アプリをダウンロード
3.8% ราชันเร้นลับ / Chapter 44: 0044 ชะตา

章 44: 0044 ชะตา

ราชันเร้นลับ 44 : ชะตา

บทกลอนชวนหลับใหลที่เลียวนาร์ดขับขานดังกังวานทั่วบันไดวนที่ทำจากไม้ เสียงลุ่มลึกเล็ดลอดผ่านบานประตูเข้าไปในห้อง

จิตไคลน์เกิดการงัวเงียเล็กน้อย คลับคล้ายได้เห็นแสงจันทร์สาดส่องบนผิวน้ำยามค่ำคืนที่เรียบสงบไร้คลื่น

เปลือกตาเริ่มหนักอึ้ง ร่างกายโงนเงนราวกับจะล้มทั้งยืน

ท่ามกลางความรู้สึกเดจาวูเลือนราง ชายหนุ่มสัมผัสได้ว่า มีบางสิ่งกำลังจ้องมองแผ่นหลังของตน มันทั้งไร้รูปร่างและไม่ชัดเจน ราวกับกำลังท่องตระเวนไปทั่วโลกวิญญาณ

ขณะดำดิ่งไปกับภาพมายา ไคลน์รีบดึงจิตกลับมาและทำสมาธิเพื่อเข้าฌาน

ด้วยสัมผัสวิญญาณที่เฉียบแหลมรวมถึงสมาธิอันเข้มข้น ไคลน์หลุดพ้นจากบทเพลงหลับใหลของนักกวีเที่ยงคืนอย่างฉิวเฉียด

แต่ถึงมันจะครองสติได้ ภาพการมองเห็นรอบตัวยังคงเฉื่อยชาและจืดชืดปราศจากอารมณ์

ผ่านไปราวหนึ่งอึดใจ เลียวนาร์ดหยุดขับขานพลางหันมองไคลน์ด้วยรอยยิ้ม

“ผมเคยคิดมาสักพักแล้ว ว่าควรเบิกเงินหัวหน้าเพื่อซื้อพิณสักตัว การร้องเพลงอย่างเดียวโดยไม่มีเครื่องดนตรีประกอบช่างน่าเบื่อและไร้อารยะ คุณไม่คิดเช่นนั้นบ้างหรือ? ฮะฮะ! ผมล้อเล่น เอาล่ะ… ฟังจากเสียงด้านใน ตอนนี้พวกมันคงหลับกันหมดแล้ว”

เหยี่ยวราตรีผมดำนัยน์ตาเขียวผู้มีบรรยากาศนักกวี เลียวนาร์ด·มิเชล มันเดินไปหยุดยืนหน้าประตูซึ่งกั้นแบ่งระหว่างพวกตนกับคนร้ายลักพาตัวและเหยื่อ

ในวินาทีที่หัวไหล่เริ่มขยับ เลียวนาร์ดชกใส่กลอนประตูจนพังในหมัดเดียว

เปรี้ยง!

กลอนประตูถูกตกหล่นเข้าไปด้านในจนเกิดรูโหว่ขนาดใหญ่บนบานไม้

“การจะทำแบบนี้ได้ คุณต้องมีความแม่นยำและชำนาญมาก”

เลียวนาร์ดหันมายิ้มให้ไคลน์ขณะใช้มือล้วงเข้าไปปลดกลอนแบบขัด

ชายหนุ่มเริ่มได้สติกลับมา แต่มันไม่กล้าประมาทแบบเลียวนาร์ด ลูกโม่ถูกชักออกจากซองรักแร้ซ้ายอย่างชำนาญ ไคลน์ปลดโม่และหมุนหนึ่งช่องเพื่อให้กระสุนพร้อมยิงในนัดถัดไป

เมื่อประตูถูกเปิดอ้าเต็มบานด้วยฝีมือเลียวนาร์ด ไคลน์มองเข้าไปและพบกับชายคนหนึ่งกำลังหลับฟุบโต๊ะ ฝ่ามือห้อยลงกับพื้น ปลายนิ้วมีปืนกระบอกหนึ่งตกอยู่

ส่วนอีกคนกำลังขยี้ตาด้วยท่าทางงัวเงียอยู่บนพื้น พยายามอย่างหนักที่จะพยุงตัวลุกขึ้น

เปรี้ยง!

