"ผมขอโทษนะพี่เทพที่เหม่อไปหน่อย พอฟังพี่พูดแล้วผมก็ไม่อยากจะเชื่อ ผมไม่คิดเลย ว่าตัวเองจะโชคดีอย่างนี้ ผมไม่ได้อยู่ในวันสิ้นโลก ถึงผมอาจจะกลายเป็นคนป่วยโรคปริศนาที่ไปทำร้ายคนอื่น ตอนนั้นก็คงตายไปแล้ว ไม่ได้รับรู้ความเจ็บปวดกับคนพวกนั้นเลย ยอมรับนะ ว่าผมไม่ได้สิ้นหวังแบบพวกเขา" คิมหันต์รู้สึกสะท้อนใจ ชายหนุ่มรู้ว่าคนที่สบายที่สุดแบบเขา ไม่มีสิทธิ์พูดถึงความลำบากของผู้ประสบภัย แต่การที่ตนนอนอยู่เฉยๆแล้วตื่นมาพบว่า ตลอดช่วงเวลาที่หลับมันเกิดเรื่องล้างบางมนุษย์ไปมากมาย โดยที่เขาไม่สามารถยืนมือช่วยเหลืออะไรได้ ก็ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเสียใจ
[น้องคิมโกรธหรือ] ระบบถามเมื่อเห็นคิมหันต์ไม่พูดจา ชายหนุ่มส่ายหน้า
"ผมไม่ได้โกรธ แต่ไม่ได้หมายความว่าผมไม่เสียใจนะครับ ผมเสียใจ ใครบ้างล่ะที่จะอยากให้เผ่าพันธุ์ตัวเองถูกฆ่า ไหนจะประเทศบ้านเกิดเมืองนอนที่ล่มสลายไปอีก แต่ที่ผมบอกไม่โกรธ เพราะผมไม่ได้เจอปัญหาแบบพวกเขา ผมก็แค่นอนแล้วตื่นมาที่นี่ ปลอดภัยจากเรื่องทั้งหมดนี้ได้ก็ถือว่าผมโชคดีกว่าพวกเขาแล้วครับ" ใบหน้าธรรมดายิ้มเจื่อน ดวงตาสีดำสั่นไหวไม่น้อย
[จากคำพูดหมายความว่า น้องคิมเดินทางข้ามเวลาจากช่วงยุคแรกมายังที่นี่ พี่เทพวิเคราะห์ถูกหรือไม่] ระบบทำการวิเคราะห์จากข้อมูลที่ได้รับมาจากคิมหันต์
"ถะ...ถูกครับ พี่เทพเป็น AI ที่ฉลาดสุดๆ" คิมหันต์ที่กำลังหวนคิดถึงอดีต ถึงกับพูดอึกอัก เขาไม่คิดมาก่อนว่าระบบจะจับจุดได้ดีขนาดนี้ ถึงสิ่งที่เขาเล่าจะเป็นอย่างที่ระบบวิเคราะห์จริงๆก็เถอะ จู่ๆมาถามหลังจากคุยกับเขาไม่กี่นาที ระบบนี่มีกระบวนการคิดเหมือนคนมากเลยแฮะ
[แน่นอน พี่เทพเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของสหพันธ์ พึ่งอัพเกรดรุ่นมาเมื่อตอนต้นปีเอง] ระบบตอบกลับ
"แล้วพี่เทพไม่แปลกใจเหรอครับ ที่ผมเดินทางข้ามเวลาได้" ชายหนุ่มเอียงคอถามด้วยความสงสัย
[พี่เทพไม่แปลกใจ เพราะได้มีการคิดค้นการเดินทางข้ามเวลามาตั้งแต่ยุคการสื่อสารกับต่างดาวแล้ว แต่การเดินทางไปยังอดีตเป็นข้อต้องห้ามไปตั้งแต่เริ่มก่อตั้งยุคสหพันธ์ดวงดาว เพราะมีหลายครั้งที่มีการย้อนไปเปลี่ยนประวัติศาสตร์สำคัญ เดือดร้อนเจ้าหน้าที่ต้องเดินทางย้อนไปก่อนผู้กระทำความผิดจะลงมือ ไม่อย่างงั้นสิ่งที่ควรจะเกิดก็จะไม่เกิด แต่อะไรที่โดนเปลี่ยนก่อนยุคสหพันธ์ดวงดาวมันมากมายเกินไปจนไม่อาจช่วยแก้ให้ถูกต้องได้]
