Unduh Aplikasi

Bab 257: 0257

บทที่ 257 : สถานีโทรทัศน์นับไม่ถ้วนแห่ชิงตัวจางเย่!

เลิกงานแล้ว

จางเย่ออกจากห้องทำงานของหัวหน้า กลับมาหยิบกระเป๋าที่โต๊ะทำงานของตัวเอง

การที่เป็นฝ่ายร้องขอให้เพิ่มปริมาณงานขึ้นสองสามเท่านั้น แน่นอนว่าจางเย่มีแผนการของตัวเองอยู่ เขาอาจไม่ค่อยเหมือนกับคนอื่นๆ เท่าไรนัก เป้าหมายของเขาไม่ได้เลื่อนลอย และไม่ใช่เพื่อค่าตอบแทนหรือเงินรางวัล เพราะจริงแล้วเป้าหมายของเขาคือชื่อเสียง ถ้าหากจางเย่ทำทอล์คโชว์หนึ่งตอน ไม่ก็สองตอนต่อหนึ่งสัปดาห์ มันก็เหมือนกันกับที่โลกโน้นน่ะสิ ส่วนใหญ่ทอล์คโชว์มีหนึ่งตอนต่อหนึ่งสัปดาห์ไม่ใช่เหรอ? หากยืดขอบเขตและช่วงเวลาการออกอากาศให้ยาวเสียขนาดนี้แล้วล่ะก็ ความนิยมโดยรวมที่ได้รับ ชัดเจนว่าต้องมากสุดๆ ด้วยระยะเวลาและการเข้ามาของผู้ชมหน้าใหม่ จะต้องทำให้คนรู้จักเขามากขึ้นเรื่อยๆ ชอบเขามากขึ้น แต่นั่นเป็นความนิยมมวลรวมที่สั่งสมสักหนึ่งปีสองปี ถ้าหนึ่งสัปดาห์ออกอากาศฉายติดต่อกันเจ็ดวันรวด ถึงเหนื่อยก็ตาม แต่ในเวลาอันสั้น ชื่อเสียงที่เค้นรวมมาได้ ย่อมต้องมากกว่าสัปดาห์หนึ่งต่อหนึ่งตอนมากโขทีเดียว ดังนั้นจางเย่จึงไม่ลังเลที่จะเลือกข้อหลัง เพราะเขาไม่ได้เตรียม และไม่ได้วางแผนที่จะทำงานที่สถานีโทรทัศน์ออนไลน์มากกว่าสองถึงสามปี แต่จากสภาพสถานการณ์ข่าวสารของโลกนี้ไม่เหมือนกับที่โลกโน้น ซึ่งก็เป็นข้อจำกัดต่อหัวข้อเรื่องจำนวนมากของจางเย่ด้วย ชายหนุ่มรู้ดีว่าคงพูดไม่ได้นานหลายตอนด้วย จึงต้องรวบรัดตัดตอนเอาวิธีการที่เรียบง่ายและรวดเร็วที่สุด อาศัยเวทีนี้ทำให้ตัวเองมีชื่อเสียงได้เร็วที่สุดก่อนแล้วค่อยว่ากัน!

และอีกข้อที่สำคัญสุดๆ คือ หนึ่งสัปดาห์มีเจ็ดวันออกอากาศรายการ ค่าชื่อเสียงความนิยมที่ได้รับ ย่อมต้องมากกว่าการออกอากาศเพียงแค่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แน่ จางเย่ต้องการค่าชื่อเสียงมาเพิ่มศักยภาพให้ตัวเอง อย่างการหวนความทรงจำรายการทอล์คโชว์ของเขาในโลกโน้น ตอนนี้ยังทำได้ช้าอยู่และได้มาทีละนิดหน่อย เขาต้องการชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น เพื่อซื้อ ‘แคปซูลความจำ’ ไว้หยิบยืมและเพิ่มพูนเนื้อหาสาระทอล์คโชว์ เช่นนี้จึงจะเป็นการสร้างการไหลเวียนของทรัพยากรได้อย่างดี

บริเวณออฟฟิศมีคนอีกไม่น้อยที่ยังไม่กลับ

จางเย่ยิ้มแย้มกล่าว “ทำไมยังไม่เลิกงานอีก?”

