วันรุ่งขึ้นสายสืบของสารวัตรพลก็ขึ้นมาทำงานกับณัฐตามที่ได้นัดหมายกันไว้ ซึ่งณัฐก็พามาที่บ้านริมน้ำของหมอนิลลี่ พอมาถึงก็เจอตุ๊ดตู่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
"หวัดดี ศิษย์น้องวันนี้พาใครมาด้วยหน่ะ"
"สวัสดีค่ะ ณัฐ คนงานใหม่มาแล้วหรือค่ะ" นิลลี่กล่าวทักทายเช่นกัน
"สวัสดีครับทุกคน พาคนงานใหม่มาแนะนำให้แม่หมอรู้จักหน่อยครับ ตานี่ชื่อรวยนะครับ มาช่วยงานที่บ้านและช่วยพ่อหลวงด้วย"
"อ้อครับ พี่รวย ผมตุ๊ดตู่ ศิษย์พี่ของพี่ณัฐครับ"
"สวัสดีครับคุณหมอ สวัสดีศิษย์พี่ของคุณณัฐ" รวยกล่าวทักทาย
"พามาทักทายแค่นี้ก่อนนะครับ ตั้งใจจะให้ตารวยนี่คอยช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อน เลยเดี๋ยวต้องพาไปแนะนำให้ลูกบ้านรู้จักทุกคน มีอะไรจะได้ช่วยเหลือได้ถูกต้อง" แล้วณัฐก็เดินออกไปพร้อมกับรวย ซึ่งรวยก็หันมายกมือไหว้ ดร.นิลลี่ก่อนไป
"อ้าวงั้นตุ๊ตตู่ เราก็มาลุยเคสคุณน้ากัน"
"มูมู่ขอผลแลบทั้งหมดหน่อยสิ รวมทั้งผลการตรวจร่างกายทั้งหมดด้วย" มูมู่เดินมาแล้วส่งข้อความออกมาทางตาเช่นเดิม
"เอิม คุณน้าเหมือนจะมีไข้วันเว้นวันเลย เมื่อวานมีแต่วันนี้ไม่มี อืม ผลเลือดหล่ะ สเมียร์ช่วงมีไข้เจออะไรบ้างนะ อืมเจอเชื้อมาลาเรีย จริงๆ ด้วย เก่งมากมูมู่ ในที่สุดเราก็หาสาเหตุไข้ของคุณน้าเจอแล้ว"
"คุณน้าเป็นมาลาเรียหรือครับ" ตุ๊ดตู่ถาม
"ใช่จ้า"
"อาการมีเพ้อ ไม่ค่อยรู้ตัว อาจจะขึ้นสมองได้ มูมู่เตรียมเปิดเส้นให้ยาอาร์ทีซูเนตเลย อาการหนักอยู่"
ตุ๊ดตู่ทำหน้างง อยู่ข้างๆ ดร.นิลลี่หันมาเห็น
"ยังไม่ชินอีกหรือ เดี๋ยวสั่งการรักษาเสร็จแล้วมาสอนนะ ไม่ต้องสงสัยมาก"
พอดีเด็กสาวลูกของเคสเข้ามาเยี่ยมแม่พอดี นิลลี่จึงบอกว่า
"แม่หมอรู้แล้วนะว่าคุณแม่เป็นอะไร"
"ดีใจจังเลยค่ะ"
"คุณแม่หนูเป็นมาลาเรียขึ้นสมองนะคะ เดี๋ยวให้ยาอยู่ที่บ้านริมน้ำนี่ก่อนจนกว่าอาการดีขึ้นค่อยกลับบ้านนะ ซึ่งแม่หมอยังบอกไม่ได้ว่ากี่วัน"
"ค่ะ ขอให้แม่หนูหายด้วยเถอะ อยู่กี่วันก็ได้ค่ะ"
"เข้าไปเยี่ยมได้นะ แต่ตอนนี้คุณแม่ยังไม่รู้ตัวต้องรอให้ยารักษาก่อน"
