ยามบ่าย ณ ใจกลางเมืองหลวงของวันทำงานอันแสนปกติ ท้องฟ้าสดใสปลอดโปร่ง ปุยเมฆสีขาวจับตัวเป็นก้อนลอยละล่องประปราย เสียงรถยนต์ที่สัญจรไปมาไม่ต่างอะไรกับการขับร้องประสานเสียง ควันดำที่ลอยเอื่อยๆ รอให้ไฟจราจรตรงหน้าเปลี่ยนสีก็มีให้เห็นจนชินตา ริมฟุตบาทเต็มไปด้วยร้านค้าแผงลอยขายอาหารยอดนิยมขวัญใจคนที่เดินผ่านไปมา พนักงานบริษัทส่วนใหญ่ล้วนเดินจากร้านอาหารกลับไปที่ทำงานประจำของตนให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ พวกเขาทราบดีว่าแสงแดดในช่วงเวลานี้สามารถแผดเผาผิวหนังจนแสบร้อนได้มากเพียงใด คนที่มีสติครบถ้วนไม่มีทางเดินเล่นขึ้นลงสะพานลอยโดยไร้ต้นสายปลายเหตุเป็นแน่
'สามชั่วโมง สามสิบนาที สิบสี่วินาที'
ทว่ามีเพียงเขาคนเดียวที่ไม่ได้รับผลกระทบจากแสงแดดอันร้อนระอุ สายตาของเขาจดจ่ออยู่ในตัวเลขที่ปรากฎบนนาฬิกาทำเอาชายหนุ่มพรูลมออกมาเฮือกใหญ่ จากเวลาที่แสดงอยู่บนหน้าจอนั้นหมายความว่าหากเขาช้ากว่านี้ไปอีกเพียงสิบสี่วินาที เวลาที่เหลือบนนาฬิกาก็จะหมดลง
ชายหนุ่มพยายามก้าวเท้าแบบกึ่งเดินกึ่งวิ่ง เนื่องจากเขาไม่ได้ชอบเล่นกีฬาขนาดนั้นการที่ให้เขาวิ่งไปมาหลายรอบก็ทำเอาเหนื่อยแทบขาดใจ แต่จะให้เดินเนิบๆ อย่างสบายใจก็ไม่ได้เพราะเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในศาลนั้นไม่ใช่เรื่องน่าอภิรมย์นัก
เมื่อมาถึงหน้าศาลเยาว์ชนและครอบครัวแห่งเดิมก็พบกับรถเก๋งสีดำคันที่เขาคุ้นเคยและหญิงสาวที่กำลังเปิดประตูรถ เขาไม่รอช้าจึงวิ่งด้วยแรงที่เหลืออยู่อันน้อยนิด
"แฮ่ก…ดะ…เดี๋ยวก่อน 'กวาง' "
ฝ่ายหญิงชำเลืองตามที่มาเสียงก็พบกับชายร่างสูงที่หายใจเหนื่อยหอบ นัยน์ตาสีดำอันคมเข้มกลอกกลับมาทันทีเมื่อรับรู้ว่าคนที่เรียกชื่อเธอเป็น 'อดีตสามี'
"เดี๋ยวสิกวาง ฉันขอคุยด้วย…" ชายหนุ่มพยายามพุ่งตัวไปจับแขนของอดีตภรรยา
แต่กวางปัดมือเขาอย่างไร้เยื่อใย
"หึ! คนอย่างนายเนี่ยนะอยากคุย…" เธอเค้นเสียง "แม้แต่วินาทีสุดท้ายที่เราเป็นครอบครัวเดียวกัน นายยังเลือกที่จะวิ่งออกไปเลย!"
กวางตวาดเสียงดัง เมื่อน้ำใสๆ เริ่มซึมมาที่หางตาเธอก็รีบทำให้มันหายไป ทั้งสีหน้า แววตา น้ำเสียงแสดงออกปะปนหลากหลายความรู้สึกไม่ว่าจะเป็นโกรธ เกลียดหรือแม้แต่…เสียใจ…
"ฉันรู้กวาง ฉันยอมรับในผลการตัดสินของศาล…" เขาพยายามรวบรวมสติ ควบคุมอารมณ์ในสิ่งที่จะพูดต่อไปแม้ภายในใจจะรู้สึกเจ็บปวดราวกับหัวใจกำลังถูกบดขยี้ก็มิปาน "ฉันเป็นพ่อที่ไม่ใส่ใจลูก…แล้วยังเป็นสามีที่ไม่ได้เรื่อง…"
ด้วยสายอาชีพที่แตกต่างกัน ธีร์ต้องควบคุมการผลิตเมล็ดกาแฟของโรงงาน ส่วนกวางต้องเข้าเวรในวอร์ดผู้ป่วยสูงอายุ จึงไม่ค่อยมีเวลาให้แก่กันจะเจอหน้าแต่ละทีก็มืดค่ำเสียแล้ว แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ความรักของพวกเขาจืดจางลงแม้แต่น้อย เป็นเวลากว่าแปดปีนับจากที่ทั้งสองได้ตกลงปลงใจแต่งงานกัน ธีร์ยังคอยแสดงความรักจากทางไกลและกวางเองก็พยายามหาของขวัญสร้างเซอร์ไพร์สให้แก่สามี และทั้งสองใช้ช่วงเวลาสั้นๆ ในแต่ละค่ำคืนเพื่อเติมความรักแก่กันอยู่เสมอ
จนในที่สุดชีวิตครอบครัวของทั้งคู่เติมเต็มมากขึ้นเมื่อ 'สไมล์' ลูกสาวตัวน้อยได้กำเนิดขึ้น ธีร์ผู้ได้รับตำแหน่งใหม่เป็น 'พ่อ' ได้แต่ยิ้มแก้มปริกับสมาชิกคนใหม่ในครอบครัวที่แสนน่ารักไม่ต่างกันกับกวางที่ได้เป็น 'แม่มือใหม่ป้ายแดง' นับว่าตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขในชีวิตของเธอก็ไม่ผิด
"หยุด ได้แล้ว! " ยิ่งเธอฟังคำแก้ตัวของฝ่ายชายมากเท่าไรก็ยิ่งทำให้เธอยับยั้งความรู้สึกที่มีอยู่ภายในใจต่อไปไม่ไหว "มันสายเกินไปแล้วธีร์ ไม่ว่านายจะพูดอะไรมันก็ไม่ช่วยให้ดีขึ้น"
แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็เริ่มมีบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนไป ธีร์กลับบ้านดึกกว่าเดิม บางครั้งถึงขั้นไม่กลับบ้านเป็นเวลาหลายวัน แม้ว่าวันนั้นจะเป็นวันหยุดธีร์ก็ยังบอกว่ามีงานต้องไปสะสางที่โรงงานจนทำให้กวางรู้สึกผิดสังเกต เธอจึงจ้างนักสืบเอกชนให้ตามสืบสามีของเธอจนได้พบกับหลักฐานต่างๆ ที่เอาไปใช้ในชั้นศาลเพื่อฟ้องหย่าได้
"พอเถอะค่ะ พี่กวาง พี่ธีร์"