'วันนี้ก็เป็นเวรของเราสินะ อ่ะ! ลืมแนะนำตัวไปเลย สวัสดีครับ ผมชื่อ ต้น วันนี้ก็เป็นวันที่สดใสอีกเช่นเคย ขอฝากตัวด้วยนะครับ!'
ในขณะที่ ต้น แนะนำตัวเองด้วยเสียงในหัวใจของเขาด้วยความมั่นใจอยู่นั้น ก็มีกลุ่มนักเรียนหญิง 3 คน กำลังเดินมาตรงทางเข้าที่กำลังจะเข้าโรงเรียน
กลุ่มนักเรียนหญิงที่กำลังจะเดินเข้าโรงเรียนสังเกตุเห็นคุณครูผู้ชายใส่สูทกำลังยืนยิ้มอย่างมั่นอกมั่นใจ
"สวัสดีค่ะ มาสเตอร์ ต้น~ (สวัสดีค่ะ มาสเตอร์ ต้น~)"
"โอ้ว! สวัสดีนักเรียนทั้งหลาย"
"วันนี้มีเรื่องอะไรดี ๆ เกิดขึ้นหรอคะ"
"อะ เอ่อ คือมาสเตอร์กำลัง... ไอนั้นไงที่เขาเรียกว่า ยิ้มกระชากใจน่ะ✨"
"ร...หรอคะ ถ้างั้นเจอกันในชั้นเรียนนะคะ"
"อืม! แล้วเจอกันนักเรียนที่รักทั้งหลาย"
เอาล่ะ ผมจะแนะนำตัวอีกครั้งแล้วกันนะครับ สวัสดีครับ ผมชื่อต้น เป็นครูของโรงเรียนที่ลูกหลานของเหล่าคนใหญ่คนโต ส่งมาเรียนกัน อ้อ แล้วก็ผมมีงานอดิเรกคือการอ่านนิยายของประเทศญี่ปุ่นครับ ไม่สิ...ไม่ใช่แค่ชอบถึงขั้นเป็นโอตาคุเลยครับ ทั้งอ่านนิยาย ดูอนิเมะ เล่นเกมจีบสาวก็ทำมาหมดแล้ว! ความรู้สึกที่ตัวเองได้เสพตัวละครสุดน่ารักของประเทศญี่ปุ่นมันช่างทำให้หัวใจของผมนุ่มฟูจริง ๆ ถ้าหากวันไหนผมขาดมันไปล่ะก็ผมต้องลงไปชักดิ้นชักงอกับพื้นแน่ ๆ
"อ๊ะ มาสเตอร์คะ ได้ข่าวว่าจะมีครูใหม่เข้ามาสอนตั้งแต่วันนี้นี่คะ"
"เอ๋ จะเป็นคนยังไงกันน้า~"
"อยากเจอแล้วเนอะ"
ผมที่ได้ยินกลุ่มสามสาวคุยกันก็นึกสงสัยว่า 'มีครูคนใหม่มาสมัครงานที่นี่ด้วยหรอเนี่ย'
อย่างที่ผมบอกไปว่า ผมเป็นครูของโรงเรียนที่ลูกของเหล่าคนใหญ่คนโตส่งมาเรียนกัน ซึ่งผมเป็นครูที่สอนในระดับชั้น ม.6 เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่นักเรียนหลาย ๆ คนเริ่มที่จะไปตามหาความฝันของตัวเองบ้างแล้ว บางคนไปช่วยงานพ่อแม่ที่บ้าน บางคนไปรับช่วงต่อธุระกิจของพ่อแม่ บางคนไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่ใฝ่ฝัน แต่ส่วนใหญ่นักเรียนในโรงเรียนนี้จะเลือกเรียนต่อในมหาวิทยาลัยกัน เพราะอย่างที่ผมบอกไปโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนสำหรับลูกคนใหญ่คนโตมาเรียนกันทั้งนั้น เรื่องธุระกิจส่วนตัวจึงไม่ต้องเป็นห่วง แล้วก็มหาลัยที่นักเรียนโรงเรียนนี้เข้ากันส่วนใหญ่จะเป็นมหาวิทยาลัยในเครือ เป็นมหาลัยที่มีชื่อเสียงมาก เรียกได้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศไม่เป็นสองรองใครเลย โรงเรียนนี้ก็มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน โรงเรียนต่าง ๆ ทั้งประเทศพยายามเลียนแบบระบบ และหลักสูตรของโรงเรียนนี้แต่ก็ไม่มีโรงเรียนไหนสามารถทำได้เลย และแน่นอนว่าการสอบเพื่อที่จะเป็นครูของที่นี่ยากกว่าการสอบที่อื่น ๆ เป็นเท่าตัว ต้องสอบสัมภาษณ์สุดโหดไปจนถึงการทดลองงานอีกหลายอาทิตย์กว่าจะได้มาเป็นครูโรงเรียนนี้ การที่ผมได้มาสอนในโรงเรียนนี้ก็สามารถบอกระดับความสามารถของผมได้แล้วสินะ หึ ๆ ๆ
"นี่ ๆ ได้ข่าวว่าครูที่มาใหม่คนนี้เก่งมากเลยนี่ เห็นว่าผ่านการสอบสัมภาษณ์และก็ช่วงทดลองงานได้ภายในหนึ่งสัปดาห์เองนะ"
"อู้ว! จริงดิ กูว่าครูโรงเรียนนี้มีแต่คนเก่งระดับปีศาจทั้งนั้น แต่ครูคนนี้เป็นครั้งแรกนะเนี่ยที่ทดลองงานสำเร็จได้ภายในหนึ่งสัปดาห์ กูว่าเขาต้องเป็นครูที่จริงจังและโหดแน่ ๆ เลย ฮ่า ๆ ๆ"
"!?"
