เขาหายใจไม่ออก
ร่างกายเหมือนถูกโรลเลอร์เหล็กยักษ์รีดจนตัวบี้แบน อากาศถูกบีบออกหมดปอด ตอนนี้เขาต้องการออกซิเจนโดยด่วน
สัมผัสจากรอบกายมีแต่ความเย็นเยือก บ่งบอกว่าตอนนี้อยู่ในน้ำ มือพยายามตะเกียกตะกายดิ้นรนตามสัญชาตญาณ แต่กลับขยับมือกับขาไม่ได้ แถมมีน้ำหนักมหาศาลกดทับไว้ ไม่ให้ใบหน้ายกชูเหนือผิวน้ำเพื่อสูดหายใจ
ทนไม่ไหวแล้ว เขาต้องการอากาศ แต่ไม่รู้จะทำยังไงดีเลยสูดหายใจเข้าไป ซึ่งพอทำแบบนั้นกลับกลายเป็นสร้างความเสียดแทง เกิดความปวดแสบปวดร้อนในปอดจนแทบระเบิด ทุกอย่างที่โอบล้อมรอบตัวมีแต่ของเหลว และสภาพของมันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับความบางเบาของอากาศ
เขาเป็นมนุษย์ ไม่ใช่ปลาสักหน่อย
และในวินาทีที่ความอึดอัดทรมานมาถึงขีดสุด เขารู้สึกราวกับร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยง ราวกับหัวจะระเบิดออก เขาทนไม่ไหวอีกแล้ว
จากนั้นทุกอย่างก็พลันมืดมิด
+++++
ชายหนุ่มสะดุ้งสุดตัว เหงื่อแตกเต็มใบหน้าและลำตัว สีหน้าของเขาดูงุนงงสับสน ตากลมโตสุกใสสั่นระริกอยู่ในความมืด
อีกสักครู่ต่อมาเขาคงรู้ตัวว่าสิ่งที่เห็นเมื่อกี้คือความฝัน ชายหนุ่มเลยยกมือเสยเส้นผมที่หยักศกเล็กน้อย เหงื่อทำให้ปลายผมเปียกลู่ติดผิว
จริง ๆ เขาไม่ได้ฝันว่าตัวเองจมน้ำมาสักพักแล้ว ที่กลับมาฝันอาจเพราะตอนบ่ายบังเอิญมีเหตุให้หวนคิดเรื่องโศกนาฏกรรมกับครอบครัวของเขาที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีที่แล้ว
ชายหนุ่มถอนหายใจ ตอนแรกตั้งใจจะนอนต่อ แต่ก็เปลี่ยนใจ เอื้อมมือไปเปิดโคมไฟตรงหัวเตียง เห็นตัวเลขดิจิทัลของนาฬิกาตั้งโต๊ะบอกเวลา 04:37 ทำให้รู้ว่าได้พักผ่อนไปนานพอสมควร มิน่าตาสว่างเลยตอนนี้ ชายหนุ่มจึงเกิดความคิดบางอย่าง
เขาหันไปมองด้านข้างเตียง เห็นเค้าโครงของรถเข็นจอดอยู่ไม่ไกลนักจากเตียงที่เขานอน แล้วพอมองไปอีกทางก็เห็นไม้ค้ำยันสองอัน เขาชั่งใจก่อนขยับตัวบนที่นอน พยายามวางเท้าลงช้า ๆ บนพื้น รู้สึกเย็นเฉียบที่มือที่เกร็งจนสั่นระริกเกาะราวโลหะกันตกของเตียง
เขาต้องค่อย ๆ ขยับตัวไปหาไม้ค้ำ กล้ามเนื้อมัดใหญ่โดยเฉพาะที่ต้นขาของร่างกายนี้มีสภาพอ่อนแรง
สุดท้ายก็ไปถึงไม้ค้ำและคว้ามายันที่รักแร้จนได้
ชายหนุ่มลุกไปทำธุระส่วนตัวโดยใช้ไม้ค้ำช่วย พอเสร็จเขาก็รู้สึกหัวใจพองโต ตลอดหลายวันมานี้เขาไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องใช้รถเข็นเลย
