บทที่ 1025 : หน้ากากโจ๊กเกอร์ VS หน้ากากทานตะวัน!
ข้างบนเวที
ชายหนุ่มผู้สวมหน้ากากดอกทานตะวันก้าวขึ้นเวทีอย่างช้าๆ
ด้านล่างเวทียังมีเสียงตะโกนและเสียงกรีดร้องอยู่ แถมยิ่งมายิ่งดังกว่าเดิม!
แม่เอ่ยว่า "ฉันยังชอบเขามากที่สุดอยู่ดีนะ"
พ่อพยักหน้า "อืม"
น้องสองเอ่ยด้วยความคาดหวัง "เพลงกวางตุ้งของเขาเพราะเสมอเลยล่ะ!"
"เริ่มแล้ว เริ่มแล้ว!" น้องสามเองก็กลั้นหายใจ
เมื่อเสียงดนตรีดังขึ้น เพียงพริบตาในห้องอัดก็สงบลง เหล่าผู้ชมล้วนพร้อมใจกันเงียบ ล้วนเห็นแก่หน้าของหน้ากากทานตะวัน เด็กสาวสองสามคนที่ก่อนหน้านี้ก่อปัญหาตอนดอกไม้ต้องฝนร้องเพลงก็ปิดปากตัวเอง ด้วยกลัวว่าการเคลื่อนไหวแม้เพียงนิดจะส่งผลกระทบถึงไอดอล
เชลโล
เปียโน
ท่วงทำนองที่คุ้นเคยเคลื่อนคล้อยอยู่บนเวที
ผู้ชมจำนวนมากคุ้นเคยกับเพลงนี้ดี จึงเริ่มฮัมเพลงตามไปด้วยในใจ
หน้ากากทานตะวันเงยหน้าขึ้น มือจับไมโครโฟน
"เกลียดเธอจริงๆ"
"ความทรงจำเหล่านั้น"
"เกลียดเธอจริงๆ"
"ที่ลืมเลือนฉัน"
ใบหน้าของสาวน้อยแฟนคลับคนหนึ่งเต็มไปด้วยความลุ่มหลง!
คนจำนวนมากหลับตาพริ้มฟัง รู้สึกมีความสุขถึงที่สุด!
เพราะจริงๆ เลย!
นี่สิถึงเรียกว่าเพลงกวางตุ้ง!
ก่อนหน้านี้บนเวที มีเพียงหน้ากากโจ๊กเกอร์เท่านั้นที่เคยร้องเพลงกวางตุ้ง แถมยังร้องตอนแข่งแบบไม่เป็นทางการอีก ทั้ง 'คนในหมู่บ้านเรา' เอย 'บ้านเกิดของฉัน' เอย 'มีเขามีน้ำมีป่า' เอย แถมออกสำเนียงก็ไม่ชัด ทำให้คนจำนวนมากต้องอึ้งตะลึง แต่ ณ บัดนี้เพลงของทานตะวันถึงจะเป็นเพลงภาษากวางตุ้งเพลงแรกที่มีความหมายจริงๆ ใน 'เดอะแมสก์ซิงเกอร์' เหมือนกับในโลกนั้นของจางเย่ ในโลกนี้เองก็มีคนใช้ภาษากวางตุ้งอยู่เกือบครึ่งประเทศ ไม่ได้นับแค่คนพื้นเมืองเท่านั้น ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีคนเคยร้องมาก่อน ไม่ใช่เพราะดอกไม้ต้องฝนหรือคนอื่นๆ คิดว่าเพลงกวางตุ้งเป็นของคนพื้นเมือง แต่เป็นเพราะว่าพวกเขาร้องไม่ได้ การร้องเพลงประเภทนี้มีสำนวนการร้องแบบท้องถิ่นที่ชัดเจนเกินไป ถ้าออกเสียงผิดเพี้ยนเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้คน 'ขำขันเพราะคำผิด' ได้
หลีอวี้เป็นคนฮ่องกงแท้ เรื่องการออกเสียงนั้นไม่ต้องพูดถึง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีชื่อเสียงมาจากเพลงกวางตุ้ง อัลบั้มที่เขาออกเผยแพร่กว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ล้วนเป็นเพลงกวางตุ้งทั้งนั้น คนเขาคลุกอยู่ในวงการนี้ตั้งแต่เพิ่งเริ่มตั้งไข่ ร้องไม่ดีสิแปลก คนดูต่างก็ยอมรับนับถือทั้งนั้น!