ผมที่ได้ยินเรื่องที่นักเรียนตรงหน้าผมพูดถึงกับมีอาการตกใจเล็กน้อย เพราะไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะมีครูที่สามารถผ่านการสอบสัมภาษณ์ และช่วงทดลองงานของโรงเรียนนี้ได้ภายในหนึ่งอาทิตย์ ครูคนนั้นต้องเป็นปีศาจแน่ ๆ นี่คือพลังของจอมมารแห่งความรู้!
"หรอ...อืม...มาสเตอร์ไม่เคยได้ยินข่าวว่าจะมีครูเข้ามาใหม่เลยนะ ฟังมาผิดรึเปล่า?"
"งั้นหรอคะ...ไม่เป็นไรค่ะ ยังไงมาสเตอร์ก็เป็นครูที่พวกหนูรักที่สุดนะคะ♡"
"ใช่แล้วค่ะมาสเตอร์ อย่าน้อยใจไปเลยนะค้า~"
"เด็กพวกนี้นี่ ล้อเล่นกับครูอาจารย์อย่างนี้กันรึ!"
"ฮ่า ๆ ๆ งั้นพวกหนูไปก่อนนะค้า~ จุ๊บ"
หลังจากที่พวกเธอพูดเสร็จก็พร้อมใจกันทำท่าจุ๊บพร้อมกันให้ผมดู ผมเกิดอาการเขินเล็กน้อย
จากนั้นพวกเธอก็เข้าไปในโรงเรียน
"เห้อ...ล้อเล่นกับหัวใจของผู้ชายแบบนี้มันบาปนะรู้ไหม"
ผมก้มหน้าลงทำหน้าเหมือนผู้ชายที่เพิ่งโดนหักอกมา
สักพักนึงก็มีกลิ่นแชมพูหอม ๆ โชยมาจากด้านหน้าผม และพูดกับผมว่า
"เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?"
เป็นเสียงของผู้หญิงที่อ่อนหวานนุ่มนวลพูดได้เลยว่า ฟังจากเสียงเธอดูเป็นกุลสตรีอย่างแท้จริงและเธอก็กำลังพูดประโยคที่แสดงความเป็นห่วงกับผม ผมรู้สึกดีใจนิด ๆ แถมกลิ่นแชมพูก็หอมมาก มันเป็นกลิ่นแชมพูที่ผมไม่รู้จักเลย หรือว่าจะเป็นครูใหม่ที่พวกนักเรียนเมื่อกี้พูดถึงกันนะ
"นี่จะได้เวลาเข้าแถวของนักเรียนแล้วไม่ใช่หรอ~ เดี๋ยวจะไปเช็กชื่อนักเรียนไม่ทันนะ!!"
เสียงอันอ่อนหวานนุ่มนวลเมื่อกี้กลับกลายเป็นเสียงที่ตำหนิผมอย่างหนักเรื่องที่ว่าทำไมผมถึงยังอยู่ตรงนี้
ผมเงยหน้าขึ้นไปหลังจากผู้หญิงตรงหน้าผมพูดประโยคนั้นจบ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าผมคือ หัวหน้าระดับชั้นสุดสวยที่ทำท่าทางและสีหน้าไม่พอใจเป็นอย่างมากต่อการที่ผมยังอยู่ตรงนี้
"ส...สวัสดีครับมิสฟ้า วันนี้ลมกระไรพัดท่านมางั้นรึ"
"เห้อ...ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย รับผิดชอบหน้าที่ของครูประจำชั้นหน่อยสิ"
"ร...รับผิดชอบหน้าที่อันใดงั้นรึ ข้าพเจ้าก็แค่ยืนตรวจเวรตามหน้าที่ที่ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายมา ข้าพเจ้าไม่รับผิดชอบตรงไหนกัน!"
"นี่ต้นพูดดี ๆ ได้แล้วน่า และก็พูดแบบนั้นน่ะรู้ไหมตอนนี้กี่โมงแล้ว หือ?!"
"ตอนนี้งั้นหรอ ก็ 7 โมง 55 นาที...เอ๊ะ?"
ทันใดนั้นผมก็รู้ตัว...ใช่ครับ ผมไปเช็กชื่อนักเรียนสายครับ!
หลังจากที่รู้ตัวแล้วว่าผมสาย ผมเลยตั้งท่าเริ่มต้นวิ่งเหมือนกับนักกีฬาวิ่งที่กำลังฟังเสียงสัญญาณเริ่มวิ่งจากกรรมการให้สัญญาณ
"ต้น...นั้นกำลังทำท่าอะไรน่ะ"
"เข้าที่ ระวัง!"
"ระวังอะไร๊!"
"งั้น...ขอตัวลาไปก่อนนะคร้าบบบ!!"
"เดี๋ยวก่อนกลับมานี่นะ ต้น!!"
ผมวิ่งหนีออกจากตรงนั้นเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่หัวหน้าระดับชั้นสุดโหดจะตำหนิผมไปมากกว่านี้
'เห้อ วันนี้ไม่ได้ดูเวลาเลยพลาดไป'
'เดี๋ยวก่อนนะ...งั้นพวกกลุ่มนักเรียนหญิงเมื่อกี้ก็เข้าแถวสายน่ะสิ!'