เด็กฝึกงานคนหนึ่งของฝ่ายรายการ เห็นว่าจางเย่มา รีบพูดอย่างตระหนก “อาจารย์จางรีบมาดูเร็ว!” เขาชี้ไปที่คอมพิวเตอร์ “มีคนทำรายการทอล์คโชว์แล้วด้วย!”

จางเย่ผงะ จากนั้นส่งเสียงโอ๊ะเล็กน้อย “ฉันดูหน่อย”

เพื่อนร่วมงานสาวของฝ่ายรายการอีกคนพูดอย่างโมโห “เป็นรายการโทรทัศน์ออนไลน์ ที่เป็นคู่แข่งของพวกเรา ชื่อ ‘เรื่องตลกถกโดยเฉินเหยียน’ แม้ว่าในรายการจะไม่มีคำเปรยว่าทอล์คโชว์ แต่เนื้อหาที่นำเสนอน่ะ คนบ้าที่ไหนก็รู้ว่าคืออะไร ลอกเลียนแบบรายการของพวกเราชัดๆ! ฉันว่าแม้แต่การใช้ภาพประกอบฉากตอนออกมาก็แทบไม่ต่างกัน พวกเขาชักจะเกินไปแล้ว! นี่เป็นลิขสิทธิ์ของเรา พวกเขามีสิทธิ์อะไรที่ลอกตามแบบนี้! แถมไม่ให้ค่าลิขสิทธิ์กับพวกเราด้วย?”

จางเย่ถาม “ออกอากาศตอนไหน?”

“ใกล้จะฉายแล้ว สถานีโทรทัศน์ออนไลน์ของพวกเขาจู่ๆ ก็ปรับวางรายการใหม่ เมื่อกี้นี้กำลังเริ่มประโคมโฆษณาใหญ่เลย” พนักงานสาวคนนั้นตอบ

ทางหวังสยงที่ได้ยินข่าวแล้ว รีบสาวเท้าเข้ามาในออฟฟิศ “จางน้อยยังไม่กลับหรอ? งั้นอยู่ต่ออีกหน่อยสิ ดูรายการ ‘เรื่องตลกถกโดยเฉินเหยียน’ กัน”

จางเย่เองก็เข้าใจ เมื่อเป็นรายการของคู่แข่ง พวกเขาย่อมต้องสนใจ แต่ความจริง เขากลับไม่ใส่ใจเลย หากให้พูดว่าตอนนี้จางเย่มีอารมณ์อย่างไร นั่นคงเป็นคำประมาณที่เฉินเฉินมักชอบพูด —— หึหึ จากนั้น เขากับคนจำนวนไม่น้อย นั่งรอดูรายการนั้นออกอากาศฉายด้วยกัน

หวังสยงขมวดคิ้วพูด “ทอล์คโชว์ของจางน้อยดังแล้ว ช่วงนี้ฉันได้ยินว่า มีสถานีโทรทัศน์ออนไลน์ กระทั่งจนถึงสถานีโทรทัศน์ไม่น้อย ต่างคิดที่จะดันรายการทอล์คโชว์กันทั้งนั้น ช่องหนึ่งในสถานีโทรทัศน์เซี่ยงไฮ้ ก็มาคุยเรื่องลิขสิทธิ์กับเรา แต่เหล่าคนของสถานีโทรทัศน์ออนไลน์นี่สิ ไม่ค่อยจะเข้มงวดใส่ใจเท่าไร ดูสิ กล่าวแจ้งก็ไม่บอก ลิขสิทธิ์ก็ไม่ถามถึง ยึดเอารูปแบบรายการของพวกเราไปทำเฉยเลย! ”

พนักงานคนหนึ่งเสนอ “หรือพวกเราควรจะใช้กฎหมาย?”

พนักงานสาวอีกคนพูด “ใช่ ต้องฟ้องพวกเขา!”

