"ฮ้าาาววว"
เสียงตื่นนอนและยืดตัวขึ้นมาบิดขี้เกียจบนเตียงของเด็กชายไทยนามอานิเด็กชายที่มีผมสีดำหน้าคล้ายลูกครึ่ง (ได้มาจากทางพ่อเพราะดูเหมือนว่าทางทวดของพ่อเขาจะเป็นแขก) ตัวสูงประมาณ180ถือว่าสูงสำหรับคนไทยเลยทีเดียว หุ่นดีใช้ได้และเป็นเด็กชายผู้ที่อายุกำลังจะย่างก้าวเข้าสู่อายุ14ปีแล้วเพราะอะไรนะหรอ….เพราะวันนี้คือวันเกิดของเขายังไงละ! แต่ก่อนอื่นคงอานิคงต้องลุกจากเตียงละเตรียมตัวไปโรงเรียนก่อนเพราะนี้มันคือวันจันทร์วันเริ่มเรียนของสัปดาร์ยังไงละ
"ขี้เกียจไปโรงเรียนโว้ยยยย~!"
สิ้นเสียงตะโกนพร้อมบิดขี้เกียจของเขาได้มีหญิงผู้หนึ่งมาเคาะประตูที่หน้าห้องของเขา
'ก๊อกๆ'
"อานิเช้าแล้วได้เวลาไปโรงเรียนแล้วลูก"
".…."
"3…2…1"
"….."
"หักค่าขนมกับเวลาเล่นเกม30%"
'ตึ่ง'
จู่ๆก็เกิดเสียงดังคล้ายเสียงตกเตียงหรือเสียงเตียงหักกันนะ? และเสียงอานิที่รีบวิ่งไปเปิดประตูสุดชีวิต
"แฮ่กๆ…ไม่เอาน่าแม่ผมแค่กำลังออกกำลังกายอยู่เอง"
"แล้วทำไมไม่ตอบละเหงื่อก็ไม่เห็นมีสักหยดเลยนิ"
"…"
อานิทำตาเลิกลักและเหงื่อตกอย่างหนัก
"เฮ้ออ~…เอาเป็นว่ารีบไปอาบน้ำแต่งตัวกินข้าวละไปโรงเรียนได้แล้วเดี๋ยวเอริสก็มารออีก"
"อาาาาจู่ๆก็รู้สึกป่วย"
"หักค่าขนมพร้อมห้ามเล่นเกมอ่านนิยาย2เดือน"
"อาบน้ำ แต่งตัว กินข้าวละไปโรงเรียน รับทราบครับบอส!"
อานิยืนตรงพร้อมทำท่าวันทยหัตถ์
"รีบๆไปได้แล้วก่อนจะห-"
"รับทราบครับ!"
สิ้นเสียงนั้นอานิได้วิ่งตรงไปที่ห้องน้ำละรีบเข้าไปอาบน้ำทันที
—-หลังจากผ่านไป20นาที—-
"ฟุอ่าาาา สุดชื่อนชะมัดเวลาสระผมเสร็จเนี่ย~~"
อานิเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพเปลือย พร้อมผ้าขนหนูที่เขาพาดไว้ตรงคอของเขา
'สบตากัน'
"….."
"….."
"!!!!"
"กรี๊ดดดดดด!! ว้ายยยยยย!!!!"