ผมกำลังรีบวิ่งไปตรงที่นักเรียนระดับชั้นม.6 เข้าแถวกัน แต่ผมต้องแวะไปเอาเอกสารเช็กชื่อเพื่อที่จะได้เช็กชื่อคนที่มาทันเข้าแถวในช่วงเช้าก่อน
ผมวิ่งมาจนถึงห้องพักครู และรีบเดินมาที่โต๊ะทำงานของตัวเอง หยิบเอกสารรายชื่อของนักเรียนห้อง ม.6/10 มา ระหว่างที่ผมกำลังจะวิ่งออกจากห้องนั้นก็ได้มีเสียงทักมาจากข้างหลังผม
"อ้าวไอต้น!"
ผมหยุดเดินและหันหน้าไปข้างหลัง เห็นผู้ชายหน้าตาธรรมดาโบกมือทักทายผมด้วยรอยยิ้ม นั้นคือเพื่อนของผมเองชื่อว่า เอ็ม อ๊ะถึงจะเห็นว่ามันหล่อน้อยกว่าผมก็เถอะ แต่มันดันแต่งงานก่อนผมแล้วนี่สิ
"ว่าไงเพื่อน มาเอาใบเช็กชื่อนักเรียนสายหรอ"
"ใช่น่ะสิ กูชมวิวเพลินไปหน่อยวะ"
"เรื่องนั้นช่างมันเถอะ เห็นว่าจะมีครูใหม่ย้ายเข้ามาในระดับม.6 วันนี้นี่แหละ"
"จริงดิ ไหนอะ?"
"มึงมาช้าไปแค่วินาทีเดียวเองนะ เธอพึ่งออกไปจากห้องเมื่อกี้เอง"
"เห้ย! ผู้หญิงงั้นรึ สวยรึเปล่า? สูงปะ? สัดส่วนอ่ะ? ตอบมาเร็ว ๆ สิไอชาย!"
"แหม่ ๆ ทีเรื่องผู้หญิงนี่รีบลงรายละเอียดเชียวนะ"
"รู้ไหมลูกผู้ชายน่ะเกิดมาเพื่อตามหาผู้หญิงที่เป็นรักแท้ให้พบยังไงละ!"
"หึ ๆ ๆ นายรู้ไหมว่ากูมีไอจีเขาด้วยนา~"
"เห้ยจริงดิ ต้องแจกกันบ้างละ"
"ไม่อะ แน่จริงไปขอเขาเองสิไอ้ลูกผู้ชาย"
"หึ คนที่ทรยศเพื่อนน่ะเป็นได้แค่เศษสวะ แต่เพื่อนที่ไม่ให้ไอจีของผู้หญิงที่อยากได้น่ะ มันเป็นยิ่งกว่าเศษสวะเสียอีก!!"
"เอ้าพูดงี้ก็สวยสิ้!"
"หือจะเอางั้นรึ!"
"โอ้ย!! (อ๊าก!!)"
ในระหว่างที่ทั้งสองคนยื่นหน้าเข้ามาใกล้กันและคิดจะวางมวยกัน อยู่ดี ๆ หัวของพวกเขาทั้งคู่ก็ถูกใครบางคนจับดันเข้ามาให้หัวโขกกัน
พวกเขาทั้งสองคนจึงพูดพร้อมกับหันหน้าไปข้างหลัง
"ใครมันเอาหัวพวกกูมาโขกกันฟะ!"
"เจ็บโว้ย! มีใครอยากกินข้าวต้มโรงบาลฯเพิ่มอีกคนรึไง!!"
หลังจากที่พวกเขาหันหน้าไปด้านหลัง ทันใดนั้นก็ถูกรังสีระดับซุปเปอร์ อัลตร้าหน้ากลัวกำลังกัดกินจิตใจของพวกเขาอยู่ และรังสีนั้นก็มาจากมิสฟ้า หรือหัวหน้าระดับชั้นที่กำลังจ้องพวกเขาเหมือนเสือที่กำลังข่มขู่ม้าลายด้วยความหน้ากลัวของมัน
"นี่~ รู้ไหมนี่กี่โมงแล้ว? แล้วทำไมพวกนายถึงมาอยู่ที่นี่กันอีกห๊ะ!!"
"ขอโทษคร้าบ~ (ขออภัยเป็นอย่างสูง)"
หลังจากที่ถูกหัวหน้าระดับชั้นตำหนิไปอีกรอบ ต้น และ เอ็ม ก็เดินคอตกมาที่ที่นักเรียนเข้าแถวกัน
ต้นกวาดสายตามองไปมองมาหาครูคนใหม่ที่ว่าแต่ก็ไม่เจอเธอเลย จึงทำได้แค่ยืนคอตกเช็กชื่อนักเรียนไป
"สวัสดีครับ/ค่ะ มาสเตอร์"
นักเรียนห้อง ม.6/10 พร้อมใจกันสวัสดีมาสเตอร์ต้นหรือครูประจำชั้นของพวกเขาด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
"อืม...สวัสดี…"
ต้น ทักทายนักเรียนในห้องของตัวเองด้วยความหดหู่
"มาสเตอร์ต้น เป็นอะไรรึเปล่าคะ? ไม่สบายตรงไหนรึเปล่า?"
"เป็นอะไรรึเปล่าครับ"
"สภาพนี้คงโดนหัวหน้าระดับชั้นตำหนิเรื่องเช็กชื่อเข้าแถวช้ามาอีกแล้วสินะครับ"
"รู้ได้ไง! ร…หรือว่า อ่านใจครูได้งั้นหรอ!"
"ก็มันเป็นอย่างนี้ประจำนั้นแหละ!"