แล้วเด็กน้อยก็ยกมือไหว้ และวิ่งเข้าไปหาคุณแม่อย่างเร็ว
ส่วนณัฐกับรวยที่เดินสำรวจหมู่บ้านอยู่นั้น หลังจากสำรวจเสร็จก็กลับมาที่บ้านริมน้ำ ระหว่างทางที่เดินผ่านเพิงของก๊อกแก๊กนั้น รวยกับรู้สึกแปลกๆ แต่เก็บความสงสัยไว้แล้วพอมาถึงบ้านริมน้ำ จึงได้เอ่ยปากถามว่า
"คุณณัฐเพิงตรงพงหญ้านั่นของใครครับ"
"ของพี่ก๊อกแก๊กหน่ะ เขาเป็นคนพิการเป็นโรคเรื้อน"
"มีอะไรหรือเปล่าค่ะ รวย"
"ผมว่ามันแปลกๆ"
"ตอนแรกพวกเราก็ว่าแปลกเหมือนกัน แต่พอเข้าไปคุยดูแล้ว ก็คนพิการธรรมดาอยู่กับเมียหน่ะ ไม่มีอะไรหรอก" ณัฐตอบ
"ยังไงก็ว่าแปลก แต่ยังบอกอะไรไม่ได้ ขออนุญาตคุณณัฐมาจับตาเพิงหลังนี้เป็นพิเศษจะได้ไหมครับ"
"ได้สิ ไอ้พลมันส่งรวยมาเพื่อช่วยสืบหาคนผิดอยู่แล้ว แม้พวกเราจะไม่รู้สึกแปลก แต่รวยเห็นว่าแปลกก็ตามใจเลย เอางี้ถ้าจะมาจับตามองเพิงหลังนั้น ต้องมาช่วยทำงานที่บ้านริมน้ำนี่จะดีกว่า"
"เอางี้ให้มาทำสวนก็ได้ค่ะ" นิลลี่แนะ
"พี่รวยเห็นว่าเพิงนั้นแปลกหรือครับ หรือจะให้ผมช่วยไหม" ตุ๊ดตู่เริ่มเห็นว่าเป็นเกมนักสืบเลยอาสาจะช่วยจับตามองเพิงหลังนั้นด้วย
"เอ็งเป็นเด็กจะมาเกะกะ เปล่าๆ น่า"
"ดูห่างๆ พอนะ ศิษย์พี่อย่าเข้ามาช่วยเยอะเดี๋ยวเหมือนคราวก่อนจำได้ไหม"
แล้วค้อนวงใหญ่ก็หลุดมาจากตาของตุ๊ดตู่เข้ามาที่ตาของณัฐ
"'งั้นตามนี้นะครับ ผมขออนุญาตมาทำงานที่นี่และขอนอนที่นี่ เดี๋ยวผมทำเพิงนอนเองได้ครับ"
"ตกลงค่ะ"
"ผมขอตัวไปทำเพิงพักที่นี่นะครับ"
"ตามสบายเลยนะคะ"
พอรวยเดินออกไปทำเพิงแล้ว ทางนิลลี่ก็หันมาบอกศิษย์ทั้งสองว่า
"ได้เวลาเรียนแล้ว มามา พักนี้ยุ่งๆ ไม่ค่อยได้เรียนรู้อะไรกัน"
"ครับ เดี๋ยววันนี้พี่หมอจะสอนเรื่องมาลาเรียใช่ไหมครับ" ตุ๊ดตู่พูดดัก
"ใช่จ้า"
"ดีใจด้วย ตกลงรู้แล้วหรือครับว่าเคสเป็นมาลาเรีย"
"ใช่ค่ะ พึ่งได้ผลการตรวจทั้งหมดมาเมื่อเช้าเอง ตอนนี้พึ่งให้ยาทางเส้นเลือดไปเอง กว่าจะเห็นผลต้องใช้เวลาหลายวันอยู่ เพราะเป็นมาลาเรียขึ้นสมองด้วย"
"มาลาเรียคิดว่าน่าจะรู้จักกันดีพอควรนะ ไหนตุ๊ดตู่บอกพี่หมอหน่อยว่า มาลาเรียคืออะไร"