อานิกรี๊ดลั่นบ้านสุดชีวิต? สาเหตุก็มาจากเด็กสาวที่นั้งอยู่หน้าเขาที่โต๊ะกินข้าว 'เอริส' นั้นเองเพื่อนสมัยเด็กตั้งแต่พึ่งเกิดของอานิสาเหตุก็มาจากที่แม่ของพวกเขานั้นรู้จักและสนิทกันเลยได้มาเล่นด้วยกันบ่อยๆ เอริสเป็นสาวลูกครึ่งของจริงแน่นอนไม่เหมือนอานิที่เป็นกรรมพันธุ์จากต้นตระกูลแต่เอริสนะคือลูกครึ่งไทย-อเมริกา แม่เป็นคนไทยส่วนพ่อเป็นคนอเมริกาสูงเกือบ2เมตรแต่เหมือนจะมีบรรพบุรุษเป็นคนไอร์แลนด์ด้วยเพราะผมของเขานะมีสีแดงน้ำตาลสุดเท่ยังไงละ
และดูเหมือนว่าเอริสก็จะได้กรรมพันธุ์นั้นมาเหมือนกันเพราะผมของเธอนั้นก็สีแดงน้ำตาลสีเดียวกับพ่อของเธอเช่นกัน เธอคือคนสวยของแท้เลยละตาสีดำแบบเอเชีย หุ่นเรียวบางน่ารักแถมอกกับสะโพกก็ยังพอมีอีกเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบเลยละ แต่ถึงแบบนั้นอานิกลับพูดกับเธอหลังเห็นเขาเปลือยไปว่า
"เธอมาทำอะไรที่นี้น่ะยัยโรคจิตชอบถ้ำมอง"
"ก่อนจะพูดเรื่องนั้น…ไปใส่เสื้อผ้าก่อนดีไหม…และใครกันแน่ที่ดูโรคจิตกว่ากันนะ"
'อานิหน้าแดง'
สิ้นเสียงนั้นอานิได้รู้ตัวว่าเขากำลังโชว์ซาราแมนเดอร์ของเขาให้เพื่อนสมัยเด็กแถมเป็นผู้หญิงอีกต่างหาก เห็นอยู่เขาเลยรีบคว้าเสื้อผ้าและวิ่งตรงเข้าไปที่ห้องของเขาทันควันและหลังแต่งตัวเสร็จเขาก็ได้เดินลงมาที่ห้องกินข้าว
"…ยัยโรคจิต…มาทำอะไรที่นี่ละห่ะ"
'โป๊ก'
เสียงจานเคาะที่หัวของอานิ
"เอริสมาแล้วมันแปลกตรงไหนห่ะพวกแกรู้จักันมาตั้ง14ปีละนะ และเลิกทีเถอะไอ่นิสัยแก้ผ้าเดินออกมาหลังอาบน้ำนั้นนะ"
สิ้นเสียงนั้นหน้าอานิก็แดงขึ้นและเขาก็พูดว่า
"เงียบหน่าาาแม่อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยครับ"
"เฮ้ออ~ เหนื่อยใจกับแกจริงๆเจ้าเด็กบ้า เอาเป็นว่าป้าขอโทษด้วยจริงๆนะจ๊ะที่ทำให้หนูเห็นอะไรที่ 'ทุเรศ ทุเรศ' อย่างนั้นนะจ๊ะ ว่าแต่มากินข้าวด้วยกันเลยสิจ๊ะคงจะยังไม่กินมาใช่ไหมล่ะจ๊ะ"
แม่พูดจบพร้อมทำสีหน้ารู้สึกผิดนิดหน่อยไปทางเอริส
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะถือว่าเห็นอะไรเล็กๆและกินข้าวจานใหญ่ๆแทนก็ได้ค่ะ"
เธอพูดด้วยสีหน้านิ่งเรียบและตักข้าวจานใหญ่ไม่สมกับร่างกานที่ดูตัวเล็กและผอมเพรียวของเธอมานั้งกินอย่างสบายใจ
"ยัยบ้านี่จงใจหาเรื่องใช่ไหมห่ะ! จะเอาปะล่ะไอ่ส**ส"
'โป๊ก'
เสียงจานทุบไปที่หัวของอานิอีกครั้ง
"หุปปากละรีบกินข้าวละไปโรงเรียนได้แล้วไอ่เด็กบ้า"
"…ครับแม่"
อานิทำตัวจ๋อยพร้อมกินข้าวต่อจนเสร็จดูเหมือนว่าเอริสก็จะกินเสร็จแล้วเหมือนกัน อานิเลยบอกกับเธอว่าไปกันเถอะเธอพยักหน้ารับ แต่ก่อนที่พวกเขาจะออกไปผมถามแม่ไปว่า
"แล้วพ่อละครับวันนี้ก็ไม่กลับอีกแล้วหรอ?"
