Unduh Aplikasi

Bab 227: 0227

บทที่ 227 : ผู้คิดค้นรายการทอล์คโชว์คนแรกของโลก?

ใกล้ค่ำ

ทั้งออฟฟิศนัดหมายรวมตัวกันที่ด้านนอกโรงพยาบาล

คนของบริษัทเหวยหว่อทยอยออกมาเรื่อยๆ มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง เมื่อตอนบ่ายที่ออฟฟิศ หลังจากพวกพนักงานหญิงออกไปได้กว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ก็ถึงคราวของพวกพนักงานชายที่ขึ้นรถบัสมาตรวจสภาพร่างกายบ้าง แม้แต่จางเย่ที่เพิ่งเริ่มงานได้ไม่ถึงวันยังไม่ยกเว้น อาจเป็นเพราะการตรวจร่างกายของพนักงานหญิงค่อนข้างมีความยุ่งยากมากกว่า เลยต้องตรวจเพิ่มอีกอย่างสองอย่าง ดังนั้นเมื่อทุกคนออกมาจึงเป็นเวลาที่ไล่เลี่ยกัน

ออกมาข้างนอกจางเย่ก็เห็นต่งซานซาน ด้ายแดงแห่งโชคชะตาบนขาของทั้งสองคนยังคงผูกโยงถึงกันอยู่ ไม่มีทีท่าว่าจะหมดฤทธิ์เร็วๆ นี้ เพียงแค่คิดถึงฉากในห้องน้ำหญิงเมื่อตอนบ่ายเท่านั้นล่ะ จางเย่ก็ละล้าละลังที่จะเข้าไปทักหญิงสาว

“อาจารย์ต่ง” เป็นอาเชียน เพื่อนร่วมงานที่นั่งไม่ห่างจากจางเย่

ต่งซานซานหันกลับไปยิ้มร่า “อาเชียน”

อาเชียนถาม “คุณตรวจเสร็จแล้วเหรอ?”

“ใช่ค่ะ เพิ่งจะเสร็จเมื่อกี้เลย” ต่งซานซานตอบ

“งั้นไปกันเถอะ ผมจะพาคุณไปดูห้อง” อาเชียนชวน

“ค่ะ งั้นฉันเลี้ยงมื้อค่ำคุณนะ ขอบคุณค่ะ” ต่งซานซานพูด

อาเชียนรีบพูดขึ้นทันที “คุณเพิ่งจะมาเมื่อวานนี้ ให้ผมเลี้ยงเองดีกว่า คราวหน้าไว้คุณเลี้ยงแล้วกัน ฮ่าๆ”

ต่งซานซานไปกับอาเชียนแล้ว แต่จางเย่ทันเห็น ว่าในขณะที่ดาวมหาวิทยาลัยกำลังเรียกรถกับอาเชียนอยู่ พลันเห็นเพื่อนร่วมงานหญิงที่ชื่อจางหาน ซึ่งเป็นคนที่มาตามหญิงสาวในห้องน้ำหญิงเมื่อตอนบ่ายนั่นเอง เธอรีบเข้าไปทักทายทันที หลังจากที่ทั้งสามคนคุยกันได้ไม่กี่คำ อาจเป็นเพราะต่งซานซานเชื้อเชิญ จางหานจึงไปด้วยกันกับพวกเขา

ทั้งสามคนเรียกรถแล้วหายไปแถวละแวกใกล้ๆ

จางเย่กวาดตามองรอบตัวไม่เห็นว่ามีเพื่อนร่วมงานคนไหนมาทักทายหรือชวนไปไหนด้วยเลย จึงโบกรถกลับบ้านไป

……

ใกล้ๆ กับตลิ่งไว่ทัน

ในเขตที่พักระดับสูงขนาดย่อมแห่งหนึ่ง

เดินผ่านลานน้ำพุและภูเขาจำลอง อดไม่ได้ที่จะชื่นชมทัศนียภาพเล็กๆ ของที่พักอาศัย ราวกับว่าความเหนื่อยล้าทั้งวันนี้หายไปเป็นปลิดทิ้ง ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีระดับเช่นนี้ จางเย่รู้สึกเหมือนกับว่าได้รับการชุบตัวใหม่ กลายเป็นนักเลงหัวเน่า... เอ๊ย ไฮโซที่มีชื่อมีฐานะอยู่บ้าง!

