"พูดจาใจร้ายอีกแล้วนะ พี่ควินซ์"
พารัมยิ้มอ่อนๆ แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะกวาดสายตามองสำรวจใบหน้าของผมเงียบๆ ด้วยแววตาเจือด้วยอารมณ์...เอ่อ คิดถึงเหรอ?
"พี่ดูไม่เปลี่ยนไปเลยนะ" พารัมพูดเบาๆ
ผมกลอกตาไปมาเล็กน้อย "แต่นายดูเปลี่ยนไปเยอะนะ"
"แต่พี่ก็ยังจำผมได้อยู่นี่ครับ" น้ำเสียงดีใจนี่มันอะไรกัน
"ฉันยังไม่ได้ความจำเสื่อม" ไอ้เด็กนี่ตามจีบผมไม่ใช่แค่วันสองวันแต่เป็นปี แถมยังจีบด้วยวิธีแปลกๆ เล่นใหญ่อีกด้วย ถ้าผมลืมได้ลงก็แปลกแล้ว "นายออกไปได้แล้ว"
ไล่ตรงๆ เลยเพราะตอนนี้ที่นี่ไม่ได้มีแค่ผมกับพารัมแค่สองคน ยังมีเจ้านายหน้าบึ้งอยู่อีกหนึ่ง แล้วมึงจะทำหน้าทำตาเหมือนจะกินหัวคนทำไมเนี่ยนับหนึ่ง
พารัมเหมือนเพิ่งรู้สึกตัวว่ามีใครอีกคนอยู่ด้วยและรู้ว่าตัวเองกำลังเสียมารยาท "ขอโทษที่มารบกวน"
"รบกวน" นับหนึ่งสวนขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา "แล้วจะยังยืนอยู่อีกนานมั้ย จะมากินข้าวด้วยกันเลยมั้ย"
ไอ้บอสปากเสียเอ๊ย
"เอ่อ ไม่ครับ ขอโทษครับ" พารัมอึ้งกับการไม่ไว้หน้าของนับหนึ่งไปเลยแล้วรีบหันหลังเดินจากไปแต่ไม่วายที่จะหันมาหาผม "พี่ยังใช้ไลน์เดิมอยู่ใช่มั้ย"
"..." ผมไม่ตอบ เงียบ
"คืนนี้ผมจะทักไป"
จากนั้นพารัมก็เดินออกไปพร้อมปิดประตูห้องอาหารให้ ความเงียบปกคลุมไปทั่วห้องอาหารทันที ตั้งแต่พารัมออกไป นับหนึ่งก็ยังไม่พูดอะไร เอาแต่ทำหน้าไม่พอใจเหมือนเด็กจนบรรยากาศมันหนักอึ้งไปหมด
สุดท้ายผมก็ทนความอึดอัดไม่ไหว
"อยากถามก็ถาม ไม่ต้องมาจ้องหน้า"
"ไอ้เด็กนั่นเคยจีบมึง?" คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูง
"อืม" ผมกะพริบตาเล็กน้อย "มึงก็รู้ไม่ใช่รึไง หรือมึงจำไม่ได้"
นับหนึ่งขมวดคิ้วแล้วส่ายหัว "จำไม่ได้"
"ตอนนั้นพารัมมันก็เอาดอกไม้ เอาตุ๊กตามาให้กูต่อหน้ามึงเลย" ส่ายหัวให้กำลังความจำที่ย่ำแย่ของเพื่อน "มึงก็ยังแซวยังเชียร์ให้กูคบกับน้อง ลืมไปแล้วรึไง"
เมื่อได้ยินแบบนี้แล้วนับหนึ่งถึงกับอ้าปากค้างแล้วชี้นิ้วเข้าตัวเอง
"กูเนี่ยนะ เชียร์ไอ้เด็กนั่น" อุทานอย่างตกใจ "ไม่จริง!"
"จริง" ผมยกน้ำขึ้นจิบแล้วตวัดตามอง "มึงล้อกูเช้าเย็นเลยเรื่องน้องเขาเนี่ย ไอ้เวร"
"...กูพูดงั้นจริงดิ" นับหนึ่งหน้าตาเลิ่กลั่ก "สงสัย สงสัยกูเห็นน้องมันดีมั้ง"
"มันก็ดีจริงๆ นั่นแหละ"
"..." นับหนึ่งรู้สึกอยากตบปากตัวเองสักเปรี้ยง
พารัมเป็นเด็กที่น่ารัก แสนดีไปทุกอย่าง สม่ำเสมอ จริงใจ ก็คือสรุปดีไปหมด แสนดีขนาดนี้ทำไมผมถึงไม่ชอบ? ไม่ชอบก็คือไม่ชอบแหละ ผมรู้สึกกับเขาแค่ในฐานะน้องชายคนหนึ่ง ไม่ได้คิดเกินเลย คิดลองเปิดใจให้น้องมั้ย ก็เคยนะ แต่สุดท้ายมันก็ไม่ใช่ ความรู้สึกผมมันไม่สามารถตอบรับน้องเขาได้
หลังจากผมปฏิเสธอย่างจริงจัง พารัมก็ยอมรับและหายไปจากชีวิตผมเลย ตอนนั้นก็โหวงๆ นิดหน่อย แต่สามสี่วันผมก็ไม่รู้สึกอะไรแล้ว