"…พ่อนะ…นอนอยู่บนห้องนะจ๊ะพึ่งกลับมาถึงก่อนที่แม่จะไปปลุกลูกแปปเดียวเองเลยสังสัยว่าจะยังนอนอยู่นะ"
"อ่อโอเคครับ หวังว่าครั้งนี้คงจะไม่ทิ้งวันเกิดผมไปทำงานละกินเหล้าอีกหรอกนะ"
"…"
แม่เงียบและทำหน้าที่ดูเหมือนจะเศร้าไปทางอานิ อานิเลยรีบเดินออกไปโรงเรียนทันที
"ไปละน่าคร้าบบบ"
"ไปละนะคะและก็ขอบคุณสำหรับอาหารค่ะ"
หลังพูดเสร็จอานิก็รีบวิ่งออกจากบ้านไปทันที ส่วนเอริสก็กล่าวลาและโค้งขอบคุณสำหรับอาหารเช้า
"เห้อออ เจ็บหัวชะมัดเลย~ ไม่เห็นต้องตีแรงขนาดนั้นเลยก็ได้นิ"
"ก็สมแล้วเพราะนายมันโง่ละก็บ้านิ"
"ยัยนี้ตั้งแต่ในบ้านแล้วจะเอาปะล่ะ"
"ถ้ากล้าก็ลองดูขอเน้นกล้างแก้มเลย"
เอริสพูดอย่างนั้นพร้อมหันไปทางอานิและทำท่าตบหน้าเบาๆเธอไม่กลัวเลยสักนิดเพราะรู้ว่า อานิไม่มีทางกล้าทำร้ายผู้หญิงหรอกแถมยิ่งเป็นเพื่อนสมัยเด็กสุดน่ารักอีก แต่ความจริงสาเหตุที่อานินั้นไม่กล้าทำร้ายเอริสนั้นเป็นเพราะเขาชอบเธอมากเลยต่างหากเขาชอบเธอมาตั้งแต่จำความได้เลยอาจจะตั้งแต่5-6ขวบเลยมั้ง
"โย่วเอริส โย่วอานิ"
ผู้ชายที่ยิ้มและโบกมีมาทักทายพวกเขาจากทางด้านหลังชื่อหมีเขาคือผู้ชายผมสีน้ำตาล สูง190เล่นกีฬาร่างกายดูกำยำเท่สุดๆเลยถือเป็นที่ฮอตในหมู่สาวๆมาก
"ฮ่าๆๆๆวันนี้ก็เจอกันระหว่างทางอีกแล้วนะพวก"
หมีนั้นคือเพื่อนคนสนิทของอานิที่พึ่งรู้จักกันตอน ม.1 เพราะสมัยประถมนั้นอานิก็มีแค่เอริสและเอริสก็มีเพื่อนแค่อานิเช่นกันเพราะพวกอานินั้นหวงเอริสมากจนไม่อยากให้ใครมาแตะต้องทั้งนั้นส่วนเอริสก็ไม่ได้ว่าอะไรอานิที่กีดกันคนอื่นออกจากเธอ ส่วนอานิสาเหตุที่ไม่มีใครคบสาเหตุหนึ่งก็มาจากที่ไล่คนอื่นให้ออกห่างจากเอริสแต่สาเหตุหลักเลยคือเพราะหน้าเขามันดูโคตรแยงกี้เลยไงล่ะดูที่พร้อมจะต่อยกับใครก็ได้ทุกเมื่อทุกคนเลยต่างพากันกลัวเขากัน แต่พอขึ้นมัธยมอานิก็ได้เริ่มเปิดใจละทำสัญญากับเอริสว่าจะไม่ทิ้งการเป็นเพื่อนสมัยเด็กไปสนิทกับคนอื่นมากเกินไปด้วยกัน หมีเลยเป็นในกลุ่มคนแรกของพวกเขา…ถึงจนถึงตอนนี้ก็จะมีแค่หมีคนเดียวก็เถอะที่กล้ามาคุยกับพวกเขา ก็แน่นอนสิสาวสวยผมแดงกับผู้ชายผมดำตัวสูงทำหน้าบอกบุญไม่รับตลอดเวลา เวลามีใครมามองหน้าเขา ก็มีแต่หมีนี้แหละที่กล้าคุยกับพวกเขาและได้สนิทกัน
"เอริสตอนเที่ยงเธอพอจะว่างไหมฉันมีอะไรจะพูดด้วยหน่อยนะ"
หลังหมีพูดจบอานิก็ได้หน้าตึงขึ้นมากกว่าปกติอีกเพราะสัญชาตญาณของเขามันบอกว่าเริ่มมีอะไรแปลกๆแล้ว แต่เขาคิดว่าเอริสคงตอบปฏิเสธไปแบบปกติเหมือนเวลาที่มีผู้ชายใจกล้ามาตามจีบเธอ
"โอเค"
!!!อานิทำหน้าตกใจสุดๆ เขางงไปทุกอย่างทำไมเธอถึงตอบกลับไปแบบนั้นเขาเริ่มคิดสุดชีวิตว่าจะแก้สถานการณ์นี้อย่างไรดี เขาเลยได้รีบพูดขัดไปว่า
"เฮ้ เอริสเธอมีนัดไปกินข้าวเที่ยงกับฉันนิแถมพวกเราก็ไปกินกันตลอดตั้งแต่ 'อนุบาล,ประถม' แล้วนะเรายังไม่เคยทิ้งใครคนใดคนหนึ่งไปกับคนอื่นเลยนะ"
"งั้นนายก็มาด้วยซิ"
เธอทำสีหน่ล้านิ่งเรียบเปมือนทุกทีแต่พอเธอพูดอย่างนั้นอานิก็หายเหงื่อตกและดูดีใจเป็นอย่างมาก
"อาาคือโทษทีนะแต่แบบนั้นคงจะไม่ได้ละพวกโทษทีนะอานิ คือฉันจะคุยเรื่องส่วนตัวกับเอริสนะ"
หมีพูดแบบนั้นพร้อมทำมือขอโทษแบบปัดๆ ว่าแต่ทำไมหน้าเขาดูเหมือนจะเขินนิดหน่อย คงคืดไปเองละมั้ง
"อ่อ งั้นก็ขอโทษด้วยนะอานิ"
เอริสพูดอย่างนั้นพร้อมหันมาหาอานิที่น้ำตากำลังจะไหลแล้ว
"ยัยบ้าๆๆๆๆ! เธอผิดสัญญาเธอทิ้งฉันเหรอนี้เธอทิ้งฉันแล้วใช่ไหม! แงงง~"
อานิน้ำตาไหลและพูดออกไปอย่างนั้น หลังเขาพูดจบเขาก็รีบวิ่งไปทางโรงเรียนอย่างรวดเร็ว 'คนเดียว'
"อะไรของเจ้าบ้านั้นนะแค่ไม่กินข้าวด้วยวันเดียวเองนิ เนอะเอริส"
"….."
