Baixar aplicativo
57.69% ล่านิรันดร์ / Chapter 15: บทที่ 14 ชิงเขตปกครอง

Capítulo 15: บทที่ 14 ชิงเขตปกครอง

ท่ามกลางเสียงดนตรีบรรเลงร้อง คนโดยรอบสนุกสนานอย่างที่นานๆ ทีจะเป็น เว้นอีกฟากของหมู่บ้านใต้ดิน เมื่อเทพธรณีรู้ว่าคนตรงหน้านี้เป็นราชานรกที่เคยกักขังตัวเองกว่าล้านปีไว้ปรนเปรอก็ตื่นกลัวจนวิ่งไปหลบอยู่หลังฮาวเวอร์ เขาในตอนนี้มีพลังไม่มากเท่าแต่ก่อนคงต่อกรกับคนตรงหน้าไม่ไหว จึงได้สร้างบาเรียคุ้มกันตัวเองและฮาวเวอร์เอาไว้ไม่ให้เขาเข้าใกล้

"เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง​ ถึงข้าจะเพิ่งฟื้นฟู​พลัง แต่ข้าก็สามารถต่อกรกับเจ้าได้นะ" พูดไปก็ตัวสั่นไป การโกหกครั้งนี้ทำเขาเลิ่กลั่กจนเก็บอาการไม่อยู่

ราชานรกเดินเข้าไปหาก่อนจะจิ้มบาเรียที่เขาสร้างแตกเป็นลูกโป่ง นั่นเป็นการย้ำเตือนว่าท่านเทพไม่มีทางทำอะไรเขาได้ในตอนนี้

"คราวนี้ข้าไม่ได้จะมาทำร้ายเจ้า"

"จะให้ข้าเชื่อใจเจ้าได้ยังไง ในเมื่อหลายล้านปีที่ผ่านมา​ เจ้าไม่เคยคิดแม้แต่จะปลดปล่อยข้าเลยสักครั้ง หากท่านผู้นี้ไม่บังเอิญผ่านมาพบ ข้าก็คงติดอยู่ที่นั่นนานต่อไปอีกหลายล้านปี!"

"ใช่! ข้าไม่คิดจะปลดปล่อยเจ้า ข้ายังไม่อาจทำใจได้ที่ต้องปล่อยเจ้าไป" ราชานรกเดินเข้าใกล้เขาอีกก้าว และเทพธรณีก็ถอยอีกหนึ่งก้าว "ในเมื่อข้าสูงส่งเท่าท่านไม่ได้ ข้าก็จะดึงท่านลงมาเสมอด้วย!"

แผ่นหลังของเทพติดผนังถ้ำพอดีกับที่ราชานรกกักขังเขาไว้ในวงแขน แววตาไหวสั่นอย่างหวาดกลัวมองคนตรงหน้าได้ไม่นานก็หลุบตาลงต่ำ

"เพราะเจ้าเลือกเส้นทางเช่นนั้นเองไม่ใช่รึ เจ้าไม่เหมือนปีศาจหรือวิญญาณจากนรกที่จะเลือกเส้นทางไม่ได้ เทพอย่างเจ้าเลือกที่จะทำความชั่วเพื่อบูชาความมืดที่ตนนับถือ ข้าเองก็มีเส้นทางของข้าเช่นกัน เจ้าอย่าฝืนให้ชะตาของเรามาบรรจบกันเลย"

ราชานรกปลดวงแขนออกก่อนจะเดินหันหลังไป "ข้าไปล่ะ ขอโทษด้วยที่ดื้อด้านฝืนชะตาตัวเอง"

เขาสร้างมิติขึ้นมาก่อนจะเดินทะลุเข้าไป ฮาวเวอร์มองแผ่นหลังนั้นจากไปก่อนจะหันมามองเทพธรณีซึ่งหมดแรงจะยืนไหวไถลตัวนั่งกับพื้น

"ท่านไหวรึเปล่า? "

ท่านเทพส่ายหน้า "ไม่ไหว เขาน่ากลัวเกินไป ขนาดแค่สบตา ข้ายังทำไม่ได้"

ฮาวเวอร์พยุงเขาลุกขึ้นก่อนพาไปนั่งที่พัก เมื่อมองพินิจเรือนร่างของเทพผู้นี้แล้วดูอรชรบอบบาง ดวงตาสีครามหม่นแสง เส้นผมและผิวพรรณผ่องประกายอย่างกับดวงจันทร์ และนิสัยขี้กลัวจนตัวสั่นทำให้เขาดูน่าทะนุถนอมขึ้นอีกหลายเท่า ฮาวเวอร์เริ่มเข้าใจในทันทีว่าทำไมราชานรกถึงหลงใหลเทพผู้นี้ ก็เพราะ...