หวังสยงโบกมือ “ดูสถานการณ์ไปก่อนเถอะ การฟ้องร้องไม่ง่าย นอกเสียจากมันเลี่ยงไม่ได้เท่านั้น”

จางเย่ยังคงไม่ใส่ใจ เอนพิงข้างหน้าต่างด้านนั้นสูบบุหรี่ หลังจากกลับมา รายการนั่นก็ได้เริ่มฉายแล้ว ขณะกำลังนั่งลง จางเย่ก็เห็นคนวัยกลางคนคนหนึ่ง อายุประมาณสี่สิบปี เขาคือ เฉินเหยียน ซึ่งก็คือพิธีกร ‘เรื่องตลกถกโดยเฉินเหยียน’ผลปรากฏเหมือนที่เพื่อนร่วมงานพูดเป๊ะ แค่กล้องเข้าฉากเท่านั้น จางเย่ก็เกิดความรู้สึกคุ้นเคยอย่างเหลื่อเชื่อ นั่นเล่นก๊อบเอาการจัดวางแปลนพื้นที่ของ ‘จางเย่ทอล์คโชว์’ มาเสียดื้อๆ เลยนี่หว่า!

“สวัสดีครับทุกคน ผมเฉินเหยียนเพื่อนเก่าคนเดิมของพวกคุณเอง”

“ผมจะเล่าเรื่องหนึ่งให้ทุกคนฟัง แต่ก่อนมีภูเขา บนเขามีวัดหนึ่ง”

‘เรื่องตลกถกโดยเฉินเหยียน’ ที่เละๆ เทะๆ เป็นรายการยี่สิบนาที ที่จบลงอย่างรวดเร็ว

อาเชียนที่ร่วมวงดูอยู่นานแล้วพูดขึ้น “ที่แท้ก็เลียนแบบอาจารย์จาง!”

เสียวอวี่พูดอย่างฉุนๆ “มีบางบท ฉันเคยได้ยินมาก่อนแล้ว แค่ดูก็รู้ว่าเอามาจากอินเทอร์เน็ต พวกเขาไร้ยางอายจริงๆ ตาเฒ่าเฉินเหยียนนี่ ถึงแม้จะไม่เคยเป็นดาวรุ่ง แต่ก็เป็นพิธีกรออนไลน์ที่เก๋ากึ๊ก จะมาทำแบบนี้ได้ไง? ไม่อยากรักษาชื่อกันแล้ว?”

พนักงานสาวคนหนึ่งพูด “อาจารย์จางเย่ต้องฟ้องพวกเขานะ!”

จางเย่หัวเราะ “ไม่จำเป็น”

ข้างๆมีคนตกตะลึง “ทำไมล่ะพวกเขาละเมิดสิทธินะ! ”

จางเย่กล่าวอย่างปลงๆ “ก็รายการนี้ของพวกเขาน่ะ คงได้ไม่ถึงสองวันหรอก”

หวังสยงเองก็คิดไม่ต่างกัน ตอนแรกเขายังตึงเครียด คิดว่ารูปแบบรายการพิเศษของบริษัทตัวเอง ได้ถูกลอกเสียแล้ว ซึ่งต้องส่งผลกระทบต่อ ‘จางเย่ทอล์คโชว์’ แน่นอน ต้องเบนผู้ชมบางส่วนออกไปได้แน่ๆ แต่เมื่อได้ดู ‘เรื่องตลกถกโดยเฉินเหยียน’ จนจบแล้ว หวังสยงค่อยวางใจ “ฮ่าๆ จางน้อยพูดถูก รายการแบบนี้ ความจริงไม่เห็นจำเป็นต้องแยแสพวกเขาเลย ผ่านไปได้ไม่กี่วัน ไม่สิ เผลอๆตอนที่สองอาจฉายไม่ได้ด้วยซ้ำ!”

ดังคาด หลังจากนั้นไม่นานนัก สักยี่สิบกว่านาทีของผลการกดคลิกชมรายการนั่นออกมาแล้ว ——ทั้งหมดสามหมื่นห้าคลิก น้อยจนไม่รู้จะน้อยยังไงแล้ว!