เอริสนิ่งเงียบไปเธอรู้ดีว่าอานิรู้สึกยังไงเพราะเอริสรู้ว่าอานินั้นขี้น้อยใจระดับหนึ่งแถมชอบเหงาและโดดเดี่ยวสาเหตุก็มาจากครอบครัวเขาที่ไม่ค่อยอบอุ่นด้วย
"เอาเป็นว่าไปโรงเรียนกันเถอะเอริส"
"อือ"
เอริสตอบกลับหมีพร้อมเดินไปโรงเรียนตอนเช้าด้วยกันต่อ
—-ณ โรงเรียน—-
"ยัยบ้านั้น"
อานิฟุบลงไปตรงโต๊ะพร้อมกับทำตัวจ๋อยๆ
"อรุนสวัสทุกคน!"
หมีเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับเอริสพร้อมกับทีกทายทุกคน และเอริสก็ได้มานั้งข้างอานิเพราะอานิจะนั้งริมหน้าต่างหลังสุดส่วนเอริสจะนั้งอยู่ฝั่งขวาของเขาส่วนหมีจะนั้งอยู่หน้าสุดของห้อง
"เลิกงอนเป็นเด็กได้แล้วอานิ"
เอริสพูดด้วยสีหน้านิ่งเรียบกับอานิเช่นเคย
"….."
อานิไม่ตอบอะไรกลับไปหาเอริสทั้งนั้นเขาหันหน้าออกไปทางหน้าต่างและนิ่งเงียบ
"ได้ก็แล้วแต่นายละกัน"
—-ณ เวลาพักเที่ยง—-
"โว้วววว พักเที่ยงแล้วโว้ยยยย ใครไปถึงร้านขนมปังก่อนได้ก่อนนะเฟ้ยยยย"
มีเสียงผู้ชายที่เป็นเพื่อนร่วมห้องของอานิคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาและรีบวิ่งออกห้องไปดูเหมือนคนอื่นก็จะรีบตามเด็กคนนั้นไปด้วย ส่วนเอริสก็กำลังเดินไปกินข้าวเที่ยงกับหมีที่โรงอาหาร
"ชิใครสนกันละก็แค่กอนข้าวเที่ยงแหละน่า"
—-ผ่านไป20นาที—-
'ปั้ง!'
เกิดเสียงเปิดดังสนั่นที่ประตูพร้อมกับมีผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่และเขาก็ตะโกนว่า
"ไอ่หมีจะสารภาพรักกับเอริสแล้วโว้ยยยยหันไปดูตรงหน้าต่างสิ!!!"
