บทที่ 14
เริ่ม
มันอะไรกันนักหนานะ ตั้งแต่ที่ผมกลับมาจากป่านี่ก็ผ่านมาสามวันแล้วครับ ทุกวันมีแต่เรื่องปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน ความจริงวันนี้จากที่ผมจะได้พักผ่อนต่อหลังจากเรียนตอนเช้าเสร็จต้องได้มานั่งเก็บหนอนออกจากแปรงสมุนไพรเพราะพี่ข่ายไปล่าไก่แล้วลืมว่าตัวเองจะต้องมาร่ายเวทย์กำจัดแมลงศัตรูพืช ทำให้ตอนนี้แปลงสมุนไพรพื้นฐานเต็มไปด้วยหนอนที่เริ่มมีพลังปราณขึ้นมาจากการกินสมุนไพรในแปลงอีกแล้ว แล้วก็เข้าอีหรอบเดิมที่ผมโดนพี่ๆชวนแกมบังคับให้มาช่วยกันเก็บหนอนออก ตอนนี้ศิษย์พี่แทบทุกคนก็อยู่ที่นี่ยกเว้นพี่หลิว ยกโขยงมาเพื่อเล่น เอ้ย เพื่อช่วยกัน แต่ใช้คำว่าเล่นน่าจะถูกแล้วละ เพราะแต่ละคนคือซนมาก จากต่างคนต่างเก็บหนอน พี่ข่ายเริ่มโยนหนอนแกล้งพี่เซียวที่ขี้ตกใจ พี่เซียวจึงแกล้งเสกหนอนไต่ขึ้นขาพี่ข่าย จนพี่ข่ายสะบัดหนอนโดนพี่น้องคนอื่น จนเกิดการอลหม่านแกล้งกันไปมาไม่หยุดหย่อน หนักสุดพี่สวี่ใจกล้าใส่หนอนลงไปในคอเสื้อพี่ข่ายที่ก่อเรื่องวุ่นวาย จนตอนนี้เกิดสงครามย่อมๆขึ้นแล้ว ที่ผมพูดไม่ได้เกินจริงเลยสักนิดเพราะตอนนี้ทุกคนเล่นปาโคลนที่สอดไส้หนอนใส่กัน และตอนนี้ผมก็เปื้อนไปเกินครึ่งตัวเพราะพยายามห้ามพี่ๆทุกคนอยู่
"หยุดดดดดดด พี่ๆโว้ยยยย พอได้แล้ว ข้าจะโมโหแล้วนะ"ผมหมดความอดทนเลยตะโกนเสียงดังเพื่อหยุดทุกการกระทำตอนนี้
"แต่พวกพี่ยังไม่ไดแก้แค้นเลยนะหลงเอ๋อร์ เรานะหลบมาหลังพี่ดีกว่า เดี่ยวพวกพี่เหนื่อยพวกพี่ก็หยุดเองละน่า"พี่ข่ายพูดขึ้นทางขวามือผมที่ฝั่งพี่ข่ายมีพี่หงที่โดนลูกหลงจากพี่เซียว เลยอยู่ฝั่งพี่ข่าย
"มาอยู่ฝั่งพี่ดีกว่าน้องหก เราจะได้เอาคืนคนที่เริ่มเรื่อง"พี่เซียวพูดอย่างโมโหที่ตอนนี้มีพี่สวี่อยู่ด้วยกันทางฝั่งซ้ายมือผม
"ศิษย์พี่พอเถอะขอรับ ตอนนี้สมุนไพรในแปลงเละหมดแล้ว จากที่มาแค่เก็บหนอนตอนนี้ไม่ต้องเก็บกันแล้วขอรับ มาปลูกใหม่ง่ายกว่า"ศิษย์พี่เลยค่อยๆมองไปรอบๆตัวก็เห็นแปลงสมุนไพรที่เละเทะและเต็มไปด้วยหนอนที่ตัวใหญ่กว่าเดิมจากการร่ายเวทย์ขึ้นมา และมันก็ไปกินสมุนไพรจนตอนนี้เหลือแต่ต้นกับก้าน ส่วนใบได้ไปอยู่ในท้องพวกมันหมดแล้ว ให้ตายเถอะ
"นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมแปลงสมุนไพรจึงเละเทะเช่นนี้"เสียงเย็นเยียบดังขึ้นข้างหลังผม ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นเสียงพี่หลิวที่เดินมาดูว่าเก็บหนอนกันเสร็จรึยัง
"เอ่อ…พอดีว่าเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อยนะขอรับ"ศิษย์พี่ทุกคนรอบข้างเงียบไม่มีใครตอบผมเลยเป็นคนตอบ
"เล่ามา เกิดอะไรขึ้น"พี่หลิวทำเสียงเข้มขึ้นแล้วยังจ้องหน้าทุกคน เพราะต้องการจะหาคนที่เล่าเรื่องทั้งหมดได้ ซึ่งทุกคนก็พร้อมที่จะหลบสายตาคมกริบนั้นอย่างพร้อมเพรียง คงมีแค่ผมที่สบสายตานั้นพอดี ฮือ คงต้องเป็นผมสินะที่ต้องเล่าเรื่องทั้งหมด
"คือว่า…เรื่องมันเป็นอย่างนี้ขอรับศิษย์พี่รอง…."แล้วผมก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดอย่างสั้นๆและเอาแต่เนื้อไม่เอาน้ำ ไม่มีอารัมภบทและบทนำ ไปกลางเรื่องแล่นเข้าจุดจบทันที
"ดีๆกันทั้งนั้น ทั้งพี่ทั้งน้อง แทนที่จะช่วยกันทำในสิ่งที่ควรทำ กลับพากันทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง พี่เซียวแทนที่พี่เป็นพี่ใหญ่จะช่วยสอนน้องๆแทนอาจารย์ แต่พี่กลับเล่นไปตามเรื่องตามราวที่ข่ายเอ๋อร์สร้างขึ้น ท่านจงไปคัดคัมภีร์ว่าด้วยเรื่องกฏระเบียบของเขตสำนักเมฆาแล้วนำไปส่งอาจารย์เซียงหนึ่งร้อยจบภายในสิบห้าวัน ส่วนข่ายเอ๋อร์นี่เป็นความผิดของเจ้าเต็มๆตั้งแต่ออกไปล่าไก่จนทำให้แปลงสมุนไพรมีหนอนขึ้นเดือดร้อนพี่น้องคนอื่นต้องมาช่วยเจ้าอีก ยังไม่สำนึกยังก่อเรื่องจนแปลงเละเทะเช่นนี้ เจ้าจงปลูกสมุนไพรใหม่ให้หมด ทำเองตั้งแต่ปลูก รดน้ำ พรวนดิน จนกว่าจะเก็บเกี่ยว ทำคนเดียวห้ามใช้เวทย์ คนอื่นก็ห้ามช่วย หลังจากปลูกสมุนไพรใหม่ทั้งแปลงเสร็จแล้ว ไปคัดตำราว่าด้วยการประพฤติตนในทางที่ดีมาสามร้อยจบส่งอาจารย์เซียงภายในเวลาเจ็ดวันเกินกว่านั้นคัดเพิ่มวันละร้อยจบ ส่วนศิษย์น้องคนอื่นไปคัดตำราเดียวกันกับข่ายเอ๋อร์คนละห้าสิบจบนำมาส่งที่พี่ภายในสามวัน"ซึ่งพอผมเล่าจบ พี่หลิวก็มอบบทลงโทษอันโหดร้ายให้ทุกคน ซึ่งหนักสุดต้องเป็นพี่ข่ายอยู่แล้ว