บทที่ 523 : สะท้านสี่ทิศ!
__________________________________________________
ตอนเที่ยง
เก้าแผ่น…
สิบแผ่น…
กระดานไวท์บอร์ดเปล่า ถูกเขียนเต็มไปแล้วสิบสี่แผ่น
บรรดานักข่าวในพื้นที่เองก็รีบต่อสายกลับสถานีทันที
"มาเร็ว มีเรื่องแล้ว!"
"มีอะไร?"
"บอกแค่คำสองคำไม่รู้เรื่องแน่ รีบๆ ส่งคนมาก่อน สักหลายคนหน่อย อ่อ ส่งเครื่องมือมาให้พร้อม บอกฝั่งสำนักพิมพ์ให้เว้นพาดหัวข่าวฉบับบ่ายไว้ด้วย!"
"หา? พาดหัว?"
"ใช่!"
"แต่ว่าวันนี้พาดหัวคอนเฟิร์มแต่เช้าแล้วว่าเป็นเรื่องชู้ของเจียฉีนี่ แน่ใจนะว่าฝ่ายนายข่าวใหญ่กว่า?"
"ฉันแน่ใจที่สุด! เจียฉีจะมีชู้ก็ช่างหัวมัน! จะไปกระโดดตึกที่ไหนก็ไม่ได้พาดหัวหรอก! ฝั่งฉันเป็นข่าวใหญ่สุดยอด! เกี่ยวพันกับชื่อเสียงของชาติ!"
"ได้ๆ รู้แล้ว จะส่งคนไปช่วยเดี๋ยวนี้!"
"มาเร็วเข้า เรื่องข้อมูลฉันจะบอกพวกนายระหว่างทาง!"
ด้านหน้า
จางเย่ยังคงทำการพิสูจน์ต่อไป
ด้านหลังเป็นเหล่านักคณิตศาสตร์หัวกะทิของทุกชาติที่ยืนอยู่รายล้อม หลายคนหยิบปากกาขึ้นมาคำนวณ ตรวจสอบสูตรและแนวทางการคิดคำนวณตามเขาไปด้วยติดๆ ขณะที่บางคนไปได้ครึ่งทางก็ต้องตบหัวส่ายหน้ายอมแพ้ ส่วนคนที่พยายามไปต่อ แต่ก็ได้ไม่นาน ก่อนยอมวางมือไปช้าๆ ทีละคนๆ!
เพราะอะไร?
เพราะตามเขาไม่ทันน่ะสิ!
ตามเขาไม่ทันแม้แต่นิดเดียว!
นักคณิตศาสตร์หญิงจากอังกฤษและชายอีกสองคนจากฝรั่งเศสบังเอิญเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องที่จางเย่กำลังทำการพิสูจน์ ทั้งสามเดินตามจังหวะของจางเย่เพื่อทำการทดสอบสมการ แต่พวกเขาก็พบว่าแม้จะไม่จำเป็นต้องคำนวณอะไรมากขนาดนั้น และไม่ได้ทำตามลำดับที่จางเย่กำลังคำนวณ พวกเขาก็ยังตามจางเย่ไม่ทันอยู่ดี อีกแล้ว! ขณะที่พวกเขากำลังคำนวณสมการ จางเย่ก็เข้าสู่สมการที่สามในกระดานถัดไป!
นี่มันประหลาดเกินไป!
นายไปกินจรวดที่ไหนมา!?
เหล่านักคณิตศาตร์ต้องอ้าปากตาค้างกันอีกครั้ง อย่างที่ผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งว่าไว้ ความเร็วนี้บ้าคลั่งเกินไป! นี่นายไม่ต้องหยุดคิดหยุดร่างเลยรึ? คำนวณสมการใหญ่ขนาดนี้ในใจไหว? แถมยังไม่มีการลังเลเลยสักนิด? ขนาดพวกเราหลายคนกำลังคำนวณตามหลัง ก็ยังตามนายไม่ทันเลยนะ? นี่ เราเพิ่งจะดูบทแรกเสร็จ นายก็คำนวณไปจนจบแล้ว? พวกเราช้ากว่านายที่ต้องทำทั้งการคำนวณ คิดและสรุปผลอีกรึ!?