'ขวับ'
อานิหันไปทางหน้าต่างอย่างรวดเร็วและกำลังเห็นหมีโค้งตัวลงและตะโกนขึ้นมาว่า "เอริสช่วยคบกับฉันที—-!" อานิเหงื่อตกอย่างหนักเขากัดเล็บตัวเองแรงมากและพยายามคิดว่าอย่างเอริสคงจะปฏิเสธเหมือนทุกทีแหละ แต่ในตอนเช้ามัน….ไม่ๆๆๆคิดบวกเข้าไว้ซิ แต่สิ่งที่อานิกลัวที่สุดก็เกิดขึ้นเพราะ
"ก็เอาสิ"
เอริสพูดแบบนั้นถึงพวกเขาจะอยู่ห่างกันสามชั้นและแม้ว่าเอริสกับหมีจะยืนอยู่กลางสนามของโรงเรียนแต่อานิกลับได้ยินคำพวกนั้นชัดเจนมาก ทำไมกัน ทำไมกัน ทำไมกัน ทำไมกัน ทำไมกัน ทำไมกัน ทำไมกัน คำพวกนั้นวนเวียนอยู่ในหัวของอานิ อานิเริ่มน้ำตาไหลและฟุบตัวลงไป แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยเพราะทุกคนกำลังมุงดูที่หน้าต่างไม่มีใครมาสนใจคนที่นั้งอยู่มุมหลังสุดห้องหรอก
—-ก่อนคาบแรกตอนบ่ายสักพัก—-
"หมี เอริส ยินดีด้วยนะที่คบกันนะ"
มีผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นมาและทุกคนในห้องก็ต่างพยักหน้ากันทุกคนเว้นก็แต่อานิที่ตอนนี้ก็ยังฟุบอยู่ที่โต๊ะเหมือนเดิม
'ว่าแต่ไม่ใช่ว่าเอริสคบกับอานิอยู่หรอเห็นตัวติดกันตลอดเลยนิ'
'เออก็จริงของมึงว่ะเพื่อน'
'ระดับเอริสซะอย่างไม่ลดตัวไปคบกับไอ่แยงกี้ชั้นต่ำนั้นหรอก'
'เห้ยๆทำไมจู่ๆมันไปเวย์นั้นได้กันฟ่ะ'
'แตรก็จริงนิ'
เสียงกระซิบคุยกันของคนในห้องเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆซึ่งแน่นอนว่าอานินั้นได้ยินบทสนทนานั้นทุก ประโยคเลย แต่เขาก็ยังคงนั้งฟุบอยู่บนโต๊ะอย่างนิ่งเงียบไม่ไหวติงสักนิด
"นี้อานิว่าแต่เค้กวันเกิดปีนี้เอาหน้าอะไรดีหรอ"
เอริสเดินตรงมาหาเขาหลังเดินหลบเพื่อนๆในห้องมา
"….."
"เป็นอะไรอีกละเนี่ย"
"ยังไม่หายโกรธเรื่องตอนเช้าอีกหรอ?"
"….."
'ปั้ง'
"เฮ้ ถ้านายยังไม่เลิกฟุบไปบนโต๊ะละนั้งเงียบๆอีกฉันจะไม่ไปฉลิงวันเกิดด้วยแล้วนะยะ!"
"….."
เอริสเอามือตบไปที่โต๊ะจนดังสนั่นและตะโกนใส่อานิแต่อานิก็ยังฟุบอยู่บนโต๊ะนิ่งเงียบอยู่เช่นเคยเอริสเลยโมโหมาก และได้ขอทำการสลับที่กับนักเรียนชายที่นั้งข้างกับหมีให้มานั้งที่ของเธอแทน
"เชอะตาบ้านั้นจู่ๆเป็นอะไรไปแค่ไม่ได้ไปกินข้าวเที่ยงด้วยเอง"
เอริสพูดอย่างนั้นพร้อมกับกอดอกและทำหน้ามุ้ยอยู่ตรงที่นั้งของเธอ
"เอาหน่าๆเขาคงเหนื่อยสะสมเพราะใกล้สอบกลางภาคแถมวันนี้ยังเป็นวันจันทร์อีกหรอกมั้งใจเย็นๆน่า"
หมีพูดอย่างนั้นพร้อมกับยิ้มและลูบไปที่หัวของเอริส 'แฟนของเขา'
ในห้องเริ่มเกิดเสียงซุบซิบถึงความน่าหมั่นไส้ของคู่รักหน้าใหม่และออร่าน่าเศร้าจากอานิ
'ปั้งๆ!'
"เอาละๆเงียบได้แล้วเจ้าพวกบ้าาาา!"
เสียงของยากูซ่-…อาจารย์สอนฟิสิกส์! ที่เดินเข้าห้องและเอามือตบกับหนังสือจนเกิดเสียงดังขึ้นเพราะว่าตอนนี้ถึงเวลาเริ่มเรียนคาบบ่ายคาบแรกแล้ว
"หือไอ่แยงกิ- เอ๊ยอานิฟุบโต๊ะอยู่อย่างงั้นทำไมฟ่ะขี้ไม่ออกหรอหรือว่าอกหักมาล่ะ?"