ระบบกล่าวถึงการคิดค้นเรื่องการเดินทางข้ามเวลาที่ถือเป็นเรื่องปกติ ทำให้คิมหันต์ได้แต่ตกใจกับความเจริญที่แตกต่างจากยุคสมัยของตนเอง ชายหนุ่มเริ่มเข้าใจอะไรหลายอย่างชัดขึ้น ที่จริงมีอีกหลายเรื่องที่เขาอยากถามระบบ แต่ท้องที่ว่างมาหลายชั่วโมงก็ส่งเสียงโครกคราก ความอยากอาหารของคิมหันต์ร้องบอกผ่านทางของร่างกาย ว่าควรจะจัดมื้ออาหารสักมื้อเข้ากระเพาะได้แล้ว
"พี่เทพ ตอนนี้เราก็คุยกันมานานแล้วนะครับ สอนผมใช้ระบบไลฟ์สดหน่อยสิครับ ผมอยากกินข้าวแล้ว" ชายหนุ่มพูดพลางลูบท้องไปมา แสดงความหิว
[รับทราบ ถ้าน้องคิมจะไลฟ์แล้ว ก็ทำตามที่พี่เทพบอกนะ] ระบบกล่าวขึ้นเพื่อเตรียมสอนการใช้ระบบไลฟ์สด
"ครับ" คิมหันต์ขานตอบรับ สายตามุ่งมั่นฟังอย่างตั้งใจ
[อย่างแรกที่น้องคิมจะต้องรู้ ระบบไลฟ์สดนี้ มีกฎหลักอยู่ 3 ข้อ คือ 1.ห้ามปลอมแปลงตัวตน 2.ห้ามเป็นผู้กระทำความผิด หากพ้นโทษแล้วจึงจะสามารถใช้ระบบได้ตามปกติ 3.ไม่สามารถหลอกเลียนแบบผลงานคนอื่นได้ น้องคิมต้องปฏิบ้ติตามกฎ ห้ามละเมิดเด็ดขาด หากละเลยกฎจะถูกทางสหพันธ์ดำเนินคดีและแบนบัญชีเข้าใช้ เมื่อโดนแบนจะไม่สามารถติดต่อกับทางการได้เพราะถือว่าเป็นผู้มีความผิด] ระบบพูดถึงกฎเป็นอย่างแรก พยายามพูดย้ำถึงความสำคัญที่ห้ามละเมิด
"โอเค ผมเข้าใจ" ชายหนุ่มกล่าวก่อนพยักหน้าตอบ
[งั้นพี่เทพจะขออธิบายวิธีไลฟ์ อย่างแรก น้องคิมต้องไปกดที่หน้าจอสี่เหลี่ยม จากนั้นก็พูดคำสั่ง 'ระบบ เริ่มไลฟ์' บนจอจะปรากฏภาพของน้องคิม จากนั้นก็ให้น้องคิมแสดงความสามารถอะไรก็ได้ ถ้าต้องการให้กล้องเห็นในมุมอื่นๆก็ต้องพูดคำสั่ง เช่น ต้องการให้ผู้ชมเห็นภาพทะเลในมุมสูง ก็พูดว่า 'ระบบบินให้สูงเหนือน้ำทะเล 200 เมตร' เป็นต้น ตอนไลฟ์ถ้าน้องคิมอยากจะเห็นแชทของผู้ชมให้ลูบกระดานไปทางขวา หน้าจอจะถูกแยกออกมา เป็นแชทของผู้ชมโดยเฉพาะ สุดท้ายเมื่อน้องคิมต้องการปิดไลฟ์ก็พูดประโยคคำสั่ง 'ระบบ ปิดไลฟ์' น้องคิมเข้าใจไหม] ระบบถาม
"เข้าใจครับ แต่ตอนออกคำสั่งหน้าจอสี่เหลี่ยม จากคำว่าระบบ ผมเรียกพี่เทพเหมือนปกติได้ไหมครับ" คิมหันต์เอ่ยขึ้นมา เพราะเขารู้สึกว่าการเอ่ยประโยคคำสั่งตอนใช้งานว่า พี่เทพ ดูจะชินปากมากกว่าคำว่า ระบบ ที่เขาเองก็ติดเรียกมาตั้งแรก จึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา
[ได้ ตอนอธิบายพี่เทพแค่อยากจะให้เห็นภาพเท่านั้น แต่พอไลฟ์จริงน้องคิมจะพูดอะไรก็ได้ เพียงทุกครั้งที่สั่งตอนใช้งานจะต้องพูดชื่อพี่เทพนำประโยคทุกครั้ง] ระบบบอกว่าไม่ติดขัดการเปลี่ยนชื่อเรียกตอนออกคำสั่ง เพียงต้องเอ่ยทุกครั้งเพื่อให้ระบบรับรู้ว่าต้องการใช้งาน