อาเชียนพูดอย่างไม่อยากเชื่อ “ไม่ใช่ว่าตอนนี้ทอล์คโชกำลังดังเหรอ? ทำไม ‘เรื่องตลกถกโดยเฉินเหยียน’ ที่ทำตามกระแส ถึงไม่เป็นไปตามนั้นล่ะ? ทำไมกดคลิกน้อยกระจ้อยร่อยงี้ล่ะ? ผมฟังไม่กี่เรื่องในนั้น มันก็ยังผ่านอยู่นะ”

จางเย่ยิ้มพลางกล่าวอธิบาย “ทอล์คโชว์ไม่ใช่เรื่องตลกแบบเพียวๆ ไม่ใช่ว่าเอาเรื่องตลกทั้งหมดมาเชื่อมรวมด้วยเข้าด้วยกันเท่านั้น หัวใจของทอล์คโชว์คือการเชื่อมโยงเข้ากับสภาวการณ์ปัจจุบัน เป็นทั้งการเสียดสี เย้ยหยัน ทั้งยังเป็นรูปแบบศิลปะแขนงหนึ่งให้ย้อนคิดพิจารณา แต่ ‘เรื่องตลกถกโดยเฉินเหยียน’ นี่ ดันเอาเรื่องตลกบางส่วนจากอินเทอร์เน็ตมาเน้นๆ ไม่ปรับอะไรเลย สาระเทคนิคสักนิดก็ไม่มี ผลออกมาดีนี่สิแปลก!”

นี่คือเหตุผลที่ทำไมจางเย่ถึงได้ไม่กังวลตั้งแต่แรก!

ทอล์คโชว์? ที่คนโลกนี้ได้ยินคำนี้เป็นครั้งแรก ก็เป็นเพราะจางเย่นั่นเอง แต่ก็แค่ได้ยินได้ฟังมาเท่านั้นแหละนะ แม้แต่ว่าทอล์คโชว์คืออะไร พวกเขาก็ยังไม่ได้เข้าใจหมดจด แม้แต่คุณค่าแก่นแท้ของทอล์คโชว์ และทำไม ‘จางเย่ทอล์คโชว์’ ถึงได้ดัง เป็นไปได้ว่าพวกเขาคงไม่ได้ทบทวนอย่างแจ่มแจ้ง นี่แค่ไม่กี่วันเองนะ ก็มีศิลปินทอล์คโชว์ ที่โผล่มาเป็นคู่แข่งกับจางเย่? จะเป็นไปได้อย่างไรกัน! ทอล์คโชว์ ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถพูดได้! พิธีกรและทีมผลิตรายการต่างก็เป็นปัจจัยเชื่อมโยงหนึ่งที่มีความสำคัญมาก! ตาเฉินเหยียนนี่ก็ไม่ได้มีฝีปากและภูมิความรู้อย่างจางเย่ เพราะฉะนั้น เจื้อยแจ้วเสียยืดยาว แทบไม่มีใครยอมรับ หรือให้พูดตามความเห็นจางเย่ รายการ ‘เรื่องตลกถกโดยเฉินเหยียน’ ที่ทำตามกระแสนี้ ไม่ได้จัดว่าเป็นทอล์คโชว์ที่แท้จริงเลย!

ทุกคนต่างเลิกลั่นกันถ้วนหน้า

ฟังที่จางเย่วิเคราะห์แล้ว ทุกคนต่างเข้าใจกันหมดว่า ‘เรื่องตลกถกโดยเฉินเหยียน’ พ่ายแพ้ที่ตรงไหน ดังนั้นจึงยิ่งเพิ่มความชัดเจนเรื่องศักยภาพ และความสามารถของอาจารย์จางเย่มากยิ่งขึ้น บางทีปีนี้ ทั้งในประเทศและทั่วทั้งโลก คงมีจางเย่เพียงคนเดียวที่สามารถตีความทอล์คโชว์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ! หาคนที่เป็นสองรองลงมาไม่ได้อีกแล้ว!

……

กลับถึงบ้าน

จางเย่เห็นต่งซานซานไม่อยู่ แน่นอนว่าต้องวุ่นเรื่องรายการแน่ เขาจึงต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทานเอาเอง —— อัศวินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกลับมาแล้ว

หลังอาหาร จางเย่เปิดแหวนเกมขึ้นมา เป็นเพราะสัปดาห์ถัดไป ทุกวันต้องอัดรายการ เขาจำเป็นต้องมีความสามารถมากกว่านี้ ดั้งนั้นจึงนำค่าชื่อเสียงทั้งหมด ซื้อแคปซูลค้นหาความทรงจำ เริ่มทานทีละเม็ดๆ ต่อด้วยการรำลึกเอารายการทอล์คโชว์ของโลกโน้น และบทเรื่องจากอินเทอร์เน็ตบางส่วนออกมาให้ฝังแน่นอยู่หัวสมอง

จัดการสิ่งเหล่านี้เสร็จ จู่ๆ โทรศัพท์ก็ดัง

“ฮัลโหล ขอโทษนะครับใช่อาจารย์จางเย่ไหมครับ?” เป็นผู้ชายโทรมา ฟังเสียงแล้ว อายุประมาณสามสิบกว่าปี

จางเย่พูด “ผมเองครับ คุณคือ?”