ภายในบ้าน

อากาศค่อนข้างหนาวเล็กน้อย

ในเซี่ยงไฮ้ไม่มีระบบฮีทเตอร์ส่วนกลาง มีแต่เครื่องปรับอากาศส่วนตัว จางเย่เปิดเครื่องปรับอากาศให้ตีลมร้อนออกมาก่อนเข้าไปอาบน้ำ ชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้องนอน นั่งลงหน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์เข้าอินเทอร์เน็ต นี่เป็นกิจวัตรประจำวันของเขา เพราะการดูข่าวและเข้าอินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งที่จะขาดไม่ได้ โดยเฉพาะตอนนี้ที่ทำงานอยู่สถานีโทรทัศน์ออนไลน์ ยิ่งต้องให้ความสนใจมากขึ้นไปอีก

ช่องเหวยหว่อ

สถานีโทรทัศน์ออนไลน์

ป้ายแบนเนอร์โฆษณาด้านบนโพสต์รูปของจางเย่ไว้หนึ่งรูป ข้างหลังเขียนคำโฆษณา —— ยินดีต้อนรับอาจารย์จางเย่เข้าร่วมช่องสถานีโทรทัศน์ออนไลน์เหวยหว่อ โฆษณาชิ้นนี้น่าจะเพิ่งอัพโหลดขึ้นใหม่วันนี้ เมื่อวานเกือบทั้งหมด เป็นข่าวการเข้าร่วมช่องของต่งซานซาน ซึ่งน่าจะติดประกาศไว้เป็นเวลาหนึ่งวัน อืม ถ้าเป็นการเผยแพร่ข่าวการเข้าร่วมของคนอื่น ทุกคนคงจะไม่สนใจอะไรมากนัก เพราะว่าก่อนหน้านี้ คนที่จะมาเป็นพิธีกรผู้ประกาศทางอินเทอร์เน็ต มีน้อยคนที่จะมีชื่อเสียงโด่งดัง หรือไม่อย่างนั้น สถานีโทรทัศน์ซึ่งเป็นฝ่ายครองอำนาจ ก็ยังเป็นตัวเลือกแรกของบรรดาผู้ประกาศอยู่ดี แต่สำหรับจางเย่นั้นต่างออกไป เขาที่เพิ่งจะออกข่าว CCTV ไปเมื่อสองวันก่อน ซึ่งเป็นช่องที่ได้รับความนิยมอย่างสูง และยังมีความแพร่หลายก็โดดเด่นไม่ใช่น้อย ดังนั้นกรอบโฆษณาอันแสนกระจิดริดนี่ จึงถูกคนมากมายจับตามอง!

ฟอรั่ม, เว็บบอร์ด, เว่ยป๋อ, ต่างก็มีคนเก็บเอาภาพไป

“ข่าวล่าสุด! คอนเฟิร์มแล้วว่าอาจารย์จางเย่ไปทำช่องทีวีออนไลน์!” โพสต์โดยผู้ใช้งานเว่ยป๋อคนหนึ่งชื่อ ‘ผู้เชี่ยวชาญแห่งการแฉมายี่สิบปี’

“โอ้ ในที่สุดก็มีข่าวของอาจารย์จางเย่แล้ว เยี่ยมเลย จะได้มีรายการดูอีกแล้วสิ!”

“ฉันเองก็รอมาตั้งนาน ตั้งตารอสุดๆ ว่าอาจารย์จางจะเอารายการอะไรออกมาแสดง จะยังเป็นการพูดเล่าประวัติศาสตร์อีกไหมนะ? ถอดแบบรายการ ‘ห้องเลคเชอร์’ รึเปล่า?”