เลียวนาร์ดซัดเข้าไปหนึ่งหมัดจนสลบซ้ำ

ขณะไคลน์กำลังจะเดินตามเข้าไป มันสัมผัสถึงความผิดปรกติจากชั้นล่าง ชายหนุ่มรีบหันปืนลูกโม่เล็งจ่อทางเดินบันไดทันที

กึก กึก กึก!

เสียงฝีเท้าเข้าใกล้ทุกขณะ บุคคลที่ปรากฏเบื้องหน้าไคลน์คือชายโค้ทน้ำตาลซึ่งไม่สวมหมวก มือของมันถือถุงกระดาษที่บรรจุขนมปังหลายชิ้น

เมื่อแหงนมองพบปากกระบอกปืน ชายโค้ทน้ำตาลชะงักฝีเท้าทันที

นัยน์ตาหดลีบเล็กตามสัญชาตญาณ แววตาสะท้อนภาพของบุรุษหนุ่มสวมหมวกทรงกึ่งสูง สูทดำ เชิ้ตขาว โบว์หูกระต่ายสีดำเข้าชุด ไม้ค้ำเลี่ยมเงินที่ถูกพาดราวบันได และปืนลูกโม่สุดอันตรายในมือ

“อย่าขยับ! ยกมือขึ้น! สาม สอง หนึ่ง…”

เสียงไคลน์ลุ่มลึกแต่ผ่อนคลาย

มันใช้สองมือจับด้ามปืนแน่น ภายในหัวกำลังจินตนาการถึงเป้าซ้อมยิง

ด้วยบรรยากาศสุดตึงเครียด ชายโค้ทน้ำตาลไม่มีทางเลือก มันวางถุงขนมปังลงตรงหน้าพร้อมกับบรรจงชูมือทีละนิด

“มิสเตอร์ นี่คือมุกตลกหรืออย่างไร? คุณต้องเข้าใจอะไรผิดแน่”

มันฝืนยิ้มขณะเพ่งมองปลายนิ้วไคลน์ที่เตรียมเหนี่ยวไกปืน

ชายหนุ่มมิอาจแยกแยะได้ว่า ชายคนนี้เป็นชาวบ้านบริสุทธิ์หรือผู้สมรู้ร่วมคิด แต่ไคลน์จะไม่ประมาทจนตัวเองตกที่นั่งลำบากเด็ดขาด

“อย่าขัดขืน อีกสักพักจะมีคนช่วยตัดสินให้เองว่า คุณเป็นผู้บริสุทธิ์จริงหรือไม่”

ทันใดนั้น เลียวนาร์ดที่จัดการคนร้ายลักพาตัวในห้องเสร็จ มันเดินออกมาเห็นไคลน์กำลังเล็งปืนใส่ชายโค้ทน้ำตาลตรงบันได

นักกวีกล่าวพลางอมยิ้ม

“แบบนี้นี่เอง… คนร้ายลักพาตัวมีผู้สมรู้ร่วมคิดช่วยซื้ออาหารมาส่งสินะ”

ทันทีที่ได้ยิน ชายไม่สวมหมวกใช้เท้าเตะถุงขนมปังให้กระเด็นไปทางไคลน์ เผื่อว่าจะช่วยบดบังการมองเห็นได้บ้าง แต่น่าเสียดายที่การกระทำของมันเปล่าประโยชน์ ไคลน์ลั่นไกปืนด้วยสีหน้าสงบนิ่งหนึ่งนัด

เยือกเย็นราวกับอีกฝ่ายเป็นเพียงเป้าซ้อม

ปัง!

โลหิตสาดกระเซ็นจากหัวไหล่ซ้าย

มันโงนเงนก่อนจะพยายามวิ่งหนีลงไปชั้นล่าง เป็นวินาทีเดียวกับที่เลียวนาร์ดคว้าราวบันไดและกระโจนลงไปด้วยเข่าคู่

เกิดเสียง‘ปึก’ดังค่อย เข่าเลียวนาร์ดกระแทกใส่ชายโค้ทน้ำตาลจากด้านบนจนมันสลบ

เลียวนาร์ดลุกยืนพร้อมกับปัดรอยเลือดออกจากกางเกง ก่อนจะแหงนหน้ามองไคลน์และอมยิ้ม

“ยิงได้ดี”

แต่ฉันเล็งที่ขา…

มุมปากไคลน์กระตุกเมื่อกลิ่นเลือดสดโชยเตะจมูก มันยังไม่ชินกับสถานการณ์แบบนี้สักเท่าไร

ไคลน์ได้เรียนรู้อีกเรื่องหนึ่งว่า แม้โอสถนักทำนายจะไม่ช่วยเสริมพลังทางกายภาพจำพวก จิตสัมผัสต่อสู้ ความเฉียบแหลมของสายตา รวมถึงประสาทสัมผัสหูที่ว่องไว

แต่ตัวมันสามารถมองทะลุสิ่งกีดขวางได้เล็กน้อย รวมถึงการได้ยินเสียงฝีเท้าเจือจางจากจุดห่างไกล แม้ในตอนแรกจะไม่ทราบว่าเป็นเสียงฝีเท้าก็ตาม

หรือนี่จะเป็นพลังจากสัมผัสวิญญาณ?