"ไข้ป่าหรือไข้จับสั่นครับ เข้าป่าโดนยุงป่ากัด แล้วเป็นไข้ครับ"
"เก่งนี่ แล้วคุณณัฐตอบได้ไหมว่าเรารักษาอย่างไร"
"ใช้ยาควินินครับ"
"ถูกต้องค่ะ แต่ปัจจุบันควินินเราใช้เฉพาะในมาลาเรียอย่างอ่อนค่ะ"
"เอาแบบง่ายๆ นะ มาลาเรียมี 4 แบบ 2 แบบเป็นแบบรุนแรง อีก 2 เป็นแบบอย่างอ่อน ส่วนใหญ่ที่เจอแถบนี้ดันเป็นอย่างรุนแรง เพราะฉะนั้นจะไม่ใช้ควินินรักษาแล้วค่ะ ไหนตุ๊ดตู่จำที่พี่หมอสั่งมูมู่ได้ไหมว่ายาอะไร"
"อาร์...อะไรก็ไม่รู้ครับ"
"อาร์ทีซูเนตจ้า อ้อเข้าใจแล้วว่าเมื่อกี๊ทำหน้างงอะไร กำลังจำชื่อยานั่นเอง แต่ฟังไม่ทันหล่ะสิ"
"ใช่ครับ มันไม่ชินชื่อก็เลยงง อาร์อะไรอีกทีครับ"
"อาร์ทีซูเนตจ้า ศิษย์พี่ ฮา ฮา ฮา วันนี้ศิษย์พี่จำไม่ได้"
"เอาอีกแล้วน้า ศิษย์น้อง อาร์ทีซูเนต" ค้อนอีกวงก็ถูกส่งมากระแทกที่ใบหน้าของศิษย์น้อง
"อ้าวจบ บทเรียนแล้ว แยกย้ายกันดีกว่า"
"จะว่าอะไรไหมครับแม่หมอ คือถ้าพี่รวยเขาบอกว่าเพิงนั้นมีพิรุธ แล้วเพิงนั่นก็อยู่ใกล้บ้านแม่หมอแค่นี้เอง ผมจะขอมานอนกับพี่รวยด้วย เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยกัน อีกอย่างเป็นห่วงหน่ะ" แล้วก็แอบส่งนัยน์ตาหวานซึ้งมาให้
"อืม มาแบบนี้ จะไหวไหมนี่นิลลี่ ใจกลับมาอย่าลอยตามสายตา" นิลลี่คิดในใจเริ่มตั้งสติไม่ให้ลอยไปไหนไกล
"ฮั่นแน่ ศิษย์น้อง เอาใหญ่แล้ว ถึงขั้นมานอนนี่เลยหรือ"
"ถ้าคิดว่ามาช่วยกันหาตัวคนร้าย ก็ยินดีค่ะ ไม่น่ามีปัญหาอะไร"
"งั้น เดี๋ยวผมไปช่วยพี่รวยสร้างเพิงแล้วกลับไปเอาข้าวของมานะครับ ไปแป๊ปเดียวเดี๋ยวมา คิดถึงกันบ้างนะครับ"
"กลับมากลับมา" นิลลี่คิด
แล้วทุกคนก็แยกย้ายกัน ตุ๊ดตู่กลับบ้านตามปกติ ณัฐไปสร้างเพิงและกลับบ้านไปเอาข้าวของ ส่วนนิลลี่กับมูมู่ไปดูคุณน้าที่เป็นมาลาเรีย
แล้วเวลาผ่านไป 3 วัน รวยก็เล่าสิ่งที่สังเกตเห็นให้ณัฐฟัง
"คุณณัฐผมเห็นผู้หญิงที่เพิง ออกไปไหนตลอดทุกวันเลย ไปแต่เช้ากว่าจะกลับก็เย็นๆ"
"อ๋อ เมียของพี่ก๊อกแก๊กหน่ะ แกออกไปหาผักหาปลามาทำกับข้าวกินกันหน่ะ"