มีคนยอมแพ้แล้ว
และเหลือคนเดินตามเขาช้าๆ เพียงส่วนน้อย ในเมื่อพวกเขาตามจังหวะของจางเย่ไม่ทัน ดังนั้นจึงต้องค่อยๆ ทำการยืนยันบทพิสูจน์ส่วนก่อนหน้าอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เวลาเคลื่อนผ่านไปทีละเล็กทีละน้อย
ทางพวกผู้ชมหลายคนหาที่นั่งกินข้าวดื่มน้ำไปพลางๆ แล้ว
เหล่านักข่าวถือโอกาสพักเช่นกัน นอกจากตากล้องของหลายสถานีที่กำลังยืนบันทึกภาพอยู่ ทุกคนต่างถือโอกาสเติมแรง ไม่อย่างนั้นใครจะไปทนไหว!
จางเย่ก็เช่นกัน เขาไม่ได้หล่อหลอมมาจากเหล็ก ท้องเองก็คอยส่งเสียงร้องโครกครากประท้วงอยู่ ถึงอย่างนั้นเขากลับไม่วางปากกา ทำเพียงยื่นมือหนึ่งมากุมท้อง
หวงหลิงหลิงยืนอยู่ข้างหลังจางเย่เห็นแบบนั้นก็เป็นห่วง อดถามไม่ได้ว่า "อาจารย์จาง หิวหรือเปล่าคะ?"
จางเย่หัวเราะ "นิดหน่อย"
หวงหลิงหลิงรีบพูด "งั้นทานข้าวก่อนไหมคะ!"
ผู้ชมพลันเอะใจ หิวแล้ว? นั่นสิ เขาเขียนมาทั้งเช้าแล้วนี่!
"กินข้าวเหรอ?" จางเย่เดาะลิ้น หันหลังมอง อ้าว.. ทำไมคนยืนข้างหลังเยอะแยะขนาดนี้เนี่ย? สามวงในสามวงนอก มามุงเขากันหมดเลยเหรอ!
พอฟังเช่นนั้น ซินหย่าก็ก้าวออกมาทันที "ฉันมีขนมปังอยู่ เธอเอาไปกินก่อนสักคำสองคำสิ" พูดจบก็เอาขนมปังซึ่งราดซอสมะเขือเทศออกมาจากกระเป๋ายื่นให้เขา ถึงเวลาสำคัญเช่นนี้ เธอและเหล่านักคณิตศาสตร์ของจีนไม่ต้องการให้จางเย่หยุดมือ การศึกษาเรื่องนี้ต้องการแรงบันดาลใจอย่างหนึ่ง ถ้าเกิดแรงบันดาลใจขาดหาย อย่างนั้นก็ไม่ดีแล้ว แม้ซินหย่าจะเถียงกับจางเย่ครึ่งค่อนวัน แต่พอมาถึงเวลาสำคัญของชาติและเกี่ยวพันกับชื่อเสียงของประเทศ จุดยืนของเธอก็ชัดเจนยิ่ง จึงไม่พูดอะไรมาก พร้อมจะออกแรงสนับสนุนให้จางเย่ทำการแก้โจทย์ต่อเต็มกำลัง!
จางเย่มองขนมปัง งอแง "ผมไม่ชอบกินมะเขือเทศอ่ะ"
ซินหย่าแทบจะทุบตีคน "..."
จางเย่กระพริบตาปริบๆ "มีขนมปังช็อกโกแลตไหมครับ?"
ซินหย่าข่มความคันไม้คันมือไว้ เวลาแบบนี้ยังจะเลือกมากอีก?