"งั้นผมลองไลฟ์เลยนะครับ" เมื่อได้ฟังวิธีการใช้ทั้งหมด คิมหันต์ก็รู้สึกว่าไม่น่ายากเย็นอะไร จึงพูดขอลองไลฟ์กับระบบ
[เอาเลย] ระบบตอบกลับ
"พี่เทพ เริ่มไลฟ์" คิมหันต์พูดด้วยรอยยิ้ม
[ระบบกำลังถ่ายทอดสด] เวลาผ่านไปประมาณเท่าไหร่คิมหันต์ไม่รู้ ไม่มีคนเข้ามาสักที เขาเองก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ เพราะชายหนุ่มอ่านภาษาของที่นี่ไม่ได้ ไม่รู้ว่าตัวภาพประหลาดที่น่าจะเป็นตัวเลขนี่หมายความว่าอย่างไร
"พี่เทพ ผมอ่านภาษาโลกนี้ไม่ได้ ดูเวลาที่ระบุในหน้าจอสี่เหลี่ยมไม่ถูก ผมไม่รู้ว่ามันหมายความว่ากี่โมง แต่ทำไมผมอ่านภาษาที่อยู่เหนือหน้าจอที่พี่พูดออกมาได้ล่ะครับ" ชายหนุ่มไม่เข้าใจว่าทำไมตนถึงอ่านข้อความเรืองแสงสีฟ้านั่นออก
[ที่น้องคิมอ่านออกก็เพราะพี่เทพผูกระบบกับน้องคิมแล้ว ได้ทำการสแกนสมองพร้อมกับตรวจความทรงจำผ่านเครื่องมือทางทหารรุ่น E3 ที่สามารถตรวจจับความทรงจำ ภาษา การทำงานของร่างกาย พี่เทพเลยสามารถเข้าใจภาษาของน้องคิมได้ ส่วนภาพตัวเลขที่อ่านไม่ออกก็เป็นเพราะน้องคิมยังไม่ติดตั้งเวลาของดาวเคราะห์นี้กับทางระบบ มันจึงปรากฏตัวเลขที่ใช้ในดาวหลัก] ระบบอธิบาย
"การที่พี่เทพมาสแกนความทรงจำผมได้นี่มันน่ากลัวสุดๆ แต่ผมไม่อยากจะว่าอะไรหรอก เพราะถ้าพี่ไม่ทำแแบบนี้ ผมก็คงไม่รู้อะไรไปมากกว่านี้อีก" คิมหันต์พูดพลาง ถอนหายใจพลาง จะให้เขาทำอย่างไร ยังไงก็กลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว ความเงียบเกิดขึ้นหลังจากที่คิมหันต์นั่งรอผู้ชมเข้ามาในไลฟ์ ไม่มีเสียงจากระบบอีก เพราะชายหนุ่มไม่ได้ถาม ส่วนตัวคิมหันต์ก็ไม่อยากพูดอะไร ทั่วบริเวณจึงเงียบสงบ โชคดีที่เขายังนั่งเหงาไม่ทันไร ก็มีคนหลงเข้ามาไลฟ์ของเขา เลยถึงเวลาของการทำงาน
[มีผู้เข้าชม 1 คน]
[ราชินีน้ำแข็ง : สวัสดีค่ะ]
"สวัสดีครับ" ชายหนุ่มกล่าวเสียงสั่น เขาตื่นเต้นมากที่ตอนนี้ได้คุยกับสิ่งมีชีวิตอื่นที่ไม่ทราบเผ่าพันธุ์
"ยินดีต้อนรับ ขอบคุณที่มาดูช่องของผมนะครับ ตอนนี้คุณเป็นคนแรกที่เข้ามาช่องนี้เลยนะ" เขาพูดบทที่เตรียมมาก่อนหน้านี้ทันที
[ราชินีน้ำแข็ง : จริงเหรอ]
"จริงครับ วันนี้เป็นการไลฟ์ครั้งแรกของผม ตื่นเต้นมากเลยครับ" ใบหน้าธรรมดายิ้มกว้าง
[ราชินีน้ำแข็ง : มือใหม่ก็แบบนี้แหละ]
"แหะๆ ครั้งต่อไปผมจะพยายามให้มันดีกว่านี้ครับ" ชายหนุ่มกล่าวบอก
[ราชินีน้ำแข็ง : โอเค ฉันเข้าใจความตั้งใจของนายแล้ว วันนี้จะแสดงอะไรให้ฉันดู]
"ผมจะมาร้องเพลงครับ" คิมหันต์รีบบอกความถนัดของเขาทันที
[ราชินีน้ำแข็ง : ร้องเพลง?]