นักเรียนทั้งห้องพร้อมใจกันพูดด้วยเสียงดังฟังชัด
ดูเหมือนว่านักเรียนเหล่านี้จะรู้สึกชินกับการที่มาสเตอร์ต้น มาเช็กชื่อช้าเป็นประจำแล้ว
"ding ♫ dong ♫ ding ♫ dong ♫ ~"
'อ๊ะ ดูเหมือนว่าเสียงออดสัญญาณเข้าแถวของโรงเรียนจะดังแล้วสินะ มา 8 โมงตรงพอดีเลยเรา'
เพลงโรงเรียนขึ้น - "Studying is the purpose of life~"
เมื่อเพลงโรงเรียนจบ หัวหน้าระดับชั้นก็ขึ้นมาบนเวทีเพื่อกล่าวทักทายเหล่านักเรียนในวันเปิดปีการศึกษาใหม่
"สวัสดีค่ะนักเรียนทุกคน วันนี้เป็นวันที่หนึ่งในปีการศึกษาใหม่ส่วนใหญ่ก็หน้าเดิม ๆ กันล่ะนะ"
'อืมนั้นสินะ โรงเรียนนี้มันสอบเข้ายากอยู่แล้วทั้งนักเรียนและครูด้วย' ต้นคิดในใจ
"แต่ว่าในวันนี้จะมีคุณครูคนใหม่เข้ามาในระดับม.6 เพิ่มอีกคน ขอให้พวกเธอต้อนรับครูใหม่ให้ดี ๆ กันด้วยล่ะ"
'อืม…ได้ยินมาตั้งแต่เช้าแล้วจะเป็นคนยังไงกันนะ' ต้นคิดในใจอีกครั้ง
ทันใดนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากข้าง ๆ เวทีตรงมาข้างหน้าที่ ๆ นักเรียนเข้าแถวกันอยู่
ทุกสายตาจับจ้องมองตามเธอแต่เพียงผู้เดียว ผู้หญิงผมสีทองยาวระยิบระยับประมาณเอว สูงประมาน 160 กว่า ๆ ดูรวม ๆ แล้วเหมือนเจ้าหญิงที่หลุดมาจากในเทพนิยาย ผมไม่สามารถละสายตาจากเธอได้เลย มีคำเดียวเท่านั้นที่จะสามารถใช้นิยามเธอในช่วงเวลานี้ได้ นั้นคือคำว่า 'สวยงาม'
"อ้อ~ ลืมบอกไปเธอมาจากอังกฤษนะ" หัวหน้าระดับชั้นพูดใส่ไมค์
'ห๊ะ?!' ต้นคิดในใจอีกครั้งแบบตกใจ
ผู้หญิงชาวต่างชาติคนนั้นขึ้นมาบนเวที แล้วจับไมค์ และพูดใส่ไมค์ว่า
"Hello everyone, I'm a new teacher to teach you guys. today is a good day"
[คำแปล : สวัสดีค่ะทุกท่านดิฉันคือคุณครูคนใหม่ที่จะมาสอนพวกคุณ วันนี้ช่างเป็นวันที่ดีจริง ๆ]
ณ ตรงนั้น ในห้วงเวลานั้น ในวินาทีนั้นที่เธอพูดทักทายนักเรียนและคุณครูใส่ไมค์ที่ตั้งไว้อยู่บนเวที ผมก็ได้รู้ตัวว่า ผมถูกสะกดด้วยเวทมนต์ความสวยงามของเธอไปซะแล้ว…
สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ ผมเป็นนักเขียนหน้าใหม่ครับ ผมชอบอ่านนิยาย ก็เลยมีความฝันที่แรงกล้าว่าอยากที่จะเป็นนักเขียนนิยาย ยังไงก็ขอฝากผลงานเรื่อง Why can't teachers love each other? ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ
"Hello everyone, I'm a new teacher to teach you guys. Today is a good day"
[คำแปล : สวัสดีค่ะทุกท่านดิฉันคือคุณครูคนใหม่ที่จะมาสอนพวกคุณ วันนี้ช่างเป็นวันที่ดีจริง ๆ]
แค่น้ำเสียงที่เธอใช้พูดประโยคทักทายใส่ไมค์ ก็สามารถทำดาเมจใส่หัวใจของผู้ชายทุกคนตรงนั้นได้ไม่ว่าจะเป็นครูหรือนักเรียนก็ตาม เสียงของเธอทำให้หัวใจของผมนุ่มฟู และทำให้ผมหลงไหลไปกับเสียงที่นุ่มนวลนั้นโดยไม่ทันตั้งตัว
"My name is Lily Taylor. Nice to meet you."
[คำแปล : ฉันชื่อ ลิลลี่ เทเลอร์ ยินดีที่ได้รู้จักคะ]
"เอ๊ะ?!"
ผมสะกิตใจเมื่อได้ยินชื่อนั้น เพราะผมรู้สึกว่าจะเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหนมาก่อน เหมือนเป็นความทรงจำที่นานมาแล้วแต่ผมก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดี
"อืม...นึกยังไงก็นึกไม่ออกอยู่ดีแฮะ...หืม?"
ดูเหมือนว่าผมจะพูดคำว่า เอ๊ะ เสียงดังเกินไปทุกคนเลยหั่นมามองผมด้วยความสงสัยว่าจะตะโกนขึ้นมาทำไม รวมถึงเธอเช่นกัน
ในตอนแรกที่เธอหันมามองที่ผม เธอทำหน้าขัดใจนิด ๆ ทำให้ผมกลัวเธอเล็กน้อย แต่เมื่อเธอสบตากับผม เธอก็เบิกยิ้มออกมาเหมือนกับได้เจออะไรบางอย่างที่มันดีมาก ๆ
"Oh!, is that Tin? Long time no see"
[คำแปล : โอ้! นั้นตินใช่ไหม? ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ]
"เอ๊ะ ติน? Me?"