"อืม ออกหาผักหาปลา แต่ทำไมเดินเข้าไปทางเดินที่คุณณัฐเคยบอกว่าเป็นทางขึ้นยอดดอยมอมแมมอ่ะครับ ถ้าจะหาปลาก็ต้องเดินมาทางบ้านริมน้ำนี่ แล้วยิ่งกว่านั้นบางทีผมไม่เห็นแกเอาอาหารอะไรกลับมาบ้านเลย แล้วจะกินอะไรกัน"
"แปลกจริงด้วย แล้วรวยเห็นอะไรอีกไหม"
"ผมแค่สังเกตเท่านั้นยังไม่ได้ลองสะกดลอยตามดูครับ ผมว่าวันนี้จะลองตามแกไป แล้วอีกอย่างเหมือนตอนกลางคืนจะมีเสียงมาจากทางเพิงด้วยคล้ายคนคุยกัน ผมว่าจะเข้าไปสำรวจใกล้ขึ้นเผื่อจะมีอะไรมากขึ้น"
"อืม น่าสนใจ เอางี้พี่รวยสะกดรอยเฝ้าเพิงหลังนั้นตามสบายเลยนะ เดี๋ยวเราไปคุยกับแม่หมอดูว่าจะทำอะไรบ้าง"
"ดีเหมือนกันครับ"
แล้วทั้ง 2 ก็เดินมาที่บ้านริมน้ำซึ่งตอนนั้นตุ๊ดตู่ก็มานั่งเล่นอยู่กับมูมู่แล้ว
"แม่หมอพวกเรามีความคืบหน้ามาเล่าให้ฟัง"
"คืองี้นะครับ ผมว่าที่เพิงนั่นมีอะไรผิดสังเกตค่อนข้างเยอะพอสมควร คือผู้หญิงที่ออกไปหาผักปลานั่น แปลกที่เดินเข้าไปทางขึ้นดอย บางครั้งกลับมามือเปล่า และบางครั้งตอนกลางคืนเหมือนมีเสียงคนคุยกัน ผมว่าจะสะกดลอยผู้หญิงและจะแอบไปสำรวจที่นั่นตอนกลางคืนดู" รวยเล่าคร่าวๆ อย่างที่คุยปรึกษากับณัฐให้นิลลี่ฟัง
"ใช่ค่ะ ตอนแรกเห็นเพิงก็รู้สึกเหมือนกันว่าเพิงแปลกๆ เจ้าของเขาบอกว่าอยู่มาหลายปี ตั้งแต่หมอมาอยู่ก็ไม่เคยเห็นพึ่งมาเห็นไม่นานนี้ เอาอย่างงี้ค่ะ เดี๋ยวหมออัพเกรดหุ่นเก็บหลักฐานแล้วให้รวยติดตัวไปใช้เก็บหลักฐานด้วย แล้วค่อยเอามาวิเคราะห์ร่วมกับหลักฐานที่มีก่อนนี้"
"นึกได้แล้ว คราวก่อนที่ให้ไปตามเก็บเส้นผมคนทั้งหมู่บ้าน ได้เก็บพี่ก๊อกแก๊กกับภรรยาเขาไหมค่ะ คุณณัฐ"
"ไม่ได้เก็บเนอะ ศิษย์น้อง" ตุ๊ดตู่ตอบแทน
"เหมือนจะไม่ได้เก็บนะ เพราะเห็นว่าเป็นคนพิการกับผู้หญิงหน่ะ" ณัฐตอบ
"งั้นฝากพี่รวยเก็บเส้นผมทั้ง 2 คนนั้นมาด้วยค่ะ ก็เข้าใจคุณณัฐกับตุ๊ดตู่ เพราะตอนที่หมอไปเจอ 2 คนนั้นก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรเหมือนกัน"
"ตามนี้นะครับ เดี๋ยวผมจะไปเก็บหลักฐานมาให้เพิ่มดู ขอไปคนเดียวนะครับ จะได้ทำอะไรคล่องตัวกว่า" รวยเอ่ยปากบอก
