บทที่ 4
"ไม่ผ่าน เอาไปคิดใหม่"
"ผมให้เวลาคุณสองอาทิตย์ คิดได้แค่นี้?"
"งบประมาณพวกนี้มากเกินไปรึเปล่า คิดว่าผมไม่รู้รึไง"
"ไม่ดี เอาแก้ บ่ายเอามาส่งใหม่"
เวลาผ่านไปนานเท่าไรสีหน้าของพนักงานหัวหน้าแผนกต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุมยิ่งซีดเผือดและเหงื่อตกมากขึ้นเท่านั้น ส่วนเลขาคนสนิทที่นั่งข้างกายเองนั้นก็ยิ่งหน้ามุ่ยมากกว่าใครเพราะต้องจัดบันทึกการประชุมที่แสนยุ่งยาก
ปกติมันก็ยุ่งยากอยู่แล้วแต่วันนี้ดูมันจะยุ่งยากวุ่นวายมากกว่าทุกที งานโปรเจกต์ที่เสนอในวันนี้ยังไม่มีอันไหนผ่านเลย ทุกงานถูกตีกลับหมดจนคนทำแทบลงไปร้องไห้
ส่วนคนที่มีอำนาจเด็ดขาดกลับนั่งนิ่งแผ่รังสีเย็นยะเยือกออกมาตั้งแต่เริ่มประชุม... พวกเขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าบอสมีเรื่องหงุดหงิดมาก่อนหรือเพิ่งมาหงุดหงิดกันแน่
แต่ที่รู้ๆ คือวันนี้บอสอารมณ์ไม่ดี และคนซวยก็คือพวกเขา พนักงานตัวน้อยๆ ฮือ
"เอ่อ... บอสจะให้แก้"
"เดี๋ยวนี้" ผมตวัดตามองไปทางหัวหน้าแผนกบัญชี "ไปแก้งบประมาณมาใหม่และส่งให้ผมภายในวันนี้"
"วันนี้! มันจะไปทันได้ยังไงบอส" ร้องประท้วงทันทีเพราะแผนงานเรื่องเสนองบประมาณในมือนี้ก็ใช้เวลาทำถึงหนึ่งอาทิตย์ หากทำใหม่และต้องการให้เสร็จภายในหนึ่งวันจะเป็นไปได้ยังไง
"เสาร์อาทิตย์นี้ฉันต้องไปดูแลบริษัทที่จีนแล้วและจะไม่กลับมาหนึ่งเดือน" ผมเปิดแฟ้มดูเอกสารเล็กน้อยโดยไม่ไม่สนใจหน้าตาจะร้องไห้ของใครทั้งนั้น "ฉันต้องการแผนงานในเดือนหน้าทั้งหมดภายในสองวันนี้ก่อนที่ฉันจะไปจีน"
สรุปคือพวกมึงต้องกลับไปแก้ใหม่ให้หมดนั่นแหละ
"จบการประชุมเท่านี้"
ผมโยนแฟ้มอันสุดท้ายไปให้ควินซ์ไปแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้เพื่อกลับขึ้นไปห้องทำงานชั้นบน พลิกนาฬิกาข้อมือดูเวลาพบว่าเพิ่งจะสิบเอ็ดโมง อืม ไม่คิดว่าจะจบการประชุมเร็วขนาดนี้
ไม่สิ จะไม่จบเร็วได้ไงในเมื่อผมแทบจะด่าทุกการรายงานและการนำเสนอ ปัดตก ไม่เซ็นอนุมัติสักอัน อันที่จริง ผมก็ไม่ได้ทำตามอารมณ์หรอกนะ
เออๆ แอบทำตามอารมณ์นิดหนึ่งก็ได้ แผนงานพวกนั้นยังมีช่องโหว่อยู่พอสมควร ถ้านำไปแก้ใหม่อีกรอบน่าจะดีกว่านี้ เรียกว่าผลพลอยได้ดีกว่า...
เสียงงึมงำจากด้านหลังว่าขึ้น "วันนี้คงต้องทำโอทีอีกแล้ว... เฮ้อ"
หึหึ นี่แหละที่ผมต้องการ!
ทำงานล่วงเวลาแบบนี้ ควินซ์ก็จะไปหาไอ้บริษัทจัดคู่ไม่ได้!