จางเย่กระแอม "รสแคนตาลูปผมก็พอกินได้นะ"
นักคณิตศาสตร์คนหนึ่งที่ก่อนหน้านี้ได้ถกเถียงกับจางเย่มาก่อนลังเลชั่วขณะ สุดท้ายได้แต่เปิดกระเป๋า หยิบนมกล่องหนึ่งกับช็อกโกแลตเค้กชิ้นหนึ่งออกมา วันนี้เนื่องจากมีการแข่งขันเกือบทั้งวัน ในพระราชวังฤดูร้อนเองก็หาของกินยาก บางคนจึงเตรียมอาหารมาเอง เขาส่งเค้กให้ "เค้กช็อกโกแลตได้ไหม?"
จางเย่ยังงอแง "น้อยจังเลย"
นักคณิตศาสตร์หนุ่มหน้าเครียด "...."
"ผมกินๆ ไปก่อนก็ได้" จางเย่หยิบเค้กช็อกโกแลตขึ้นมา แกะกินได้สามสี่คำก็หมด จากนั้นสายตาก็ยังไม่ละไปจากกระเป๋าของนักคณิตศาสตร์หนุ่ม มองนมกล่องในกระเป๋านั้นตาวาว เขาไม่เอ่ยปาก ไม่พูดจา เพียงจ้องมองอยู่อย่างนั้น
ชายหนุ่มได้เห็นนิสัยที่ไม่ควรพูดถึงของจางเย่อีกครั้งหนึ่ง ได้แต่เอานมออกมาโดยไม่พูดไม่จา ส่งให้อีกฝ่ายอย่างปวดใจ ความจริงเขาเองก็หิวแล้วเหมือนกันนะ!
จางเย่ไม่เกรงใจแม้แต่น้อย รับมาเจาะดื่มทันที "ขอบคุณมากสหาย!"
นักคณิตศาสตร์หนุ่มโอดครวญในใจว่าใครเป็นเพื่อนนายกัน!
เขากินพลางดื่มพลาง นักคณิตศาสตร์บางคนก็หิว เริ่มแยกย้ายกันไปกินข้าว
สุดท้ายศาสตราจารย์ผู้เฒ่าที่ก่อนหน้านี้ถกเถียงกับจางเย่ เอาขนมจ้าง[1]ไส้พุทราจีนออกมาก้อนหนึ่ง ขณะที่แกะห่อกำลังจะกิน จางเย่ก็หันขวับมามองด้วยสายตาเป็นประกายวิบวับ ดื่มนมพลางมองขนมจ้างไปด้วยอย่างไม่พูดจา
ศาสตราจารย์ผู้เฒ่าแทบจะเป็นลม มาดูข้าวฉันทำไม!
จางเย่ยังคงมองต่อไป
ชายหนุ่มตอนนี้กลายเป็นจุดสนใจของผู้ชม สายตาทุกคู่ล้วนจับจ้องมองมาทางด้านเขาด้วย เมื่อเห็นว่าจางเย่มองไปทางด้านข้าง ผู้ชมด้านนอกก็มองด้วย ส่วนเหล่านักคณิตศาสตร์และสื่อในพื้นที่ก็เช่นกัน ต่างมองไปยังศาสตราจารย์ผู้เฒ่า มองตามไปถึงขนมจ้างพุทราแดง บรรยากาศในตอนนี้แปลกประหลาดจริง!
ศาสตราจารย์ผู้เฒ่าแทบกระอักเลือด มีสายตาหลายร้อยคู่มองขนมจ้างในมือเขา ในงานเองก็เงียบกริบ ไม่มีแม้แต่เสียงหายใจ เป็นความแปลกประหลาดที่ไร้หนทางจะบรรยายเป็นคำพูดได้ แม้ไม่ใช่คนเริ่ม แต่ก็พอจะรู้สึกได้ถึงความอึดอัดใจ สุดท้ายศาสตราจารย์ผู้เฒ่าทนไม่ไหว หยิบขนมจ้างอีกสองลูกส่งให้ศิษย์ที่ยืนข้างๆ "เอาไปให้...ให้อาจารย์จางเถอะ" เคืองส่วนเคือง แต่เวลาเช่นนี้มีเรื่องสำคัญยิ่งกว่า จางเย่แสดงทักษะพรสวรรค์คณิตศาสตร์สะท้านใจผู้ชมแล้ว ศาสตราจารย์ผู้เฒ่าเองก็ได้แต่เปลี่ยนคำเรียกหาเขาเป็นอาจารย์เช่นกัน
จางเย่โบกมืออย่างแช่มชื่น "ขอบคุณคร้าบบบบ"
ซินหย่ามองค้อนเขา "อยากได้อะไรก็บอก พวกเราจะจัดการให้"
จางเย่อ้อคำหนึ่ง สายตามองไปยังอู๋เจ๋อชิงแวบหนึ่ง "ท่านรองอธิการฯ อู๋เหมือนจะยังไม่กินอะไรเหมือนกันนะ ยังมีข้าวปั้นเหลือไหมครับ?"