เพื่อนมักบอกผมเย็นชาและหยาบกระด้างในความรู้สึกมากเกินไปเลยไม่มีแฟน หรือมีแฟนก็มักคบได้ไม่นาน
นับหนึ่งยกมือขึ้นคลายเนคไทออกให้มันหลวมๆ "ถ้างั้นมึงจะกลับไปคุยกับน้องเขามั้ย"
"ไม่รู้เหมือนกัน"
"อะไรคือไม่รู้เหมือนกัน" นับหนึ่งมองจ้องเขม็งแล้ว "ไม่ต้องคุย กูไม่ให้คุย"
"เอ้า อะไรของมึงเนี่ย" ผมขมวดคิ้ว "ตอนนั้นมึงยังเชียร์ให้กูตอบน้องเขาเยอะๆ อยู่เลยนะ"
"ตอนนั้นก็ส่วนของตอนนั้น" ตอบหน้าตายสนิท "ตอนนี้ไม่ให้คุยแล้ว"
"ขอเหตุผล"
วันนี้นับหนึ่งชักจะทำตัวไร้เหตุผลและเอาแต่ใจมากไปแล้ว ผมเองก็ต้องข่มอารมณ์ไม่ให้พุ่งไปตบกะโหลกมันเพื่อเรียกสติ
นับหนึ่งเหมือนยังไม่ทันได้คิดหาเหตุผลเลยได้แต่เงียบใส่ผม แผ่รังสีไม่พอใจเป็นระยะๆ เหมือนเด็กไม่รู้จักโต ผมยิ้มอ่อนเชิงกวนตีนใส่
"ถ้ามึงไม่มีเหตุผลดีๆ กูก็คงจะคุยกับพารัม"
ล้อเล่นน่า ผมไม่คุยกับพารัมหรอก
เดี๋ยวเด็กมันหาว่าผมให้โอกาสงั้นงี้ ทางที่ดีอย่าคุยอย่าติดต่อการเลยดีกว่า แต่ถ้าพารัมมันคุยกับผมในฐานะพี่ๆ เพื่อนๆ อันนี้ไม่มีปัญหา
ผ่านไปหลายนาทีก็ยังไม่มีอะไรหลุดออกมาจากปากของนับหนึ่งอีก ตอนที่อาหารถูกลำเลียงมาวางเต็มโต๊ะ มันก็ยังไม่พดไม่จาคล้ายจะทำสงครามเย็นกับผม
เวลาที่มันเถียงผมไม่ได้ก็มักใช้วิธีนี้เสมอเพื่อให้รู้ว่ามันงอนนะ มึงต้องง้อนะ ถ้ามึงไม่ง้อ กูจะเป็นแบบนี้ต่อไป
นับสองจะรู้มั้ยว่าพี่ชายที่ชอบทำเป็นเข้มงวด เก๊กขรึมจะไร้สติขนาดนี้ เอ๊ะ แต่นับสองคงรู้อยู่แล้วว่าพี่ชายตัวเองไร้สติทุกคน
บรรยากาศมาคุแบบนี้ต่อให้อาหารมันอร่อยแค่ไหนแต่เจอหน้าบูดๆ ของนับหนึ่ง ผมก็หมดความอยากอาหารเหมือนกันนะ และดูเหมือนครั้งนี้ผมคงต้อง้อมันตามเคย
ใช้ตะเกียบและช้อนแกะเนื้อปลาอย่างช่ำชองแล้ววางลงในจานของนับหนึ่ง ซึ่งเจ้าของจานมันก็ยังมาทำหน้าหยิ่งๆ ใส่ผมอีก ทำเป็นเหมือนไม่สนใจไยดีเนื้อปลาผมแต่อีกแป๊บมันก็ตักกินโดยไม่พูดอะไร
ผมตักนั่นตักนี้ใส่จานเพื่อนเจ้าอารมณ์ก่อนจะหันมากินในส่วนของตัวเองบ้าง
การกินข้าวมื้อนี้ผ่านไปอย่างเงียบงันจนรู้สึกไม่ชิน ปกติแล้วพวกเรามักมีเรื่องให้คุยตลอด หรือครั้งนี้ไอ้หนึ่งมันจะงอนผมจริงๆ? แล้วจะมางอนผมด้วยเรื่องอะไร
เรื่องพารัมเหรอ?
เมื่อก่อนก็เห็นมันชอบน้องเขาจะตาย แล้วทำไมตอนนี้จู่ๆ ก็ไม่ชอบขึ้นมาวะ งงนะเฮ้ย
"เรื่องไอ้เด็กนั่น..." จู่ๆ ก็ยอมเปิดปาก
"เขาชื่อพารัม"
"เออ ไอ้เด็กนั่นอ่ะ!" นิ่งได้แป๊บก็อารมณ์ขึ้นอีกแล้ว "วันนี้ถ้ามันทักมาก็ไม่ต้องตอบ บล็อกไปเลย"
ผมตักกุ้งใส่จานก่อนถาม "กูบอกว่ากูขอเหตุผลไง"
คนตัวโตเม้มปากแน่นสะบัดหน้าไปอีกทางคล้ายไม่อยากพูด ผมก็ปล่อยมันไป ยังไงมันก็คงหาเหตุดีๆ มาให้ผมไม่ได้อยู่แล้ว
"กูหวง"
ฮะ อะไรนะ
ผมถึงกับสำลักข้าวแล้วมองหน้านับหนึ่งเหมือนเห็นผี ส่วนนับหนึ่งก็หันกลับมามองหน้าสบตาผมด้วยท่าทีอึกอัก ใบหูแดงระเรื่อผิดปกติ
"กูหวงมึง หวงมึงอ่ะ"
"..."
"เหตุผลแค่นี้พอมั้ย"