ทางด้านแขกรับเชิญ
เฉินอี้ตงเอ่ยชม "ร้องได้ดีจริงๆ"
เอมี่เองก็เห็นด้วย "ไม่เลวจริงๆ"
อย่างไรหลีอวี้ก็นับว่าเป็นคนที่ผ่านอะไรมามากในวงการดนตรี อันที่จริงถ้ารู้ว่าเขาจะร้องเพลงกวางตุ้ง ทุกคนไม่จำเป็นต้องฟังก็รู้ว่าเขาต้องร้องออกมาได้ดีแน่นอน ความสามารถเห็นกันชัดๆ ทั้งตัวเพลงเองก็ไพเราะ
จางเสียวิจารณ์ "แต่ก็ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจ"
เฉินกวงเอ่ยอย่างเป็นกลาง "ดีก็ดีจริง แต่เพลงนี้ผมฟังเขาร้องมาหลายรอบแล้ว ทุกรอบล้วนคล้ายกัน ไม่ได้รู้สึกประทับใจอะไรเพิ่มขึ้นมา"
หวังจุยซูถาม "สถานการณ์ของหน้ากากทานตะวันวันนี้นับว่า...?"
จางเสียร้องอืม "สถานการณ์ของเขาความจริงก็นับว่าปกติ"
เหยาเจี้ยนไฉหันไปมองผู้ชมซึ่งคึกคักกันอยู่ทางห้องอัด เอ่ยว่า "ผู้ชมพวกนั้นเองก็ดูชื่นชอบกันดี"
ใช่ ผู้ชมจำนวนไม่น้อยนับถือมาก ขอเพียงแค่เป็นหลีอวี้ พวกเขาก็รู้สึกว่าดีแล้ว แต่ไหนแต่ไรพวกเขาก็ไม่คิดสนอยู่แล้วว่าอารมณ์ในเพลงจะถ่ายทอดมาได้ดีหรือไม่ รายละเอียดต่างๆ จะเป็นอย่างไร
ข้างบนเวที
หน้ากากทานตะวันเองก็รู้ดี เขาได้รับผลกระทบมาจากการแข่งก่อนหน้า เดิมทีวันนี้ควรเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์ แต่ดอกไม้ต้องฝนดันกวาดเขาออกไปนอกประตู นี่ทำให้สภาพจิตใจของเขาย่ำแย่ถึงขีดสุด แล้วก็หงุดหงิดด้วย เขารู้สึกเสียใจภายหลังว่ารอบแรกควรร้องเพลงกวางตุ้งที่ตนถนัด ถ้าเป็นแบบนั้นต้องชนะแน่นอน เป็นเขาที่ออมมือเอง ความรู้สึกนี้ฝังอยู่ในใจเขามาตลอด ดังนั้นจึงส่งผลกระทบต่อการแสดงของเขาเล็กน้อย แต่ว่าก็ยังดีที่ทานตะวันมีประสบการณ์เพียงพอ เทคนิคเองก็สูงมาก เขาสามารถรับมือกับการแข่งนี้ได้ ช่วงครึ่งหลังของเพลงเขาจึงยิ่งร้องได้ดีขึ้น!
"เกลียดเธอ เกลียดเธอ เกลียดเธอ"
"เพราะอะไรถึงลืมเลือนไม่ได้"
"เธอเคยพูดว่ารักฉัน"
"น่าฟังขนาดนั้น"
"ทำไมสุดท้ายแล้วถึงจากไป"
"เกลียดเธอจริงๆ"
"ความทรงจำเหล่านั้น"
"เกลียดเธอจริงๆ"
"ที่ลืมเลือนฉัน"
หญิงสาวบางกลุ่มส่งเสียงกรีดร้องเรียกชื่อเขา!
ทั้งยืดกาย ปรบมือ โบกป้ายไฟไปมาอย่างบ้าคลั่ง!