"ครับ ร้องเพลง เป็นเพลงที่ผมเคยแต่ง" ชายหนุ่มพยักหน้า เขาพูดถึงเพลงในอดีตที่เคยแต่งเอาไว้ ในใจก็เกิดยินดีที่จะได้ร้องเพลงอีกครั้ง
[ราชินีน้ำแข็ง : นายจะร้องเพลงจริงๆเหรอ ฉันไม่ได้ดูถูกนายหรอกนะ แต่ศาสตร์การร้องเพลงเนี่ยมันเป็นความบันเทิงของมนุุษย์ยุคเก่าไม่ใช่เหรอ]
"หมายความว่ายังไงเหรอครับ สมัยนี้ไม่ร้องกันแล้วเหรอ" ชายหนุ่มสะดุ้งตัวโยน เขาหรี่ตามองคอมเมนต์อย่างตกใจ ผู้ชมคนนี้ต้องรู้อะไรมาแน่ๆ
[ราชินีน้ำแข็ง : ไม่มีใครทำเรื่องเสียเวลายังงั้นหรอก]
"เสียเวลา?" เขาไม่เข้าใจที่คนคนนี้บอก
[ราชินีน้ำแข็ง : ก็เสียเวลานะสิ เอาเวลาไปฝึกใช้พลังยังจะมีประโยชน์ซะกว่า]
"แล้วไม่ฟังเพื่อความผ่อนคลายเหรอครับ" ชายหนุ่มเลิกคิ้ว เขารู้สึกว่ายุคดวงดาวนี่ชักจะแปลกๆ จึงถามออกมา
[ราชินีน้ำแข็ง : ไม่นะ ส่วนใหญ่จะฝึกฝนตัวเอง มีบ้างที่ก็จะดูละคร AI]
"ละคร AI ไม่ใช้เพลงประกอบเหรอครับ" ชายหนุ่มพูดขึ้น
[ราชินีน้ำแข็ง : ทำไมต้องใช้ ยังไงละครก็เปิดโหมดสัมผัสอยู่ดี ตอนชมแล้วก็จะได้รับรู้ความรู้สึกของตัวละคร การที่มีเพลงมันคงดูไม่สมจริง]
"อย่างนั้นเหรอครับ" ตอนนี้เขาได้แต่นั่งนิ่ง ถ้าโลกนี้ไม่ใช้เพลงแล้วเขาจะไลฟ์อะไรได้ ชักจะเริ่มเครียดแล้วสิ
[ราชินีน้ำแข็ง : ทำไมนายไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ เป็นมนุษย์ยุคเก่าหลุดมารึไง]
"ครับ" ชายหนุ่มที่อยู่ในภวังค์เผลอตอบกลับไปโดยไม่รู้ตัว
[ราชินีน้ำแข็ง : ...]
