'ช่างเป็นวันนี้ที่ร้อนเสียเหลือเกิน' นิคพูดในใจในขณะที่เหงื่อไหลทั่วร่างกายภายในเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขา หรืออาจจะเป็นเพราะเขาหัวเสียกับเหตุการณ์ตอนเช้าของเขาก็เป็นได้ ในขณะที่มีผู้คนเดินส่วนไปมาในล็อบบี้ นิคมุ่งตรงไปยังทางออกแต่เครื่องตรวจจับโลหะก็ดังอีกแล้ว สายตาของชายท้วมที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูจ้องเขม็งมาที่นิค เขาเดินอย่างจ้ำอ้าวและตัวแข็งทื่อ เมื่อพ้นประตูทางออกเขาถอนหายใจแผ่วๆพลันนึกในใจ 'วันนี้ต้องไม่ใช่วันของฉันแน่เลย' เขายืนอยู่ตรงหน้าประตูทางออกและไม่นานมีรถเก๋งสีดำจอดตรงที่นิคยืน สาวอวบผิวขาวผมบ๊อบสีน้ำตาลเธอดูสวยและดูฉลาด
"ไฮที่รัก" โซอี้พูด "ขึ้นรถมาก่อนสิ"
ในขณะที่รถเก๋งของโซอี้กำลังแล่นอยู่บนท้องถนนในเมือง นิคนั่งมองเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างดูผู้คนที่กำลังเดินสัญจรไปมาบนริมฟุตบาท
"คลื่นบ้าๆที่จอนส่งมาให้เหรอ ??" โซอี้พลันเอ่ยถามขึ้น
"ใช่" นิคตอบด้วยเสียงกระส่าย "มันเป็นคลื่นความถี่สูงที่หูไม่สามารถได้ยินได้ แต่หลังจากที่ผมเปิด จู่ๆผมก็ปวดหัวขึ้นมาทันที"
"คุณหมายถึงคลิปที่เป็นคลื่นที่เข้าพูดถึง พารา.. อะไรนะฉันลืมแล้ว?" โซอี้ถามด้วยแววตาสงสัย
"พาราเรลเวิลด์ มันเป็นโลกคู่ขนานที่ยังไม่มีหลักฐานพิสูจน์แน่ชัดว่ามันมีจริงๆหรือเปล่า"
"ฉันเพิ่งรู้นะเนี่ย" โซอี้ยิ้มแล้วพูดต่อ "ว่าคุณก็สนใจเรื่องพวกนี้ด้วย"
"ผมชอบเรื่องพวกนี้มานานแล้วก่อนที่ผมจะคบกับคุณอีก คุณก็น่ารู้เรื่องของผมที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอ"
โซอี้ทำสีหน้าที่สงสัย ทำท่าทีเหมือนจะพูดแต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร จนมาถึงที่ร้านอาหาร
"กระเป๋าตังคุณหายนี่!! เดี๋ยวมื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง" โซอี้พูด
เมื่อทั้งคู่ทานอาหารกลางวันเสร็จโซอี้เธอขับรถไปส่งนิคที่หน้าอพาร์ทเม้นท์ของเขา "เดี๋ยวเย็นนี้ฉันโทรหานะคะ" โซอี้พูดก่อนที่เธอจะขับรถออกไป ทันใดนั้นนิคเหลือบไปเห็นหญิงแก่เมื่อเช้ากำลังถือของพะรุงพะรังกำลังจะเดินข้ามถนน นิครีบเดินไปหาเธอทันทีพร้อมกับให้ความช่วยเหลือจากเขา
"คุณยายครับเดี๋ยวผมช่วยถือของให้นะครับ"
"ขอบใจจ่ะพ่อหนุ่ม" เธอหันมามองนิคพร้อมกับยิ้มด้วยใบหน้าที่เหี่ยวย่นของเธอ
ขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินบนฟุตบาทนั้น หญิงแก่พลันเอ่ยถามนิคขึ้นมา
"เพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่เหรอจ๊ะ?"
