ราชันย์เร้นลับ 162 : แสงแดดเจิดจ้า
แสงแดดสลัวส่องลอดหน้าต่างสูงภายในห้องมิสซาของวิหารมอร์ส เผยให้เห็นสถาปัตยกรรมภายในเลือนราง
ไคลน์วางหมวกลงบนตัก วางไม้ค้ำพิงกับท่อนขา ก่อนจะนั่งลงอย่างเงียบสงบบนเก้าอี้แถวหน้าสุดฝั่งซ้าย สายตาจ้องมองแท่นบูชาไม่กะพริบ
ภายในวิหารปราศจากรูปปั้นเทพธิดารัตติกาล ปรากฏเพียงตราศักดิ์สิทธิ์แทนตัวตน
พื้นหลังสีดำสนิท กึ่งกลางเป็นจันทร์แดงทรงครึ่งเสี้ยว รายล้อมด้วยจุดแสงสีขาวจำนวนมาก
ผนังด้านบนเหนือตราศักดิ์สิทธิ์ใหญ่คือจุดช่องว่าง มีไว้ให้แสงลอดผ่านเข้ามาอย่างจำกัด หากมองผิวเผินในยามค่ำยืนจะเห็นเป็นภาพคล้ายหมู่ดาว
ในยุคปัจจุบัน ทั้งเจ็ดศาสนาหลักจะไม่เปิดเผยภาพวาดเสมือนของเทพให้สาวกเคารพบูชา เหลือไว้เพียงตราสัญลักษณ์แทนพระองค์
คงเพราะกฎ ‘ห้ามจ้องมองเทพ’ กระมัง…
ไคลน์ปล่อยความคิดล่องลอย มันไม่รีบร้อนสร้างยันต์เพลิงสุริยันจาก 3-0782 แม้จะได้รับโอกาสให้อยู่กับสมบัติวิเศษลำพัง
ชายหนุ่มตระหนักว่า ตนสมควรรอไปก่อนในช่วงสิบถึงสิบห้านาทีแรก เนื่องจากนักกวีเลียวนาร์ดหรือผู้ไร้หลับโคเฮนรี สามารถวกกลับมาแจ้งข่าวด่วนได้ทุกเมื่อ