย่างทันที "พวกแก!!! กระซากพวกปากสว่างลงมาจากรถม้า! เดี๋ยวนี้!!!"

"ครับ!!!"

"สั่งสอนพวกไม่รู้จักบุญคุณที่ท่านราชาเมตตาให้พวกมันอาศัยอยู่ซะ!"

อัศวินหลายคนกรูเข้ามาที่รถม้าเพื่อที่จะลากตัวชาวบ้านลงไป ซึ่งก็มีหลายคนพยายามที่จะขัดขืนใช้ไม้ฟาดหรือไม่ก็พยายามปาข้าวของไปที่พวกเขา แต่ท้ายที่สุดก็ถูกกระซากลงไปอยู่ดี

"แม่!!! จะทำอะไรแม่ของหนูน่ะ! ปล่อยนะ!" เสียงของเอเรนดังขึ้นมาร้องอ้อนวอนกับทางอัศวินให้ปล่อยแม่ของเธอ

"อย่ามายุ่งน่า...!" อัศวินคนนั้นทนความน่ารำคาญไม่ไหวเลยสะบัดบัดมือออกไปโดนทางของเอเรนอย่างแรง จนใบหน้านั้นมีรอยฟกซ้ำ แล้วจากนั้นเอวาก็โดนกระชากลงรถม้าไปอย่างรวดเร็ว ในสภาพที่เสื้อผ้าฉีกขาดและหลุดลุ่ย มีบาดแผลถลอกตามร่างกายประปราย...

นับรวมๆแล้วมีคนสี่คนถูกลากออกไปนอกรถม้า ส่วนอัศวินที่เหลือนั้นคอยกั้นไม่ให้ทางคนที่เหลือพยายามเข้ามาช่วย

จากนั้นทาเนียร์ก็สั่งออกมา "เอาล่ะ! เหล่าอัศวินทุกคน... ชักดาบออกขึ้นมา!"

แต่ทันใดนั้นก็มีอัศวินคนหนึ่งแย้งขึ้นมาว่า "แบบนี้มันออกจะเกินไปหรือเปล่าครับท่านทาเนียร์? พวกเราแค่ต้องการเสบียงเองนะครับ ไม่ต้องทำขนาดนั้นเลยนี่ครับ!"

"อย่ามาขัดคำสั่งฉัน! ในเมื่อพวกมันเนรคุณแผ่นดินที่อยู่อาศัย ได้พึ่งพาร่มเงาของกษัตริย์ นี่จะเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู! ว่าถ้าขัดขืนต่อคำสั่งของราชาจะเป็นอย่างไร!" แล้วทางทาเนียร์ก็ยกมือขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณว่าให้เหล่าพวกอัศวินเตรียมตัว...

ทางอัศวินทุกคนที่ได้เห็นสัญญาณนั่นก็แสดงท่าทีที่ลังเลออกมา แต่ก็ต้องจำใจชักดาบออกมาอย่างช่วยไม่ได้...

เสียงร้องไห้ของเอเรนดังออกมาจากข้างในรถม้า ขอร้องอ้อนวอนกับทางอัศวินที่กำลังจะบั่นคอแม่ของเธอว่า...

"ได้โปรด! อย่าทำร้ายแม่หนูเลย... ขอร้องแหละ!" เธอหันไปทางเซเลน่าที่นั่งอยู่ข้างๆ "นี่พี่สาว! ได้โปรดช่วยแม่หนูด้วย!"

เซเลน่าเห็นสีหน้าอันหน้าสงสารที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาของเอเรนแล้วก็ถึงกับทนไม่ไหว และกำลังจะพุ่งออกไป มือของเธอจับไปที่จี้ที่แมม่อนได้มอบให้ คิดได้เพียงแค่ว่า...ถ้าถอดมันออกแล้วพวกชาวบ้านจะปลอดภัยละก็ ฉันก็จะทำ...

แต่ทันใดนั้นแมม่อนก็เข้ามาจับที่มือเซเลน่า ส่ายหน้าเหมือนกำลังสื่อว่าให้หยุดสิ่งที่คิดอยู่เดี๋ยวนี้...

"ทำไมล่ะ?" เซเลน่าถามด้วยท่าทางที่ดูร้อนรน

และในตอนนั้นเองทางเอวาได้พูดพร้อมส่ายหน้าอย่างสิ้นหวัง "ไม่เป็นไร...เอเรน...แม่คงมาได้แค่นี้แหละ ฝากสวัสดีคุณพ่อด้วยนะ..." และเธอก็ส่งยิ้มกลับมาเพื่อเป็นการร่ำลากับลูกสาว

แล้วทางทาเนียร์ก็ได้ฟันมือลงอย่างทันทีเพื่อเป็นสัญญาณว่าให้ลงมือได้... "ลงมือได้!"

ในวินาทีที่ดาบสะบั้นลงมันก็ได้ถูกอะไรบางอย่างสะท้อนออกด้วยแรงที่มากกว่าจนดาบทุกเล่มหลุดมือไป ไม่มีใครรู้ว่าเห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้น? อัศวินทุกคนต่างก็ได้แต่สับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ตรงนั้น

"พวกแกเล่นอะไรกันอยู่!? หยิบดาบขึ้นมาประหารพวกมันชะสิ!" ทางทาเนียร์ตะโกนออกมาเสียงดัง

"ไม่ทราบเหมือนกันครับ เหมือนว่าถูกอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นกระแทกเข้าที่ดาบ จนมันหลุดมือไป..."