"วิญญาณสายลับจริงๆ ต้องฉายเดี๋ยวถึงจะทำงานได้" ณัฐแอบแซว
"ผมขอตัวไปสืบต่อก่อนนะครับ" รวยขออนุญาตไปปฏิบัติหน้าที่
"รอฟังข่าวคืนนี้ครับ"
พอรวยออกไปทำหน้าที่ ณัฐก็ขอนั่งเฝ้านิลลี่อยู่ที่บ้านริมน้ำโดยบอกว่าจะช่วยดูแลเคสให้ สักพักเด็กน้อยก็วิ่งเข้ามาเพื่อจะเยี่ยมแม่ พอเด็กเปิดประตูเข้าห้องสังเกตอาการ
"แม่ แม่ หายแล้วหรือ จำหนูได้แล้วหรือค่ะ" เสียงเด็กน้อยตะโกนด้วยความดีใจ พร้อมวิ่งเข้าไปกอดผู้เป็นแม่
"แม่หายแล้ว แต่เอ๊ะแม่จำไม่ได้ว่ามาอยู่นี่ได้ไง แม่เป็นอะไรหรือลูก จำได้แต่ว่าเป็นไข้นอนหนาวอยู่บ้านนี่"
"แม่เป็นไข้อยู่ไม่รู้กี่วัน หนูเห็นแม่เพ้อจำหนูไม่ได้ ก็เลยไปนั่งรอตามแม่หมอมารักษาค่ะ"
แล้วดร.นิลลี่พร้อมกับพักพวกทั้งหมด ได้แก่ มูมู่ ณัฐและตุ๊ดตู่ก็เดินมาที่ห้องพอดี
"นี่ไงแม่หมอที่หนูพูดถึง"
"อ้าวนี่แม่หนูตัวโชคร้ายของหมู่บ้านนี่ หนูเป็นแม่หมอหรือ"
"แม่ แม่ ไปว่าแม่หมอแบบนั้นได้ไง เขาช่วยชีวิตแม่ไว้นะ"
"ขอโทษด้วยค่ะ แม่หมอ คือก็เรียกตามปากชาวบ้านคนอื่นๆ ค่ะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ ฟื้นแล้วคุยกับลูกสาวรู้เรื่องแล้ว อยากกลับบ้านไหมค่ะ วันนี้ก็กลับได้นะคะ"
"จริงหรือค่ะ แม่หมอ หนูคิดถึงแม่จะแย่แล้ว"
"จริงจ้า กลับได้เลยถ้าอยากกลับ"
"เออ แล้วแม่หมอ อีชั้นเป็นอะไรค่ะ"
"คุณน้าเป็นมาลาเรียขึ้นสมองค่ะ ดีที่ตอนที่ลูกสาวมาตามหมอ อาการยังไม่หนักมากจึงรักษาได้ทันค่ะ"
"ป่วยขนาดนั้นเลยหรือค่ะ ขอบคุณมากเลยค่ะ คงมารบกวนที่นี่นานเลย"
"ไม่เป็นไรค่ะ หน้าที่ของแม่หมออยู่แล้วค่ะ"
"ดีใจจังแม่ได้กลับบ้านแล้ว กลับบ้านเรานะ"
"จ้าจ้า งั้นเราสองคนลากลับบ้านกันก่อนนะคะ"
"คะ สวัสดีค่ะ แล้วอาทิตย์หน้ากลับมาตรวจดูอาการอีกครั้งนะคะ เพื่อความแน่ใจว่าหายดีแล้ว"
"ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูพาแม่มาเอง กลับก่อนนะคะ"
แล้วไอ้หนูน้อยก็กูลีกูจอเก็บของแล้วพาแม่วิ่งกลับบ้านไป
ทั้ง 3 คนกับหุ่นอีกหนึ่งตัวได้แต่ยืนมองแล้วก็แอบยิ้ม