'น่ารักจังเลย~ ถึงจะเทียบกับลูคัสไม่ได้ แต่รองลงมาก็ต้องเป็นเจ้าแล้ว​ล่ะ ความน่ารักนี้ช่างเป็นบาปของเจ้าเสียจริง'

อีคอนเข้าควบคุมร่างแทนเมื่อเห็นว่าฮาวเวอร์เอาแต่เพ้อถึงความน่ารักของคนตรงหน้า แม้ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่อง แต่คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ

"ท่านเป็นเทพมีนามเฉพาะหรือไม่ขอรับ"

"นามเฉพาะของข้ามีชื่อว่า เอวา และเจ้าล่ะ เพราะมัวแต่หวาดกลัวชายผู้นั้นข้าเลยไม่ได้ถามเจ้าเลย"

"ตัวข้ามีสองจิต จิตนี้มีนามว่าอีคอน​ ส่วนจิตที่ช่วยท่านออกมามีนามว่า​ ฮาวเวอร์ แต่ตอนนี้เขาพักผ่อนอยู่"

'เจ้าช่างน่ารักอย่างกับดอกลิลลี่ ออฟ เดอะ วัลเลย์ ผู้บริสุทธิ์ผุดผ่องและหอมอย่างกับดอกไม้…'

"เป็นเช่นนี้เองหรือ มิน่าเล่า ข้าถึงเห็นความแปรปรวนในร่างเจ้า" เอวามองเข้าไปในจิตของเขาพลางขมวดคิ้วงุนงง "เป็นไปได้หรือที่เจ้าจะเกิดมามีสองจิต"

"ท่านหมายความว่าอย่างไรขอรับ" อีคอนนึกพลางคิด 'หรือตลอดมาเราจิตไม่ปรกติ'

"ข้าไม่รู้ความสามารถของยมโลกมากนักหรอกนะ ข้ารู้เพียงแค่ว่า การส่งวิญญาณมาเกิด จะเกิดได้เพียงหนึ่งจิตต่อหนึ่งร่าง แต่เจ้าถูกส่งมาเกิดสองจิตใจในหนึ่งร่างนั้น​ นับว่าประหลาด"

"ท่านเห็นว่าข้ามีสองจิตจริงหรือขอรับ? "

"ใช่แล้ว แต่ที่ข้าไม่เข้าใจเลยก็คงเป็น… อีกร่างหนึ่งของจิตเจ้าไปอยู่ที่ไหน?"

จิตทั้งคู่ต่างเงียบงัน พวกเขาคิดว่าตัวเองเกิดมามีร่างที่ต้องใช้ร่วมกันมาตลอด พอคิดเรื่องนี้ฮาวเวอร์เองก็คิดว่ามันแปลก หากว่าเขาได้เกิดใหม่แต่จิตมาจุติช้ากว่าร่างไปหลายปี บางทีร่างนั้นอาจจะตายไปแล้วก็ได้

'ถ้าพวกเราต้องติดอยู่ร่างนี้ไปตลอด แสดงว่าการจะมีความรักหรือแสดงความรักต่อใครสักคน อีกฝ่ายก็ต้องอยู่ในเหตุการณ์ด้วย… ข้าชักอยากตายอีกรอบแล้ว' ฮาวเวอร์

'ข้าไม่ขัดหรอกนะ ยังไงซะชาติก่อนข้าก็ไม่ได้รักใครและบำเพ็ญเพียรสร้างคุณประโยชน์ให้โลกใบนั้น'

ฮาวเวอร์รำลึกความหลังในชาติก่อน เขาใช้ชีวิตอยู่กับดีแลน ทำงานเพื่อดีแลนจนไม่มีความคิดจะสร้างครอบครัวเป็นของตัวเอง จนดีแลนแต่งงานมีลูกมีหลาน เขาก็ยังคงอยู่ตรงนั้นคอยดูแลไม่ห่าง ชะตาชีวิตของคนไม่ถูกเลือกก็คงต้องโดดเดี่ยวเมื่อไม่เป็นฝ่ายเลือกเสียเอง

'หึ พูดไปเถอะ ข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะตบะแตกกับลีโอตอนไหน'

ฮาวเวอร์ปิดกั้นจิตด้วยความอิจฉา ชาติที่แล้วเขาไม่มีหวังเรื่องความรัก ชาตินี้ก็เช่นกัน แถมยังเห็นวิญญาณแยกของตัวเองมีความรักกับคนที่เขาอยากรักด้วยอีก

อีคอนเลิกสนใจฮาวเวอร์ก็หันไปพูดกับท่านเทพต่อ "ข้าคิดว่าท่านยมโลกคงคิดวิถีทางอย่างรอบคอบสุดแล้ว ยังไงเสีย ชีวิตทั้งชีวิตของข้าก็มีไว้เพื่อช่วยเหลือผู้คนเท่านั้น"

"ช่างเป็นอุดมการณ์ที่วิเศษยิ่งนัก ระหว่างที่ข้าต้องตามหาลูกแก้วกักเก็บพลังของข้า ข้าขอติดตามเจ้าเดินทางไปก่อนได้หรือไม่"

"ข้าไม่ขัดข้องหรอกขอรับ"

วันถัดมาในเวลาสายๆ คนในหมู่บ้านและคนจากเผ่ามางามูยังคงนอนระเกะระกะตามทางเดิน ข้าวของเดิมที่ถูกเอามาจากต่างมิติก็หายกลับเข้ามิติเดิมยกเว้นอาหารและสัตว์ที่ถูกฆ่า ฮาวเวอร์ตื่นมาในเวลานี้และเฝ้าสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวนอกถ้ำ ช่องทางเข้าออกเดิมเขาฝังปิดไปแล้วเพื่อไม่ให้ใครมาหาที่นี่เจอ อณูเวทย์ของฮาวเวอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวบางอย่างได้ก่อนที่สิ่งนั้นจะโผล่ตัวมาให้เห็น

