Pig love
04
"ขอบใจ"
"ไหวแน่นะ?"
"ไหวน้า อย่าห่วงไม่เข้าเรื่องสิ รีบไปเรียนได้แล้ว"
น้ำข้าวที่มีไม้ค้ำช่วยพยุงตัว ยืนอยู่หน้าห้องเรียนของคณะตัวเอง ขมวดคิ้วพูดไล่ยูตัส ที่เอาแต่ทำสีหน้าเป็นห่วงเป็นกังวลเขาไม่เลิกอย่างอ่อนใจ
หลังจากที่แต่งตัวกันเรียบร้อยเมื่อเช้า ยูตัสก็พยุงพาเขาเดินลงจากหอมาขึ้นรถ แล้วขับรถมาส่งเขาถึงคณะ แต่แทนที่จะจบแค่หน้าคณะ กลับกลายเป็นว่ายูตัสดันเดินมาส่งเขาถึงหน้าห้องเรียนเลยทีเดียว
"จะไม่ให้เป็นห่วงได้ยังไง ก็ตัสเป็นคนทำข้าวเจ็บ"
ยูตัสที่เกิดอาการเป็นห่วงขึ้นมาทันทีที่พาคนอ้วนมาส่งที่คณะพูดบอกเสียงเครียด และเหตุผลที่มันทำให้เขาเป็นห่วงน้ำข้าว คงเพราะว่าน้ำข้าวดูเหมือนจะไม่ค่อยมีเพื่อนที่พอจะสนิทในคณะเลย แล้วสภาพยังมาเป็นแบบนี้ก็ดูจะลำบากมากในการเดินไปไหนมาไหน เขาเลยอดที่จะเป็นห่วงขึ้นมาไม่ได้
"นี่...บอกว่าไม่เป็นอะไรก็ไม่เป็นอะไรสิ อย่าคิดมากได้มั้ย"
"แต่ข้าว..."
"ไม่ต้องมาแต่ข้าว ไปเรียนได้แล้วเดี๋ยวมันจะสาย"
น้ำข้าวถอนหายใจใส่ พลางหันหลังให้ยูตัสแล้วเดินซวนเซขากะเผลกเข้าห้องเรียน ที่มีนักศึกษาคณะบริหารอยู่กันเกือบเต็มห้อง อย่างไม่สนใจสายตาหลายคู่ที่จ้องมองมา เพื่อเป็นการตัดบทสนทนากับคนช่างกังวลอย่างยูตัสไป
"งั้นพักเที่ยงแล้วตัสจะโทรหานะ ข้าวรอรับสายตัสด้วยนะ!"
ยูตัสที่ยังคงมีท่าทีกังวลพูดตะโกนบอก เรียกสายตาของคนภายในห้องให้หันมามองกันถ้วนทั่ว แต่เจ้าของเสียงก็ไม่ได้สนใจ เพราะเขานั้นใช้สายตามองแค่แผ่นหลังหนาของคนตัวอวบอ้วน ที่กำลังเดินเข้าไปนั่งในพื้นที่ว่าคนเดียวเท่านั้น
และเมื่อเห็นว่าน้ำข้าวยกมือขึ้นมาทำท่าโอเค ยูตัสก็ยิ้มออกมาก่อนจะเดินกลับลงไปขึ้นรถของตัวเองที่จอดอยู่หน้าคณะบริหาร แล้วขับรถวนกลับไปยังตึกเรียนของคณะตัวเอง
"ไอ้ข้าวเป็นไงมั้ง?"
ดินสอที่ไม่เคยมีความคิดจะทักทาย หรือพูดคุยกับยูตัสในเมื่อก่อน เดินเข้ามาทักทันทีที่เห็นว่ายูตัสกำลังจะเดินเข้าห้องเรียนอย่างรีบร้อน
"ก็โอเคขึ้นแล้วแหละ แต่..."