ไคลน์ครุ่นคิดกับตัวเอง ส่วนเลียวนาร์ดค้นตัวผู้สมรู้ร่วมคิดจนพบมีดสั้น มันทำการยึดและลากตัวชายโค้ทน้ำตาลเข้าไปในห้อง กองรวมไว้กับคนร้ายลักพาตัวที่เหลือ

ไคลน์เดินตามเข้าไปพร้อมปืนในมือขวาและไม้ค้ำในมือซ้าย ขณะเดียวกัน เอลเลียต·วิคโรลล์ที่ถูกปลุกให้ตื่นจากเสียงปืน เด็กชายพยายามพยุงตัวยืนจากท่าถูกมัด

เลียวนาร์ดแก้เชือกออกจากตัวเอลเลียตนานแล้ว มันใช้มีดตัดแบ่งเชือกดังกล่าวและนำไปมัดร่างคนร้ายทั้งสี่แน่นหนา

เมื่อเชือกไม่พอ เลียวนาร์ดจะใช้มีดตัดเสื้อผ้าพวกมันและนำไปมัดแทนเชือก

ด้านชายโค้ตน้ำตาลที่ถูกยิงตรงหัวไหล่ เลียวนาร์ดทำแผลอย่างหยาบด้วยการใช้ผ้ารัดห้ามเลือด มันรังเกียจที่จะสัมผัสเลือดอีกฝ่าย จึงไม่ช่วยแคะกระสุนออกจากปากแผลก่อน

“พ…พวกคุณคือ?”

น้ำเสียงเอลเลียตเปี่ยมด้วยความยินดีหลังจากตื่นขึ้นมาเห็นฉากตรงหน้า

“เดาได้แม่นมากครับคุณหนูเอลเลียต”

เลียวนาร์ดกล่าวติดตลกในท่าคุกเข่า

นักกวีตัวปัญหาคนนี้มีอารมณ์ขันกับเขาด้วยหรือ?

ไคลน์ก้มหน้ามองเอลเลียตและอธิบาย

“พวกเราคือทหารรับจ้างที่บิดาของคุณหนูว่าจ้างมา จะเรียกว่าผู้คุ้มกันก็ได้”

“ฟู่ว! จริงหรือเนี่ย? ผมรอดแล้วใช่ไหม?”

เอลเลียตกล่าวอย่างโล่งใจ แต่เด็กชายยังไม่กล้าขยับตัวมาก

คงเป็นเพราะถูกกระทำอย่างรุนแรงตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา ท่าทีของเด็กคนนี้จึงสงบเสงี่ยม นับว่าสุขุมเกินวัยมาก แตกต่างจากธรรมชาติของเด็กที่เอาแต่เล่นซนและโวยวาย

เลียวนาร์ดลุกยืน มันเหลือบมองไคลน์

“คุณลงไปข้างล่างและตามหาตำรวจที่กำลังลาดตระเวน บอกพวกเขาให้ช่วยแจ้งเรื่องกับพ่อค้ายาสูบ ผมไม่ต้องการเตร็ดเตร่ไปไหนมาไหนกับเด็กหนึ่งคนและพวกงั่งอีกสี่”

ไคลน์ที่กำลังกังวลว่าต้องทำสิ่งใดต่อ มันพยักหน้าอย่างว่าง่ายและเดินลงไปชั้นล่างพร้อมไม้ค้ำ ปืนพกถูกเก็บกลับซองรักแร้เพื่อให้ไม่เตะตาผู้คน

ขณะเดินลงบันได ไคลน์รู้สึกเหมือนตนหลงลืมอะไรบางสิ่ง

ทันใดนั้น เสียงเลียวนาร์ดดังมาจากห้องด้านบน มันกล่าวกับเอลเลียต

“คุณหนูไม่ต้องกังวล อีกประเดี๋ยวก็ได้พบกับท่านพ่อ ท่านแม่ และคุณพ่อบ้านครีแล้ว มาเล่นไพ่เกว็นท์กันสักเกมไหม?”