"ท่านฮาวเวอร์ ข้าพร้อมแล้ว"

แม้ไม่ได้กล่าวนัดกันก่อน แต่ทั้งคู่รู้ความนัยนั้นเป็นอย่างดี การเดินทางไปยังรังของมารงูผู้ปกครองเขตนี้เป็นเส้นทางที่ค่อนข้างอันตราย และเขาไม่อาจพาใครไปด้วยได้ ถึงแม้ว่าลิลลี่จะแข็งแกร่งแต่ก็คงสู้กับคนนับร้อยโดยไม่ฆ่าให้ตายไม่ได้ อีกอย่างถ้าเอาโลอาโนไปเพียงคนเดียว เขาก็คงหาทางบ่ายเบี่ยงเลี่ยงการต่อสู้ได้อย่างไม่ถูกสงสัย

"ถ้าข้าเป็นอะไรขึ้นมา เจ้ารู้วิธีเอาตัวรอดอยู่แล้วใช่ไหม? " ฮาวเวอร์ถามเพื่อความแน่ใจ

"แน่นอนขอรับ ถึงนายท่านจะเป็นผู้มีพระคุณ แต่ถ้าท่านหมดประโยชน์แถมนำภัยมาให้ข้า ข้าจะทิ้งท่านทันที"

คำพูดตรงๆ ไม่อ้อมค้อมฟังเข้าใจดี และนั่นก็เป็นสิ่งที่ฮาวเวอร์ต้องการเช่นกัน อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องห่วงหน้าห่วงหลังให้เสียสมาธิ

ทั้งคู่เดินทางมาจนถึงหน้าหินผาขนาดใหญ่ โลอาโนเดินไปที่เถาวัลย์ก่อนจะดึงสั่นจนได้ยินเสียงไม้กระทบกัน ไม่นานก้อนหินที่อยู่ใกล้ก็ถูกดึงออกก่อนจะปรากฏหน้าคนโผล่ออกมา

"โลอาโน เจ้ารู้ใช่ไหมว่าถ้าจะกลับมาต้องเอาอะไรมาด้วย"

"แน่นอน ข้าเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว วิญญาณเผ่าแมลงสาบหนึ่งร้อยดวง" โลอาโนชูดวงวิญญาณขึ้นให้เห็น "กับของฝากเล็กน้อย"

พูดจบก็ดันฮาวเวอร์ไปข้างหน้า เขาทำท่ายืนตัวสั่นอย่างหวาดกลัว คนโผล่มาดูเมื่อครู่ดึงก้อนหินมาปิดช่องส่องก่อนที่ก้อนหินขนาดใหญ่จะถูกเลื่อนออก

"เจ้านี่มันโชคดีจริงๆ ข้านึกว่าเจ้าจะหาพวกเผ่าแมลงสาบไม่เจอแล้วเสียอีก ถ้าช้าอีกเดือนมีหวังเผ่าเจ้าได้กลายเป็นเหยื่อล่าวิญญาณรายต่อไป"

"เงียบปากน่า คิดว่าข้าจะยอมรึไง ยังไงตอนนี้ข้าก็ได้ดวงวิญญาณมาแล้ว แถมไอ้เด็กนี่ก็น่าจะพอทำให้เขาหายโกรธขึ้นมาบ้าง"

"ฮืมมม ลูกมนุษย์รึ? หน้าตาอัปลักษณ์จัง สงสัยคงถูกทิ้งในป่าเพราะพ่อแม่ไม่เลี้ยงสินะ วางใจเถอะเดี๋ยวเจ้าก็มีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแล้ว"

ฮาวเวอร์กวาดสายตามองไปรอบๆ เห็นเหล่าแมลงหลายสายพันธุ์มารวมตัวกันทั้งยัง​มองเขาเป็นตาเดียว โลอาโนเดินไปต่อจนสุดทางเดิน ปลายทางเป็นถ้ำดินขนาดใหญ่มีผ้าผืนใหญ่ปิดกั้น

โลอาโนเปิดม่านเดินเข้าไปก่อนจะนั่งคุกเข่าหนึ่งข้างลงกับพื้น เบื้องหน้าที่ฮาวเวอร์เห็นเป็นลำตัวยาวใหญ่ของงูนอนขดเป็นชั้นๆ โลอาโนเหลือบมองลำตัวนั้นแวบหนึ่งก่อนเอ่ย

"ท่านมารงู ข้านำวิญญาณของเผ่าแมลงสาบมาให้ท่านได้แล้วขอรับ แล้วระหว่างการตามหา ข้าพบเข้ากับลูกมนุษย์ถูกทิ้งเอาไว้ในป่า ดูท่าพ่อแม่มันคงไม่อยากเลี้ยงเลยเอามาปล่อย"

'ต้องเล่าขนาดนั้นด้วยรึไง'