ยูตัสที่กำลังจะเดินเข้าห้องเรียนไปหยุดชะงัก แล้วหันกลับไปมองทางต้นเสียง ก็เห็นว่าเป็นดินสอที่เอ่ยปากถามขึ้น โดยมีกลุ่มเพื่อนของดินสองอีกสามคนอยู่ด้วย เอ่ยปากตอบเสียงเรียบหากแต่น้ำเสียงกลับเป็นกังวลจนคนฟังรับรู้ได้
"ไม่ต้องห่วงมันขนาดนั้นหรอกน้า ไอ้น้ำข้าวมันไม่เป็นอะไรหรอก"
ดินสอพูดบอกเสียงเรียบ ด้วยท่าทีสบายๆ เพราะเขาเป็นเพื่อนกับน้ำข้าวมานานเขาจึงรู้ดีที่สุดว่าน้ำข้าวมันแกร่งขนาดไหน
"แต่เราก็ยังเป็นห่วงข้าวอยู่ดี...ดูเหมือนข้าวจะไม่ค่อยมีเพื่อนในคณะเลยด้วย"
ยูตัสพูดขึ้นพลางเดินเข้าห้องเรียนไปพร้อมๆ กับดินสอและกลุ่มเพื่อนของดิน
"มันเป็นความผิดกูเองแหละ"
ดินสอที่ได้ฟังยูตัสพูดก็ถึงกับถอนหายใจหนักๆ ออกมาแล้วพูดขึ้นเสียงอ่อน เขารู้สึกผิดจับใจเลยที่เป็นต้นเหตุให้น้ำข้าวโตมาเป็นคนอย่างทุกวันนี้
"...หมายความว่าไง?"
ยูตัสหันมามองคนพูดแล้วเลิกคิ้วถามทันที เขาไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่ดินสอพูดเท่าไรนัก แล้วก็อยากจะรู้คำตอบมากๆ ด้วยว่าน้ำข้าวคนก่อนที่ดินสอพูดถึงเป็นคนแบบไหน
"เพิ่งรู้จักกันเล่าได้ด้วยหรอวะ?"
ดินสอหันไปมองเพื่อนใหม่แล้วเลิกคิ้วว่ากลับ ทำให้เพื่อนเกลอร่วมคณะในรั่วมหาวิทยาลัยสามคนของเขาว่าสวนตอบแทนยูตัสทันที
"ได้สิวะ!"
ควิก เอ็ก และตรีมพูดส่วนขึ้นมาทำให้ดินสอต้องละสายตาจากยูตัสไปมองหน้าเพื่อนด้วยสีหน้าเป็นเชิงบอกว่าเสือกไปในตัว
"กูพูดจริงๆ นะ ถึงไม่สนิทก็พูดได้ถ้ามึงไว้ใจมันมากพอ"
ตรีม เด็กหนุ่มหุ่นล้ำผิวสองสีร่างกายสมส่วน หน้าตาธรรมดาๆ ที่เดินอยู่ข้างหน้ายูตัสหันกลับมาพูดบอกด้วยท่าทีสบายๆ ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งด้านในสุดของโต๊ะ
"เออ กูก็เห็นด้วยกับไปตรีม เพราะกูเองก็เป็นคนแบบนั้น แต่ถ้าอะไรที่มันไม่จำเป็นกูก็จะไม่พูด"
ควิก ผู้ชายตัวสูงสวมแว่นสายตา ร่างกายผอมบางไม่มีอะไรเด่นเป็นพิเศษว่าสมทบ แล้วเดินเข้าไปนั่งต่อจากตรีม
"ส่วนกู กูคิดว่าแล้วแต่ความจำเป็นวะ แต่เรื่องนี้มันก็แล้วแต่มึงอีกนั้นแหละ ขนาดพวกกูรู้จักมึงกับข้าวมาเป็นปีแล้ว กูยังไม่ค่อยจะรู้อะไรเกี่ยวกับพวกมึงสองคนเท่าไหร่เลย แต่ก็อย่างที่ว่ามันก็แล้วแต่นิสัยของคนว่าชอบแสดงด้านไหนให้ใครเห็น หรืออยากให้ใครเห็นด้านไหน"
เอ็กหนุ่มน้อยหน้าตาน่ารัก และนิสัยกลับแสบ และซี๊ดยิ่งกว่าอะไรเอวตัวมามองดินสอพลางพูดบอกด้วยท่าทีนักเลง หากแต่คนมองอย่างดินสอนั้นรู้ดีว่ามันเป็นบุคลิกของเพื่อนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
"จุ๊ๆๆ กูเพิ่งจะเห็นพวกมึงพูดดีก็คราวนี้แหละ"