จากนั้นไม่นานนัก อัศวินทุกคนก็เริ่มที่จะหมดสติกันทีละคนอย่างช้าๆ เหมือนจะโดนของแข็งฟาดเข้าที่ท้ายทอยอย่างแรง จนเหลือแค่เพียงทาเนียร์ที่ยังคงอยู่ เธอพยายามที่จะมองว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็เห็นแค่เพียงเงาลางๆเท่านั้น

"บัดซบเอ๊ย!!! แกเป็นใครกันแน่!!! ปรากฏตัวออกมาเดี๋ยวนี้นะ!!!" เธอชักดาบออกมาเตรียมพร้อมรับมือ

ทันใดนั้นก็ปรากฏชายหนุ่มร่างกายผอมบาง ผมสีขาว ในมือถือดาบที่ยังไม่ได้ชักออกมา ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือ "เรย์"

"นี่แกเองก็จะเป็นปฏิปักษ์กับคำสั่งท่านราชาด้วยอย่างนั้นหรอ?"

"โทษทีนะ...แต่ฉันไม่ได้เกิดหรือว่าเติบโตในที่ประเทศแห่งนี้"

"พวกที่ลักลอบเข้าประเทศอย่างนั้นสินะ?" ทาเนียร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูโกรธจัดกัดฟันแน่น กรอดๆ

"ลักลอบ? เปล่าเลย...! ฉันเดินเข้ามาอย่างถูกกฎหมายนี่แหละ แถมเสียภาษีด้วยนะจะดูใบยืนยันไหมล่ะ?"

"อย่ามาพูดจาเล่นลิ้นหน่อยเลย!!!" แล้วทาเนียร์ก็พุ่งเข้าแล้วฟาดดาบไปที่เรย์อย่างรวดเร็ว

ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าพลาด... ทางเรย์นั้นเอี้ยวตัวหลบอย่างรวดเร็ว แถมสวนกลับด้วยการต่อยเสยเข้าที่ปลายคางอย่างแรง จนทาเนียร์แทบสลบ

"หน้าตาก็ออกจะสวย แต่ทำไมถึงเป็นคนหยาบคายเช่นนี้ล่ะ? คุณผู้หญิง!"

ทาเนียร์เดินเซถอยหลังไป แล้วเธอก็สะบัดหัวไป-มาอย่างแรงเพื่อเรียกสติกลับคืนมา จากนั้นเธอก็ยกดาบเตรียมพร้อมที่จะฟัน เธอรวบรวมสมาธิและสูดหายใจเข้าลึกๆ

"ซู้ด~ ! หุบปาก! ปลดขีดจำกัด... กายาผู้พิชิต..."

แล้วเธอเริ่มร่ายเวทมนตร์ทักษะให้กับร่ายกายของตัวเองต่อ " เร่งความเร็ว... สะบั้นพสุธา..."

ทางของเรย์ที่เห็นถึงกับประหลาดใจออกมาเล็กน้อยที่ทาเนียร์นั้นมีฝีมือพอสมควร "โว้ว! แสดงว่า...ไอ้ยศอัศวินนั่นคงไม่ใช่แค่จับฉลากเข้ามาอย่างนั้นสินะ?"

"แกได้ตายแน่!!! ไอ้เจ้าคนถ่อย!!!" แล้วทาเนียร์ก็พุ่งเข้าโจมตีอย่างรวดเร็วฟัดลงที่ทางเรย์อย่างทันที เกิดแผ่นดินแยกแตกเป็นระแหงยาวไปเป็นเมตร แต่เป็นที่แน่นอนตรงนั้นเรย์ไม่ได้อยู่เสียแล้ว

"ถ้าคนธรรมดาโดนเข้าไปก็คงไม่รอด หรือต่อให้เป็นฉันเองก็ยังเจ็บหนักเลย แต่ว่าไอ้ที่เธอทำอยู่นั้นเรียกว่าเอาจริงไม่ได้หรอก..." เสียงของเรย์ดังขึ้นจากด้านหลังของทาเนียรหลังจากนั้นทางเขาก็ใช้ฝักดาบฟาดเข้าที่ท้ายทอยของเธออย่างแรง

*ปึก!*

"แกเป็น...ใครกันแน่!?" ทาเนียร์ได้พูดก่อนทีตัวเองจะสลบไป

"ก็แค่ทหารรับจ้างที่เดินทางผ่านมาน่ะ..."


next chapter
Load failed, please RETRY

Weekly Power Status

Rank -- Power Ranking
Stone -- Power stone

Batch unlock chapters

Table of Contents

Display Options

Background

Font

Size

Chapter comments

Write a review Reading Status: C11
Fail to post. Please try again
  • Writing Quality
  • Stability of Updates
  • Story Development
  • Character Design
  • World Background

The total score 0.0

Review posted successfully! Read more reviews
Vote with Power Stone
Rank NO.-- Power Ranking
Stone -- Power Stone
Report inappropriate content
error Tip

Report abuse

Paragraph comments

Login