ลำตัวเคลื่อนที่ไปมาก่อนจะโผล่ร่างมนุษย์ส่วนบนให้เห็น ร่างบนนั้นเป็นสตรีผิวสีเทาเขียว ผมยาวลงมาถึงสะดือ ร่างกายไร้เสื้อผ้าปกปิด แต่ถึงอย่างนั้น สองทรวงอกก็ไร้ยอดเย้ายั่วยวนเพศตรงข้ามให้ใหลหลง ฮาวเวอร์ก้มหน้าตัวสั่นพยายามเล่นให้สมบทบาท โลอาโนก็ก้มหน้าลงเพราะเกรงกลัวสองตาคมดุจอสรพิษจ้องเข้ามา

"เอาวิญญาณมาให้ข้า"

โลอาโนเดินเข้าไปแล้วกางวงแหวนเวทย์ออก นางมองเข้าไปในวงแหวนก่อนแสยะยิ้มอย่างสมใจ ไม่นานก็เทเอาวิญญาณทั้งหมดออกมา วิญญาณเหล่านั้นลอยล่องไปบนอากาศ แต่ก็ติดอยู่บนเพดานซึ่งมีผ้าหนากางไว้อยู่ นิ้วของนางชูขึ้นนับวิญญาณทั้งหมดอย่างสนุกก่อนจะตวัดสายตามาทางโลอาโนจนเขาสะดุ้ง

"เจ้าออกไปได้"

"ขอรับ"

โลอาโนเดินออกไป เพียงเสี้ยววิเขาหันมองหน้าด้านข้างของฮาวเวอร์อย่างนึกเป็นห่วง หากว่าฮาวเวอร์เอาชนะมารตนนี้ไม่ได้ ชะตาชีวิตเขาก็ต้องวนลูบอยู่อย่างนี้ไม่สิ้นสุด ไม่เป็นฝ่ายฆ่า ก็จะถูกฆ่าเสียเอง

มารงูกลืนวิญญาณเข้าปากไปทีละดวงโดยไม่สนใจฮาวเวอร์ พอโลอาโนออกไป​ เขาก็ไม่เสแสร้งแกล้งเป็นคนอ่อนแออีก เดินไปหาที่นั่งแล้วมองมารงูกินอย่างสบายอารมณ์

"มันอร่อยนักรึไง?"

มารงูตวัดสายตามาทางฮาวเวอร์ เด็กที่ทำท่าอ่อนแอเมื่อกี้หายไป​ เหลือไว้เพียงเด็กจองหองที่มองหน้าเธออย่างยียวน นางไม่สบอารมณ์กับคำพูดนั้นก็สะบัดหางใส่ฮาวเวอร์หนึ่งที เพียงเสี้ยววิฮาวเวอร์ก็หายไปพร้อมแรงสะบัดหางลากไปกระทบกับถ้ำ แต่แทนที่จะพบร่างของฮาวเวอร์ตอนยกหางออก กลับเป็นหางของเธอแยกออกจากกันเป็นแนวยาวจนเห็นกระดูกและเลือดเนื้อภายใน มารงูอึ้งเงียบไปก่อนจะมองไปรอบๆ มองหาร่างฮาวเวอร์ แต่หาจนทั่วก็ไม่เจอ ทันใดนั้นร่างของมารงูก็ถูกฟาดลงจากคอมาจนถึงกลางหลัง แม้ดาบฮาวเวอร์จะฟาดหางนางจนแยกออก แต่ส่วนร่างมนุษย์กลับแข็งราวกับเหล็ก สร้างเพียงรอยบากยาวแต่ไม่ลึกเท่านั้น มารงูหันหลังมาฟาดเขาคืนจนตัวปลิวติดผนัง

"เจ้าเป็นใครกันแน่ ใครส่งเจ้ามา!"

"ไม่มีใครส่งข้ามาทั้งนั้น ข้าแค่อยากได้เขตปกครองตรงนี้ ถ้าเจ้ายอมยกให้ข้า ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า"

"หึ ถ้าอย่างนั้นก็ข้ามศพข้าไปก่อนแล้วกัน!!"

"ก็คิดจะทำอยู่แล้ว!"

ทั้งคู่กระโจนใส่กันอย่างบ้าคลั่ง ทางฝั่งฮาวเวอร์ได้เปรียบทั้งความเร็วและความแรง อีกทั้งพละกำลังยังเหนือกว่า ส่วนมารงูได้เปรียบด้านความแข็งแกร่งถึงขนาดแรงดาบของฮาวเวอร์ยังตัดไม่ขาด แต่ถึงอย่างนั้นส่วนห่างของนางกลับบอบบางกว่า ฮาวเวอร์เล่นตรงจุดนั้นจนร่างกายนางฮิลลิ่งไม่ทัน

มารงูร่ายเวทย์วงแหวนแล้วหยิบเอาอาวุธตรีศูลออกมาก่อนจะไล่แทงร่างฮาวเวอร์ด้วยความเร็ว พอมีอาวุธความเร็วในการจู่โจมก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว แต่ก็ยังช้ากว่าฮาวเวอร์ เขาหาโอกาสเล็งจุดตายของมารงู มันคงจะอยู่ตรงหัวใจหรือไม่ก็หัว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังผ่าความหนาของร่างกายนางไปไม่ได้ เมื่อมารงูรู้สึกเสียเปรียบก็กรีดร้องออกมา

"เคี้ยยยยยยยยยย!!"