ดินสอยิ้มขำทำเสียงจุปาก พูดแซะเพื่อนทันที เมื่อได้ยินคำพูดที่สุดแสนจะเท่ของกลุ่มเพื่อน ที่วันๆ นอกจากจะไม่มีสาระ แล้วยังจะทำตัวไร้สาระด้วยความชื่นชม
"อ๊ะไอ้นี่ มึงเห็นพวกกูเป็นคนแบบไหนเนี่ย"
เอ็กหน้ายู่ถามเพื่นกลับเสียงเข้มด้วยท่าทีไม่จริงจังนัก หากแต่คนตอบกลับไม่คิดจะรักษาหน้าให้เพื่อนสักนิด
"พวกไร้สาระ เอาแต่บ้าหมีไปวันๆ"
"โอบ๊ะ! อย่ารวมผมผมเป็นเด็กเรียน แล้วผมก็ชอบผู้ชายด้วยไม่ได้บ้าหมีครับ"
ควิกพูดขึ้นอย่างไม่อายปาก เพราะเขากล้าพูดได้เต็มปากเลยว่าเขาชอบเพศไหน และเป็นเพศไหน ซึ่งเพื่อนๆ ที่รู้จักเขาทุกคนก็รู้ว่าเขาชอบผู้ชาย
"อะๆ นอกเรื่องแล้วพวกมึงวนกลีบเข้ามาเรื่องไอ้ข้าวก่อน"
ตรีมที่นั่งขำกับคำพูดของควิกพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนเริ่มออกนอกทะเลกันไปไกล บวกกับหนุ่มหล่อของคณะอย่างยูตัสที่เริ่มจะมีท่าทีกระวนกระวายแล้ว
"งั้นมึงมานั่งกูจะเล่าให้ฟัง เพราะยังไงมันก็ไม่ได้เป็นความลับอะไรอยู่แล้ว"
ดินสอกลับเข้าเรื่องอีกครั้ง แล้วนั่งลงตามเอ็ก พร้อมกับหันมาชักชวนยูตัสให้นั่งลงที่เก้าอี้ว่างอีกตัวข้างๆ ด้วย ที่เขาจะเล่าให้ฟังไม่ใช่อะไร เขาแค่คิดว่าไอ้น้ำข้าวเพื่อนสนิทของเขามันดูสนใจยูตัาเฉย เพราะตั้งแต่เกิดเหตุการณ์วันนั้นน้ำข้าวก็ไม่มีท่าทีว่าจะสนใจใครเลย จนกระทั้งเมื่อวานนี้ที่เขาได้เห็นเพื่อนสนิทพูดคุยกับคนอื่นด้วยท่าทีสบายๆ นอกจากตัวเขา และเพื่อนในกลุ่มของเขา
"แต่ก่อนที่ไอ้สอจะเล่านายมีอะไรอยากจะบอกพวกเราก่อนมั๊ยวะ?"
ตรีมพูดขึ้นเสียงเรียบหลังจากที่ลองมองตามสัญชาตญาณความรู้สึกของคนถูกจ้อง แล้วสบเขากับสายตาของเพื่อนกลุ่มใหญ่ภายในห้องที่มองมา
"นั้นดิ กูก็ว่าอยู่ว่าทำไมรู้สึกเหมือนถูกจ้อง"
เอ็กพูดขึ้นหลังจากที่จ้องมองไปด้านหน้าของตัวเอง แล้วเห็นว่าเพื่อนร่วมห้องกลุ่มใหญ่ที่เคยอยู่กับคนหล่อของคณะอย่างยูตัสมาตั้งแต่เข้าเรียนมหา'ลัย กำลังจ้องมองมาทางพวกเขาไม่วางตา
"อ่า...ไอ้สัดจิตสังหารแรงฉิบหาย อะไรทันจะติดมึงกันขนาดนั้นวะ?"
ดินสอพูดขึ้นบ้างเมื่อได้ลองมองตามสายตาของเพื่อนในกลุ่มไป
"ผิดใจกันนะสิ"
ยูตัสพูดขึ้นก่อนจะถอนหายใจออกมาหนักๆ แต่เขาก็ตัดสินใจแล้วว่าจะเลิกนิสัยตามคนอื่น
"ห๊า? มึงเนี่ยนะผิดใจกับพวกมัน"
ดินสอหันมามองแล้วเลิกคิ้วถาทอย่างคนเหลือเชื่อทันที ไม่ต่างตากเอ็ก ตรีม และคลิกที่หันมาองมองหนุ่หล่อด้วยสายตาและสีหน้าสงสัย
"คือเมื่อวานเย็นลงไปซื้อของข้างหอข้าวแล้วไปเจอพวกนั้นเขา มันบอกให้เราไปส่งแต่เราปฏิเสธไปน่ะ"
"ก็เลยไม่พอใจมึงว่างั้น?"