“คงไม่หรอก นี่เป็นโทรทัศน์ออนไลน์นะ”

“นั่นสิ รายการประวัติศาสตร์ไม่ได้รับความนิยมหรอก”

“ฉันเองยังคิดว่าอาจารย์จางเย่ไปอยู่ช่องสถานีเซี่ยงไฮ้แล้วเสียอีก ทำไมถึงมาอยู่โทรทัศน์ออนไลน์ล่ะ? ประเภทรูปแบบการออกอากาศวิดีโอแบบตายตัวอย่างปัจจุบันนี้ มีความนิยมสูงมาก แต่คงจะไม่เหมาะกับจางเย่หรอก? ฉันว่าเขาไม่เห็นจะเจ๋งเลย หมอนี่เป็นนักถกเรื่องประวัติศาสตร์ ทั้งยังเป็นนักบรรยายประวัติศาสตร์อย่างจริงจัง มาออกทีวีออนไลน์แบบนี้ไม่ใช่ฆ่าตัวตายรึยังไง? ที่นี่มีแต่วัยรุ่นทั้งนั้น ต่อให้นายพูดเรื่องประวัติศาสตร์ได้น่าฟังขนาดไหน คนฟังก็มีจำกัดอยู่ดี แถมที่เขาชอบกันก็คือ รายการบันเทิง นายจะเทียบกับคนอื่นเขาได้อย่างไรกัน? เอาเถอะ ถึงจะออกมาฝืนทำรายการวาไรตี้ และเปลี่ยนไปทำในด้านที่ตัวเองไม่ถนัด นั่นไม่ยิ่งแย่เข้าไปอีกเรอะ!”

“นั่นสิ ฉันเองก็หวั่นใจอยู่ไม่น้อย”

“ไม่รู้จะออกมาเป็นรายการแบบไหนเนอะ”

“ผ่านไปอีกไม่กี่วัน ก็น่าจะรู้แล้วล่ะ”

เหล่าแฟนคลับจำนวนมากต่างพากันกังวลใจ ดูออกว่าจางเย่กำลังเผชิญหน้ากับความยากเข้าให้แล้ว

แน่นอนว่าในนั้นเองก็ยังมีแอนตี้แฟนที่ต่อต้านจางเย่อยู่

“จางเย่จบเห่แน่ หมดมุกแล้วก็คงคิดรายการดีๆ ออกมาไม่ได้หรอก!”

“ใช่ เขาถกเรื่องสามก๊กยังพอไปวัดไปวาได้ อย่างอื่นคงไม่ได้เรื่องหรอก รอดูเรื่องสนุกกันดีกว่า ช่องเหวยหว่อเอง ก็เป็นบริษัทค่อนข้างใหญ่โตในวงการนะ ทำไมถึงได้เชิญจางเย่มา? หมากตานี้แย่โคตร! จางเย่อยากได้หน้า แต่ต้องเสียหน้าแทนแน่ๆ มีปากที่พูดเก่งอย่างเดียว มันใช้การได้ที่ไหน? มีเพียงแค่ปากอย่างเดียว จะไปเหมาะสมกับบทบาทสื่อของโทรทัศน์ออนไลน์ได้อย่างไร? อีกคนที่เข้าร่วมเว็บไซต์ของพวกเขา อย่างต่งซานซาน กลับดูไม่เลวทีเดียว หน้าตาสะสวย หุ่นดีเซ็กซี่ แบบนี้สิถึงจะเป็นหมากดี เธอจะหยิบจับทำรายการอะไรก็คงไม่น่ามีปัญหา แต่จางเย่ล่ะ มีอะไร?”

“ทำไมต่อต้านอาจารย์จางกันเยอะจังเลย?” แฟนคลับคนหนึ่งของจางเย่ท้วง

กลุ่มแฟนคลับบนเว็บบอร์ดของเขาคนหนึ่งพูดว่า “เมื่อไรอาจารย์จางจะโชว์กึ๋นเสียทีนะ! พวกนายนี่อย่างกับเด็กอมมือเลย ยังไงฉันก็ยังตั้งตาเฝ้ารอรายการใหม่ของอาจารย์จางอยู่ดี! ต้องไม่ผิดหวังแน่!”