อาจารย์ฟิสิกส์ที่โคตรจะดูเหมือนแยงกี้ระดับหัวหน้ายิ่งกว่าอานิได้มองและถามเขาว่าเป็นอะไร แต่พอทุกคนได้ยินแบบนั้นก็รีบส่งสัญญาณไปหา อาจารย์แยงกี้? ว่า 'อย่าๆๆจารย์'
"อร้ออออ สรุปคืออกหักมาสินะสมน้ำหน้าเจ้าพวกเด็ก ม.ต้น!…"
อาจารย์แยงกี้ตะโกนบอกไปแบบนั้นพร้อมกับชี้ไปทางอานิแต่หลังพูดเสร็จเขาก็รู้สึตัวว่า 'ฉิบหายละลืมตัว!' เขาเลยบอกกับอานิและคนอื่นๆในห้องไปว่า
"อะแฮ่มๆ โทษทีพอดีเมื่อกี้สงสัยว่าอาจารย์จะโดนโมโนโนเกะแยงกี้เข้าสิงนะ"
"แต่อาจารย์ครับที่นี่ประเทศนะครับ"
"อย่าคิดเยอะสิมันคงนั้งเครื่องบินมาแหละมั้ง"
อาจารย์แยงกี้พูดปัดสิ่งที่นักเรียนบอกและกำลังลบกระดานเตรียมเริ่มบทเรียนของคาบแรกตอนบ่าย (ขอเสริมว่าโมโนโนเกะคือผีญี่ปุ่นเป็นรูปแบบของปีศาจชนิดหนึ่งที่เกิดจากความรู้สึกของมนุษย์ซึ่งเป็นจิตตกค้างหรือจิตอาวรณ์ของคนที่ตาย ทำให้เกิดเป็นปีศาจขึ้นมา)
'หืออานิอกหักได้ไงกันนะนึกว่าเป็นพวกไม่สนใจด้านนี้ซะอีก'
เอริสคิดขึ้นมาในใจและทำท่าสงสัยแต่ก่อนที่เธอจะคิดไปมากกว่านี้อาจารย์หลก็ตะโกนขึ้นมาว่า
"เอาละๆเอาเป็นว่าช่างมันละกันเราจะเริ่มเรียนกันแล้วนะ!"
'ฟรึบ'
อานิลุกพรวดขึ้นมาและพูดกับอาจารย์แยงกี้ไปว่า
"อาจารย์ครับผมรู้สึกไม่สบายมากเลยขอตัวกลับก่อนนะครับ"
"ไม่สบงไม่สบายอะไรอย่ามาโกหกแค่โดนสาวหั- แค่ปวดหัวนิดหน่อยไม่เป็นอะไ-… เจ้ย! รีบๆไปห้องพยาบาลละกลับบ้านไปเลยไป๊หน้าซีดเป็นไก่ต้มขนาดนั้นส่วนเรื่องลาเดี๋ยวครูจัดการให้เองไปไป๊!"
ตอนแรกอาจารย์แยงกี้ก็จะบอกไม่ต้องให้อานิกลับตอนเเขาจดกระดานอยู่แต่พอเขาหันไปมองทางอานิเขาเลยต้องงรีบเปลี่นนความคิด เพราะว่าหน้าและตัวของอานินั้นซีดมากปากก็ซีดจนม่วงเขาเลยรีบให้อานิไปห้องพยาบาลและกลับไปที่บ้านโดยด่วน
"ขอบคุณครับอาจารย์"
อานิโค้งและรีบเก็บของและเดินออกไปทางประตูหน้าห้องเพราะปรูตูหลังห้องมันพังเปิดไม่ได้ พอเขากำลังจะออกไปเอริสก็ได้บอกกับเขาว่า
"เฮ้ อานิเป็นอะไรนะ! ป่วยงั้นหรอ?"
เอริสถามไปด้วยสีหน้าดูตกใจ อานินิ่งเงียบแป๊บนึงและรีบเดินออกจากห้องไป
"อ่อเรื่องมันเป็นแบบนี้เองซินะ"
ในที่สุดอาจารย์แยงกี้ก็ปะติดปะต่อและได้รู้เรื่องราวกับสาเหตุทัวหมดได้แต่เอริสยังคงงงอยู่เลยถามอาจารย์ไปว่า
"อานิเป็นอะไรไปหรอคะ?"