ไคลน์เกือบหลุดขำ

ชายหนุ่มเดินลงไปชั้นล่างสุดและถามหาตำรวจจากชาวบ้านในละแวก จนกระทั่งได้พบตำรวจลาดตระเวนสองนาย

ไคลน์ไม่ได้แสดงตราเหยี่ยวราตรีหรือตรากรมตำรวจ มันสวมบทบาทพนักงานบริษัทรักษาความปลอดภัยและเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยละเอียด

ส่วนการพกพาอาวุธปืน ไคลน์ไม่ได้เป็นกังวลมากนัก มันได้รับใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนทุกชนิดแล้วเมื่อสองวันก่อน สาเหตุที่ถูกอนุมัติรวดเร็วเพราะมีเส้นสายภายในจากกรมตำรวจช่วยลัดคิว

ตำรวจลาดตระเวนสองนายมองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนที่นายหนึ่งจะรีบไปแจ้งข่าวกับตระกูลวิคโรลล์ ส่วนอีกนายเดินตามไคลน์ไปยังห้องที่เกิดเหตุ

หลังจากยืนเฝ้าในที่เกิดเหตุราวสี่สิบนาที เลียวนาร์ดแอบส่งสัญญาณกับไคลน์ขณะตำรวจไม่สนใจ

ทันใดนั้น นักกวีนัยน์ตาเขียวและนักทำนายนัยน์ตาน้ำตาลรีบปลีกตัวจากที่เกิดเหตุอย่างเงียบเชียบไร้สุ้มเสียง

“เชื่อผมเถอะ การไปสถานีตำรวจไม่ใช่เรื่องสนุกเลยสักนิด แถมยังเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ ถ้ามีจังหวะชิ่งได้ก็รีบทำ”

มันอธิบายด้วยท่าทีผ่อนคลาย

เมื่อเลียวนาร์ดรับปากว่าจะรับผิดชอบหากเกิดปัญหาตามมา ไคลน์จึงไม่โต้แย้ง มันเดินตามไปอย่างว่าง่าย

ราวห้านาทีถัดมา รถม้าส่วนตัวหรูหราได้แล่นมาจอดหน้าอาคารที่เกิดเหตุ พ่อบ้านครีลงจากรถพร้อมกับเจ้านาย มิสเตอร์วิคโรลล์

เมื่อพบตัวเอลเลียต ครียืนทึ่งอย่างไม่เชื่อสายตา มันไม่คิดว่าเหตุการณ์จะจบลงเร็วถึงเพียงนี้ ราวกับฝันไปไม่มีผิด

ทันใดนั้น ครีได้ยินเสียงดีดนิ้วดังจากด้านหลัง มันหันรีบกลับไปมอง

รถม้าเช่าสองล้อแล่นผ่านตึกที่เกิดเหตุและหยุดลง เลียวนาร์ดผมดำนัยน์ตาเขียวฉีกยิ้มกว้างให้ครีจากหน้าต่างห้องโดยสาร ก่อนที่มันจะดีดนิ้วซ้ำอีกครั้ง

รถม้าเช่าแล่นผ่านรถม้าตระกูลวิคโรลล์ไปอย่างเงียบงัน เลียวนาร์ดเลื่อนม่านปิดพร้อมกับหันมองไคลน์

มันยื่นมือขวาไปหา

“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับคุณ”

พวกเราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น…

ไคลน์ส่ายศีรษะ

มันไม่เคยคิดว่าคดีลักพาตัวจะถูกคลี่คลายง่ายดายขนาดนี้ ชายหนุ่มกำลังทึ่งกับพลังของผู้วิเศษ ทั้งที่ตัวมันยังเป็นผู้วิเศษได้ไม่ถึงสัปดาห์ แต่สามารถใช้พลังระบุตำแหน่งปัจจุบันของเหยื่อได้แม่นยำ

สะดวกสบายฉิบ…

“การจับมือเป็นมารยาททางสังคมของชนชั้นสูงหลังจากประดาบ”

เลียวนาร์ดอธิบาย

“ผมทราบ”

ไคลน์เองก็มีเพื่อนเป็นชนชั้นสูงไม่น้อย

ชายหนุ่มยังคงมองไปนอกหน้าต่าง มันส่งเสียงถามพลางขมวดคิ้ว

“ดีแล้วหรือที่พวกเราไม่รอยืนยันผลงานกับมิสเตอร์ครี? ถ้าเขาคิดว่าตำรวจเป็นฝ่ายช่วยเหลือคุณหนูเอลเลียตออกมา ค่าจ้างจะหายไปครึ่งหนึ่งเชียวนะ”

ตั้งหนึ่งร้อยปอนด์!