อีกสักพักเขาก็กะโผลกกะเผลกมาแถวหน้าต่างของห้องพักคนป่วย ไม้ค้ำอันหนึ่งไว้ถูกหนีบไว้ที่รักแร้ก่อนชายหนุ่มจะรูดม่านหนาหนักเปิดออก ต่อมาก็ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้นวมมีที่เท้าแขนตัวหนึ่งที่วางอยู่แถวนั้น สายตาของเขาทอดออกไปข้างหน้า
ข้างนอกคือพื้นผิวของท้องทะเลกว้างใหญ่ ซึ่งตัดกับสีตะกั่วเข้มข้นของท้องฟ้ายามราตรี แต่สิ่งที่โดดเด่นสะดุดตาคือสิ่งก่อสร้างสลับซับซ้อนที่ส่วนใหญ่เป็นเหล็ก มีหอคอยสูง กับโมไบล์เครนสีเหลืองเคลื่อนไหวไปมา บันไดเหล็กเปลือยที่แปะอยู่นอกอาคาร ไกล ๆ นั่นคือแคปซูลแท็งก์สูงใหญ่สีมอ ๆ
ข้างในสิ่งก่อสร้างเต็มไปด้วยความสว่าง ราวกับโครงสร้างเหล็กแต่ละชิ้นเปล่งแสงสีเหลืองส้มออกมาท่ามกลางพื้นหลังอันมืดสนิท ที่เลยไปอีกเป็นปล่องสูงที่ตรงปลายมีเปลวไฟสีส้มลุกโชติช่วงตลอดเวลา เห็นเป็นประกายสีส้มงดงามสะท้อนอยู่บนพื้นน้ำ
ใช่แล้ว สิ่งก่อสร้างที่เขาเห็นและห้องที่เขาอยู่ก็คือส่วนหนึ่งของแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบกลางอ่าวไทย ซึ่งมีชื่อว่าแท่นอัญชัน
และนี่คือส่วนหนึ่งของอาณาจักรลาโฮมกรุปผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ ที่เริ่มต้นจากธุรกิจผลิตน้ำหอม
และแท่นขุดเจาะนี่เองคือที่ทำงานของเขา หมายถึงตัวเขาในชีวิตก่อนหน้านี้น่ะ
ชายหนุ่มคิดอะไรต่อไปเรื่อยเปื่อย เหม่อมองทิวทัศน์ยามราตรีอีกสักพักจึงเอี้ยวตัวมามองตัวเลขเรืองแสงบนโต๊ะแล้วก็ถอนใจอีกรอบ เกือบตีห้าแล้ว น่าจะกลับไปนอนต่อเสียที
แต่อยู่ ๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกเสียงดังผลัวะ มีใครบางคนผลักมันเข้ามา
แสงโคมสลัวที่หัวเตียงส่องให้เห็นว่าคือเขาคนนั้นนั่นเอง คุณชายหนุ่มทายาทเพียงคนเดียวของลาโฮมกรุป
ใบหน้าหล่อเหลาราวกับถูกปั้นมา ร่างเพรียวสูงที่ตอนนี้ท่อนบนเปลือยเปล่า ผิวกายสีแทนของเขาเป็นมันวับในความมืด ทั้งตัวสวมแค่กางเกงนอนผ้าฝ้ายสีเทามีเชือกผูก ที่ตอนนี้เอวกางเกงถูกรั้งต่ำแทบเห็นแนวเส้นขนสีดำแข็งที่ปกคลุมพื้นที่ที่อยู่ต่ำลงไปอีก เขาคงลุกออกจากเตียงตัวเองแล้ววิ่งมาที่ห้องพักผู้ป่วยนี้ในชุดนอนเลยทีเดียว แถมคงรีบมาด้วยเพราะดูหอบหายใจเหน็ดเหนื่อย
แม้แสงจะไม่มาก แต่ชายหนุ่มที่นั่งบนเก้าอี้นวมก็ยังเห็นร่องเฉียงของส่วนต้นขาที่เชื่อมต่อกับลำตัว ที่เรียกกันว่าวีไลน์ของคนมาใหม่ และภาพนั้นช่างดูเร้าอารมณ์ยิ่ง ช่วงเอวของหนุ่มถอดเสื้อคนนั้นค่อนข้างเล็ก ด้านข้างลำตัวแทบไม่มีไขมัน