"Yes, you are Tin. Hello!"
[คำแปล : ใช่แล้วคุณคือติน สวัสดี!]
"เอ่อ เข้าใจผิดแล้วครับชื่อผมต้น..."
คราวนี้ทุกคนก็หันมามองผมเหมือนกับในตอนแรก แต่คราวนี้ไม่ได้หันมาเพราะความสงสัยแต่ทุกคนหันมามองผมด้วยสายตาที่ว่า ทำไม่หมาวัดอย่างแกถึงได้ไปรู้จักกับดอกฟ้าอย่างงั้นได้! สายตาพวกนั้นที่มองมาที่ผมช่างน่ากลัวเหลือเกิน
"ครูประจำชั้นเรา ร้ายไม่เบาเหมือนกันนะเนี่ย~"
"ติน~ ไม่ได้เจอกันนานเลยน้าา~"
"ต้นโกอินเตอร์!"
"เห้ย ใจเย็น ๆ เค้าอาจจะจำผิดคนก็ได้นา ชื่อยังเรียกผิดเลย"
ในระหว่างที่ผมกำลังหันหลังให้เวทีเพื่อที่จะแก้ต่างให้ตัวเอง กับนักเรียนของห้องตัวเองที่กำลังแซวผมอย่างหนัก
"เอ๊ะ อะไรมาโดนหลัง...เอ๊ะ มือ? เอ๊ะ เอ๋!!"
คุณลิลลี่ก็เข้ามากอดผมจากข้างหลัง เอาหน้าแนบหลังผม พร้อมทำหน้างอนแก้มป่อง แล้วพูดกับผมว่า
"Tin, now I'm talking. listen carefully"
[คำแปล : โถ่~ ตินฉันกำลังพูดอยู่นะ ตั้งใจฟังกันหน่อยสิ]
"คะ คะ คะ ครับ ขอโทษครับ!"
'อ๊ากกกกก' ผมตะโกนในใจ
เจอเหตุการณ์รุกหนักแบบนี้ใครมันจะคุมอารมณ์อยู่ได้ ลองคิดดูสิคุณยืนอยู่ดี ๆ แล้วมีผู้หญิงหน้าตาสวย ๆ เข้ามากอดคุณจากด้านหลัง พร้อมทำหน้างอนแก้มป่องแบบโครตน่ารัก พร้อมทั้งพูดอ้อนให้ตั้งใจฟังแบบน่ารัก ๆ ถ้าเป็นคุณจะอยู่เฉย ๆ ได้ไหมละ!
เหมือนว่าผมจะลืมอะไรไปบางอย่าง ณ ตอนนี้ผมอยู่ในสถานการณ์ที่ผู้ชายทุกคนในระดับชั้นเหมือนจะตั้งตนเป็นศัตรูกับผมไปซะแล้ว แถมพวกผู้หญิงก็จิ้นผมกับคุณลิลลี่ไปต่าง ๆ นา ๆ
ผมไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อ แต่อย่างแรกที่ผมควรจะทำคือแก้ไขความเข้าใจผิดนี้ เพื่อไม่ให้คุณลิลลี่เสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะผม
ผมทำใจสักพักแล้วจับแขนของเธอที่กุมตรงหน้าท้องผมไว้ออก และหันหลังไปจับไหล่เธอแล้วค่อย ๆ ดันเธอออกไปแบบนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้
หลังจากที่ผมดันเธอออกไปจากตัวผมได้แล้ว ผมก็กำลังจะพูดเตือนให้เธอระวังตัวมากกว่านี้
"คุณลิล... คุณลิลลี่?"
ในขณะที่ผมกำลังจะพูด เธอเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม พอสังเกตุเธอดี ๆ แล้ว หน้าและหูของเธอแดงก่ำ ดวงตาที่ระยิบระยับจ้องมองมาที่ตาของผม ท่าทางกับสายตาที่เธอมองผมทำให้ผมพูดอะไรไม่ออกสักคำ
"Tin" เธอพูดระหว่างที่จ้องตาผม
'โอ้ยยย อะไรมันจะน่ารักขนาดนี้! แต่ว่าเหมือนเคยเห็นหน้าที่ไหนมาก่อนเลยแฮะ ไม่ใช่เมื่อนานมาแล้วซะด้วย อืมมมม?'
ผมกับคุณลิลลี่จ้องตากัน มันทำให้ผมเหมือนจะจำความทรงจำบางอย่างที่ผมลืมไปได้ แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีเสียงอะไรบางอย่างดังมาจากรอบ ๆ ผมกับเธอ
"แต่น แตน แตน แตน แต่น แต้น แต่น แตน"
"เชิญเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวจูบสาบานได้~"
"ยินดีกับคู่ข้าวใหม่ปลามัน*ด้วยจ้าา" *เรียกช่วงเวลาที่สามีภรรยาเพิ่งแต่งงานกันใหม่ ๆ
อยู่ดี ๆ นักเรียนห้องผมก็ฮัมเพลงแต่งงานขึ้นมา พร้อมกับเสียงปรบมือและคำอวยพรจากนักเรียนและครูทั้งระดับชั้น พร้อมทั้งเสียงระฆังดัง และกลีบกุหลาบที่ถูกโปรยลงมาจากไหนก็ไม่รู้
"จะฮัมเพลงทำเพื่อ! หยุดนะไอ้พวกนี้นี่!"