"เขาคงเหนื่อยสะสมเพราะใกล้สอบกลางภาคแถมวันนี้ยังเป็นวันจันทร์อีกหรอกมั้งไม่ต้องเป็นห่วงไปน่าไม่ถึงตายหรอกเดี๋ยวก็หายเอง"
อาจารย์แยงกี้พูดปัดไปแบบนั้นส่วนเอริสก็ยังสงสัยอยู่แต่ก็ใจเย็นลงและคิดว่าค่อยไปเยี่ยมตอนหลังเลิกเรียนก็ได้
—-ที่บ้านของอานิ—-
"กลับมาแล้วครับ"
"อ้าวทำไมกลับมาไวจังละจ๊ยังไม่ถึงเวลาเลิกเลยนิ"
"ผมไม่สบายนะครับเลยกลับมาก่อนไว้ค่อยคุยกันนะครับผมขอไปนอนก่อน"
"โอเคจ๊ะ แต่อย่าลืมมาฉลองวันเกิดตอนหกโมงด้วยนะจ๊ะวันนี้พ่อเขาอุสาขอเลิกงานไวกว่าปกติเพื่อมาฉลองวันเกิดลูกเลยนะ"
แม่พูดกับอานิและทำสีหน้าเป็นห่วงหน่อยๆแต่พอเธอพูดถึงเรื่องฉลองวันเกิดก็มีความจำหนึ่งพุ่งผ่านเข้าไปในหัวของอานิ '…ฉันจะไม่ไปฉลิงวันเกิดด้วยแล้วนะยะ!' ถึงประโยคก่อนหน้านั้นเขาจะจำไม่ค่อยได้แต่ประโยคนั้นเขาจำได้แม่นเหมือนมันสลักลงไปในหัวใจของเขาเลยล่ะอานิจึงหยุดชะงักและตัวสั่น แต่ก่อนที่แม่ของอานิจะถามอะไรเขาก็ได้รีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องและล็อกประตู
"ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ"
อานิที่นอนอยู่บนเตียงและกำลังร้องไห้ ได้คิดถึงสาเหตุที่เอริสทิ้งเขาไปหาหมี หรืออาจจะเป็นเพราะหมีได้รับการบรรจุเป็นฮันเตอร์รุคกี้กันนะ… อะไรนะผมลืมบอกเกี่ยวกับโลกนี้ไปหรอ… โทษทีๆลืมไปสนิทเลยละ โลกนี้นะคือโลกที่แสนจะแฟนตาซีเหมือนในนิยาย มังกร,ดันเจี้ยน,เกต,มอนเตอร์,เอลฟ์,ทวีปที่ยังไม่มีผู้ใดค้นพบ การผจญภัยแสนอันตรายคือโลกที่อานิและคนอื่นๆกำลังอาศัยอยู่ และหมีคือคนที่พึ่งได้เป็นฮันเตอร์ตั้งแต่ยังเด็กอีกต่างหาก ฮันเตอร์นะคืออาชีพในฟันของใครหลายๆคนเลยนะเพราะมันทั้งเท่รายได้ดีแถมได้ความเคารพจากสังคมเลยไม่ต้องถามเลยว่าการที่หมีได้เป็นฮันเตอร์รุคกี้ตั้งแต่ยังเด็กนั้นพิสูจน์ว่าเขามีพรสวรรค์แค่ไหน แตกต่างจากนักผจญภัยมากเลยละ เพราะฮันเตอร์ถึงจะอันตรายอยู่บ้างแต่ถ้าไม่ทำอะไรเกินตัวและทีมที่ลงดันหรือเกตสามัคคีกันดีโอกาสเสียชีวิตแทบจะเป็นศูนย์เลยล่ะ! ส่วนนักผจญภัยทั้งเสี่ยงอันตรายรายได้ไม่ค่อยดีแถมโอกาสตายโคตรเยอะอีกต่างหากทุกคนเลยชอบและอยากจะเป็นฮันเตอร์มากกว่า แต่ไม่ใช่กับพ่อของอานิ บาชิ เขาคือบุคคลระดับอาวุโสที่น่านับถือในถานะนักผจญภัยเพราะเขาคือคนที่ค้นพบทวีปอีเดน ทวีปที่เปรียบดั่งสรวงสวรรค์ของมนุษยชาติเพราะมีทั้งทรัพยากรมากมายและความอันตรายที่ต่ำมากๆจากออร่าต้นไม้โลกที่คอยคับไล่ปีศาจและมอนเตอร์ออกไปแถมยังช่วยให้ไม่เกิดเกตมอนเตอร์ หรือดันเจี้ยนเลยอีกด้วยแต่ถึงมนุษย์จะอยากไปศึกษาเกี่ยวกับต้นไม้โลกดูแค่ไหนพวกเขาก็คงจะต้องพักไปก่อน เพราะว่าโซนนั้นคือบ้านของเผ่าเอล์ฟใช่เผ่าเอล์ฟในเทพนิยายนั่นแหละพวกเขาไม่หยิ่งพยองหรืออันตรายเหมือนที่พวกคุณเคยได้ยินมาหรอกนะเว้นแต่เรื่องหน้าตาทั้งสวยและหล่อทั้งเผ่านะคือเรื่องจริงเลยยืนยันจากพ่อที่เคยเล่าให้อานิฟังตอนเด็กได้เลย