หลังจากพูดคุยก่อนเริ่มทำงาน พ่อบ้านครีคงไม่เคลือบแคลงว่าไคลน์และเลียวนาร์ดคือผู้พบเบาะแสแหล่งกบดาน …แต่ครีไม่มีทางทราบเลยว่าใครเป็นผู้จับกุมและช่วยเหลือ

“อย่าใส่ใจนักเลย สำหรับพวกเรา เงินทองไม่ได้สำคัญขนาดนั้น”

เลียวนาร์ดยักไหล่

…แต่มันสำคัญกับฉัน!

ไคลน์ฝืนยิ้มแห้ง

“ถึงว่าทำไมนักกวีมักไส้แห้งตาย”

เลียวนาร์ดคิกคัก

“คุณหนูเอลเลียตคงไม่โกหก ผมสัมผัสได้ถึงความใสซื่อภายในตัวเขา ถึงภายนอกจะเยือกเย็นเหมือนผู้ใหญ่ก็เถอะ…”

“แต่ถึงอย่างนั้น ต่อให้พวกเราได้รับค่าจ้างเต็มจำนวนสองร้อยปอนด์จริง ส่วนแบ่งสำหรับคุณก็เหลือไม่มากหรอกนะ”

“ผมจะได้เท่าไร?”

ไคลน์ถามอย่างสนใจ

“ครึ่งหนึ่งจะถูกแบ่งให้มาดามโอเรียนน่าเก็บไว้เป็นเงินสำรองของหน่วย ส่วนที่เหลือจะแบ่งอย่างเท่าเทียมตามจำนวนคน น่าเสียดายที่คุณยังไม่ใช่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ส่วนแบ่งจึงเหลืออยู่ราวสิบเปอร์เซ็นต์”

สิบปอนด์? นั่นก็ไม่เลวนักหรอก…

ไคลน์แสร้งทำน่าพึงพอใจก่อนจะถามต่อ

“คุณไม่กลัวบ้างหรือ? กลุ่มคนร้ายลักพาตัวอาจเอะใจหลังจากตื่นขึ้น ว่าพวกมันหลับไปเพราะพลังของผู้วิเศษ”

“พวกมันไม่มีทางนึกสงสัย ในสมองจะเข้าใจว่าอากาศดีจนเคลิ้มหลับไปเอง ส่วนบทกวีที่ผมขับขาน พวกมันจะคิดว่านั่นเป็นเสียงที่ดังในความฝัน… หน่วยเหยี่ยวราตรีเคยทดสอบและยืนยันเรื่องนี้มานานแล้ว”

เลียวนาร์ดอธิบายฉะฉานมั่นใจ

“หลักฐานเดียวที่ไม่ปรกติ คือกระสุนปราบมารที่คุณยิงฝังเข้าไปในแขน แต่เราสามารถแก้ต่างได้ว่า คุณเป็นพวกคลั่งพิธีกรรมและหลงใหลศาสตร์เร้นลับ”

“เข้าใจแล้ว”

ไคลน์โล่งอก

แต่ความรู้สึกหนึ่งยังไม่เลือนหายไป มันคลับคล้ายว่าตัวเองกำลังมองข้ามหรือหลงลืมบางสิ่ง

หลังจากกลับถึงถนนซุตแลน ไคลน์ไม่รอให้พ่อบ้านครีมาติดต่อ มันเดินเท้าไปจนถึงบ้านเวิร์ชและเดินกลับถนนกางเขนเหล็กโดยเปลี่ยนเส้นทางไม่ให้ซ้ำเก่า ระหว่างทางยังแวะซื้อวัตถุดิบปรุงอาหารสำหรับมื้อดึก

มื้ออาหารของสามพี่น้องยังคงอบอุ่นและอิ่มเอมเช่นเคย บรรยากาศสนทนาเป็นไปอย่างออกรส แต่ถูกคั่นด้วยผู้มาเยือนแปลกหน้าครู่หนึ่ง …พนักงานเก็บเงินค่าแก๊ส อัตราอยู่ที่หนึ่งเพนนีต่อหนึ่งหน่วยมิเตอร์

เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดสนิท สามพี่น้องกล่าวคำอำลาและเดินกลับห้องตัวเอง

ไคลน์หลับสบายเฉกเช่นทุกคืน จนกระทั่งมันถูกปลุกโดยบางสิ่งด้านนอกห้อง ชายหนุ่มงัวเงียเปิดประตูห้องนอนอันว่างเปล่าที่ไม่มีใครอาศัยอยู่

มันผลักบานประตูไม้ที่มีจุดด่างดำเข้าไป ภาพแรกที่เห็นคือโต๊ะอ่านหนังสือสีเทา

บนโต๊ะมีสมุดวางอยู่หนึ่งเล่ม ปกทำจากกระดาษแข็งดำสนิท

ไคลน์สัมผัสถึงความรู้สึกเดจาวูอย่างเลือนราง มันเดินไปที่โต๊ะและเปิดสมุดออกด้วยท่าทีเหม่อลอย

เมื่อพลิกไปหน้าแรก ชายหนุ่มได้พบกับภาพที่ตนคุ้นเคย มันคือภาพของใครบางคนที่สวมเสื้อผ้าหรูหราและเครื่องประดับศีรษะระยิบระยับ

…เดอะฟูล!

ใต้ภาพเดอะฟูลมีอักษรเฮอร์มิสโบราณเขียนไว้

“ทุกคนต้องตาย รวมถึงเรา”

หัวใจไคลน์แทบหยุดเต้นเมื่อมุมปากของเดอะฟูลในภาพโค้งขึ้นต่อหน้าต่อตา!

พรวด!

ชายหนุ่มลุกนั่งบนเตียงด้วยสีหน้าตกตะลึงสุดขีด มือขวาเลื่อนขึ้นมาสัมผัสบริเวณหัวใจที่กำลังเต้นโครมคราม

แสงจันทร์สีแดงจากภายนอกส่องทะลุม่านดำสนิทเข้ามาในห้องเล็กน้อย เมื่อกวาดสายตามองโดยรอบ เงาของชั้นหนังสือและโต๊ะอ่านหนังสือยังคงประจำในจุดเดิม ที่นี่คือห้องนอนตนไม่ผิดแน่

เมื่อครู่เป็นเพียงฝันร้าย

แต่ในฐานะนักทำนาย มันย่อมทราบว่าความฝันคือลางบอกเหตุจากโลกวิญญาณ ชายหนุ่มพยายามเค้นสมองตีความภาพดังกล่าวออกมาเป็นเบาะแส

ทันใดนั้น ร่างกายไคลน์พลันแข็งทื่อเมื่อตระหนักได้ว่า วันนี้ตนหลงลืมสิ่งใดไป…

ในวินาทีที่เสียงขับขานของเลียวนาร์ดดังกังวานในหัว ไคลน์สัมผัสว่ามีบางสิ่งที่มองไม่เห็นกำลังจ้องมองแผ่นหลังของตน

เป็นการจ้องมองที่แตกต่างจากผลข้างเคียงปรกติของโอสถในยามเข้าฌานและใช้เนตรวิญญาณ

มันมอบความรู้สึกเหมือนกับ… เดจาวู!

และตามคำบอกเล่าของหัวหน้าดันน์·สมิท หากตนสัมผัสถึงเดจาวูได้เมื่อไร

นั่นจะแปลว่า…

ไคลน์นั่งเอนหลังตรง มันพยายามยืนยันความรู้สึกตัวเองให้ชัดเจนอีกครั้ง

…ไม่ผิดแน่ ความรู้สึกเดจาวูหมายถึงสมุดบันทึก

สมุดบันทึกตระกูลอันทีโกนัส!

........................


Load failed, please RETRY

ギフト

ギフト -- 贈り物 が届きました

    週次パワーステータス

    Rank -- 推薦 ランキング
    Stone -- 推薦 チケット

    バッチアンロック

    目次

    表示オプション

    バックグラウンド

    フォント

    大きさ

    章のコメント

    レビューを書く 読み取りステータス: C44
    投稿に失敗します。もう一度やり直してください
    • テキストの品質
    • アップデートの安定性
    • ストーリー展開
    • キャラクターデザイン
    • 世界の背景

    合計スコア 0.0

    レビューが正常に投稿されました! レビューをもっと読む
    パワーストーンで投票する
    Rank NO.-- パワーランキング
    Stone -- 推薦チケット
    不適切なコンテンツを報告する
    error ヒント

    不正使用を報告

    段落のコメント

    ログイン