ดวงใจปักษา 9
ตอน สานสายใย3
" วายุภักดิ์!..เจ้าไปทำอันใดลับๆ ล่อๆ ที่ชายป่านั่น? "
มณีจันทร์ฉายเอ่ยถามฝ่ายตรงข้าม..
" ข้าก็มาแอบรอเจ้านะสิ! "
วายุภักดิ์เอ่ยตอบ หลังจากที่นางเดินเข้ามาใกล้ตน..
" รอข้า!!..เจ้ามารอข้า ที่ชายป่าเยี่ยงนี้กระนั้นหรือ? เจ้าเห็นข้าเป็นสิ่งใด ใยถึงมาแอบดักรอตรงชายป่าเยี่ยงนี้!! " พูดพร้อมกับทำหน้าบึ้งตึง
" เจ้าอย่าเคืองข้าเลยนะ..เจ้านางน้อย!! ข้าก็แค่ ไม่อยากให้ใครเห็นข้าก็เท่านั้น! " วายุภักดิ์ตอบ พร้อมเอ่ยปากชวนนางไปเดินเล่น
"เราไปเดินเล่นทางด้านนั้นกันดีกว่า เจ้านาง.!!"
" อืม...ไปก็ไป!! ประเดี๋ยวแม่ข้ามาเจอจะเป็นเรื่องเอาได้ "
ทั้งสองออกเดินไปตามแนวชายป่า จนทะลุเข้าสู่เขตแดนของสระอโนดาต และพากันนั่งเล่นพูดคุยกันตรงโขดก้อนหินริมธารน้ำ
ช่วงเวลานี้ยังมิค่อยมีใครมาลงเล่นน้ำ เพราะเหล่ากินรี ต่างพากันเดินเที่ยวชมตลาด ลานสินค้ากันอยู่ มันเหมือนเป็นช่วงเวลาของทั้งสอง ที่ได้พบเจอกัน และพูดคุยเย้าหยอกกันตามประสา ก่อให้เกิดความสุขในใจของทั้งสอง จนก่อเกิดเป็นสายสัมพันธ์ ที่ถักทอสายใยผูกพันธ์ ในส่วนลึกของจิตใจทั้งสองคน โดยไม่รู้ตัว...😊😊
ดวงตะวันเริ่มทอแสง รัศมีที่เริ่มร้อนแรง เมื่อดวงสุริยันต์เคลื่อนคล้อยตรงหัว ความสงบเงียบที่เคยมีก็เริ่มเลือนหายไป เหล่ากินรีต่างกำลังพากันมาเล่นน้ำ รวมทั้งเหล่านาคีสาวๆ ก็เริ่มทยอยกันมา
จากความสงบที่มี ก็เริ่มดูวุ่นวายด้วยเสียงเจือยแจ้ว ของเหล่านางนาคีและนางกินรี ที่ลงเล่นน้ำกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน...
..............
..." เจ้านางน้อย..ข้าว่าที่แห่งนี้ คงไม่เหมาะกับเราแล้ว ข้าว่าเรากลับไปที่ตลาด ลานสินค้ากันเถอะ " วายุภักดิ์เอ่ยชวน...
" ก็ดีเหมือนกัน ป่านนี้แม่ของข้าคงตามหาข้าแล้ว และที่นี่ก็เริ่มเสียงดังขึ้นทุกที " มณีจันทร์ฉายเอ่ยตอบ..
พร้อมกับคิดถึงมารดา ป่านนี้ท่านคงออกตามหาตนแล้ว...
เมื่อตกลงพูดคุยกันได้ ทั้งสองจึงพากันออกเดินจากที่ตรงนี้ เลาะเรียบไปตามทางเดินที่มี เพื่อกลับไปยังตลาดลานสินค้า...
ณ ตลาดลานสินค้า ผู้คนมากหน้าหลายตา ต่างพากันเดินดูและจับจ่ายสินค้าที่วางขาย มณีจันทร์ฉายและวายุภักดิ์ เดินมาถึงตรงลานน้ำพุ สายตาคมกริบของวายุภักดิ์ ได้ชำแลมองไปยังลานน้ำพุ ก็พบเข้ากับร่างสูงใหญ่ ยืนพูดคุยอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง
" ท่านอา..!! " วายุภักดิ์อุทาน
ส่วนผู้หญิงคนนั้น นั่งอยู่ที่ก้อนหินใหญ่ข้างบ่อน้ำพุ ที่ประดับประดาเอาไว้ สำหรับนั่งพูดคุยกัน
'ท่านอา' วายุภักดิ์อุทานในลำคอ แต่เสียงก็ยังเล็ดลอดออกมา ให้กับมณีจันทร์ฉายได้ยิน..