พรึบ!

ม่านหนาถูกเปิดออก อมนุษย์ทั้งหลายเข้ามาพร้อมมีดดาบในมือ ฮาวเวอร์ยังคงวุ่นอยู่กับการต่อสู้กับมารงูจนมองไม่เห็นหอกที่พุ่งเข้ามาหาตน กว่าจะรู้ตัวหอกนั่นมันก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว

"ระวังหน่อยสิพวก"

โลอาโนหยุดหอกนั้นไว้ให้ คำพูดที่ว่าจะทิ้งไปอย่างไม่ไยดีคงเป็นเพียงลมปาก ไม่นานเขาก็เข้าปะทะกับเผ่าอมนุษย์ของมารงู เมื่อเห็นว่าตัวเองไม่ได้สู้เพียงลำพังฮาวเวอร์ก็มีแรงฮึดขึ้นมาอีกหน่อย ทางฝั่งของมารงูเมื่อเห็นว่าคนของตนทรยศก็โมโหจนควบคุมสติไม่อยู่ นางฟาดหางไปทางโลอาโนโดยไม่สังเกตว่าฮาวเวอร์ยังอยู่ไม่ห่าง หางที่กำลังฟาดลงขาดเป็นสองท่อนและชักดิ้นชักงออยู่บนพื้น

"อย่ามองไปทางอื่นสิ ศัตรูของเจ้าอยู่ตรงนี้"

ทั้งคู่จ้องตากันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อและเริ่มเข้าโจมตีใส่กันอีกครั้ง เมื่อสังเกตว่าฮาวเวอร์ไม่ได้ใช้เวทย์ นางจึงร่ายเวทย์ให้เกิดกระแสน้ำขนาดใหญ่โถมใส่ตัวเขา ฮาวเวอร์ร่ายบาเรียกั้นกระแสน้ำจนมันไหลออกด้านนอกไปหมด ฮาวเวอร์ตั้งหลักและฟาดดาบใส่นางอีกหน นางสร้างบาเรียมากั้นการโจมตีแต่กั้นไม่อยู่ ดาบฟาดลงตรงกลางอกสร้างบาดแผลให้นาง เพราะนางใช้พลังเวทย์เข้าสู้จึงลดพลังเกราะบนร่าง แต่ถึงนางจะได้แผล ฮาวเวอร์ก็เริ่มตระหนักได้ว่าการโจมตีที่แรงที่สุดของเขาทำได้เพียงแผลตื้นๆ ให้กับนางเท่านั้น

มารงูเมื่อเห็นรอยเลือดของตัวเองไหลหยดออกมาก็ยิ่งสติแตก นางพุ่งตัวเข้าไปหาฮาวเวอร์ ฮาวเวอร์ฟันดาบไม่ยั้งใส่นางและได้เพียงแผลเบาเท่านั้น เมื่อหลบการปะทะไม่ได้ฮาวเวอร์ก็ใช้บาเรียเข้ากั้น เมื่อเห็นฮาวเวอร์ไม่ทันตอบโต้จึงพยายามบีบบาเรียให้แตกเพื่อบดขยี้เขาข้างใน

ฮาวเวอร์คิดไม่ตกกับการโจมตีเมื่อครู่ ถ้าเขาทำอะไรร่างมนุษย์ไม่ได้ ก็ต้องทำลายหาง ให้นางใช้เวทย์ฟื้นฟูจนอ่อนกำลัง แล้วค่อยสังหารนางหลังจากนั้น

ฮาวเวอร์คิดได้แล้วก็ถอดบาเรียออกและแทงเข้ากับมือของนาง มันเข้าไม่ลึกอย่างที่คิดและนางก็ได้ บีบร่างเล็กๆ นั่นให้เละคามือ เมื่อแน่ใจว่าฮาวเวอร์ไม่ขยับแล้วนางก็คายมือออก ฮาวเวอร์พุ่งออกมาจากซอกนิ้วและแทงเข้าใบหน้าของนาง มารงูหลบวิถีดาบได้​ แต่ก็ถูกบาดที่ข้างแก้มเป็นรอยยาว ฮาวเวอร์ถลาลงสู่พื้นและได้มองร่างของมารงูอย่างถี่ถ้วน ปลายหางที่เขาตัดไปตอนนี้มันงอกมาใหม่ในสภาพเดิมอีกครั้ง แต่กลับกันร่างที่เป็นมนุษย์ยังรักษาไม่หายแม้จะเป็นแผลเล็กน้อย แสดงว่าเจ้านั่นทุ่มการป้องกันไปที่ส่วนที่ตายง่ายมากที่สุดและใช้หางเป็นเหมือนอาวุธที่ต้องใช้การฟื้นฟูเร่งด่วน แต่ถึงอย่างนั้นการฟื้นฟูร่างกายก็ต้องใช้ระยะเวลานานกว่าพลังเวทย์จะฟื้นฟู แถมต้องเผื่อพลังไว้ใช้ในการต่อสู้อีก และดูจากการที่นางไม่ได้วางแผนการต่อสู้กับเขาอย่างถี่ถ้วน นางก็คงดูถูกลูกมนุษย์อย่าเขามากเกินไป