กลายเป็นว่าในช่วงเวลาเข้าแถวตอนเช้าของการเปิดภาคเรียนใหม่ของโรงเรียนนี้ในระดับชั้นม.6 เป็นการจัดงานแต่งงานของผมกับคุณลิลลี่ซะงั้น! แล้วชีวิตที่เหลืออยู่ต่อจากนี้ผู้คนเขาจะมองผมกันยังไงละเนี่ยยย
'ในที่สุดก็ได้เจอกันนะ...ติน' ลิลลี่คิดในใจในระหว่างที่ต้นกำลังอาละวาดใส่ทุกคนเพื่อที่จะกลบเกลื่อนความเขินอายของตัวเอง
.
.
.
ณ ห้องพักครู ม.6
หลังเข้าแถวเสร็จครูทุกคนจะเข้ามาในห้องพักครูแล้วไปที่โต๊ะของตัวเองแล้วจัดเตรียมอุปกรณ์เพื่อที่จะไปใช้สอนนักเรียนของตัวเองในคาบแรก แต่ตอนที่ผมเข้าห้องพักครูมาก็มีพวกครูผู้หญิงกับพวกครูผู้ชายที่สนใจเรื่องความรักมาล้อมผมไว้ประมาณ 5-6 คน แล้วถามเรื่องราวความเป็นมาของผมกับคุณลิลลี่
ผมอยากจะออกจากที่นี่มากเพราะมันอึดอัดแต่ติดตรงที่พวกครูที่รุมผมยังไม่ให้ผมไปไหนเลย
ผมในตอนนี้อยากที่จะหลุดพ้นจากตรงนี้มาก ๆ และแล้วก็มีคนฝ่าวงล้อมผู้คนเข้ามาอย่างยากลำบากเพื่อที่จะเข้ามาหาผม
"นี่ ๆ พบกันครั้งแรกที่ไหนหรอ?"
"เอ่อ...ตอนที่กูวิ่งมาเพราะมาสอนสายก็เลยวิ่งชนเธอ...ไม่ใช่! เธอก็เอากับเค้าด้วยหรอเนี่ย อีกิ๊ก"
"ฮ่า ๆ ๆ ก็ล้อมึงมันฮาดีนี่นา~ อีกอย่างไม่นึกเลยนะเนี่ยว่าจะสนิทสนมกับผู้หญิงขนาดนั้น ทั้ง ๆ ที่เข้ากันกับผู้หญิงไม่ได้แท้ ๆ"
"ไม่ใช่นะ กูก็ไม่รู้จักเค้าเหมือนกานน"
นี่คือเพื่อนสมัยเด็กของผมชื่อ กิ๊ก เรียนอยู่ห้องเดียวกันตั้งแต่ ป.1 - ม.6 ตอนมหาลัยไม่ได้เจอเธอเลย แต่ตอนเวลาทำงานก็เข้ามาทำงานที่เดียวกันอีก โลกช่างกลมยิ่งนัก
"ไอ้ตินมันร้ายจาดด"
"กูชื่อต้น!"
"ไม่เอาน่าติน~ ฟังเค้าหน่อยจิ"
"กูวว ชื่ออ โต้นนนน!!"
"ตินดุเค้าอ่าา ฮือออ"
"อู้ยย! (โอ้ย!!)"
"ใครอะ!"
"พวกนายว่างกันนักรึไง! ห๊ะ!"
"ทำไมตีแต่พวกผมอะคับ หัวหน้าระดับ!"
"ด...เดจาวู!"
ต่อมาไอ้เอ็มก็มาแซวผมอีกคน แต่ก็ต้องขอบคุณพวกเพื่อนผมที่ทำให้ผมหลุดพ้นจากผู้ชายและผู้หญิงที่สนใจเรื่องความรักไปได้ แต่รู้สึกขอบคุณไม่ทันไรก็กลายเป็นความเซ็งไปซะแล้ว เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะว่าไอ้เอ็มมันทำให้หัวหน้าระดับฟาดเอกสารรายชื่อนักเรียนใส่ผมเนี่ยแหละ! โถ่เอ้ย!
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจมาที่ผม ตัวเอกของเรื่องวุ่นวายเมื่อเช้าก็โผล่มา
คุณลิลลี่เข้ามาในห้องพักครูด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มเหมือนดั่งดอกไม้บาน เหมือนเหตุการณ์เมื่อก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลย
"Hello everyone, I teach English, Let's all fight today!"
[คำแปล : สวัสดีค่ะทุกคน ฉันสอนวิชาภาษาอังกฤษนะคะ ขอให้วันนี้ทุกคนสู้ ๆ กันนะคะ]
"Yes sir!"
[คำแปล : ครับท่าน!]
หลังจากที่ผู้ชายทุกคนตะโกนตอบเธอเป็นเสียงเดียวกัน ก็กรูกันเข้ามาเพื่อที่จะขอช่องทางการติดต่อเธอเหมือนพวกผู้ชายที่รุมกันขอลายเซ็นในงานออกอีเว้นต์ของเหล่าไอดอลที่ตนเองชื่นชอบ
เธอทำหน้ายิ้มแย้ม แต่เธอก็ยืนนิ่งเฉย ไม่มีการตอบสนองใด ๆ เหมือนว่าเธอจะเคยชินกับเหตุการณ์แบบนี้แล้ว
"เฮ้อ พวกนายนี่จริง ๆ เลย เห็นไหมว่าเธอกลัวอยู่"
"ผมว่าเธอไม่ได้กลัวเลยนะครับ..."
