[นับหนึ่ง]
ผม...กำลังถูกปฏิเสธ?
ไม่ๆ ไม่ใช่กำลัง
แต่ถูกปฏิเสธไปแล้ว!
อะไรนะ นับหนึ่งคนนี้เนี่ยนะถูกปฏิเสธ!
"ทำไม" เสียงของผมแหบแห้งและมองไปที่อีกคนอย่างไม่เข้าใจและจับต้นชนปลายไม่ถูก "ทำไมมึงไม่ชอบกูกลับ"
ไหนนับสองบอกว่ามีโอกาสที่ควินซ์จะชอบผมกลับด้วยไง
แล้วทำไมถึงถูกปฏิเสธเล่า ทำไม ทำไม
ผมทำผิดตรงไหนเนี่ย
"แล้วทำไมกูต้องชอบมึงกลับ" ควินซ์ย้อนถามผม "มึงมีอะไรให้กูต้องชอบ"
"มี!" เออ มีเยอะด้วย ใครๆ ก็ชอบผม!
ควินซ์หลุดขำแล้วกอดอก "แล้วมึงมีอะไรให้กูต้องชอบ"
เมื่อได้ยินคำนี้แล้วมันก็อดไม่ได้ที่จะยืดอกขึ้นมา เอาล่ะ ผมรอคำถามนี้อยู่เลยและผมก็มั่นใจมากว่าตัวเองมีดีเหมือนกัน
"กูหล่อ"
ใช่ๆ หล่อมาก ติดโพลของวงการบันเทิงด้วย
หนึ่งในสิบอันดับหนุ่มหล่อของประเทศ!
"กูรวยมาก"
ถูกต้อง ธุรกิจมากมาย เงินเยอะแยะแถมบ้านก็รวย มีเงินใช้ยันชาติหน้า
"การศึกษาก็ดี"
เรียนโรงเรียนมีชื่อเสียง เรียนมหา'ลัยท็อปๆ ของประเทศแถมยังได้เกียรนิยมด้วย อ้อ มีปริญญาหลายใบด้วยนะ ผมฉลาดมากๆ
"ชาติตระกูลก็ดี"
ไม่นับมีพ่อนิสัยบัดซบก็ถือว่าทางฝั่งแม่ของผมมีพื้นฐานชาติตระกูลดีอยู่เหมือนกัน
"นิสัยเหรอ กูดีกับมึงไม่เคยทำร้ายมึง ตามใจมึงก็บ่อย เอาใจมึงก็เยอะ"
"..."
"ถ้ากูไม่ดีกับมึงจริงๆ" ผมเลิกคิ้วขึ้นด้วยความรู้สึกภูมิใจ "มึงคงเลิกคบกูไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ"
ใช่แล้ว ถ้าผมเป็นคนเหี้ยจริงๆ นิสัยไม่ได้เรื่องจริงๆ แล้วทำไมควินซ์ถึงยังทนคบกับผมอยู่ได้ล่ะ
"มันก็ใช่" สีหน้าควินซ์ดูอ่อนลงแต่ยังคงเสียงแข็ง "แต่...นี่คือข้อดีมึงเหรอ"
"แล้วตรงไหนมันไม่ใช่ข้อดีของกู" เออ นี่ข้อดีสุดๆ เลยนะ ใครได้ผมไปเป็นแฟนนี่คือทำบุญมาสิบชาติได้มั้ง แต้มบุญไม่เยอะไม่มีทางได้นับหนึ่งนะ ขอบอก!
ควินซ์ส่ายหัวแล้วถอนหายใจก่อนจะถามผมที่ทำเอาผมอึ้งสุดๆ
"ถ้ากูบอกว่ากูชอบมึงเพราะมึงมีเงิน"
"..."
"ชอบแค่เงินของมึง รักแค่เงินของมึง ชอบมึงเพราะหล่อ"
"...!"
"มึงต้องการให้กูชอบแค่นี้?"
ไม่สิ ไม่ใช่!
ผมต้องการใช้ควินซ์ชอบที่ตัวผมไม่ใช่ปัจจัยภายนอกสิแต่ว่าตอนนี้ผมเรียบเรียงจัดระเบียบคำพูดไม่ถูกเลยไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรออกไป
"ไม่ใช่ คือ.." ผมกำลังจะพูดแต่
"เอาเป็นว่าข้อดีของมึงพวกนี้ใช้ไม่ได้กับกู" ควินซ์ตัดบท "ถ้ามึงไม่มีอะไรจะพูดแล้วก็กลับไป กูจะทำสปา"
ควินซ์เดินไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่มุมห้องเพื่อตามพนักงาน
"อ้อ แล้วก็นะ เมื่อกี้...กูจะถือว่ามึงไม่เคยพูดอะไรแล้วกัน" เสียงนุ่มนวลว่าอย่างเย็นชา "กูจะทำเป็นลืมๆ ไปแล้วกัน"
ผมไม่ยอมแพ้ง่ายๆ และถามต่ออย่างดื้อดึง "ทำไมต้องลืม"
"คำว่าชอบของกูมันไม่มีค่าขนาดให้มึงจำเลยเหรอ"
ควินซ์เหลือบมองผมด้วยหางตาแล้วมองไปทางอื่นจากนั้นถอนหายใจคล้ายเหน็ดเหนื่อยกับผม สีหน้าท่าทางของควินซ์มันบ่งบอกว่าขี้เกียจจะเสวนากับคนโง่แล้ว
มันเป็นสีหน้าที่ควินซ์ชอบใช้เวลาคุยกับนักลงทุนโง่ๆ ที่พูดจาฟุ้งเฟ้อไม่มีสาระและตอนนี้มันกำลังใช้สีหน้านี้กับผมเล่นเอาสะเทือนไปทั้งใจเลย
ผมโง่ตรงไหนวะ!