"ดูเหมือนข้าจะประมาทเจ้าไม่ได้แล้ว ข้ายังไม่ถามเลยว่าเจ้าชื่ออะไร"

"ข้าชื่อฮาวเวอร์"

"งั้นก็ดี ข้าจะได้เอาหัวของเจ้ามาสลักชื่อประดับไว้ เล่าขานว่ามีไอ้โง่คนหนึ่งมันเข้ามาท้าทายข้าอย่างไม่เจียมตัว"

"เลิกขู่ฟ่อฟ่อได้แล้ว เอาจริงสักทีเถอะ"

ทางด้านโลอาโนเริ่มจนมุมเมื่อเขาพยายามขัดขวางการโจมตีของอมนุษย์ฝ่ายมารงู การกระทำ​นี้เหมือนการฆ่าตัวตาย​ แต่ถึงเขาจะตายมันก็คุ้มค่าให้ฮาวเวอร์ได้มีโอกาสชนะคู่ต่อสู้ที่กดขี่คนในเผ่าเขามาช้านาน การเสียสละครั้งนี้จะจารึกบนหลุมศพของเขาและกล่าวขานให้ลูกหลานตนฟัง

ฉึก!

ธนูดอกหนึ่งปักเข้าที่ขาของเขาจนเสียหลักล้ม โลอาโนกระตุกใยของตัวเองเข้ากับศัตรู พันธนาการมันไว้ด้วยใยเหนียวจากร่างของตนและห้อยมันไว้กับต้นไม้ด้านบน พลังเวทย์ของโลอาโนเหลือน้อยเต็มทีแต่ก็พยายามสู้ต่อจนถึงที่สุด

"โลอาโน ข้ารู้จักเจ้ามานาน อะไรทำให้เจ้าคิดทรยศท่านมารกัน ไม่คิดบ้างรึว่าคนในเผ่าจะต้องตายเพราะความโง่เขลาของตัวเอง"

"ยังไงข้าก็จะตายอยู่แล้ว ทำไมต้องไปสนคนอื่นด้วยเล่า ถ้าข้ารอดไปได้ พวกเจ้าก็รอดเช่นกันไม่ใช่รึ แทนที่เราจะมาสู้กันเองทำไมไม่เฝ้าดูการต่อสู้ครั้งนี้ไปด้วยกัน"

"เฝ้าดูงั้นรึ พอเจ้าลูกมนุษย์นั่นตาย พวกเราก็จะตายไม่ต่างจากมัน คิดว่าแค่เอาชนะมารนั่นได้แล้วจะหลุดพ้นงั้นหรือ เจ้าลืมไปแล้วรึไงว่าหากมารงูตาย ใครจะขึ้นมาปกครอง"

"ไม่ลืมหรอก แต่ข้าไม่สน ข้าไม่กลัวที่จะเสี่ยง พวกเจ้าต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายกลัว อีกไม่นานพวกเจ้าจะตายเพราะความเอาแน่เอานอนไม่ได้ของมารงู"

"อย่างน้อยก็อายุยืนกว่าเจ้าในตอนนี้ก็แล้วกัน"

พูดจบอมนุษย์ผู้นั้นง้างธนูสุดมือแล้วเล็งมาที่เขา โลอาโนตั้งใจจะกระโดดหลบแต่ขาทั้งสองข้างกลับถูกรั้งเอาไว้ ลูกธนูวิ่งมาทางเขาอย่างรวดเร็ว ในเสี้ยววินาทีนั้นร่างของเขาก็จมลงไปในพื้นดินพร้อมอมนุษย์คนอื่น

พุบ พุบ พุบ

โลอาโนลืมตามองภาพเบื้องหน้าทั้งฝุ่นคลุ้ง อมนุษย์แมลงสาบใต้พื้นดินคอยขุดหลุมให้พวกเขาได้ซุ่มโจมตี หลุมที่จับอมนุษย์ฝ่ายมารได้ก็พันธนาการไว้ด้วยใยเหนียวของเผ่ามางามู โลอาโนกลายร่างเป็นแมงมุมเต็มตัวแล้ววิ่งไปตามเส้นทางใต้ดินจนถึงขอบกำแพง แมงมุมร่างใหญ่นั่งทั้งพุ่งยื่นออกมาเยอะกว่าแมงมุมเพศเมียตัวอื่นๆ

"ที่รัก ข้าดีใจที่เจ้ายอมมาช่วยข้า"

"ก็เพราะเจ้าจะตายข้าถึงได้ตัดสินใจเข้าร่วม ข้าไม่อยากให้ลูกของเรากำพร้าพ่อหรอกนะ"

"โอ้ ที่รัก อย่าร้องไปเลยนะ เชื่อข้าเถอะว่าคนที่มาปราบมารงู เขาคนนี้ไม่ธรรมดา"

"ข้ายืนยันอีกคน"

แอดดี้สมทบความคิดของโลอาโนอีกคน โลอาโนมองเขาเชิงสงสัย

'ทำไมเจ้านี่ไม่ไปช่วยคนอื่นต่อสู้วะ'