ชายหนุ่มรีบพูด “ผมจากช่องบันเทิงของสถานีโทรทัศน์เซี่ยงไฮ้ครับ ผมอยากรบกวนสอบถามสักเล็กน้อย รูปแบบสัญญาของคุณกับบริษัทเหวยหว่อเป็นประมาณไหนครับ ไม่ทราบสะดวกจะเปิดเผยไหมครับ? ไม่ได้มีความหมายอื่นหรอกนะ หลักๆ คือ อยากทราบระยะเวลาสัญญาของคุณ และเบี้ยปรับค่าละเมิดข้อตกลงกับบริษัทเหวยหว่อ ทางพวกเราได้ดูรายการ ‘จางเย่ทอล์คโชว์’ ของคุณแล้ว แปลกใหม่และดีมากๆ เพราะฉะนั้นเลย อืม เพราะฉะนั้นเลยอยากชวนคุณมาประจำการที่สถานีโทรทัศน์เซี่ยงไฮ้ครับ ไม่ทราบว่ามีโอกาสบ้างหรือเปล่าครับ”

ช่องบันเทิงเซี่ยงไฮ้?

นี่ก็เป็นสถานีท้องที่ คล้ายกันกับช่องวรรณศิลป์นครหลวง

จางเย่กล่าวอย่างสุภาพ “ขอโทษนะครับ เบี้ยปรับค่าเสียหายของสัญญาคงไม่น้อยเลย เพราะฉะนั้น…..”

คนนั้นรีบพูด “ไม่เป็นไรครับอาจารย์จาง ถ้าหากคุณยืนยันจะมา ค่าเบี้ยปรับนี้ ทางเราจะออกให้คุณครับ ตราบเท่าที่น้อยกว่าสามล้าน ก็ไม่มีปัญหาครับ!”

จางเย่จิ๊ปากว่า “ลืมมันเสียเถอะครับ ผมเพิ่งเริ่มกับทางนี้ กำลังอยู่ในช่วงต่อยอด ภายหลังมีโอกาส ไว้เราค่อยร่วมงานกันครับ” แม้ไม่ได้กล่าวคำขาด แต่ก็คือปฏิเสธแล้ว จางเย่เข้าใจดี ตอนนี้เขาเริ่มมีชื่อเสียงบนอินเทอร์เน็ตขึ้นมาหน่อยแล้ว อยู่ที่นี่ก็รุ่งได้ จะให้ชิ่งเสียตอนนี้มันช่างไม่สมเหตุสมผลเลย และอันที่จริง บริษัทเหวยหว่อก็ดีกับจางเย่ด้วย บรรดาหัวหน้าล้วนเชื่อถือเขา ไม่เหมือนหน่วยงานสถานีวิทยุ สถานีโทรทัศน์ของเขาแต่ก่อน ที่หาความลำบากมาให้เขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาอยู่ที่นี่อย่างโล่งสบายใจ ชัดเจนว่าไม่อาจทรยศความเชื่อถือของพวกเขาได้ด้วย!

คนนั้นเลยไม่พูดอะไร หลังกล่าวไม่กี่คำก็วางสายโทรศัพท์

จากนั้น มีคนโทรเข้ามือถือจางเย่อีก นี่เป็นสายที่จางเย่ประหลาดใจที่สุด เพราะอีกฝ่ายคือสถานีโทรทัศน์นครหลวง!