"เฮ้ย!" เหล่าผู้ชมหลายคนแทบเป็นลม!
นายคนเดียวยังไม่พอ ยังจะห่วงรองอธิการฯ อู๋เขาอีก?
ศาสตราจารย์ผู้เฒ่าโมโหจนจะเป็นลม หน้าเธอทำไมถึงได้หนาขนาดนั้น! ยังจะเอาข้าวปั้นของฉันไปเป็นน้ำใจให้รองอธิการฯ อู๋อีก?
เหล่านักคณิตศาสตร์ฝ่ายจีนคนอื่นๆ พอได้ยินก็พูดไม่ออกกันทุกคน โอดครวญในใจว่าในเวลาคับขันแบบนี้ก็รีบๆ เขียนเข้าเถอะ เวลาแบบนี้ยังจะหาทางจีบผู้บริหารของเป่ยต้าทำบ้าอะไรกันวะ!
อู๋เจ๋อชิงคลี่ยิ้มน้อยๆ
ซินหย่าจ้องจางเย่ "ข้าวของท่านรองอธิการฯ อู๋ฉันจะจัดการให้เอง"
จางเย่คิดจะเตือนว่าคุณอู๋ชอบกินอาหารจืดสักหน่อย แต่ยั้งไว้ไม่ได้พูดมันออกไป เขาได้แต่ก้มหน้ากิน หลังกินขนมจ้างไปสองก้อนก็ดื่มนมต่อ พอกินจนอิ่ม เขาพลันรู้สึกแปลกๆ ทั้งที่ดื่มนมไม่ทันหมด ..แม่*มันเถอะ! มีคนตั้งมากมายจ้องเขาดื่มนมขนาดนี้ เพิ่งเคยเจอครั้งแรกนี่แหละ!
ช่างเถอะ
ลูกพี่เขียนต่อก็ได้
จางเย่กินอิ่มแล้วก็รีบขยับปากกาต่อ ทำการพิสูจน์ของเขาต่อไป ตอนนี้เขียนไปสิบเจ็ดแผ่นแล้ว
……
สี่สิบนาทีให้หลัง
ทันใดนั้น โทรศัพท์ของนักคณิตศาสตร์คนหนึ่งดังขึ้น พอรับสายเสร็จเขารีบบอกคนข้างๆ "ผู้เฒ่าหรงกับศาสตราจารย์ฉีมาถึงแล้ว"
ทุกคนพลันตื่นเต้นกันสุดๆ!