ผมนี่มันฉลาดจริงๆ ฮ่าๆๆ
ผมเดินขึ้นลิฟต์มาแล้วกดไปยังตัวเลขบนสุด ส่วนควินซ์ยังต้องจดบันทึกและเรียบเรียงงานหลังการประชุมก่อน อีกแป๊บคงตามผมขึ้นมา
เป่าปากอย่างอารมณ์ดียิ่งนึกถึงใบหน้าหงุดหงิดของควินซ์แล้วยิ่งพึงพอใจ
กลับขึ้นมาชั้นบนแล้วผมผู้เป็นประธานแสนขยันขันแข็งก็เริ่มทำงานที่ค้างไว้ต่อ จวบจนผ่านไปครึ่งชั่วโมงได้ เสียงเคาะประตูพลันดังขึ้น
"บอส คุณคิดจะทำอะไร"
เสียงของควินซ์ดังขึ้นกระแทกเสียงใส่ผมทันที
"ทำอะไร ไม่ได้ทำอะไร" เออ อย่ามาใส่ร้ายนะเว้ย "งานมันไม่ดีพอที่จะผ่านมั้ย"
"แต่บางอันมันเซ็นผ่านได้เลย ทำไมไม่เซ็น"
ทำไม? หรือควินซ์จะโกรธที่ต้องทำโอทีแล้วต้องผิดนัดไอ้บริษัทเวรๆ นั่น? พอคิดแบบนั้นแล้วอารมณ์ดีๆ ของผมจึงขุ่นมัวขึ้นมาทันควัน
ตอบเสียงแข็งกลับไป "เรื่องของกู"
เออ บริษัทกู ถ้าเจ๊งก็ช่างมัน ไปเกาะพี่ชายกินก็ได้
"เดี๋ยวกูทุบหัวแตกเลย" ควินซ์ขมวดคิ้วแล้วเท้าเอวอย่างมีน้ำโห "จะไปจีนอยู่แล้วแทนที่จะเคลียร์งานที่ไทยให้เสร็จวันนี้ไปเลย มึงจะได้สบายมีเวลาพัก"
เอ๋...
"เสือกหาเรื่องเพิ่มงานให้ตัวเอง ลดเวลานอนตัวเองอีก" ควินซ์บ่นไฟแล่บแล้วถอนหายใจ "ชอบนักรึไง ทำโอทีเนี่ย อยากเหนื่อยตายรึไง"
ผมหันไปมองควินซ์แล้วเอ่ยถามเสียงเบา "นี่...มึงกำลังห่วงกู?"
เฮ้ย ควินซ์ห่วงผมแหละ
"เหอะ อย่าเข้าข้างตัวเองได้มั้ย" คนตรงหน้าส่ายหัวไปมา "รีบเคลียร์งานที่นี่ให้เสร็จซะ งานที่จีนรอมึงอีกเป็นกอง"
"รู้แล้ว" กระแอมไอนิดหน่อยแล้วโบกมือไล่ "ไปเร่งคนอื่นเถอะ สองทุ่มจะประชุมอีกรอบ มึงก็ไปแนะจุดบกพร่องไป"
"กูเป็นเลขามั้ย ไม่ใช่ที่ปรึกษา" ควินซ์ทำหน้าไม่พอใจแล้วเปลี่ยนเรื่อง "จะเที่ยงแล้ว กินอะไรจะได้สั่งให้"
อืมๆ หน้าที่ภรรยาคือการหาข้าวหาน้ำปรนนิบัติสามี
ควินซ์ทำดีๆ
ผมตีหน้าขรึมแล้วทำหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย "พวกติ๋มซำ อาหารจีนก็ได้"
"โอเค" แล้วควินซ์ก็เดินออกไป
เมื่อในห้องไม่มีใครแล้ว ผมจึงเริ่มดูงานต่อจนประมาณเที่ยงสิบห้า ควินซ์กลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมแม่บ้านสองคนที่ยกอาหารมื้อกลางวันเข้ามาให้ ผมจึงวางมือจากงานแล้วลุกไปนั่งที่โซฟาแทน
"สั่งเป็ดปักกิ่งมาด้วย" มองเป็ดปักกิ่งเล็กน้อย
"อยากกิน" นานๆ ทีควินซ์จะอยากกินอะไรสักที
"เออ งั้นกินให้เยอะๆ" เมื่อเช้าผมกินแค่แซนวิช ตอนนี้เลยค่อนข้างหิวดังนั้นการขยับตะเกียบหยิบอาหารเข้าปากจึงค่อนข้างเร็วและบ่อย
ส่วนควินซ์ยังไม่กิน กำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดผูกโบว์เลื่อนนิ้วดูอะไรสักอย่างในไอแพด
"ดูงานอยู่เหรอ" เห็นหน้าตาเคร่งเครียดเชียวเลยถามอย่างห่วงใย
"เปล่าหรอก" ส่ายหัวแล้วถอนหายใจจากนั้นก็เลื่อนนิ้วบนไอแพดต่อ
"แล้วดูอะไรอยู่"
ควินซ์นั่งอยู่ไกลเลยทำให้ผมไม่สามารถชะโงกชะเง้อคอไปดูได้ว่ามันกำลังดูหรือกำลังอ่านอะไรอยู่
"ไม่มีอะไร"
"อ้อ" ไม่มีอะไรก็มากินข้าวก่อนสิ
"แค่บริษัทจัดหาคู่ส่งโปรไฟล์คู่เดตมาให้เลือกน่ะ"
"....!"
"เย็นนี้ไม่ได้ไปตามนัด กูเลยให้เขาส่งรายละเอียดมาทางเมลแทน"
มึง...ไอ้ควินซ์ ไอ้เหี้ย!
ควินซ์วางไอแพดลงแล้วหยิบตะเกียบขึ้นมาบ้าง มันเปรยตามองผมแล้วยกยิ้ม
"ตอนนี้กูเจอคู่เดตเข้าตาแล้ว บริษัทนี้มีแต่คู่เดตโปรไฟล์ดีๆ"
โปรไฟล์ดี?
ดีไม่เท่านับหนึ่งคนนี้หรอก เหอะ!
แล้วอีกอย่างนะ...
ผมจะบอกให้พี่ชายไปเผาไอ้บริษัทบัดซบนี้ทิ้ง!