“อาจารย์จางเย่ เราเคยเจอกันแล้วแต่คุณคงจำไม่ได้ เราสองคนยังไม่เคยคุยกันเลย อืม ผมโทรหาคุณ เพราะเรื่องรายการทอล์คโชว์น่ะ ก่อนหน้านี้สถานีทำอย่างนั้นกับคุณ อันที่จริงก็เพราะไม่มีทางเลือก ผมทราบว่าคุณเองต้องสามารถเข้าใจได้แน่ คุณเคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์นครหลวงมาก็ไม่น้อยแล้ว เราต่างก็มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน เคยต่อสู้ร่วมกันมา อืม ผมเองคงไม่อ้อมค้อมแล้วล่ะครับ เจตนาในสถานีคือ หวังว่าคุณสามารถกลับมาทำรายการทอล์คโชว์ที่สถานีโทรทัศน์นครหลวงได้ คุณว่าอย่างไรครับ?”

ก็เมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน สถานีโทรทัศน์นครหลวงเพิ่งจะขับเขาออกเอง นี่เพิ่งผ่านไปได้ไม่นาน ก็มาหาให้เขากลับไปอีก? ที่จริงจางเย่ไม่ได้อึดอัดอะไรกับสถานีโทรทัศน์นครหลวง เขาแค่มีข้อขัดข้องกับหวังสุ่ยซินเท่านั้น แต่ด้วยเหตุการณ์อย่างวันนี้ แน่นอนว่าจางเย่ไม่กลับไปแน่ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้! เดี๋ยวเรียกให้มา เดี๋ยวเรียกให้ไป มันใช่เหรอ? พวกนายเห็นพี่ชายเป็นเพื่อนเล่นหรือไง! ไร้สาระ!

จางเย่พูด “ตอนนี้ไม่คิดจะไปครับ”

“เอาล่ะ อันที่จริงคุณไม่ต้องกังวลเรื่องเบี้ยปรับค่าเสียหาย ทางเราสามารถออกให้ได้” เขาคนนั้นไม่ยอม ยังคงพูดต่ออีก

จางเย่หัวเราะ “ไม่ใช่เรื่องเบี้ยปรับค่าเสียหาย”

คนนั้นจึงไม่พูดอีก “งั้น…..ก็ได้ครับ”

ไม่รู้ว่าพวกเขาปรึกษากันมาเรียบร้อยแล้วหรือเปล่า ต่อมาก็มีคนของสถานีโทรทัศน์ตงซานโทรศัพท์มาหาจางเย่อีก คราวนี้เป็นรองหัวหน้าสถานีโทรทัศน์มาเชิญจางเย่ไปเป็นการส่วนตัว แน่นอนว่าจางเย่ไม่ตกลง ยังคงปฏิเสธอย่างสุภาพ ความจริง ท่าทีของจางเย่ก็นับว่าไม่เลวทีเดียว พอคิดถึงเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ตอนที่เขาโทรศัพท์หาแต่ละสถานีโทรทัศน์ หรือยื่นประวัติการสมัครอยู่ ผลคือ ระบบของสถานีบล็อกเขา ไม่มีใครต้องการเขา บรรดาแฟนคลับต่างพากันช่วยจางเย่หางาน ช่วยยื่นประวัติ แต่ก็ยังไม่มีใครตอบรับ อ้อ ตอนนี้เห็นรายการของลูกพี่ดังแล้วไง พวกนายแต่ละรายๆ ก็เลยมาหาฉัน? น่าสนใจไหมล่ะ!

จางเย่ปฏิเสธทุกข้อเสนอ!

แต่ว่า คนของสถานีโทรทัศน์ และสถานีโทรทัศน์ออนไลน์มากมายต่างยังไม่ยอมแพ้ เพราะรายการสามตอนได้ออกฉายแล้ว ‘จางเย่ทอล์คโชว์’ เพียงคืนเดียวก็พุ่งปรี๊ด หลังจากพุ่งทะลุแล้ว ยอดไม่มีตก ความนิยมของรายการกลับสูงเอาๆ ขึ้นทุกวัน ตอนนี้แม้แต่คนเซ่อซ่าก็ยังรู้ ว่าประเภทรายการทอล์คโชว์เป็นแนวหน้าของตลาดภายในประเทศแล้ว ต่อจากนี้ทอล์คโชว์ต้องเหมาเทรายการบันเทิงหลักไปเป็นแถบๆ แน่ สถานีโทรทัศน์ไหนๆ ก็ล้วนไม่อยากล้าหลังตกขอบและพลาดเค้กชิ้นนี้ไป ตอนนี้คนที่คุ้นเคยกับทอล์คโชว์มากที่สุดคือ จางเย่ แต่หลังจากล่อดึงเขาไม่สำเร็จ คนพวกนั้นยังคงไม่ยอมแพ้ พวกเขาคิดว่า สิ่งสำคัญที่สุดของทอล์คโชว์ ต้องเป็นเรื่องราวในปัจจุบัน แค่เพียงหาตัวทีมงานมือเขียนบทที่อยู่เบื้องหลังจากเย่ได้ เพียงเปลี่ยนใครให้ไปเป็นพิธีกร คงไม่ต่างกันเท่าไรหรอก