"อยากจะพูดอะไรก็พูดได้"
"..."
"แล้วการกระทำมึงล่ะ"
"…"
"กูยังไม่เห็นการกระทำที่บอกว่ามึงชอบกูเลย"
ผมนิ่งฟังแล้วขมวดคิ้ว...การกระทำ? แล้วผมต้องทำอะไรอ่ะ
ยิ่งผมเผยสีหน้าหมาเมากาวหมางงงวยออกไปยิ่งทำให้ควินซ์ส่ายหัวกว่าเดิม ควินซ์เลิกสนใจผมแล้วกดโทรศัพท์แต่ผมก็ยังแอบได้ยินควินซ์บ่นอยู่นะ
"ใครเชื่อคำพูดคนเจ้าชู้เหรอ มีแต่ควายเท่านั้นแหละที่เชื่อ"
จึก
"เชื่อมันคงได้มีเขางอกบนหัวแน่ๆ"
จึก จึก
เหมือนดั่งธนูปักแทงทะลุหัวใจไม่มีผิด ผมยืนซึมกระทืออยู่กับที่เหมือนคนหลงทางทำอะไรไม่ถูกได้แต่นิ่วหน้าคิ้วขมวดมองควินซ์ต่อสายโทรศัพท์คุยกับพนักงาน
เจ้าชู้อะไร เลิกมานานแล้วเถอะ
โอ๊ยยย ทำไมควินซ์ต้องเอานิสัยเก่าผมมาพูดด้วยเนี่ย
แล้วทีนี้ผมต้องทำยังไงดี
"ควินซ์" ผมเรียกเขาอีกครั้งเพื่อที่จะคุยต่อ
"อะไร จะทำสปาแล้ว" ควินซ์ยกมือทำปรางค์ห้ามญาติ "กูพูดชัดเจนแล้ว โอเคนะ"
"ไม่โอเค!" ผมไม่ยอม
"เรื่องของมึง กูจะไปทำสปา หลบๆ" อีกคนดูไม่สนใจเลยยื่นมือมาดันตัวผมที่ขวางทางอยู่ให้หลบไปเพื่อเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมทำสปาเต็มที่
ผมจะตามมันไปแต่ดันได้ยินเสียงเปิดประตูก็เห็นว่าเป็นพนักงานสปาจึงต้องหยุดความคิดที่จะตามควินซ์เข้าไปในห้องน้ำแล้วหมุนตัวไปนั่งบนเตียงแทนด้วยอารมณ์หงุดหงิด
พนักงานสาวไปเตรียมสถานที่ในห้องทำสปา ผมครุ่นคิดนึกได้ว่าถ้าทำสปาแล้วจะอารมณ์ดีขึ้นดังนั้นแล้วผมควรรอให้ควินซ์อารมณ์ดีกว่านี้แล้วค่อยคุยอีกรอบน่าจะดีกว่าแน่ๆ
คิดนั่นคิดนี่เสร็จก็เห็นควินซ์เดินออกมาจากห้องน้ำ เจ้าตัวมองผมแล้วขมวดคิ้ว "ยังไม่กลับอีกเหรอ"
ไล่เหรอ ฮึ ไม่กลับเว้ย
"กูเป็นคนซื้อคอร์สวีไอพีให้มึงดังนั้นห้องนี้มันก็เป็นของกู" อันที่จริงได้ฟรีจากไอ้เก้าแต่ต้องพูดเอาดีเข้าตัวเอง "แล้วทำไมกูจะอยู่ไม่ได้"
ควินซ์ร้องอ้อเบาๆ "อ้อ รวย" พยักหน้า "งั้นก็เชิญตามสบายและขอบคุณสำหรับคอร์สวีไอพี"
แค่นี้? ไม่มีอารมณ์ดีใจซาบซึ้งหน่อยเหรอ
"เริ่มทำสปากันดีกว่าครับ" เอาอีกแหละ หนีอีกแล้ว ควินซ์หันไปพูดกับพนักงานอย่างสุภาพด้วยใบหน้าอ่อนโยน
ทีกับผมนี่หน้าอย่างตึงเลยนะ
ผมมองควินซ์หายวับเข้าไปในห้องสปาแล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นยีหัวตัวเองอย่างสมเพชและต่อว่าต่อขานตัวเองในใจ
ทำไมจะมีเมียมันยากขนาดนี้วะ
แล้วทีนี้เอาไงต่อดี
นั่งคิดไปคิดมาสารพัดจนหัวจะแตกก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองควรทำยังไงเพราะกลัวว่าทำอะไรลงไปแล้วจะผิดพลาดยิ่งกว่าเดิม
สุดท้ายแล้วก็ล้วงโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าไลน์อย่างจำใจ
ป๋าไง ป๋าหนึ่งไง : ไอ้เก้า อยู่ไหน