"ผมย้ายมาอยู่นานแล้วครับยาย" นิคตอบกลับพร้อมกับแววตาที่สงสัย
"อ่าว! เหรอจ๊ะ"
หญิงแก่ไม่ได้พูดอะไรต่อเธอได้แต่ยิ้มอ่อนๆและเดินไปข้างหน้าอย่างมีสมาธิจนมาถึงห้องของเธอ หลังที่หญิงแก่เปิดประตู
"ขอบใจจ่ะพ่อหนุ่ม" เธอหันมาถามนิค "จะเข้าไปจิบน้ำชาพักเหนื่อยก่อนมั๊ยจ๊ะ"
นิคพยักหน้าตอบรับด้วยความเต็มใจ พลันนึกคิดในใจ 'วันนี้เราก็ไม่ได้มีธุระที่ไหนจะต้องทำอยู่แล้ว' ทันทีที่นิคเข้ามาในห้องของหญิงแก่ เขามองไปโดยรอบๆของห้องขนาดสี่เหลี่ยมที่มีเฟอร์นิเจอร์เก่าๆประดับอยู่เต็มห้องมีระเบียงที่อยู่ตรงข้ามกับประตูทางเข้าออก เขานั่งลงบนเก้าอี้โยกที่ทำด้วยไม้ของหญิงแก่ เขามองออกไปทางนอกระเบียงที่มีอพาร์ทเม้นท์อยู่ฝั่งตรงข้าม ในขณะที่เขากำลังมองหาหน้าต่างห้องของเขานั้น หญิงแก่ยื่นน้ำชามาให้นิค
"นานๆทีฉันจะมีแขกมาเยี่ยม" หญิงแก่พูดขึ้นพร้อมกับเดินไปในครัวเหมือนเธอกำลังจะทำอาหาร "ฉันอยู่ที่นี่มาสามสิบกว่าปีแล้วตั้งแต่ที่สามีของฉันเสียชีวิตฉันก็อยู่คนเดียวมาตลอด"
ระหว่างที่นิคกำลังจิบน้ำชาไปพรางชมสวนดอกไม้ในระเบียงไปพราง เขาได้สังเกตเห็นดอกลาเวนเดอร์ที่กำลังเบ่งบานอย่างงดงามพลิ้วไหวทวนกระแสลมที่พัดผ่านแต่ดอกไม้พันธุ์อื่นๆกลับพลิ้วไหวตามกระแสลม มันสร้างความประหลาดใจให้เขาอย่างไม่น้อย หญิงแก่เธอปลูกดอกไม้หลายชนิดที่ระเบียงแต่ภายในห้องของเธอกลับปลูกแต่ดอกลาเวนเดอร์ที่ตั้งอยู่กระจายทั่วห้อง แต่ละจุดช่างทำให้รู้สึกประหลาด เธอวางไว้ใต้โต๊ะกินข้าวบ้าง วางไว้ตรงกลางทางเดินในห้องบ้าง วางไว้บนตู้ไมโครเวฟบ้าง และบางจุดก็เป็นดอกลาเวนเดอร์ที่เหี่ยวเฉาแล้ว นิคมองภายในห้องอีกครั้งด้วยความสงสัย หลังจากเขาดื่มน้ำชาจนหมดถ้วย เขาลุกขึ้นยืนพร้อมกล่าว "ขอบคุณสำหรับนำชานะครับ ผมจะต้องไปแล้ว" หญิงแก่หันกลับมามองนิคด้วยรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นแต่ในสายตาของเธอกลับเต็มไปด้วยความว่างเปล่า "จะกลับแล้วเหรอจ๊ะ" หญิงแก่พูดพร้อมกับยื่นปิ่นปักผมที่ทำจากไม้ สลักด้วยรูปหัวกะโหลกกำลังคาบลูกแก้วสีดำ "นี่เป็นของตอบแทนเล็กๆน้อยๆที่ช่วยฉันยกของนะจ๊ะ" นิครับของจากหญิงแก่ก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องของเธอ ทันทีที่นิคปิดประตูเขาพลันนึกขึ้นด้วยความแปลกใจ ด้วยความที่นิคอาศัยอยู่อพาร์ทเม้นท์ฝั่งตรงข้ามมาเจ็ดปีแต่เขาไม่เคยสังเกตเห็นหญิงแก่คนนี้เลยสักครั้ง นิครีบคว้าโทรศัพท์อย่างตื่นตระหนกเพื่อที่จะกดโทรหาจอน
"ขณะนี้ จอน สมิธ ไม่อยู่มีอะไรฝากข้อความไว้"
"จอนโทรกลับหาฉันด้วย!!"