แต่พี่เซียวก็โหดร้ายพอกันเลย ถ้าตำราว่าด้วยการประพฤติตนในทางที่ดีมีร้อยห้าสิบข้อ คัมภีร์ว่าด้วยกฏระเบียบของเขตสำนักบุหลันมีประมาณเกือบพันกว่าข้อได้มั้งครับ ซึ่งเป็นการลงโทษที่โหดร้ายพอๆกับพี่ข่ายเลย ซึ่งพอคิดดูอีกที ตัวเองก็น่าสงสารไม่ต่างกันเลย ไม่ได้ทำอะไรแท้ๆ แถมพยายามห้ามอีก ยังได้รับการลงโทษเลย รู้อย่างนี้อ้างไม่สบายนอนอยู่ห้องดีกว่า นี่ก็วันศุกร์แล้ว พรุ่งนี้สินะที่ต้องไปเรียนฝึกยุทธ์กับพี่หลง ตายๆมีแต่ปัญหารอบตัว เสี่ยวเสี้ยวก็หายไปไหนไม่รู้มาสองวันแล้ว รู้แค่ว่าปลอดภัยดีในมิติจิตที่เชื่อมต่อกันอยู่ ถึงแม้จะไม่ชัดเท่าไรก็เถอะ สงสัยที่ที่เสี่ยวเสี้ยวอยู่น่าจะมีพลังปราณเยอะจึงรบกวนพลังปราณจิตที่ติดต่อกันละมั้ง แต่แค่รู้ว่าปลอดภัยก็สบายใจละ แต่พรุ่งนี้ที่ต้องไปเจอพี่หลงนี่สิ จะเอายังไงเรื่องราวอะไรก็ไม่รู้สักอย่าง เสี่ยวเสี้ยวก็บอกอะไรไม่ได้ โอ้ยยยย สับสนวุ่นวายไปหมดแล้วในหัวเนี่ย ปล่อยให้มันเป็นไปตามที่มันควรจะเป็นก็แล้วกัน คิดมากปวดหัว ตอนนี้กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปที่หอตำราเพื่อคัดบทลงโทษดีกว่า ทำให้เสร็จในคืนนี้ พรุ่งนี้และวันถัดไปเผื่อฝึกตนเหนื่อยจัดจะได้ไม่ต้องทำอะไร กลับมาอาบน้ำและนอนเลย จบ วางแผนดีมั้ยละ คิดเผื่อไว้หมดแล้ว จากนั้นผมก็ทำตามแผนที่วางไว้จนตอนนี้ที่คัดเสร็จแล้วห้าสิบจบนำไปส่งที่ห้องพี่หลิว ผมก็กลับมานอนด้วยความปวดมือปวดหลัง นั่งคัดงกๆใช้แค่พู่กันที่กว่าจะถนัดก็เกร็งมือจนปวดไปหมด กลับมาก็ต้องแช่มือในน้ำอุ่นกว่าจะดีขึ้น ก็ดึกดื่นจึงเข้านอนไปเลยไม่ได้ทำอะไรต่อแล้ว
เขตป่าหลังเขตสำนักบุหลันตอนนี้กำลังเงียบสงบและเย็นสบายดีจังเลยแฮะ แถมข้างทางที่ผมกำลังเดินไปน้ำตกนั้นก็มีแต่ดอกไม้งามบานสะพรั่งเต็มไปหมด กลิ่นหอมๆลอยอวลอยู่ในอากาศสูดเข้าไปเต็มปอดช่างสดชื่นมากจริงๆ บรรยากาศน่านอนต่อมากเลย ปกติตอนสายๆวันเสาร์อาทิตย์อย่างนี้หลังจากที่ผมกินข้าวเช้าเสร็จ ผมก็จะนั่งเล่นกับเสี่ยวเสี้ยวพออาหารเริ่มย่อยผมก็หมกตัวนอนต่อทันที ทำตัวขี้เกียจสันหลังยาว พอถึงเวลาอาหารก็ลุกขึ้นมากิน