"...." ความเงียบเกิดขึ้นทันทีที่คิมหันต์นึกได้ว่าเมื่อกี้เผลอพูดอะไรออกมา มันก็สายเกินไปแล้วที่จะปฏิเสธ เขาหลุดพูดเรื่องที่ตนเองเป็นสิ่งมีชีวิตในอดีตไปซะแล้ว
[ราชินีน้ำแข็ง : จริงดิ ฉันพูดถูกเหรอ]
"ครับ" ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนจะพยักหน้าอย่างจำยอม เขาหลุบตาลงต่ำมองเหนือหน้าจอสี่เหลี่ยมทันที เพื่อดูว่าระบบจะต่อว่าอะไรเขาไหม พื้นที่บนอากาศไม่ปรากฏตัวอักษรใดใด ทำให้คิมหันต์ได้แต่ตัดสินใจที่จะคุยกับราชินีน้ำแข็งเพียงลำพัง
[ราชินีน้ำแข็ง : แล้วนายก็ยอมรับง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ]
"ก็ระบบบอกว่าการเดินทางข้ามเวลาเป็นเรื่องปกติ" คิมหันต์เอ่ยถึงเรื่องที่ระบบเคยเล่าให้ฟังก่อนเริ่มไลฟ์
[ราชินีน้ำแข็ง : เป็นเรื่องปกติบ้านนายสิ ระบบนั้นไม่ได้บอกเหรอว่า การเดินทางข้ามเวลาเป็นข้อห้ามตั้งแต่ 20,000 ปีก่อนแล้ว]
"บอกครับ" ชายหนุ่มยอมรับ แต่ท่าทางไม่รู้อะไรเลยของคิมหันต์กลับกระตุ้นความไม่พอใจของคู่สนทนา
[ราชินีน้ำแข็ง : แล้วนายเอามาบอกคนนอกเรื่อยเปื่อยได้ยังไง มันเป็นข้อห้าม แสดงว่าตอนนี้นายน่ะไม่ปกติสุดๆ รู้ตัวไหมเนี่ย]
"ไม่ขนาดนั้น...มั้งครับ" ชายหนุ่มหัวเราะแก้เก้อ รอยยิ้มเจื้อนลงมามาก
[ราชินีน้ำแข็ง : ถ้าให้ฉันเดานะ ตอนนี้นายไม่มีเพศรองใช่ป่ะ]
"ครับ" คิมหันต์พูดพลางพยักหน้า
[ราชินีน้ำแข็ง : ฉันอยากจะบ้าตาย]
"ผมขอโทษครับ" ชายหนุ่มเอ่ยขอโทษออกมา
[ราชินีน้ำแข็ง : ช่างมันเถอะ เดี๋ยวฉันโทรไปหานาย รับสายด้วย]
ตืดดดดด ตืดดดดดดดดดดด
ไม่นานหลังจากที่ราชินีน้ำแข็งพิมพ์มา เขาก็ได้ยินเสียงโทรเรียกเข้า มันปรากฏชื่อ ราชินีน้ำแข็ง บนหน้าจอสี่เหลี่ยม เมื่อเห็นว่าในส่วนของการโทรมีความคล้ายคลึงกับสมัยที่เขาใช้มือถือ ทำให้ไม่ใช่เรื่องยากที่ชายหนุ่มจะเข้าใจการทำงานของมัน นิ้วเรียวของเขากดเข้าไปที่รูปโทรศัพท์ที่อยู่ใต้ชื่อของผู้ที่โทรเข้ามาทันที
กึก เขากดรับสาย
"สวัสดี" เสียงผู้หญิงออกมาจากปลายสาย เขาคาดเดาจากน้ำเสียงว่าน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับเขา
"ครับ ผมถือสายอยู่" ชายหนุ่มขานตอบ
"ฉัน ไอรีน คาลด์เวลล์ จอมพลอัลฟ่า ผู้บัญชาการทการสูงสุดของสหพันธ์ดวงดาว" ปลายสายแนะนำตัวทันที เสียงเย็นเหยียบแผ่อำนาจของอัลฟ่าออกมา ถึงกับทำให้คิมหันต์ที่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ใกล้ก็ยังรับรู้ไปถึงแรงกดดันประหลาด
"สะ..สวัสดีครับ ผมไม่นึกเลยว่าจะเป็นคนใหญ่คนโตเข้ามาทัก" ความกลัวเกรงที่ตอบกลับนั้นไม่ได้เกิดจากเพียงแค่เขาหวาดกลัวกับแรงกดดันอย่างเดียว หากจู่ๆมีคนมาอ้างว่าเป็นคนระดับสูง ใครก็ต้องไม่อยากจะเผชิญหน้าแบบนี้ด้วยกันทั้งนั้นแหละ