แต่พวกเขานั้นหวงอนาเขตของเผ่ามากมนุษย์เลยไม่สามารถเข้าใกล้ป่ารอบๆต้นไม้โลกได้เลย ช่างเรื่องนั้นเถอะกลับมาคุยกันดีกว่าว่าคนระดับบาชิพ่อของอานิทำไมถึงมาอยู่นในเมืองG เมืองระดับกลางของประเทศไทยกันนั้นก็เพราะว่าเขาเกษียณตัวตอนมีอานิและได้มาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเยี่ยงชนชั้นกลางนั้นเอง แต่ตอนนี้เขาก็ยังทำงานอยู่นะเขาทำเกี่ยวกับการเป็นที่ปรึกษาของสมาคมนักผจญภัยเขาเลยเดินทางไปประชุมบ่อยไม่ค่อยกลับมาที่บ้านแถมยังชอบไปดื่มกับพวกเพื่อนเก่าบ่อยด้วยเลยยิ่งกลับบ้านช้าในวันหยุดบ่อยมากอานิเลยไม่ค่อยถูกกับพ่อของเขาที่บ้างานและเหล้าจนทิ้งครอบครัว แต่แม่ก็จะคอยบอกอานิว่า "พ่อนะรักพวกเรามากแค่เขายุ่งไปหน่อยเสมอนะจ๊ะ" แต่อานิก็ไม่สนใจและเริ่มต่อต้านเลพ่อของเขามากขึ้นเรื่อยๆ
"อ่าา หกโมงแล้วหรอต้องลงไปแล้วซินะ…เอริสจะมาไหนะ…ช่างมันเถอะอย่าไปสนใจเรื่องนั้นเลยอานินายจะเศร้าเรื่องยัยโรคจิตนั้นทิ้งนายไปทำไมกัน"
อานิตบหน้าเรียกสติพร้อมกับพูดให้กำลังใจตัวเอง และเดินลงไปที่ห้องกินข้าวเตรียมรับการเซอไพรส์วันเกิดจากแม่และเอริสเหมือนทุกปีแต่พอเขาลงไป กลับไม่มีการเซอไพรส์อะไรทั้งนั้นเอริสก็ไม่นั้งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวเลยสักนิดถ้าจะพูดให้ถูกละก็ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ที่นี้ด้วยซ้ำอานิคิดว่าเธอคงจะไม่มาจริงๆซินะ เขาเห็นแต่แม่และพ่อที่ทำตัวดูเครียดและเคร้งขรึมมองมาทางเขาอยู่
"อานิพ่อมีเรื่องสำคัญที่ต้องคุยกับแก…ไม่ซิต้องคุยกันทั้งครอบครัวเลยประชุมครอบครัวนะ"
อานิสับสนและงุนงงแต่เขาก็ยังคงเดินไปและนั้งที่โต๊ะกินข้าวและมองพ่อกับแม่ของเขาด้วยคงามสงสัยและคงคิดว่าเป็นแผนเซอไพรส์วันเกิดแบบใหม่ให้เขาแต่มันกลับไม่ใช้แบบนั้นเลนแม่ของเขาเริ่มก้มหน้าร้องไห้และพ่อของเขาก็เริ่มพูดขึ้นมาว่า
"อานิฟังให้ดีนะเราจำเป็นที่จะต้องย้ายบ้าน… ไม่ซิย้ายเมืองเลยต่างหากเพราะพ่อดันไปมีปัญหากับสิ่งที่ไม่ควรมีด้วยนะสิ พ่อขอโทษด้วยนะที่พ่อมันไม่ได้เรื่อง"
พ่อของอานิทำสีหน้ารู้สึกผิดและขอโทษอานิ ตอนนนี้อานิยิ่งสับสนและงุนงงกับทุกสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดหรือถามตรงไหนก่อนดีเลย
.
.
.
¥¥¥จบตอนที่1¥¥¥
,
,
โปรดติดตามตอนต่อไป
สวัสดีครับผมขอใช้นามปากกาว่า Anisua ละกันนี้คือผลงานนิยายเรื่องแรกเลยครับเห็นว่าเหมือนจะรับสมัครภาษาไทยด้วยเลยมาแต่งครับ! และถ้าแต่งในนี้ไม่รอดก็คงต้องย้ายไปแต่งเว็บอื่นแหละครับ~~ แต่ฝากติดตามไปเรื่อยๆด้วยนะครับถึงตอนนี้จะยังไม่เข้าช่วงเดินเรื่องจริงๆก็เถอะ และขอแอบสปอยว่าจะเริ่มขึ้นจริงๆตอนเขาโรงเรียนไปได้เกือบเดือนแล้วซึ่งจะรีบเข็นให้ทันภายในอีก2เดือนนี้ครับ! (ไม่น่าเกิน6ตอน ก็ติดสอบกลางภาคกับเตรียมสอบเข้าเตรียมฯอีกเลยนานอลหน่อยแต่อาจจะเร็วกว่านั้นถ้าหัวลื่นดีอะนะ)
— ตอนใหม่กำลังมาในเร็วๆ นี้ — เขียนรีวิว