ผิวกายของหนุ่มหุ่นดีนั้นปกคลุมไปด้วยเหงื่อบาง ๆ ลำคอค่อนข้างยาวของเขาเปียกเหงื่อ ใบหน้าหล่อเหลาสั่นระริกและหวั่นไหว ราวกับมีความทรมานบางอย่างที่เขาไม่อาจกักเก็บไว้อีกต่อไป และตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องระเบิดออกมาสู่ใครสักคน
หนุ่มคนนั้นเอามือทาบที่หน้าอกของตัวเอง เหงื่อซึมตามหน้าผาก ไรผม ตอนเขาเดินมาตรงจุดที่มีแสง ก็เห็นใต้ผิวแก้มซับด้วยสีระเรื่อเหมือนมีเลือดมาสูบฉีดมาก ในแสงน้อย ๆ นั้นเห็นเงาเส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบ ริมฝีปากได้รูปมีขอบชัดของเขาชุ่มชื้นจนเป็นมันวาว
ชายหนุ่มคนที่นั่งอยู่คิดว่าอาการของคนที่มาใหม่เหมือนคนแพ้แอลกอฮอล์แต่ดันทุรังดื่มเหล้าปริมาณมากเข้าไป
แต่ที่น่าตระหนกคือชายคนนั้นเร่งรุดมายังเก้าอี้นวมที่เจ้าของห้องนั่งอยู่
"ฮึก อา...ช่วยด้วย ช่วย มันปวด..ทรมาน"
นั่นคือเสียงต่ำแหบเครือของคนมาใหม่ หนุ่มน้อยบนเก้าอี้เห็นคนมาใหม่กุมที่เป้ากางเกงนอน ใต้ผ้านุ่มนั้นมีส่วนนูนเป็นก้อน แถมยังเต้นตุบ ๆ ทำให้รู้ว่าเขามีอารมณ์อันร้อนแรงโหมกระหน่ำอยู่ หนุ่มน้อยบนเก้าอี้สงสัยว่าเหตุใดความต้องการของเขาจึงมากมายจนเปิดเผยให้เห็นเด่นชัดขนาดนี้
"แข็งจนเจ็บไปหมดแล้ว ช่วยหน่อย"
"เฮ้ย อะไร คุณจะทำอะไรผม" อีกแป๊บเดียวต่อมาหนุ่มบนเก้าอี้ก็ร้องเสียงหลง
นั่นเพราะผู้มาใหม่กรากมายังเก้าอี้นวมตัวที่อีกคนนั่งอยู่ มือแข็งแรงของเขาช้อนตัวหนุ่มคนที่นั่งซึ่งมีร่างกายผอมบอบบาง ขึ้นมาจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว ราวกับยกของไร้น้ำหนัก จากนั้นร่างกำยำก็โยนคนในอ้อมแขนลงไปบนเตียงคนป่วยอย่างไม่นุ่มนวลนักทันที
แล้วร่างของหนุ่มผู้มาใหม่ก็โถมทับร่างผอมบางตัวเล็กกว่าที่อยู่ข้างใต้ มือคนข้างล่างพยายามผลักดันการรุกรานจากคนข้างบน แต่ก็ไม่อาจต้านทาน กล้ามเนื้อหน้าอกแข็งแกร่งของคนอยู่บนขยับเคลื่อน อกนูนสวยเป็นมันวาวเพราะเหงื่อบาง ๆ บดเบียดลงมา
"อุ๊บส์ แม่งยิ่งปวดโว้ย" เขายังกุมมือไว้ตรงเป้ากางเกง
แล้วคนข้างบนก็ใช้ต้นขาแข็งแรงแทรกต้นขาของคนข้างล่าง ทำให้ฝ่ายนั้นจำยอมแยกขาตัวเองออก เสื้อคลุมอาบน้ำที่ใส่อยู่แบะออกกว้าง คนข้างบนกระตุกแรง ๆ ที่เชือกรัดเสื้อคลุม แล้วกระชากผ้าชิ้นโตนั้นออกทันที จากนั้นร่างเปลือยเปล่าของคนข้างล่างก็ถูกเปิดเผยทุกส่วนสัดให้คนข้างบนเห็น และนั่นอาจเป็นเหตุให้คนที่แข็งแรงกว่าทำเสียงคำรามต่ำ ๆ ในลำคอ กับเสียงกลืนน้ำลายอย่างได้อารมณ์
"อึก ฮึ่ม อา อูย มันน่า..."