วังอี้หมิงกล่าวขึ้น "ไปกัน พวกเราไปรับกัน"
ซินหย่าเห็นด้วย "ฉันไปด้วย"
พวกเขาตรงเข้าไปต้อนรับทั้งผู้เฒ่าหรงและศาสตราจารย์ฉี ทั้งสองคือบุคคลระดับเทพของวงการคณิตศาสตร์จีน อีกทั้งมีชื่อเสียงอยู่ในระดับโลก อย่างผู้เฒ่าหรง เคยได้รับรางวัลระดับนานาชาติมาแล้วสามครั้ง แม้จะไม่ใช่รางวัลเหรียญทอง แต่ก็ไม่ใช่ระดับต่ำๆ โดยเฉพาะรางวัลในประเทศยิ่งนับไม่หวาดไม่ไหว แค่สถิติที่เก็บไว้ก็ไม่มีใครตามทันได้ ขนาดฝ่ายอเมริกาคิดจะเชิญเขา ก็ยังโดนท่านผู้เฒ่าปฏิเสธไป เขาตั้งใจอุทิศชีวิตทำงานนี้แก่วงการคณิตศาสตร์ของจีนตลอดชีวิต ทางฝ่ายศาสตราจารย์ฉี เป็นปรมาจารย์ในวงการของจีนเช่นกัน เขามักมีผลงานใหญ่ๆ ในโครงการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ของประเทศ อย่างปีก่อน ที่เขาเพิ่งจะได้รับรางวัลสูงสุดของวงการ ล้วนเป็นหลักฐานยืนยันความเก่งกาจ
ต่อหน้าทั้งสอง เหล่านักคณิตศาสตร์ชาวจีนทั้งหลายคล้ายเป็นเด็กนักเรียนและผู้เยาว์ ทุกคนย่อมกระตือรือร้นที่จะเข้าไปต้อนรับ
ไม่ห่างสักเท่าไร ผู้เฒ่าหรงกับศาสตราจารย์ฉีพากันเดินมาช้าๆ ท่าทางดูตื่นเต้นกันสุดๆ!
พวกเขาไม่ได้มากันแค่สองคน ในบรรดานั้นยังมีศาสตราจารย์ของชิงหัวอีกสองท่าน รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยท่านหนึ่ง สมาชิกอาวุโสของสมาคมการศึกษาแห่งหนึ่ง ทุกคนล้วนแต่เป็นผู้มีชื่อเสียงในวงการ พอรับสายทราบความแล้วก็รีบเดินทางมาทันที ใบหน้าแต่ละคนเต็มเป็นไปด้วยความสงสัยและประหลาดใจ หากเป็นประเทศอื่นที่พิชิตปัญหาเรื่องความคาดการณ์ของเดลได้เช่นนี้ พวกเขาเพียงชื่นชมยกย่อง แต่คงไม่ตื่นเต้นขนาดนี้ ทว่าคราวนี้พอทราบว่าเป็นคนของชาติตนเอง อารมณ์ความรู้สึกย่อมแตกต่าง!
ทำได้ดีเยี่ยม!
ช่างทำให้พวกเขาได้หน้าไปด้วย!
ผู้เฒ่าหรงเป็นชายชราวัยเจ็ดแปดสิบ ผมขาวตัดสั้นเกรียน สุขภาพดีอยู่ เดินขึ้นบันไดยังไม่ต้องใช้ไม้เท้าพยุง เพียงแต่ฝีเท้าดูเนิบช้ากว่าคนหนุ่มเท่านั้น เมื่อเห็นวังอี้หมิงกับพวกแต่ไกลก็ตะโกนเรียกดังลั่น "ฮ่าๆ เสี่ยววัง!"
วังอี้หมิงรีบก้าวเข้าไปสองก้าว "ผู้เฒ่าหรง"
ผู้เฒ่าหรงพูดชมเชยอย่างต่อเนื่องและยอมรับ "เธอไม่เลวเลย ไม่เลวเลยจริงๆ ข้อความคาดการณ์ของเดลมีมาหลายสิบปี เธอผลักดันการพิสูจน์เข้าไปได้?"
วังอี้หมิงสงสัย "ผม?"
ผู้เฒ่าหรงงุนงง "ไม่ใช่เธอหรือ?"
พวกเขายังไม่รู้เรื่องอะไร ระหว่างทางยังคุยกันอยู่ คิดว่าเป็นหนึ่งในทีมที่ควบคุมการแข่งขันครั้งนี้เสียอีก
วังอี้หมิงยิ้มเจื่อน "ไม่ใช่ผมครับ"
ศาสตราจารย์ฉีอายุน้อยกว่าหน่อย อยู่ในวัยหกสิบกว่า ฟังแล้วก็กระแอมครั้งหนึ่ง หันมองซินหย่า "ซินหย่า? หรือว่าเป็นยัยหนูอย่างเธอ?"
สายตาของพวกเขาหันมองซินหย่า
ซินหย่าเหงื่อตก "ไม่ใช่ฉันค่ะ ฉันจะไปมีความสามารถระดับนั้นได้ยังไงคะ!"