"ฉันเองก็ไม่นึกว่าจะเจอของหายากแบบนี้" เสียงหวานเหยียบเย็นเอ่ยขึ้นมา
"ขอโทษที่อาจจะเสียมารยาท คุณไอรีนมีหลักฐานยืนยันตัวตนไหมครับ" คิมหันต์อดไม่ได้ที่จะสงสัย ในอดีตที่เขาทำงานก็มักจะได้ยินถึงการแอบอ้างของอาชญากรบ่อยๆจากข่าวในโทรทัศน์ จึงเอ่ยถามออกมา
"คุณก็รู้กฎของสหพันธ์ใช่ไหม ที่ห้ามปลอมแปลงตัวตน อีกอย่างถ้าฉันเป็นตัวปลอม ระบบที่คุณครอบครองก็จะแจ้งเรื่องที่มีคนแอบอ้างชื่อเจ้าหน้าที่ระดับสูง ไม่เชื่อฉันก็ลองถามระบบของนายดูสิ" ไอรีนตอบคำถามของชายหนุ่มทันที
"โอเคครับ ผมจะลองดู" คิมหันต์ที่ต้องการความมั่นใจในตัวตนที่คุยอยู่ รู้สึกเห็นด้วยกับข้อเสนอที่อีกฝ่ายกล่าวถึง เขาลองพูดกับระบบอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่แค่การมองเฉยๆแต่เป็นประโยคคำสั่ง
"พี่เทพครับ ช่วยยืนยันตัวตนของคนที่ทักมาหาผมหน่อยครับ"
[รอสักครู่....] ระบบทำการระบุตัวตนของผู้ชมคนนี้ทันที ไม่นานก็สามารถระบุตัวตนได้
[จากการตรวจสอบ พบว่าเป็นบัญชีของเจ้าหน้าที่ระดับสูงจริง] ระบบยืนยันหนักแน่น
"โอเคครับ" คิมหันต์เริ่มวางใจที่คนที่คุยด้วยเป็นเจ้าหน้าที่
"ขอโทษนะที่ผมสงสัยคุณ" เขาเอ่ยขอโทษออกมา
"ไม่เป็นไร" ไอรีนตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ
"ทำไมคุณถึงอยากคุยกับผม" ชายหนุ่มเริ่มทำการเก็บข้อมูลอย่างจริงจัง มันแปลกนะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงจะอยากคุยกับเขา
"เพราะเธอเป็นสิ่งมีชีวิตหายาก ต้องดูแล" อีกฝ่ายพูดถึงเหตุผลทันที
"ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกครับ" คิมหันต์เข้าใจ แต่ก็ไม่คิดว่าการได้รับการดูแลจากสหพันธ์เป็นเรื่องดี ไม่ใช่จะเอาเขาไปทำการทดลองหรอกนะ
"ต้องดูแลสิ เธออ่อนแอจะตาย" จอมพลสาวพูดเสียงเรียบ มีความเย่อหยิ่งปะปนในน้ำเสียง สำหรับจุดสูงสุดของอัลฟ่าเป็นไปไม่ได้ที่ไอรีนจะไม่เย้ยหยันความอ่อนแอของสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่ แต่สาเหตุที่หญิงสาวต้องการคุยกับชายหนุ่มก็เพราะรู้สึกสนใจการปรากฏตัวของอรรยธรรมที่สูญหาย อีกอย่างหนึ่งในผู้ก่อตั้งสหพันธ์ดวงดาวเป็นชาวโลกสีน้ำเงินที่เป็นมนุษย์ได้รับการวิวัฒนการจากมนุษย์ยุคเก่า จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องสนใจตัวตนของคนในสาย
"ผม..." คิมหันต์ไม่รู้จะพูดอะไรตอบโต้ พยายามที่จะเถียงกลับ แต่ก็นึกสิ่งที่จะพูดไม่ออก ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าเขาอ่อนแอกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นในสหพันธ์