คนข้างบนวางมือใหญ่ข้างหนึ่งแนบลำคอบอบบางของอีกฝ่าย นิ้วโป้งเตรียมกดลงตรงจุดที่หากลงน้ำหนักมากไปแค่นิดเดียว คนข้างล่างก็อาจหมดสติได้
ร่างใหญ่กว่าเบียดคนร่างเล็กกว่าข้างใต้ แล้วมือใหญ่อีกข้างก็รูดกางเกงตัวเองลงไปกองที่หัวเข่า จากนั้นแค่ขยับขาไปมาสองสามที กางเกงตัวนั้นก็ร่วงลงไปกองบนพื้น
แสงในห้องเผยให้เห็นแผ่นหลังที่มีมัดกล้ามสวยงามเป็นเงาวับเพราะเหงื่อ เห็นเขาคร่อมคนตัวเล็กไว้ข้างบน กล้ามเนื้อก้นแน่น ๆ บดเบียดเข้ามาตรงหว่างขาคนข้างล่าง
แล้วมือคนข้างบนก็จับที่ข้อเท้าคนข้างล่างให้สองขาถ่างกว้างจากกัน คนตัวเล็กกว่ามีร่างกายอ่อนแรงไม่มีทางสู้เขาได้
"อย่า อย่าทำผม..อื้อ อือ"
เสียงร้องขาดหายไป เพราะคนข้างบนใช้มือใหญ่กดทับริมฝีปาก ก่อนเขาจะดันริมฝีปากของตัวเองลงมาอย่างรุนแรง บดเบียดจนแทบไร้อากาศช่องว่าง คนข้างล่างไม่มีสิทธิ์เอื้อนเอ่ยคำใด จะขยับตัวหนีไปไหนก็ไม่ได้
พอคนข้างบนรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ขัดขืน ก็เริ่มจูบหนักหน่วงขึ้น ใช้ทั้งปากและลิ้นรุกรานเลยทีนี้ ตอนนี้มีแต่เสียงเนื้อสัมผัสกัน เสียงดูด เสียงกลืนน้ำลาย คนข้างบนเริ่มจับได้แล้วว่าคนข้างล่างต้องยอมจำนน ไม่อาจขัดขืนไม่ว่าจะด้วยหนทางใด
แต่อีกเหตุผลคือคนข้างล่างเริ่มเผลอไผลปล่อยใจให้คนข้างบน เริ่มเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบที่ประเคนให้ สองแขนเล็ก ๆ ที่ตอนแรกต่อต้าน พยายามผลักดันหน้าอกคนข้างบนให้ห่างออก มาตอนนี้กลับเลื้อยไปลูบคลำเส้นผมหนากับโอบตรงแผ่นหลังของอีกคนไว้แทน
แสงไฟเผยให้เห็นว่าหน้าของคนข้างบนแดงจัด ศีรษะที่มีเส้นผมดกหนาบดเบียดกับแผ่นอกและซอกคอของอีกฝ่าย จมูกปากซุกไซ้ไปทั่ว ที่แก้ม หน้าอก แม้แต่ในจุดที่ค่อนข้างส่วนตัวก็ไม่ละเว้น ลิ้นอุ่น ๆ ของเขาลากตั้งแต่ข้างลำตัวไปจนถึงใต้วงแขน แล้วจมูกโด่งก็ซุกซบอยู่ตรงนั้น
"ฮึก โอ๊ย อย่าทำอย่างนั้น มัน…" คนข้างล่างเสียวซ่านแทบขาดใจที่โดนทำแบบนั้น
"กลิ่น กลิ่นดีเหลือเกิน หอมมาก…น่ากิน"