"พูดอะไรของนายน่ะต้น เห็นไหมว่าเธอตัวสั่นอยู่เนี่ย"
"ผมไม่เห็นนะครับ..."
หลังจากผมตบมุก(รึป่าว?) ของหัวหน้าระดับเสร็จ ผมก็เหลือบตาไปดูเวลาที่ติดอยู่บนผนังห้องพักครู ดูเหมือนว่าจะใกล้เวลาที่จะเริ่มคาบแรกแล้ว ผมควรจะต้องรีบไปสอนนักเรียนของผมแล้ว
"งั้นผมไปก่อนนะครับ คาบแรกก็ใกล้จะเริ่มแล้วด้วย"
"เดี๋ยว! ต้นเอาตัวคุณลิลลี่ไปด้วยสิ"
"เอ๊ะ? แต่ผมกำลังจะสอนคาบแรกแล้วนะครับ"
"ก็ใช่ไง นายก็เอาคุณลิลลี่ไปเข้าคู่ด้วยเลยไง ให้เขาเรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างของโรงเรียนนี้ด้วยล่ะ"
ก่อนที่ผมจะออกไปเพื่อไปสอนคาบที่หนึ่ง หัวหน้าระดับก็บอกให้ผมไปคู่กับคุณลิลลี่ ผมที่รู้สึกตกใจเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันกระทันหันเกินไป ผมจึงตอบปฏิเสธไป
"ถ้าประเมินจากความสามารถของเธอแล้วผมว่าเธอเหมาะที่จะคู่กับคนอื่น ๆ มากกว่าผมนะครับ"
"พูดอะไรของนายน่ะต้น นายเป็นคนเดียวนะที่ยังไม่มีคู่น่ะ"
"อุ๊ก เหมือนโดนต่อยเข้าที่หน้า!"
"อะไรของนายเนี่ย ฉันหมายถึงครูคู่ชั้นต่างหาก อีกอย่างสามีที่ดีต้องดูแลภรรยาให้ดีสิจริงไหม~"
"โอ้ยย! หัวหน้าระดับที่เย็นชาก็เอากับเค้าด้วยหรอเนี่ยยย"
"งั้นเอาอย่างงี้ วันนี้ทั้งวันนายคู่กับคุณลิลลี่ไปก่อนแล้วเดี๋ยวตอนปาร์ตี้ต้อนรับครูใหม่ตอนเย็นก็ให้เธอเลือกว่าจะทำหน้าที่เป็นครูคู่ชั้นคู่กับนายไหม อีกอย่างดูสีหน้าของเธอตอนนี้แล้วยังกล้าปฏิเสธอีกหรอ"
ผมนึกสงสัยในคำพูดของหัวหน้าระดับเลยลองหันไปดูหน้าของคุณลิลลี่ ผมเห็นเธอบีบน้ำตาออกมาแล้วทำหน้าอ้อน เหมือนเด็กที่กำลังบีบน้ำตาขอร้องให้พ่อแม่ซื้อของเล่นที่ตัวเองอยากได้
ผมที่ไม่มีทางเลือกเพราะลูกผู้ชายต้องไม่ทำให้ผู้หญิงร้องไห้ ผมเลยหันไปชวนเธอให้ไปด้วยกัน
"เอ่อ...แคนยู...เอ่อ...โกวิด...มี๊? (Can you go with me)"
[คำแปล : คุณไปด้วยกันกับผมได้ไหม]
แต่ผมลืมข้อหนึ่งที่สำคัญที่สุดในการที่จะทำงานคู่กับเธอที่พูดภาษาอังกฤษ ใช่ครับ ผมพูดภาษาอังกฤษไม่เป็น! ถึงแม้ว่าจะพอฟังภาษาอังกฤษได้ก็เถอะ แต่เรื่องเขียนกับพูดภาษาอังกฤษผมอยู่ในเกณต์วิกฤตเลยล่ะ
แต่ถึงแม้ว่าผมจะพูดภาษาอังกฤษออกไปแบบนั้น เธอก็ทำหน้ามึนงงนิด ๆ ก่อนที่จะทำหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสให้ผม ดูเหมือนว่าเธอจะมีความสุขมาก ๆ ที่ผมชวนให้เธอไปด้วยกัน
"Ok!"
เธอตอบตกลงกับผมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มสดใสแทบจะในทันที และจูงมือผมไป
ก่อนที่ผมจะออกจากห้องพักครูก็โดนพวกครูผู้ชายที่ถูกเมินเมื่อกี้เพราะไปสร้างความรำคาญให้เธอ ฉุดแขนเสื้อของผมเอาไว้
"เดี๋ยวสิไอต้น อย่างแกมันไม่เหมาะกับเธอหรอกน่า"
"ใช่ ๆ ส่งเธอมาให้คู่กับพวกเราดีกว่า รับรองเธอต้องมีความสุขมากกว่าการที่ได้คู่กับแกแน่"
"ใช่ ๆ ฮ่า ๆ ๆ ๆ"
ในระหว่างที่ผมกำลังโดนดูถูกอยู่นั้น ผมก็หันไปเพื่อที่จะพยายามพูดสวนกลับพวกเขาไป
แต่ทว่าก่อนที่ผมจะโต้ตอบกลับไปก็มีออร่าที่มืดมิดปกคลุมทั่วห้องพักครู รังสีอำมหิตที่สามารถรู้สึกได้มาจากข้างหลังผม แล้วก็มีโทนเสียงที่ใช้พูดกับคนที่เปรียบเสมือนขยะ มาจากข้างหลังผม
"เสือก"
คุณลิลลี่คือที่มาของ ออร่าอันมืดมิด รังสีอำมหิตกับโทนเสียงที่พูดกับขยะ ผมสงสัยว่าเธอเป็นคนพูดจริงหรือเปล่า เลยลองหันไปมองหน้าของเธอดู
ข้อสงสัยของผมก็กระจ่างในทันตา ใบหน้าของเธอจากดวงตาที่อ่อนหวานกลายเป็นเหมือนดวงตาที่ไว้มองเศษขยะ ทำหน้าบูด ดูเหมือนจะโกรธสุด ๆ บอกเลยว่าหน้าตาเธอในตอนนี้หน้ากลัวเสียยิ่งกว่ายักษ์ซะอีก ทำเอาพวกผู้ชายที่ดูถูกผมเป็นใบ้ไปกันหมดทุกคนเลย
ผมดีใจมากที่คุณลิลลี่โกรธแทนผม และพูดต่อว่ากลับไปเพื่อผม
"ฮ่า ๆ ๆ 'เสือก'งั้นหรอ พูดได้ดีนี่คุณลิลลี่"
ผมพูดพร้อมกับยิ้มให้เธอ และโบกมือลาใส่พวกผู้ชายที่ยืนอึ้งอยู่ ก่อนที่ผมจะจูงมือเธอและออกไปจากห้องพักครู
.
.
.
ตอนนี้ผมได้เดินคู่กับสาวสวยจากต่างประเทศที่เป็นที่จับตามองของคนทั้งโรงเรียน และจุดหมายก็คือทางเดียวกันด้วย ดังนั้นผมจึงตื่นเต้นมาก บอกเลยว่าตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยเดินกับผู้หญิงที่สวยและงดงามขนาดนี้มาก่อน และไม่นึกเลยด้วยซำ้ว่าชาตินี้จะมีโอกาส แต่ดูจากที่เธอพูดต่อว่าพวกผู้ชายเมื่อกี้ไปดูเหมือนว่าเธอจะพูดไทยได้นิดหน่อยสินะ...แล้วทำไมต้องเป็นคำนั้นด้วยละ...
ผมกับเธอเดินมาสักพัก ต่างคนต่างไม่พูดอะไรกันเลย และไม่รู้ว่าจะเริ่มการสนทนาแบบไหนดี ผมต้องทำอะไรสักอย่างกับบรรยากาศที่น่าอึดอัดนี่แล้ว
"คุณลิลลี่! (Tin!)"
ปรากฏว่าผมกับเธอพูดพร้อมกันซะงั้น
"อ๊ะ เอ่อ...ไอ แคน สปีค...อาฟเตอร์ ยู สปีค โอเค๊? (I can speak after you speak)"
[คำแปล : ผมจะพูดหลังจากที่คุณพูด โอเคไหม?]
"Ok"
ก่อนที่คุณลิลลี่จะพูดเธอก็ก้มหน้า ผมเห็นใบหน้าของเธอแดงนิด ๆ ด้วย
["รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงไม่สนใจผู้ชายที่เข้ามาทักทายฉันเมื่อกี้?
เพราะว่าฉันอยากแอดคุณเป็นเพื่อนคุณแรกของฉันยังไงละ"]
"Do you know why I ignored the guy who greeted me just now?
Because I want to add you as my first friend."
ผมได้ยินประโยคนั้นเลยยิ้มออกมาจนทำให้ผมหุบยิ้มไม่ลงเลยละ
หลังจากที่เธอพูดประโยคนั้นเสร็จ เธอยิ้มแบบสดใสให้ผม และจับมือผมไว้แล้ววิ่งไปตามทางเดิน
ความรู้สึกในใจนี้...เหมือนเคยเจอเหตุการณ์นี้ที่ไหนมาก่อน เหมือนเคยเจอกับเธอที่ไหนมาก่อน...
ผมไม่รู้หรอกนะว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้ของผมจะเป็นยังไง แต่ว่านะ ผมอยากจะใช้เวลากับเธอให้มากกว่านี้ อยากอยู่กับเธอให้มากกว่านี้ อยากปกป้องเธอ อยากสนับสนุนเธอ อยากเห็นตอนเธอยิ้ม อยากดูแลเธอ อยากทำให้เธอคนนี้มีความสุขเท่าที่จะทำได้
ณ ช่วงเวลานั้น ความรู้สึกของผมก็เอ่อล้นมามากมายนับไม่ถ้วน ผมรู้สึกว่าถ้าหากได้อยู่กับเธอแล้ว ผมสามารถทำอะไรก็ได้ น่าแปลกจริง ๆ มันคือความรู้สึกอะไรกันนะ...
"ว่าแต่คุณลิลลี่ครับ ไม่ใช่ว่าเพื่อนผมมาขอไอจีคุณเป็นคนแรกแล้วหรอ"
"What are you talking about? You are really my first friend."
[คำแปล : พูดอะไรของนายน่ะ? นายเป็นเพื่อนคนแรกของฉันเลยนะ]
"อ่อ! โอเคครับงั้นไม่มีอะไรแล้วละครับ"
'ไอ้เอ็ม! มึงหลอกกูนี่หว่า! สรัด!'
อ้าวไอ้เอ็ม!
Paragraph comment
Paragraph comment feature is now on the Web! Move mouse over any paragraph and click the icon to add your comment.
Also, you can always turn it off/on in Settings.
GOT IT