"ข้าแค่จะมารายงานว่าด้านบนพร้อมแล้ว" โลอาโนยังไม่ทันพูดอะไรแอดดี้ก็แก้ตัวออกมาก่อน

"หัวหน้าเผ่า ตอนนี้เราล้อมที่นี่ไว้หมดแล้ว เริ่มแผนสองเลยไหมขอรับ"

"เริ่มได้เลย อย่าปล่อยให้พวกมันหลุดออกนอกกำแพง เราต้องปิดเรื่องการโจมตีภายในเอาไว้ให้ได้​ มารจากเขตอื่นจะได้ไม่รุกรานเข้ามา"

แมงมุมเพศเมียออกคำสั่งเสียงกร้าว ทั้งแมงมุมและแมลงสาบแยกย้ายไปทำแผนสองต่อทันที

ด้านนอกอมนุษย์ฝ่ายมารงูมัวแต่หวาดระแวงการโจมตีใต้พื้นดินจนลืมดูสิ่งที่อยู่เหนือหัว ตาข่ายยักษ์ปกคลุมรอบกำแพงเอาไว้หมดแล้ว และกำลังร่วงหล่นลงมาพันธนาการสิ่งมีชีวิตทุกตัวที่อยู่บนพื้นดิน ไม่มีใครหลบตาข่ายแมงมุมนี้ได้และติดเป็นเหยื่อน่าสงสารด้านใน เมื่อควบคุมสถานการณ์ภายนอกได้ เหล่าแมงมุมและแมลงสาบก็ทำการเคลื่อนย้ายดักแด้อมนุษย์ฝ่ายมารไปที่เผ่าแมลงสาบอย่างปลอดภัย

แมงมุมสื่อสารคอยบอกเล่าเรื่องราวภายในถ้ำผ่านเส้นใยบางใสให้ได้ยินอย่างที่เคยทำ ให้เหล่าผู้ร่วมชะตากรรมและอมนุษย์ฝ่ายมารได้ฟังกันทั่วถึง กลุ่มอมนุษย์แมงมุมบางส่วนคอยจับตามองและป้องกันการโจมตีจากนอกถ้ำ หากว่ามารงูเพลี่ยงพล้ำก็จะเข้าไปเผด็จศึกทันที

ด้านในยังคงส่งเสียงฟาดฟันกันไม่หยุดจนดึกดื่น จนถึงตอนนี้​ นอกจากเผ่าแมงมุมและเผ่าแมลงสาบที่เฝ้าฟังผลการต่อสู้อย่างใจจดใจจ่อแล้ว ดักแด้ตัวอื่นๆ ก็เฝ้าฟังอย่างตื่นเต้นด้วยเช่นกัน

ทางฝั่งฮาวเวอร์ จากที่เคยต่อสู้กับเจ้าเมือกนั่นอย่างไม่รู้วันรู้คืนก็เริ่มเรียนรู้ที่จะหายใจผ่อนเลี้ยงพลังกายให้เหนื่อยช้าลง ร่างกายฮาวเวอร์อึดทนมากขึ้นหลังจากศึกครั้งนั้น และครั้งนี้ก็เช่นกัน ในขณะที่ฮาวเวอร์พยายามยื้อการต่อสู้เอาไว้ให้อีกฝ่ายเหนื่อยหอบเพื่อหาโอกาสโจมตีเหมาะๆ อีกฝ่ายเองก็พยายามจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุดด้วยการโถมร่ายพลังเวทย์ใส่ฮาวเวอร์ และนั่นยิ่งเข้าทางฮาวเวอร์เข้าไปอีก เมื่อนางใช้พลังเวทย์เยอะเท่าไหร่ ร่างกายที่แข็งแกร่งจนไม่อาจสร้างบาดแผลได้ก็ยิ่งเปราะบางขึ้นเท่านั้น

ฮาวเวอร์สร้างบาเรียแข็งแกร่งป้องกันการโจมตีทุกรูปแบบ จนมารงูไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับเขาได้ ระหว่างที่ป้องกันก็หาโอกาสโจมตีหางของมารงูเพื่อเร่งการฟื้นฟูอย่างไม่จำเป็นอีกด้วย ครั้งนี้ดูท่าจะใช้เวลาน้อยกว่าเจ้าตัวในถ้ำเสียอีก

"เป็นอะไรไป หมดแรงแล้วรึ"

"หึ อย่าได้ใจไปหน่อยเลย เจ้าเองก็ทำอะไรข้าไม่ได้เช่นกัน"

"ใครว่ากันล่ะ"

ฮาวเวอร์ตวัดดาบไปที่หางของนางจนขาดกระเด็น มารงูต้องเร่งฟื้นฟูพลังอย่างไม่จำเป็นอีกครั้ง นางรู้ว่าฮาวเวอร์เริ่มจับทางนางได้แล้ว แต่เพราะวิธีต่อสู้แบบตื้นเขินของเขาไม่อาจปิดฉากนางได้ทันทีจึงต้องยืดเยื้อเวลาให้อ่อนแรงและฆ่านางตอนหมดทางสู้ แต่มันจะเป็นไปตามที่เขาคิดจริงหรือ หากเล่นงานตอนที่นางหมดแรงได้จริงทางฝั่งฮาวเวอร์เองก็จะไม่มีแรงสู้ต่อไม่ต่างจากนางเช่นกัน ถึงตอนนั้นคนในเผ่าอมนุษย์ที่รับใช้นางก็จะฆ่าเขา และนางฟื้นคืนชีพนางขึ้นมาใหม่อย่างทุกที