กินอิ่มหนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน ก็นอนกลางวันไปเลยสิครับ ชีวิตไม่เคยสบายอะไรขนาดนี้มาก่อน แต่วันนี้ต้องขุดตัวเองขึ้นมาจากเตียงแต่เช้าอาบน้ำแต่งตัวกินข้าวให้พร้อมก็ออกมาที่นี่เลย ยังไม่ลืมเตรียมอาหารเช้ามาให้พี่หลงอีกด้วย แถมยังมีอาหารกลางวันด้วยจะได้ไม่เสียเวลาหุงหาอาหารอีก พอมาใกล้ถึงสถานที่นัดหมายก็ทำตัวเดินเอ้อระเหยลอยชายอยู่แบบนี้ละ ก็ยังไม่ถึงเวลาที่นัดกันไว้นี่น่า ผมเลยเดินชิวๆชมนกชมไม้ไปเรื่อยจนมาหยุดที่หน้าน้ำตกที่ตอนนี้มีแผ่นหลังกว้างในชุดครามปักลายดิ้นทองยืนรออยู่
"ข้ามาแล้วขอรับพี่หลง ท่านทานอะไรรึยังขอรับ ข้าเอาอาหารเช้ามาด้วย เผื่อพี่ยังไม่ได้ทานอะไร"ผมพูดทักขึ้นก่อนที่ร่างสูงจะหันมา
"พี่ทานมาแล้วละ เหลียนเอ๋อร์ละ ทานมารึยัง"พี่หลงถามกลับมาพร้อมกับเดินเข้ามาหาผม
"ข้าทานเรียบร้อยแล้วขอรับ"
"ดี เช่นนั้นก็เริ่มการฝึกได้เลยสินะ"
"ห๊ะ..ฝะ..ฝึกเลยเหรอขอรับ กะ…ก็ได้ขอรับ ฝึกเลยก็ฝึกเลย เช่นนั้นเราจะฝึกอะไรก่อนละขอรับ"ผมชะงักไปเหมือนกันนะ ที่มาถึงก็จะฝึกกันเลย ไม่มีเกริ่นก่อนเหรอว่าต้องยกน้ำชาฝากตัวเป็นศิษย์งี้
"เช่นนั้น เหลียนเอ๋อร์ตามพี่มา"ว่าแล้วพี่หลงก็เดินนำผมไปหลังน้ำตาที่มีเนินเขาไม่สูงมากแต่ก็เดินยากพอตัว พอเดินขึ้นมาก็เห็นบ้านไม้ยกพื้นไม่สูงมากหลังนึงที่ไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป พออยู่ได้สองคนสบายๆสงสัยจะเป็นบ้านที่พี่หลงสร้างขึ้นหลังจากแยกกันกับผม แต่พี่หลงไม่มีพลังเวทย์นิ จะสร้างบ้านเสร็จไวในสามวันได้ยังไงนะ แต่ก็ว่าไม่ได้เพราะพี่หลงเป็นชาวยุทธ์อาจจะมีพละกำลังมากจนสร้างทั้งวันทั้งคืนภายในวันเดียวก็ได้ มีรั้วไม้ไผ่เล็กๆรอบบ้านกั้นสัตว์เข้ามาในเขตบ้าน เดินเข้ามาถึงบริเวณลานกว้างหน้าบ้านก็เห็นอ่างไม้ใหญ่ที่เหมือนอ่างอาบน้ำ แต่ใหญ่กว่าสามสี่เท่าน่าจะได้ ภายในว่างเปล่าไม่มีอะไร วางไว้มุมซ้ายมือติดริมรั้วห่างจากตัวบ้านไม่กี่เมตร
"นี่คือการฝึกแรกของเจ้า ต้องทำให้กล้ามเนื้อในร่างกายมีกำลังขึ้นมาก่อน และนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อเจ้ามีกำลังขึ้น"พูดพร้อมชี้มือไปทางอ่างไม้นั้น ไม่นะ ความรู้สึกลึกๆบอกผมว่าตายแน่ ไม่อยากเดาเลย แต่คงไม่ใช่อย่างที่ผมคิดใช่มั้ยอะ ขอละถือว่าปราณีกันหน่อยเถอะพระเจ้า
