'ท่าทางจะไม่ใช่คณะพ่อค้าธรรมดานะเจ้าชาย' ดวงจิตที่ล่องลอยอยู่กลางอากาศเอ่ยขึ้นด้วยความสัตย์ซื่อ พูดคุยภายในจิตใจกับเมงจีสวากำลังเปลี่ยนองค์ทรงเครื่องแวดล้อมด้วยพระพี่เลี้ยง
'การค้าวาณิชเสริมสร้างรากฐานราชสำนักให้ยิ่งใหญ่ คณะที่มาย่อมไม่ใช่พ่อค้าดาษดื่นเหมือนที่เราเห็นในตลาด ปกติก็น่าจะเป็นหน้าที่พวกกรมวัง ไฉนคราวนี้เสด็จย่าให้เราไปรับ' เจ้าชายขมวดพระขนงค์ไปพลางเปลี่ยนกองบองโพกศีรษะ
'เห็นจะสนิทชิดเชื้อกันมาแต่ก่อนไม่ใช่หรือพระองค์'
'ท่าทางเจ้าจะว่าง่ายพาซื่อเชื่อคำเสด็จย่าข้ามากเกินไปแล้วนาถะยา สนิทอย่างไรคนในวังถึงออกไปรับกันเล่า' เจ้าชายรับสั่งพลางอมยิ้มหัวเราะที่มุมปาก เป็นฝ่ายนาถะยาคิ้วกระตุกบ้างเมื่อได้ยิน ร่างที่ลอยอยู่ตะบึงลงสู่พื้นก่อนไปนั่งบนพระแท่นใกล้ ๆ
'แต่ข้อนี้ประหลาดนัก สมัยก่อนเรายังเด็ก แล้วเสด็จย่าว่าราชการไม่เคยให้ข้ายุ่งกับเรื่องราชกิจเลยแท้ ๆ ' เจ้าชายตรัสต่อ นาถะยาที่ลงไปนอนเอกเขนกบนเตียงเจ้าชาย หันมาทำท่ามือข้างหนึ่งหนุนศีรษะ ปลายขาพาดกันแล้วเขย่าข้อเท้าไปพลางพูด
'จากเนื้อความลางที พระนางอาจทรงไว้ใจพระองค์ยิ่งขึ้นก็เป็นได้ จึงได้มอบหน้าที่แก่พระองค์ ดูสิ พักหลังมานี้ก็ทรงปรับปรุงตัว ตั้งใจเรียน มิชั่วร้ายนิสัยเกเรนอนเอกเขนกสำราญกินบ้านกินเมืองดั่งเช่นกาลก่อน แม้แต่คนในตำหนักนี้ยังเอ่ยปากชม'
เจ้าชายส่งสายพระเนตรเขม่นใส่นาถะยา แต่คราวเคราะห์ของหน่องจาผู้ที่กำลังแต่งตัวอยู่ทิศทางนั้นเป็นผู้รับเคราะห์แทน พี่เลี้ยงรู้สึกสะดุ้งโหยงแกมขนลุก เพราะเขานึกว่าตนพลั้งเผลอไปกระทำอันใดให้เจ้าชายไม่พอใจ
เจ้าชายไม่ได้รับสั่งอะไรกับบ่าว กับกันภายในหัวถ้อยคำกำลังถาโถมใส่ดวงจิตที่กำลังกระดิกเท้าอยู่บนเตียงตน
'ฮึ อ้ายผีปากคอเราะราย ไม่แขวะสักวันจะขาดใจตายหรือไร...ข้าไม่ได้ชั่วหรือนอนเอกเขนกถ่ายเดียวเสียหน่อย เจ้าจะมัวแต่เล่นหรือจะกลับมาคุยเรื่องการเรื่องงานกัน'
นาถะยาเค้นหัวเราะอย่างสำราญ ท่าทางพึงพอใจที่ได้เอาคืนเจ้าชายให้หัวเสียไปได้ในคราวนี้ เจ้าตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะยกมือพนมแนบอก สื่อเป็นนัยว่าขออภัย และขอความเมตตาให้แล้วต่อกันไปก่อน
'เอาเถิด เสด็จพ่อกับเสด็จปู่อยู่ราชการต่างเมือง ราชกิจน้อยใหญ่ในหงสาเสด็จย่าก็คอยดูแล ถึงจะสงสัยแต่จะขัดก็ไม่ควร' เจ้าชายตรึกตรองระหว่างมองพระฉายไปพลาง
'อย่างไรก็ไม่น่าจะขัดกับแผนเดิมที่เราจะออกนอกวังนี่พระเจ้าข้า เดิมทีเราจะไปผูกมิตรขุนนางด้านนอก แต่ช้าเร็วเราก็ต้องผูกมิตรกับพวกพ่อค้า เป็นพ่อค้าใหญ่เสียด้วย ถือซะว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวนะพระองค์'
เจ้าชายแต่งองค์เสร็จ ทรงหันไปทางนาถะยา รอยแย้มพระสรวลปรากฏขึ้นบนพระพักตร์เจ้าชาย
'หรือไม่อาจจะสามตัว ถ้าหากข้าผูกมิตรกับขุนนางผู้นั้นได้ บางทีอาจไขข้อสงสัยเรื่องกลุ่มวาณิชกลุ่มนี้ไปด้วยก็ได้'