รองประธานสมาคมคณิตศาสตร์ท่านหนึ่งที่ด้านหลังสงสัย "งัั้นเป็นใครกัน? ศาสตราจารย์โจว? หรือว่าเป็นศาสตราจารย์อู๋? พวกเขาสองคนไม่ได้ชำนาญเรื่องทฤษฎีจำนวนนี่นา?"
ศาสตราจารย์ฉี "สรุปว่าเป็นใครกันแน่?"
นี่คือสิ่งที่ทุกคนสงสัย สรุปว่าในพวกเรามีใครร้ายกาจขนาดนี้?
หานเหอเหนียนยังด้อย ได้แต่ยืนข้างๆ ไม่พูดจา
วังอี้หมิงไม่ทราบจะพูดอย่างไรดี "ผม เอ่อ อาจารย์ทุกท่าน ...ชมดูแล้วจะทราบเองครับ"
ผู้เฒ่าหรงสงสัย "เอ๊ะ ทำไมพวกเธอแต่ละคนเอาแต่บ่ายเบี่ยงกันล่ะ บอกชื่อมาตรงๆ ก็จบแล้วไม่ใช่รึ สาขาอื่นฉันไม่รู้ แต่ในวงการนี้ ขอแค่มีชื่อสักหน่อย ฉันจำได้หมดนั่นแหละ"
ซินหย่าได้แต่หัวเราะเจื่อนๆ "หมอนี่ ท่านไม่รู้จักแน่ๆ ค่ะ"
"ฉันไม่รู้จัก?" ผู้เฒ่าหรงไม่เชื่อจริงๆ
พูดถึงตรงนี้ ทุกคนก็เดินมาถึงที่ลานกว้าง
เหล่านักคณิตศาสตร์ที่เพิ่งมาถึงยืนนิ่งครู่หนึ่ง มองไปยังบริเวณที่มีคนยืนหนาแน่นที่สุด ไม่เห็นตัวใครเพราะเบียดกันแน่นหนา แต่กับกระดานไวท์บอร์ดทั้งสิบกว่าแผ่นนั้น กลับปรากฏแก่สายตาอย่างชัดเจน แค่เห็นสูตรทั้งหลายนั้น ทุกคนราวกับแมวได้เจอหนู ประกายตาวาววาบ ต่างเร่งเดินเข้าไปชมกระดานไวท์บอร์ดทั้งหมดอย่างมุ่งมั่นสุดๆ!
จากนั้นผู้เฒ่าหรงพลันอุทานขึ้นคำหนึ่ง "ยอดเยี่ยม! งดงามมาก!"
ศาสตราจารย์ฉีมองคร่าวๆ ก็ทราบแนวคิดในการพิสูจน์ครั้งนี้ สองตาเป็นประกาย ปรบมือฉาดใหญ่กล่าว "เป็นเส้นโค้งเชิงวงรีที่ยอดเยี่ยม! ลดรูปลงมาได้แบบนี้ หมอนี่เป็นอัจฉริยะแน่นอน! ถ้าความเป็นมอดูลาร์นี้พิสูจน์ได้ เท่ากับว่าข้อความคาดการณ์ของเดลพิสูจน์ออกมาได้ครึ่งทางแล้ว! ฉันก็ว่าทำไมพวกเธอถึงได้รีบตามพวกเรามา ที่แท้เพราะมีคนพิสูจน์ข้อคาดการณ์นี่ได้ถึงขั้นนี้นี่เอง!"
ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยชิงหัวหัวเราะ "จีนเราในที่สุดก็ได้สร้างชื่อในการแข่งโอลิมปิกแล้ว! เป็นการลดรูปที่ยอดเยี่ยม! เป็นแนวคิดที่ทรงคุณค่ายิ่ง!"
ผู้เฒ่าหรงรีบก้าวไปต่อ "สรุปเป็นใครกัน? ไม่ใช่พวกเรา? นักคณิตศาสตร์ของประเทศเรามีคนร้ายกาจขนาดนี้ด้วย?"
คนอื่นๆ รีบเดินตามเขามา ต่างหน้าแดงหน้าขาวมองหน้ากันด้วยความลำบากใจ
ยิ่งมายิ่งใกล้!
กลุ่มชนนั้น เดินมาถึงแล้ว!
พอเห็นใบหน้าด้านข้าง ทุกคนพลันต้องชะงักกึก!
ศาสตราจารย์ฉี "หนุ่มขนาดนี้เชียว?"
ผู้เฒ่าหรงเดิมไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมากนัก เขาแค่คิดว่าใครคนนั้นคงอายุไม่ห่างกับเขาเท่าไร ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเพียงเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ความรู้ในวงการคณิตศาสตร์ไม่เหมือนวงการอื่น ด้วยเพราะองค์ความรู้มีความลึกซึ้งกว้างขวาง ต้องใช้เวลาศึกษาอย่างต่อเนื่องสั่งสมประสบการณ์ไม่หยุดเป็นเวลาหลายปี สำหรับเด็กหนุ่มวัยยี่สิบกว่าปี ได้แต่เรียกว่าเป็นยอดในยอดอัจฉริยะเท่านั้น เพราะเวลาศึกษามีน้อย ประสบการณ์สั่งสมไม่มากพอ โอกาสประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่จึงมีน้อยยิ่งกว่าอีก ในฐานะนักคณิตศาสตร์ ตามธรรมเนียมในวงการ อายุไม่ถึงสี่สิบถือว่ายังหนุ่ม ซึ่งเป็นที่รับทราบกันทั่วไป
ดังนั้นพอเห็นเขาคนนี้เพิ่งมีอายุยี่สิบกว่า ทุกคนจึงได้ตื่นตระหนกจนเก็บอาการไม่อยู่!
มีคนพูดกันต่ออีก
"เอ๊ะ ทำไมดูคุ้นๆ จัง?"
"เหมือนดาราสักคนเนอะ?"
"เอ้อ ไอ้เจ้าเบรนโกลด์นั่นยังไงล่ะ ชื่ออะไรนะๆ"
"จางเย่ใช่ไหม?"
"เอ้อ คล้ายๆ จางเย่อยู่นะ"
"ไม่เลว พ่อหนุ่มคนนี้ไม่เลว เพิ่งจะยี่สิบกว่า? ช่างมีอนาคต! เขาอยู่ที่สถาบันไหน? หรือว่าสอนในมหาลัย?" ผู้เฒ่าหรงถามด้วยจิตใจรักผู้มีความสามารถ!
"ช่างเถอะ ยิ่งมองยิ่งเหมือนจางเย่จริงๆ แฮะ" ศาสตราจารย์ฉีไม่ใช่คนที่ไม่สนใจข่าวสารไม่สนใจโทรทัศน์ เขาเพียงพูดยิ้มๆ
เหล่านักคณิตศาสตร์ที่มากันใหม่ ต่างหันมาพูดกันจนวุ่นวาย
วังอี้หมิงกระแอมครั้งหนึ่ง มือลูบจมูกบอกกับทุกคนว่า "ไม่ใช่เหมือนจางเย่หรอกครับ คนคนนี้...คือจางเย่เอง!"
พอคำนี้กล่าวจบ อากาศคล้ายผนึกแข็งค้าง เงียบไปวินาทีหนึ่ง!
"หา?"
"เธอว่าอะไรนะ?"
"จางเย่?"
"เธอบอกว่า คนที่เขียนสูตรคำนวณพวกนี้คือดาราในวงการบันเทิงงั้นเหรอ?"
วังอี้หมิงพยักหน้า
ซินหย่าหัวเราะเจื่อนๆ
ศาสตราจารย์ฉีกับพวก “……*¥*&%&¥##@@!!!!”
====================
[1] ขนมจ้าง หรือจ่าง คำว่าจ้าง หมายถึง อาหารประเภทข้าวหรือข้าวเหนียวที่ห่อในใบไผ่ ไส้จะเป็นอะไรก็ได้
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*