"อะ..เอ๋อ…คือ พี่หลงจะให้ข้าฝึกอะไรรึขอรับ"ผมถามเสียงผะแผ่วไป
"ตักน้ำมาให้เต็มอ่างไม้นั้นก่อนพระอาทิตย์ตกดิน หากทำได้ก็ผ่านด่านแรก หากไม่เสร็จวันนี้ก็ทำไปเรื่อยๆจนกว่าจะเสร็จในวันเดียว และห้ามใช้เวทย์ใดๆในการฝึกครั้งนี้ด้วย หากเจ้าใช้หนึ่งครั้งพี่จะเพิ่มอ่างให้เจ้าหนึ่งใบ"ม่ายยยยยย ผมได้แต่ร้องในใจพร้อมอ้าปากค้างอยากช็อคสุดๆไปเลย ทำไมซื้อหวยไม่ถูกนะ น่าจะเดาออกตั้งแต่เห็นอ่างเปล่าๆแล้ว ฮือ ทำได้แค่ร้องไห้ในใจพร้อมส่งสายตาอ้อนวอนไปให้
"ครึ่งอ่างได้มั้ยขอรับ"
"ไม่ได้"ผมต่อรองไปก็ไม่ได้หวังให้พี่หลงลดหย่อนการฝึกหรอก รู้ว่าพี่แกหวังดีฝึกฝนตามที่เห็นว่าสมควร แต่ถามรึยังว่าเคยทำมั้ยอะ ทั้งชีวิตคือแค่ร่างเวทย์ชีวิตก็ง่ายแล้วไง นี่อะไรต้องมาตักน้ำใส่ถัง บ้าบอนะสิ เกิดมาไม่ว่าที่นี่หรือในโลกที่ผมมา ผมก็ไม่เคยทำอะ ความเหี้ยมาเยือนขนาดนี้ คงทำได้แค่เดินไปหยิบถังไม้ขึ้นมาสองถังก่อนจะเดินสะโหลสะเหลไปทางน้ำตกอย่างจำยอม จะไม่ทำก็ไม่ได้ด้วยไงเดี่ยวเสียน้ำใจพี่หลงที่อยากฝึกให้เหลือเกิน ผมเดินมาถึงน้ำตกก็เอาถังตักน้ำทีละใบ ทีแรกคิดว่าถังไม่ได้ใหญ่อะไรเดินถือมาก็เบาๆตักน้ำใส่ก็ไม่น่าจะหนักมาก แต่ผมคิดผิดครับ พอเอาถังลงไปตักน้ำกำลังจะดึงถังที่มีน้ำเต็มอยู่ขึ้นมา แต่มันไม่ขึ้นเว้ย ตู้มมมม มึง มึงงง หนัก หนักเหี้ยๆ อีเหี้ยเอ้ย ตัวผมหัวถิ่มลงไปแทนแล้วเนี่ย แทนที่อีถังใส่น้ำจะขึ้นตามแรงดึงผม กลายเป็นมันหนักจนผมดึงไม่ขึ้นแล้วตกน้ำแทน แค่เริ่มก็ท้อแล้ว ไม่อยากทำแล้วอะ ฮือ
"เป็นอะไรมั้ยเหลียนเอ๋อร์"พี่หลงที่ยืนมองจากบนเนินคงเห็นผมตกน้ำเลยรีบเดินเข้ามาดูแล้วถามด้วยความเป้นห่วง แต่ผมไม่ตอบหรอก พาลอยู่ โกรธอยู่ โมโหอยู่ ส่งแค่สายตาเขียวปั้ดไปให้ ผมขึ้นฝั่งมายืนที่เดิมได้ ก็ร่ายเวทย์เปลี่ยนชุด ทำตัวให้แห้งทันที ซึ่งผมก็ไม่ได้คิดว่าผิดอะไร แต่ครับแต่ พี่หลงที่ยืนอยู่ข้างๆก็ผลักผมลงน้ำอีกครั้ง เหี้ยอะไรกันว่ะเนี่ย
"เจ้าทำบ้าอะไรนะ!!!!"โมโหแล้วนะเว้ย ผลักทำไมว่ะ