เด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มแฟนคลับเช่นกัน พูดอย่างเดือดดาล “มีเพียงแค่ปากเท่านั้น? ใช่ ถึงอาจารย์จางจะไมได้หล่อเหลาอะไร ไม่ได้มีรูปร่างดีเลิศ แต่แล้วไงล่ะ? ตั้งแต่แรกเริ่มเดิมที อาจารย์จางก็อาศัยแต่ปาก ทั้งเมื่อก่อนและต่อไปก็ด้วย! พวกนายรอดูไปเหอะ! ดูว่าอาจารย์จางจะใช้ปากอย่างเดียว ปลุกกระแสให้ดัง ลามไปทั่วทั้งประเทศได้อย่างไร! เมื่อถึงตอนนั้น ฉันจะดูสิว่าพวกนายคนไหนยังจะกล้าพูดพล่อยๆ อีก!”

คนแอนตี้จางเย่ก่อนหน้านี้พูด “ติ่งแฟนคลับข้างบน!”

เด็กผู้หญิงพูด “ฉันเป็นติ่งของอาจารย์จาง! หนักหัวนายเหรอ!”

……

สำนักข่าวบางแห่งก็รายงานเรื่องที่จางเย่เปลี่ยนงานบนอินเทอร์เน็ต เนื้อหาภายในยังมีรายงานบางส่วนจากสำนักข่าวท้องถิ่นเซี่ยงไฮ้ด้วย

‘จางเย่ร่วมช่องเหวยหว่อ ตำนานเรตติ้งจะสามารถดำเนินต่อได้หรือไม่’—— รายงานเขียนเอาไว้ดังนี้ : ที่เมืองหลวง เมื่อจางเย่ออกอากาศที่สถานีโทรทัศน์ ได้ทำให้รายการหนึ่งเป็นที่นิยมอย่างน่าพิศวง ทำลายสถิติเรตติ้งรายการเป็นประวัติศาสตร์ของช่วงภาคค่ำ! หลังออกจากงานที่สถานีโทรทัศน์นครหลวงแล้ว รายการใหม่นั้นก็ยังทำลายสถิติส่วนแบ่งยอดการรับชมและจำนวนเรตติ้งการรับชมรายการแบบเดียวกันอย่างเรื่องการพูดเล่าประวัติศาสตร์ของช่องสถานีท้องถิ่นไปได้! ไม่ว่าจางเย่จะทำรายการอะไร ก็ดูจะห่างชั้นกับรายการประเภทเดียวกัน กล่าวได้ว่า รายการประเภทเดียวกันทั้งหมด ไม่มีใครสามารถจะแข่งกับเขาได้ ช่องว่างความต่างห่างชั้นกันเหลือเกิน ครั้งนี้เขาโดดไปร่วมช่องเหวยหว่อ จะไปเป็นพิธีกรออนไลน์แล้ว ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าตำนานของเขา จะยังดำเนินต่อได้เหรอ?

มีคนรู้สึกว่าไหว

ทว่าคนส่วนใหญ่รู้สึกว่าไม่

โพสต์ข่าวหลากหลายแหล่ง ต่างถกเถียงกันอย่างออกรสออกชาติมาก!