แขกรับเชิญสองสามคนเองก็งุนงง คิดไม่ถึงว่าหน้ากากทานตะวันจะดึงตัวเองกลับมาได้ จัดการกับเพลงครึ่งหลังได้อย่างยอดเยี่ยม ถ้าหากให้พวกเขาให้คะแนนละก็ เพลงนี้พวกเขาสามารถให้ได้ถึง 85 คะแนนจึงจะเหมาะสมกับความมหัศจรรย์เช่นนี้ ยิ่งถ้าเทียบกับเพลงภาษาจีนกลางที่หน้ากากทานตะวันร้องก่อนหน้านี้แล้ว นับว่ายอดเยี่ยมกว่ามากจริงๆ!
จางเสีย เฉินกวงและอีกสองสามคนหันมองหน้ากัน
หน้ากากโจ๊กเกอร์จบสิ้นแล้ว!
ไม่มีโอกาสแล้ว!
หน้ากากทานตะวันยึดครองความนิยมในห้องอัด แม้กระทั่งเพลงจีนกลางที่ธรรมดาเพลงนั้น กับดอกไม้ต้องฝนที่ทะลุขีดจำกัดตัวเอง ก็ยังให้ผลออกมาได้ใกล้เคียง จนถูกเฉือนชนะไปเพียงเล็กน้อยอย่างน่าเสียดาย มาบัดนี้ แค่เพียงเริ่มต้นเพลง 'เกลียดเธอจริงๆ' เท่านั้น โอกาสชนะของโจ๊กเกอร์ก็แทบเรียกได้ว่าเป็นศูนย์ ไม่มีใครคิดใส่ใจเขาอีกแล้ว
……
ข้างหลังเวที
ในห้องพักผ่อน
จางเย่นั่งฟังหน้ากากทานตะวันร้องเพลงโดยไม่กล่าวคำ
เกลียดเธอจริงๆ? แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่ชอบเพลงนี้อยู่แล้ว นี่ต้องพูดว่าทัศนคติต่างๆ ของหลีอวี้กับจางเย่นั้นต่างกันมากเกินไป ทั้งสองไม่ใช่คนเดินทางสายเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่มีใจจะฟังแล้ว
ภายในห้องมีเขาคนเดียว ชายหนุ่มจึงลุกไปหากระเป๋าของตัวเอง หยิบโทรศัพท์ที่ปิดเสียงไว้เรียบร้อยออกมา เข้าไปดูความเห็นของชาวเน็ตที่มีต่อนักร้องเสียหน่อย ผลคือกลับเห็นข้อความจำนวนมากที่แม่ส่งมาแทน
แม่ : ไอ้หนู?
แม่ : อยู่ที่ไหนน่ะ? ทำไมไม่เห็นลูกเลย?
แม่ : ไม่ใช่ว่าแกมาถึงก่อนหน้านี้แล้วเหรอ?
จางเย่ตอบกลับทันที : ใช่ กำลังยุ่งเลย
แม่ตอบกลับอย่างรวดเร็ว : ได้รับเงินแล้ว?
จางเย่ยิ้ม: ได้แล้ว ขอบคุณครับแม่ หยิบเงินหนึ่งหมื่นหยวนออกจากมือแม่ได้นี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ
แม่ : เจ้าเด็กนิสัยเสีย ใช้เงินให้มันน้อยๆ หน่อย เลิกซื้อของฟุ่มเฟือยได้แล้ว หางานได้เมื่อไหร่ก็เอามาใช้คืนฉัน เงินน่ะแค่ให้ยืมหรอกนะ จริงสิ วันแม่ใกล้เข้ามาแล้ว คิดไว้หรือยังว่าจะซื้ออะไรให้แม่ ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะไม่ชอบหรอกนะ ฉันจะให้เงินอัดฉีดแกก่อนแล้วกัน เข้าใจไหม? แล้วก็ถ้ามีเวลาว่างก็รีบหางานเข้า วิ่งให้มาก ถามให้มาก ถ้าหากไม่มีใครกล้าจ้างแกจริงๆ อย่างแย่ที่สุดก็แค่ไม่มีใครมาคอยช่วยเหลือเท่านั้น งั้นพวกเราก็กลับบ้านไปพักผ่อน ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น! แล้วยังเลี่ยงกระแสความโกรธพวกเขาได้ด้วย!