"เจ้าใช้เวทย์"ร่างสูงที่ยืนมองอยู่บนฝั่งตอบมาเสียงนิ่งๆพร้อมปรอยตามองผมที่อยู่ในน้ำ คงจะโกรธที่ถามแล้วผมไม่ตอบมั้ง ใจร้ายว่ะ
"แค่ทำให้ตัวแห้ง เสื้อผ้าแห้งเนี่ยนะ แค่นั้นเจ้าก็นับอ่อ ถ้าข้าตักน้ำทั้งชุดเปียกๆแบบนั้นทั้งวันไม่ปอดบวมตายเลยรึไง"ผมเถียงกลับด้วยแรงอารมณ์ที่มากขึ้น ตามความไร้เหตุผมที่อีกฝ่ายไม่มองข้อเท็จจริงเลยว่าผมมีสิทธิ์ไม่สบายได้นะ ถ้าทำแบบนั้นอะ
"เจ้าคิดว่าเจ้าจะเปียกแค่รอบนี้รอบเดียวงั้นรึ ข้าบอกได้เลยว่าไม่มีทาง"ร่างสูงตอบมาแค่นั้น แค่นั้นจริงๆ ไม่มีเหตุผลมากกว่าผมต้องเปียกอยู่แล้ว ก็เปียกไปเลยไม่ต้องแห้งงี้เหรอ
"ต่อให้ข้าต้องเปียกกี่ร้อยรอบ ข้าก็จะทำตัวให้แห้งทุกครั้ง ทำไมเจ้ามีปัญหาเหรอ"ผมเริ่มเถียงกลับ อย่างไม่มีเหตุผลพอกัน
"งั้นข้าจะไปเพิ่มอ่างให้เจ้า"ร่างสูงพูดจบก็เดินขึงขังออกไปเลย ไปเลยนะ กลัวที่ไหนละ ระดับนี้ละ ดื้อมึนอะที่หนึ่งบอกเลย จะตักแค่อ่างเดียวด้วยคอยดู ผมเลยขึ้นฝั่งร่ายเวทย์เหมือนเดิม ตัวแห้งชุดแห้ง ค่อยยกถังไม้ที่ใส่น้ำครึ่งถังทั้งสองถัง และผมก็โกงนิดหน่อยคือใช้พลังปราณช่วยทำให้ไม่หนักและไม่เหนื่อยมาก รวมทั้งกินยารักษาพลังปราณไม่ให้พลังปราณลดลง ถ้าพลังปราณเริ่มลดลงยานี่ก็จะกระตุ้นพลังธาตุในร่างกายจุดกำเนิดพลังปราณให้เพิ่มมากขึ้น และผมก็เดินกลับขึ้นเนินเขาไป พอมีถังน้ำก็ทำให้ล้มบ้าง น้ำหกบ้างจนแทบจะไม่มีน้ำไปถึงอ่างเลย จนผมต้องเดินย้อนกลับไปตักน้ำใหม่ จนพอผมเริ่มจับทางว่าต้องตักน้ำเท่าไหร่ เดินขึ้นเนินเขายังไง ผมก็เริ่มมีน้ำไปเติมลงในอ่างไม้นั้น เติมไปสิบยี่สิบรอบก็ยังไม่เห็นน้ำเพิ่มมากขึ้น เห้ย งง อ่างรั้วป่ะว่ะ ผมเลยวางถังไม้แล้วเดินวนดูรอบๆอ่าง จนเห็นรูเล็กๆข้างอ่างไม้ที่ทำให้น้ำไหลออกมาจากอ่างเกือบหมด อือหือ ไอ้บ้าชิงหลงนั้นแน่ๆเลยอะที่แกล้งผมแบบนี้ อยู่ไหนแล้วละ มองไปรอบๆและในบ้านก็ไม่เจอ ผมเลยร่ายเวทย์ซ่อมและอุดรูไม่ให้อ่างรั้ว พร้อมทั้งลงเวทย์ป้องกันไม่ให้คนมาเจาะเพิ่มด้วย คนคนนั้นก็คือไอ้พี่ชิงหลงนะแหละไม่ต้องหาคนอื่นหรอกครับ ผมเลยเดินไปตักน้ำมาเติมใหม่จนตอนนี้เวลาผ่านไปเท่าไหร่ผมก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆผมเห็นไอ้พี่ชิงหลงยืนอยู่ข้างอ่างไม้ขนาดใหญ่เหมือนเดิมทางขวามือในขณะที่อ่างทางซ้ายมือใกล้จะเต็มแล้ว อ่อ ที่หายไปคือไปทำอ่าง คนจริงมาก พูดว่าจะทำอ่างเพิ่มให้ก็ทำจริงๆ แต่ผมก็คนจริงพอตัวเหมือน ผมไปตักอีกสิบกว่าถังอ่างทางซ้ายมือก็มีน้ำเต็มอ่างจนได้ เย่! เสร็จสักที ผมจะตักแค่ถังเดียวอย่างที่บอกนั้นแหละครับ ใครจะกล้ามาบังคับผม ถ้าผมไม่อยากทำอะ ผมเลยเดินไปนั่งพักที่บันไดทางขึ้นบ้านพร้อมทั้งเอาของกิน น้ำชา ขนมออกมากินอย่างสบายอารมณ์ ไม่สนใจร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างอ่างใหญ่ที่ว่างเปล่ากำลังส่งสายตาคมๆนั้นมาทางผมเลยสักนิด
"เจ้ายังพักไม่ได้ เจ้าต้องตักน้ำมาใส่อ่างให้เต็มอีกใบ"ร่างสูงพูดเสียงเข้มพร้อมเดินมาหยุดตรงหน้าผม
"ไม่ ข้าจะตักแค่อ่างเดียว หากเจ้าอยากให้อ่างนั้นเต็มก็ไปตักเองเถอะ"เราพูดจากันอย่างห่างเหินทั้งคู่
"จะไม่ไปตักดีๆใช่มั้ย"ร่างสูงพูดเสียงเจ้าเล่ห์
"เจ้าจะทำไมข้า"ผมถามอย่างระแวง พอสิ้นประโยคผมพี่หลงก็เดินเข้ามาอุ้มตัวผมพาดบ่าแล้วเดินไปทางน้ำตกทันที
"ปล่อยข้านะไอ้บ้า ปล่อยข้าลงไง ข้าไม่ไป เจ้าอยากไปก็ไปเองสิ ปล่อยนะ!"ผมดีดดิ้นโวยวายบนบ่าแกร่งตลอดทางพร้อมทั้งตะโกนอย่างบ้าคลั่งให้พี่หลงปล่อยผมลง
"จะลงใช่มั้ย ได้!"พี่หลงพูดขึ้นเมื่อเดินมาถึงน้ำตก จากนั้นก็โยนผมลงน้ำทันทีโดยที่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัว ผมว่ายขึ้นมาที่ผิวน้ำพร้อมสำลักน้ำที่เข้าทางจมูกและปากเต็มไปหมดออกมา เหี้ยเอ๊ย ตั้งแต่เดินตักน้ำหลายร้อยรอบจนตอนนี้ละนะ ทำไมผมต้องมาทรมานสังขารตัวเองขนาดนี้ไม่ทราบ
"ทำไมเจ้าต้องบังคับข้าด้วย?"ผมร้องถามอย่างโมโห
"ก็เจ้าไม่ฟังที่ข้าพูด ข้าเลยให้เจ้าทำเลยยังไงละ"ร่างสูงตอบกลับอย่างไม่สะทกสะท้านอะไร
"นี่เจ้าจะมากเกินไปละนะ"ผมกัดฟันพูดออกมาอย่างเจ็บแค้น แต่ทำอะไรไม่ได้
"ยังไม่มากพอหรอก"ยังไม่พอ ยังไม่มากพอที่เจ้าจะมายืนอยู่ข้างข้าอย่างสง่างามด้วยตัวเจ้าเองหรอกนะเหลียนหลง เจ้าต้องแข็งแกร่งกว่านี้ทั้งร่างกายและจิตวิญญาณของเจ้า ร่างสูงคิดในใจ