คืนนั้นรวยแอบเห็นว่ามีคนเดินเข้าไปในเพิงของพี่ก๊อกแก๊ก จึงได้แอบย่องไปที่เพิง ไม่ลืมที่จะนำหุ่นยนต์เก็บหลักฐานไปด้วย แต่พอไปถึงกับไม่พบอะไรพิรุธเจอแต่สองคนสามีภรรยา เลยให้หุ่นยนต์เก็บหลักฐานเข้าไปเก็บเส้นผม บันทึกลายนิ้วมือ เก็บภาพต่างๆ ไว้
"ไวจริง หายไปไหนว่ะ เดินตามมายังเห็นหลังไวไวอยู่เลย" รวยบ่นพึมพำ
พอเก็บหลักฐานจนพอใจแล้วก็จะเดินกลับมาที่เพิงของตน ก็เหลือบไปเห็นหลังของคนไวไว ก็เลยแอบย่องเดินตามมา ไม่ลืมให้หุ่นยนต์ถ่ายภาพไว้ แต่ชายคนนั้นรู้ตัวสะก่อน ก็เลยเดินหายไปในพงหญ้าทึบอีก หุ่นยนต์เลยไม่ทันบันทึกภาพใบหน้าหรือเก็บหลักฐานอื่น ได้แต่รูปถ่ายด้านหลัง ซึ่งเป็นเวลากลางคืน ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใครอยู่ดี
พอกลับมาถึงเพิงของตน ณัฐก็ลุกขึ้นมาสอบถามทันที
"เป็นไงบ้างพี่รวย เห็นพี่รีบออกไปน่าจะมีอะไร ได้อะไรมาบ้างไหม"
"ผมเก็บหลักฐานบางส่วนมา ไว้ผมบอกคุณณัฐพร้อมกับแม่หมอดีไหม"
"ผมร้อนใจ งั้น เราไปหาแม่หมอพร้อมกันตอนนี้เลย"
ทั้ง 2 คนมาที่บ้านของนิลลี่แล้วรวยก็เล่าให้ฟังว่า
"ผมเห็นคนเดินไหว ไปที่เพิงก็เลยตามไป แต่มันรู้ตัวก่อนเลยหลบหายไป ผมก็เลยเก็บหลักฐานของสองคนผัวเมียเจ้าของเพิงแทน ระหว่างจะกลับก็เห็นมันไหวๆ อีก ให้หุ่นยนต์ตามเก็บหลักฐาน แต่มันก็รู้ตัวอีก เลยได้แต่รูปถ่ายด้านหลัง ผมว่ามันมืดไม่น่าจะแยกออกว่าเป็นใคร"
"อย่าดูถูกโปรแกรมอัจริยะที่ใส่ไว้ในหุ่นทั้ง 2 ตัวนะคะ ไม่ว่าจะเป็นมูมู่หรือหุ่นเก็บหลักฐานมีข้อมูลบุคคลในหมู่บ้านและคนละแวกนี้ทั้งหมด เดี๋ยวขอข้อมูลที่ได้วันนี้ทั้งหมดมานะคะ จะให้หุ่นทั้ง 2 ตัวรวมทั้งตัวหมอจะช่วยกันวิเคราะห์ดู แล้วเดี๋ยวมาคุยกันพรุ่งนี้ ขอเวลาคืนนี้ในการทำงานก่อน"
"ผมขอโทษ ต้องทำให้คุณอดนอนอีกแล้ว" ณัฐกล่าว
"ไม่เป็นไรค่ะ อดนอนจนชิน งั้นตามนี้ค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้สายๆ มาคุยกัน"
แล้วดร.นิลลี่ก็เอาข้อมูลทั้งหมดเข้าระบบเอไอในคอมพิวเตอร์และในตัวมูมู่เพื่อวิเคราะห์ผลทั้งคืน จนรุ่งเช้า
อ่านแล้วชอบไหม เพิ่มในคลังหนังสือเลยสิ!