……

ท่องอินเทอร์เน็ตได้ชั่วโมงกว่าๆ จางเย่ก็จุดบุหรี่ขึ้นสูบ การเฝ้ารอและการปลุกเร้าของบรรดาแฟนคลับ ทำให้เขากดดันมาก บางส่วนที่เคลือบแคลงและปฏิเสธเขา ความจริงจางเย่ก็พอเข้าใจตรรกะของทุกคนได้ แม้คุณวุฒิของเขาจะอ่อนด้อย ไม่ได้มีผลสำเร็จที่เตะตาเท่าไรนัก แต่ ‘เรื่องสยองขวัญยามค่ำคืน’ ออกจะเตะตามากไม่ใช่เหรอ? แล้วยัง ‘ห้องเลคเชอร์’ ที่โดดเด่นไม่น้อยอีก? อาจพูดได้ไม่ผิด แต่เมื่อเทียบกับผู้ประกาศหลัก ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน เขาแทบทาบไม่ติดเลย พวกเขาเหล่านั้นเป็นผู้ประกาศที่มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ละคนไม่ต้องพูดอะไรมากความก็สามารถทำรายการได้ถึงขั้นมีคนนิยมแล้ว! เรตติ้งการรับชมก็สูงขึ้นตามลำดับ แถมยังได้ออกอากาศทางโทรทัศน์ดาวเทียม แบบเข้ารหัสสัญญาณทั่วทั้งประเทศอีกด้วย เมื่อเปรียบกับประเด็นนี้ จางเย่แทบจะเทียบอะไรไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น คนจำนวนมากจึงไม่คิดว่าเขาจะโชคดีอะไรได้อีก ไม่คิดว่าเขาจะทำรายการดีๆ ออกมาได้ และด้วยรายการก่อนหน้านี้ทั้งสองรายการต่างก็มีข้อจำกัดอย่างมาก ไม่ว่าจะรายการเรื่องสยองขวัญยามค่ำคืน หรือรายการห้องเลคเชอร์ก็ตาม สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้เป็นที่แพร่หลายต่อส่วนรวมมากนัก

รายการใหม่เลือกอะไรดี?

นี่เป็นปัญหาหนักของจางเย่มาโดยตลอด

รายการนี้ต้องตอบโจทย์กลุ่มวัยรุ่นของสื่อโทรทัศน์ออนไลน์ ทั้งยังต้องมีความบันเทิงพอที่จะครอบคลุมถึงคนส่วนใหญ่ด้วย และต้องรับประกันให้ได้ว่าจะได้ออกอากาศยาวๆ อีกด้วย

คิดไปคิดมา ดูเหมือนจะมีรายการเพียงประเภทเดียว ที่สอดคล้องกับปัจจัยเหล่านี้ —— ทอล์คโชว์!

นี่เป็นรูปแบบของรายการบันเทิงที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ รายการทอล์คโชว์รอบดึกมีประวัติยาวนานกว่าหกสิบปี ในต่างประเทศนั้น รายการทอล์คโชว์คือการร้อยเรียงกันของการสัมภาษณ์และเดี่ยวมุกตลกสั้นๆ พูดถึงการเมืองเอย เรื่องใต้สะดือเอย ซึ่งไม่เหมาะสมกับกฏระเบียบภายในประเทศ ดังนั้น รายการทอล์คโชว์ในโลกใบก่อนของจางเย่จึงได้มีลักษณะของจีน รูปแบบรายการเป็นแบบใหม่ที่เหมาะสมกับสภาพในประเทศและ****** แต่ทว่าแก่นของรายการเมื่อเทียบกับทางตะวันตกแล้วไม่มีอะไรต่างกัน

ได้แต่ Talk-Show

พิธีกรหนึ่งคนกับปากหนึ่งปาก!

อย่างไรเสียจางเย่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะทำทอล์คโชว์ ไม่ใช่ว่าเขาไร้ความสามารถ แต่เขาไม่คิดว่าจะพูดได้ดีเท่าปรมาจารย์ทอล์คโชว์ในโลกใบก่อน ถ้าเขาดึงเอารายการจากโลกใบก่อนมาใช้ทั้งตอน เนื้อหาภายในก็ยังมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โลกและเรื่องราวบางตอนในนวนิยายอยู่หลายตอน ยกตัวอย่างเช่นถ้าเขาพูดประโยคว่า ‘ไม่ว่าพวกคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่ฉันเชื่อ’[1] แล้วคิดว่าคำพูดนี้จะมีใครทางฝั่งนี้ที่เข้าใจล่ะ? แน่นอนว่าเขาต้องเอาออก เพราะว่าทางนี้ไม่มีผลงานเหล่านี้เลย ประโยคพวกนี้แน่นอนว่าไม่ขำอยู่แล้ว ขืนทำออกมาต้องมีปัญหาแน่ ทว่าทางโลกนี้ก็มีโจ๊กและประโยคเด็ดของทางนี้เช่นกัน ชายหนุ่มเชื่อว่าคงไม่สามารถเทียบชั้นกับบรรดามือเก๋าในโลกใบเดิมของเขาได้แน่นอน เพราะอย่างไรเสียจางเย่ก็ยังไม่คุ้นเคยกับเรื่องในโลกใบนี้อีกเยอะ