" เจ้าว่าอะไรนะเมื่อกี้!..วายุ? " มณีจันทร์ฉายเอ่ยถาม
" ป่าว..ข้าแค่เห็นคนรู้จักทางฟากนู้น!..แล้วแม่ของเจ้าหล่ะ อยู่ตรงไหนกันรึ เจ้านาง? " วายุภักดิ์ตอบ พร้อมกับย้อนถามนางกลับ
" ข้าก็กำลังมองหาท่านอยู่ มิรู้ว่าท่านอยู่ตรงไหน เดี๋ยวเราลองเดินดูแถวนี้กันก่อน เผื่อจะเจอแม่ข้า!"
"นั่น!..ข้าเจอแม่ข้าแล้ว...แต่เอ่อออ..."
" ใครกันผู้ชายคนนั้น!!? "
" คนไหนรึ? " วายุภักดิ์ถามกลับ
" คนนั้น..นั่นไง!..คนที่ตัวสูงใหญ่ยืนอยู่ตรงลานน้ำพุนั่น! " นางตอบ
" เอ่อออ..คนนั้นน่ะรึ ท่านอาของข้าเอง!! " วายุภักดิ์ตอบนางไป พร้อมกับถามนางกลับ
" เจ้าจะเข้าไปคนเดียว หรือจะให้ข้าเข้าไปด้วย?..เจ้านาง "
" เอ่อออ..ข้า! "
นางมัวแต่อ้ำอึ้ง วายุภักดิ์จึงตัดสินใจแทนนาง
" ข้าเข้าไปพร้อมกันกับเจ้าเลยละกัน ชายคนนั้นคืออาของข้าเอง "
เป็นการรวบลัด โดยไม่ต้องฟังคำทัดทานของนาง มณีจันทร์ฉาย จึงเดินตามหลังวายุภักดิ์ไป...
............
" ท่านแม่...ข้ากลับมาแล้ว " นางเอ่ยกล่าวแก่มารดา
" สวัสดีขอรับ..ท่านอา " วายุภักดิ์เอ่ยทักชายร่างสูงใหญ่
พญาสุพรรณภาคีชะงัก เมื่อได้ยินเสียงกล่าวทัก มาจากวายุภักดิ์ พร้อมกลับทักทายตอบ..
" สวัสดี..วายุ! เจ้าก็มาเที่ยวที่นี่เหมือนกันรึ? " พญาสุพรรณถามกลับ
" ขอรับท่านอา.. ท่านอาเองก็มาเที่ยวหิมพานต์เช่นกันหรือ พระเจ้าค่ะ " วายุตอบพร้อมถามกลับ
" อาเพียงแค่ผ่านมา จึงแวะเที่ยวชมหิมพานต์ก็เท่านั้น ก็พอดีได้พบเจอกับคนรู้จัก จึงได้พูดคุยกัน เออนี่..ศิรินภา..เพื่อนอา!! "
...วายุภักดิ์ยกมือไหว้ พร้อมกล่าวทักทาย "สวัสดีขอรับ..ท่านอาหญิง🙏"
" ศิรินภายกมือรับไหว้ พร้อมทักตอบ '' สวัสดีจ๊ะหลานชาย ''
พญาสุพรรณภาคีเริ่มอึดอัด จึงกล่าวต่อพระนางศิรินภา ว่า
'' ศิรินภา..นี่ข้าก็ออกมานานแล้วคงต้องขอตัวกลับเสียก่อน เอาไว้คราหน้า เราคงจักได้พบเจอกันอีกครั้งนะ " กล่าวจบ พญาสุพรรณภาคี ก็ขอแยกตัวไป 'พร้อมกล่าวต่อวายุภักดิ์ว่า..'
"อากลับก่อนนะวายุ..ส่วนเจ้าก็รีบๆ กลับล่ะ ประเดี๋ยวบิดาเจ้าจักถามหา ''
" พระเจ้าค่ะ..ท่านอา ประเดี๋ยวหลานก็จักกลับเช่นกัน " วายุภักดิ์กล่าวต่อพญาสุพรรณภาคี
******************************