สองมือของคนตัวใหญ่ข้างบนคลุกเคล้าตะโบมไปทั่วที่กราม คาง หน้าอก หน้าท้อง รวมถึงท่อนเนื้อของคนข้างล่างที่แข็งตัวสู้มืออีกฝ่าย หน้าท้องของคนข้างล่างสัมผัสรู้ได้ถึงความแข็งตัวของผู้รุกราน ตากลมโตของคนข้างล่างเห็นท่อนเนื้อใหญ่โตของคนข้างบนเต้นตุบราวกับมีหัวใจเป็นของตัวเอง ส่วนหัวของท่อนเนื้อนั้นเปลี่ยนเป็นสีเข้ม แถมตอนนี้ยังมันเลื่อมไปด้วยน้ำหล่อลื่นที่มีปริมาณมากผิดปกติ ของเหลวบางส่วนไหลเยิ้มลงมาเป็นสายหนา ๆ จนเปียกผ้าปูเตียง แต่ของเหลวส่วนใหญ่เปียกนองเคลือบท่อนเนื้อที่ตอนนี้กำลังสัมผัสถูไถไปมาบนเรือนกายของคนข้างล่าง
"หอม กลิ่นหอมหวานเหลือเกิน ไม่ไหวแล้ว" เสียงคนตัวใหญ่หายใจลึกและรุนแรง จมูกสูดดมคนข้างล่างไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็นที่เส้นผมตรงกลางกระหม่อม ที่ซอกคอ หรือที่ใต้วงแขนทั้งสองข้าง
จากนั้นคนข้างบนก็โน้มตัวลงมาที่ซอกคออีกรอบ
"ไม่ไหวแล้วขอกินหน่อยเถอะ"
คนแข็งแรงทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด เขาฝังฟันลงตรงหัวไหล่ที่ค่อนไปทางหลังคอของคนข้างล่าง ผิวอ่อนสีซีดถูกขย้ำเป็นรอยฟัน หยดของเหลวสีแดงราวกับเม็ดทับทิมซึมออกมาตามรอยแผลทันที อีกฝ่ายไม่ได้ทำแค่กัด แต่คงดูดของเหลวที่ซึมจากแผลเข้าปากไปเล็กน้อยด้วย
"โอ๊ยยยยย" คนข้างล่างร้องเสียงโหยหวน นั่นอาจทำให้คนข้างบนตกใจ เลยถอนปากออกจากไหล่
แล้วคนข้างบนก็ยกตัวขึ้น ใช้หลังมือปาดริมฝีปากแดงที่เปรอะเลือด แสงจากนัยน์ตาที่เปล่งออกมาราวกับเรืองแสงได้ในความมืด แววของเขามีความซับซ้อน มีความรู้สึกข้างในมากมายหลายอย่าง ทั้งสาแก่ใจ ทั้งสาสมอารมณ์หมาย รวมถึงความปรารถนาอยากได้อะไรที่มากกว่านี้ขึ้นไปอีก
คนข้างบนเลยก้มหน้าลงมาอีก เป้าหมายคือริมฝีปากของคนข้างล่าง สองมือจับที่ข้อมือของคนที่อยู่ข้างล่างไว้อย่างแน่นหนาจนอีกฝ่ายไม่มีทางหนีไปไหนพ้น
ด้วยความหน้ามืดตามัวของคนที่อยู่ข้างบน เขาไม่ได้ยินเสียงร้องขอความเห็นใจ...แม้แต่นิดเดียว
เสียงร้องที่สั่นราวกับเสียงสะอื้นว่า "นี่อาเอง เดวี่" มันเล็ดลอดออกมาจากปากสวยได้รูปเพียงแผ่วเบา
แล้วน้ำตาหยดแรกก็ร่วงจากดวงตาฝ่ายที่ถูกรุกรานลงมาเปียกหมอน