ลองศึกษาดูก่อนดีกว่า

ลองหารายการของบรรดานักพูดทอล์คโชว์คนดังของที่นี่ดูก่อนด้วยก็ดี

จางเย่ลองศึกษาโดยอิงแง่มุมทัศนคติ ด้วยการค้นหาจากคำสามคำ ‘ทอล์คโชว์’ จากนั้น…… จากนั้นเขาเป็นอันต้องอึ้งงันเสียแทน ผลลัพธ์การค้นหากลับไม่มีคำนี้อยู่! แต่เขายังไม่เชื่อ จึงค้นหาว่า Talk-Show อีกครั้ง ผลการค้นหา พบเพียงการแปลคำศัพท์ของคำๆ นี้เป็นภาษาจีน หรือไม่ก็เป็นแค่การแปลความหมายของคำว่า Talk หรือ Show โดดๆ เท่านั้น!

การค้นหาผ่านไปได้สิบนาทีแล้ว จางเย่พบกับความจริงอย่างหนึ่งด้วยความงงงวย —— ไม่ว่าจะภายในหรือภายนอกประเทศ วงการนี้กลับยังไม่มีทอล์คโชว์ หรือรูปแบบรายการความบันเทิงประเภทนี้มาก่อน! และยังไม่มีการค้นหาสิ่งนี้บนอินเตอร์เน็ตทั้งสิ้น! กล่าวได้ว่ายังไม่มีใครรู้จักทอล์คโชว์ว่าคืออะไร!

จางเย่ปลื้มปริ่ม!

เยี่ยมเลย! แบบนี้ก็หวานหมูสิ!

ก่อนหน้านี้เขายังวิตกหนักมาก ว่าจะต้องแข่งขันกับผู้เชี่ยวชาญการทอล์คโชว์เสียแล้วสิ พอดูตอนนี้ ไม่มีอะไรให้กังวลในเรื่องนี้อีกแล้ว ถ้าเขาผลิตรายการในรูปแบบนี้ ก็จะเป็นคนแรกที่ทอล์คโชว์ระดับสาธารณรัฐ…..ไม่สิ….. เป็นระดับโลก!

เอาล่ะ!

เอามันนี่แหละ!

============================

[1] ‘不管你们信不信反正我信了’ แปลว่า ‘ไม่ว่าพวกคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่ฉันเชื่อ’ เป็นคำพูดของหวังหย่งผิง จากเหตุรถไฟชนกันปี 2011 ซึ่งสร้างกระแสความไม่พอใจให้กับประชาชน

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


Load failed, please RETRY

Hadiah

Hadiah -- Hadiah diterima

    Status Power Mingguan

    Rank -- Peringkat Power
    Stone -- Power stone

    Membuka kunci kumpulan bab

    Indeks

    Opsi Tampilan

    Latar Belakang

    Font

    Ukuran

    Komentar pada bab

    Tulis ulasan Status Membaca: C227
    Gagal mengirim. Silakan coba lagi
    • Kualitas penulisan
    • Stabilitas Pembaruan
    • Pengembangan Cerita
    • Desain Karakter
    • Latar Belakang Dunia

    Skor total 0.0

    Ulasan berhasil diposting! Baca ulasan lebih lanjut
    Pilih Power Stone
    Rank NO.-- Peringkat Power
    Stone -- Batu Daya
    Laporkan konten yang tidak pantas
    Tip kesalahan

    Laporkan penyalahgunaan

    Komentar paragraf

    Masuk