เจี้ยนกว๋อ?

ต้านต้าน?

ไล่เป่า?

สามคนนี้เคยปรากฏตัวใน ‘ทอล์คโชว์คืนนี้ปี '80’ จางเย่ได้เอาชื่อของสามคนนี้ มาออกปรากฏในรายการตอนที่สาม ทุกคนเลยคิดว่าทั้งสามคนนี้ คือทีมผลิตงานเบื้องหลังของจางเย่ ดังนั้น ส่วนนี้เองจางเย่ก็ไม่สามารถต่อกรให้สยบได้ พวกเขาดันเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นตัวของสาม ‘คน’ นั่นแทน!

โทรศัพท์เป็นรายๆ โทรมายังบริษัทเหวยหว่อ

เจ้าหน้าที่ภายในที่แต่ละรายสามารถติดต่อได้ ก็ติดต่อมาหมดแล้ว

น่าเสียดายที่พวกเขาคิดผิด สามคนที่ปรากฏในรายการ โดยถูกเรียกกันว่าเป็นทีมงานมือเขียนบทนั่น เป็นเพียงผู้สร้างรายการ ‘ทอล์คโชว์คืนนี้ปี '80’ ในโลกโน้นของจางเย่ และไม่ได้มีอยู่จริงในโลกนี้ จางเย่เพียงแค่เพิ่มเติมสีสันรสชาติและเคารพให้เกียรติต้นฉบับเท่านั้น จึงเอาชื่อของทั้งสามคนเพิ่มเติมลงไป โดยไม่ได้ปรับเปลี่ยน!

ดังนั้น คนของสถานีโทรทัศน์เหล่านี้ ที่คิดจะช่วงชิงดึงตัว ก็ได้ทราบเรื่องราวที่น่าอัศจรรย์จากสายงานเดียวกัน โดยบุคคลภายในหรือเพื่อนบางส่วนจากบริษัทเหวยหว่อ —— การผลิตเรื่องบททั้งหมดทั้งมวลใน ‘จางเย่ทอล์คโชว์’ ล้วนสำเร็จได้ด้วยอาจารย์จางเย่เพียงผู้เดียว ไม่ได้มีใครช่วยเหลือและไม่มีสิ่งที่เรียกว่าทีมงานมือเขียนบททั้งสิ้น!

เป็นเขาเองทั้งหมด?

เขาสร้างมันขึ้นมาเองทั้งหมดคนเดียว?

คนเหล่านั้นของสถานีโทรทัศน์พลันตื่นตะลึง!

คราวนี้ พวกเขาถึงได้ยอมถอดใจอย่างแท้จริง!

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


Load failed, please RETRY

Hadiah

Hadiah -- Hadiah diterima

    Status Power Mingguan

    Rank -- Peringkat Power
    Stone -- Power stone

    Membuka kunci kumpulan bab

    Indeks

    Opsi Tampilan

    Latar Belakang

    Font

    Ukuran

    Komentar pada bab

    Tulis ulasan Status Membaca: C257
    Gagal mengirim. Silakan coba lagi
    • Kualitas penulisan
    • Stabilitas Pembaruan
    • Pengembangan Cerita
    • Desain Karakter
    • Latar Belakang Dunia

    Skor total 0.0

    Ulasan berhasil diposting! Baca ulasan lebih lanjut
    Pilih Power Stone
    Rank NO.-- Peringkat Power
    Stone -- Batu Daya
    Laporkan konten yang tidak pantas
    Tip kesalahan

    Laporkan penyalahgunaan

    Komentar paragraf

    Masuk