พอจางเย่ได้อ่าน ในหัวใจก็อบอุ่นขึ้นมา : รู้แล้ว
แม่ : พอแล้ว ไม่คุยไร้สาระกับแกแล้ว ฉันกับพ่อแกกำลังฟังเพลง ตอนนี้หน้ากากทานตะวันร้องเพลงอยู่ เพราะสุดๆ ไปเลย
ด้านหลัง ประตูถูกเปิดออก
หานฉีเดินเข้ามา "อาจารย์ ใกล้จะถึงตาคุณแล้วค่ะ"
"ครับ" จางเย่ใส่โทรศัพท์ลงในกระเป๋า พรูลมหายใจออกมา หมุนร่างเดินออกไป
หน้ากากทานตะวันร้องจบแล้ว ขนาดอยู่ข้างหลังเวทียังสามารถได้ยินเสียงปรบมือและเสียงตะโกนที่ดังจนทำให้หูแทบดับ
หานฉีกังวลมาก "สู้เขานะคะอาจารย์"
หูเฟยเองก็เห็นแล้ว เขาเดินเข้ามาหาโจ๊กเกอร์ "โจ๊กเกอร์ สู้เขา"
ต้าเฟยกล่าวอย่างโมโห "อาจารย์ ไปจัดการเลย!"
เสี่ยวหลวี่ "คุณต้องไม่มีปัญหาแน่นอน!"
หน้ากากดอกไม้ต้องฝนมองมาที่เขา
หน้ากากไม้ใกล้ฝั่งเองก็พยักหน้าให้
ปวยเล้งเองก็ยืนยกนิ้วโป้งอยู่ไม่ไกล เป็นสัญญาณให้หน้ากากโจ๊กเกอร์สู้ๆ!
อย่างไรก็ตาม ใต้เสียงปรบมือที่ดังกึกก้องสะเทือนฟ้าดินซึ่งมอบให้แก่หลีอวี้ คำว่าสู้ๆ ของคนเหล่านี้ ดูเหมือนจะเล็กจ้อยและอ่อนแอเหลือเกิน
จะเอาชนะหรือเปล่า?
บรรดาทีมงานต่างก็สูดลมหายใจเข้าออก
หลีอวี้ในวันนี้นับว่าไร้ยางอายอย่างถึงขีดสุด!
ซื้อสื่อ!
เปิดเผยตัวตน!
ดึงคะแนนโหวต!
ก่อความวุ่นวาย!
ตอนนี้แม้กระทั่งเพลงที่มีชื่อเสียงที่สุดของตัวเอง เขาก็ร้องออกไปแล้ว!
มีเพียงทางเดียว คือหน้ากากโจ๊กเกอร์ต้องมีเพลงที่ฉีกแนวทำให้คนเซอร์ไพรส์ยิ่งกว่าอีกฝ่าย ไม่อย่างนั้น แม้กระทั่งโอกาสที่เขาจะแข่งขันกับหลีอวี้ก็ยังไม่มี นี่มันเรื่องล้อเล่นอะไรกัน?
แต่ว่าจางเย่มีเพลงประเภทนี้หรือไม่?
คำตอบก็คือแน่นอน!
เขามีแน่นอน! ทั้งยังมีเยอะด้วย!
บนเวทีก่อนหน้านี้ จางเย่ร้องเพลงที่คล้ายเพลงพื้นบ้านจำนวนมาก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะร้องเพลงป็อปไม่เป็น เขาเพียงยังไม่ได้นำออกมาก็เท่านั้น แต่วันนี้จางเย่ไม่คิดจะกั๊กแล้ว เขาตั้งใจจะนำหนึ่งในเพลงท็อปออกมา วัดกับหลีอวี้ไปเลย!
เลือกเพลงไหนดีนะ?
เขาคิดถึงเพลงของหลีอวี้
ภาษากวางตุ้ง?
เกลียดเธอจริงๆ?
พริบตานั้นจางเย่ก็ตัดสินใจได้!
เพลงนั้นก็แล้วกัน!