มารงูพุ่งหอกใส่ฮาวเวอร์ เขาก็กระโดดหลบพร้อมฟาดดาบใส่นางแลกการโจมตีกันไปคนละที

"ถ้าเจ้าจะเปลี่ยนใจมาเจรจากันอย่างที่ควรจะเป็นตั้งแต่แลกข้าก็ไม่ว่าหรอกนะ"

"ฝันไปเถอะ เจ้าขโมยคนของข้าแล้วทำลายบ้านของข้า คิดว่าเรื่องมันจะจบแค่นั่งคุยรึ"

มารงูฟาดหอกใส่ฮาวเวอร์ไม่ยั้งแต่ฮาวเวอร์ก็หลบทันได้หมด เมื่อลองเจรจาอีกหนแล้วไม่ได้ผลก็ต้องสู้อย่างเดียว คราวนี้ฮาวเวอร์ไม่ลังเลที่จะสู้ต่อด้วยทุกวิถีทางที่ทำได้ เขาพุ่งตัวใส่มารงูแล้วเหวี่ยงดาบใส่ มารงูรับแรงดาบนั้นไว้และแทงตรีศูลเข้าสวน ฮาวเวอร์ใช้โอกาสนั้นไต่ขึ้นไปบนด้ามอาวุธเหวี่ยงดาบใส่ในระยะประชิดเพื่อให้ได้แผลลึกกว่าเดิม ฮาวเวอร์ไม่ปล่อยให้นางหายเจ็บก็พุ่งตัวอีกครั้งโจมตีส่วนหางฟันไม่ยั้งให้นางหลบไม่ทัน หางของนางถูกแยกออกเป็นชิ้นและสั้นลงเรื่อย การโต้กลับของนางคือการร่ายเวทย์คลื่นน้ำใส่ แต่ฮาวเวอร์ก็สร้างบาเรียกั้นจนคลื่นน้ำไหลออกไป ไม่นานเขาก็พุ่งตัวเข้าประชิดต่อและเล็งผลไปที่แขนข้างที่นางใช้ถืออาวุธ​ ฟาดครั้งที่หนึ่งด้วยแผลตื้นและฟาดอีกครั้งให้ลึกลงกว่าเดิม

"เคี้ยยยยยยยยย!!!"

เสียงนางกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดแต่ฮาวเวอร์ไม่หยุดเพียงเท่านั้น สัญชาตญาณเขาตื่นเต็มที่และเริ่มโจมตีส่วนต่างๆ บนร่างกายนางซ้ำๆ ที่รอยเดิมราวกับเครื่องจักรสังหาร หั่นชำแหละแต่ล่ะส่วนด้วยความแม่นยำชำนาญราวกับเครื่องปั่นเนื้อ มันยังไม่หยุดแม้ร่างนั้นจะฉีกขาด​จนผิวหนังเปิดออก เสียงกรีดร้องดังขึ้นไปอีก แต่ฮาวเวอร์กลับไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น จนถึงตอนที่เสียงนั้นหยุดลงเมื่อปลายดาบเฉือนเข้าที่คอบาดลึกไปถึงกล่องเสียงของนาง ความทรมานยิ่งเพิ่มทวีคูณเมื่อร่างนั้นเร่งการฮิลลิ่งตัวเองให้ตายช้าเพื่อรอให้การโจมตีนี้หยุดลง แต่มันไม่หยุด มันดำเนินต่อไป นานเท่านาน นานจนพื้นดินเปลี่ยนสีเป็นแดงฉาน นานจนสองตาของนางไม่อาจมองภาพตรงหน้าเป็นสีอื่นนอกจากสีแดงสด นานจนมนุษย์ตัวน้อยถูกย้อมเป็นสีเลือด นานจนนางลืมความเจ็บปวดบนร่างกายและถอดใจที่จะหายใจต่อ


PENSAMENTOS DOS CRIADORES
LOANO LOANO

เยอะไปปะ?

ช่างเหอะ ( -.,-)

Load failed, please RETRY

Status de energia semanal

Rank -- Ranking de Poder
Stone -- Pedra de Poder

Capítulos de desbloqueio em lote

Índice

Opções de exibição

Fundo

Fonte

Tamanho

Comentários do capítulo

Escreva uma avaliação Status de leitura: C15
Falha ao postar. Tente novamente
  • Qualidade de Escrita
  • Estabilidade das atualizações
  • Desenvolvimento de Histórias
  • Design de Personagens
  • Antecedentes do mundo

O escore total 0.0

Resenha postada com sucesso! Leia mais resenhas
Vote com Power Stone
Rank NO.-- Ranking de Potência
Stone -- Pedra de Poder
Denunciar conteúdo impróprio
Dica de erro

Denunciar abuso

Comentários do parágrafo

Login