ทันทีที่นิคเดินลงมาจากตึก มีผู้ชายร่างใหญ่สวมชุดตำรวจสองคนเดินมุ่งหน้ามาทางนิคก่อนที่พวกเขาจะหยุดยืนอยู่ตรงหน้า
"สวัสดีครับคุณนิค โคลอส" ตำรวจคนนึงพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ "คุณคือผู้ต้องสงสัยคดีทำร้ายร่างกายชายฉกรรจ์ที่ตรอกแฮมเบิร์กเขตยี่สิบสองครับ คุณสะดวกมากับเราไหมครับ"
นิคทำสีหน้าตกใจพร้อมกับความสงสัยเกิดขึ้น 'คนอย่างเราเนี้ยนะจะไปสู้ใครได้' เขายินดีที่จะไปโรงพักกับตำรวจด้วยความบริสุทธิ์ใจ นิคดูไม่ประหม่าเลยแม้แต่นิคเดียวเพราะเขาคิดว่าอย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ทำแน่ๆ
ณ โรงพักตำรวจ ในห้องสี่เหลี่ยมอับๆมีกระจกบานใหญ่ติดไว้ด้านหนึ่งของห้องตรงกลางห้องมีโต๊ะสำหรับสอบสวนผู้ต้องหา ในขณะที่มีชายร่างเล็กกำลังเปิดคลิปกล้องวงจรปิดให้นิคชมรับ (เป็นคลิปหนุ่มร่างบางสวมเสื้อกล้ามสีขาวเดินถือของกำลังเดินอยู่ริมถนน มีชายฉกรรจ์สามคนดูท่าทางเหมือนคนไร้บ้านคนเดินตรงมาทางเขา ดูเหมือนพวกเขากำลังยืนคุยกันปกติก่อนจะมีการต่อสู้เกิดขึ้น แต่ไม่ทันไรชายฉกรรจ์ทั้งสามคนก็ลงไปนอนแนบนิ่ง และหนุ่มร่างบางก็เดินขึ้นไปในอพาร์ทเม้นท์ที่นิคอาศัยอยู่)
"ในคลิปนี้เป็นคุณใช่ไหม?"
อัยการถามนิค แต่นิคให้การปฏิเสธเสียงแข็งเขาดูท่าทางมั่นใจมากว่าอย่างไรก็ไม่ใช่เขาแน่ๆ นิคจ้องตาเขม็ง ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนอัยการอีกคนเข้ามาในห้อง เขาสังเกตเห็นแหวนที่นิคใส่ จึงพลันถามขึ้น
"แหวนนี้เธอไปได้มาจากที่ไหน?" อัยการถามนิค
"แม่ผมให้ก่อนที่เค้าจะเสีย!!"
อัยการถามนิคต่อด้วยความกระตือรือร้น "เธอเคยเกิดอุบัติเหตุจนหมดสติแล้วตื่นขึ้นมาในที่แปลกๆไหม?"
"เคยครั้งนึงครับ" นิคตอบเรียบๆ "แต่ตอนนั้นผมจำอะไรไม่ได้"
"โอเคฟังนะนี่เป็นนามบัตรของฉัน ถ้ามีอะไรที่อยากรู้แล้วล่ะก็ติดต่อฉันได้ทุกเมื่อเลยนะ"
หลังจากที่อัยการยื่นนามบัตรให้เสร็จ เขาได้ลุกออกไปจากห้องด้วยท่าทีที่แปลกประหลาดและไม่นานก็มีตำรวจนายนึงเดินเข้ามาปล่อยตัวนิคกลับบ้าน การสอบสวนกินเวลาไปจนดึก ทันทีที่เขาเดินออกจากโรงพักเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
กริ๊งๆ !! จอนกำลังโทรเข้า
"เฮ้นิค !! เมื่อตอนกลางวันนายโทรหาฉันเหรอ?" เสียงจอนพูดขึ้นจากปลายสาย
นิคทำหน้าสงสัยก่อนจะนึกขึ้นได้ "อ๋อใช่ แกมาเจอฉันที่เดิมได้ไหม?"