"ได้ แค่น้ำเต็มอ่างนั้นใช่มั้ย"ผมเลยร่ายเวทย์เติมน้ำไปอ่างนั้นประชดพี่หลงทันที ก่อนจะหายวับกลับห้องตัวเอง โดยไม่สนใจเลยว่าพี่หลงจะทำหน้ายังไง ไม่มีอารมณ์มาสนใจอะไรทั้งนั้นแหละตอนนี้ ผมต้องการสงบสติอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่ตอนนี้ ผมต้องจัดการหัวที่กำลังร้อนสุดๆอยู่ตอนนี้ และการที่ผมหนีมาดีกว่าที่ผมอยู่ปะทะอารมณ์กับพี่หลงต่อ เพราะไม่งั้นได้ต่อยกันปากแตกสักทีอะผมว่า วันนี้ผมเลยอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วกินข้าวพร้อมทั้งเข้านอนแต่หัววันด้วยความอ่อนล้าแล้วนอนหลับสนิทไปจนเช้า
อีกด้านที่ร่างเล็กเพิ่งจากไปร่างสูงของชิงหลงกำลังเป็นห่วงความรู้สึกของร่างเล็กที่โดนเขาแกล้งไปแรงพอตัว แต่เขาก็ปากหนักเกินกว่าจะขออภัยและยังคิดว่าที่ให้ร่างเล็กทำในวันนี้ก็ไม่ได้หนักหนาอะไรขนาดนั้น สงสัยหากร่างเล็กยังมาฝึกในวันพรุ่งนี้คงต้องหาอะไรมาปลอบสักหน่อย ถึงจะเหมือนเข้าข่ายตบหัวแล้วลูบหลังก็เถอะ ถ้าไม่มาฝึกต่อ เขาคงต้องไปง้อถึงที่ละมั้ง แต่ตอนนี้คงต้องไปตามหางูตัวนั้นแล้วฆ่ามันซะก่อน ทีแรกก็ว่าจะไว้ชีวิตเพราะเหลียนเอ๋อร์ดูจะมีรอยยิ้มมากขึ้นตั้งแต่ได้งูตัวนั้นมาเลี้ยง แต่วันนั้นที่เขาได้สบตาและสัมผัสพลังที่ติดตัวงูตัวนั้น เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นมัน เดิมทีมันตายไปแล้ว จิตวิญญาณเขาก็ทรมานจนมันแตกดับไปแล้ว มันยังเหลือเลือดและจิตวิญญาณสุดท้ายอยู่อีก จนตอนนี้มันเริ่มฝืนคืนจิตวิญญาณจนมาอยู่เคียงข้างคนของเขาอีกแล้ว น่าตายนัก แล้วตั้งแต่คืนนั้นวันนั้นเขาก็ไม่พบตัวมันอีก เขาเห็นเพียงมันเลื้อยไปเอาขวดยาคืนวิญญาณนั้นแล้วหลบซ่อนตัวจากเหลียนเอ๋อร์ จากนั้นมันก็ไปไหนไม่รู้ มันคงจะพยายามคืนจิตวิญญาณให้ตัวเองเลยขโมยยานั้นไป เขาพยายามแกะรอยเพื่อตามหาและต้องฆ่ามันก่อนที่มันจะคืนวิญญาณสำเร็จแล้วทำให้แผนที่เขาวางไว้พังไปหมด เขาต้องรีบหามันให้เจอก่อนมันจะกลับไปหาเหลียนเอ๋อร์
ของขวัญจากผู้อ่านคือกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงาน ช่วยส่งกำลังใจให้ไรต์หน่อยนะ!