ดินสอเลิกคิ้วถามด้วยท่าทีระอาใจ ปนเวทนา เพราะมันเป็นอย่างที่เขาคิดไว้ไม่มีผิดเลยว่า คนพวกนั้นมันแค่หวังจะกอบโกยผลประโยชน์ใส่ตัวเองเท่านั้น มันไม้ได้เห็นใครเป็นเพท่อนหรอกถ้าหากว่าไม่มีประโยชน์กับพวกมัน
"กูว่าไม่ใช่แค่ไม่พอใจหรอก มันคงจะเหม็นขี้หน้าไปแล้ว แต่ติดที่ว่านายยังมีประโยชน์กับพวกมันพวกมันก็เลยไม่ทำอะไรนาย"
ควิกกอดอกพูดบอกด้วยท่าทีเรียบเฉย หากแต่นัยน์ตาภายใต้กรอบแว่นกลับเต็มไปด้วยความเวทนา และเย้ยหยันอยู่เต็มดวงตา เขามันเป็นพวกคนชั่งน้ำหน้าพวกเห็นแกตัวสุดๆ เพราะเขามีแม่แท้ๆ ของตัวเองเป็นตัวอย่างคนที่เห็นแก ตัวยอมละทิ้งครอบครัวของตัวเองไปมีสามีใหม่โดยที่ทิ้งเขากับพ่อเอาไว้กับหนี้กองโตที่เธอสร้างขึ้นเพียงสองคน
"มึงก็ไม่ต้องไปสนใจมันนักหรอก พวกเห็นแกตัวแบบนั้นน่ะ"
ดินสอหันมามองหน้าเพื่อนใหม่ แล้วพูดบอกเสียงเรียบในคำพูดไม่ได้แฝงความยุยง หรือส่งเสริมใดๆ นอกจากเป็นถอยคำพูดธรรมดาๆ ที่เอ่ยออกมาบอกตามประสบการณ์ของตัวเอง
"ข้าวก็พูดแบบนี้ แล้วเราก็ไม่ได้คิดจะสนใจแล้วและ เหนื่อยมากเลยกับการเป็นคนที่ต้องเป็นคนให้อยู่ฝ่ายเดียว ตอนนี้ก็เลยคิดว่าจะหยุดแล้ว"
ยูตัสหันไปมองหน้าเพื่อนร่วมห้องที่อยู่เรียนด้วยกันมานาน แต่ไม่เคยที่จะทักทายกันด้วยสายตาขอบคุณ ทำให้คนที่พูดบอกพยักหน้าส่งให้เป็นเชิงว่าไม่เป็นไร
"เออ ยังไม่ได้แนะนำตัวกันเลยนี่ไอ้เอ็ก ไอ้ควิก แล้วก็ไอ้ตรีม ส่วนมึงไม่ต้องแนะนำตัวหรอก เขารู้จักมึงกันทั้งคณะแล้ว"
ดินสอพูดแนะนำตัวเพื่อนเกลอให้ยูตัสรู้จัก โดยที่ทุกคนต่างพากันเมินสายตาที่มองมาทางพวกทิ้งไปอย่างไม่คิดจะสนใจ
ยูตัสที่ได้รู้จักเพื่อนใหม่ก็พยักหน้าทักทายกับกลุ่มเพื่อนของดินสอกลับพอเป็นพิธี เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเขาจึงหันไปมองดินสออีกครั้งเพื่อรอให้เจ้าตัวเริ่มเล่าความเป็นมาของน้ำข้าวเสียที
อาจเป็นเพราะเขาสนใจในตัวของน้ำข้าว มันเลยทำให้เขาอยากจะรู้ทุกๆ เรื่องของน้ำข้าวไปโดยปริยายแบบนี้
"เมื่อก่อนข้าวไม่ได้อ้วน ไม่ได้เป็นคนไม่มีเพื่อน และปิดกั้นคนอื่นแบบนี้ ไอ้ข้าวเป็นคนใจดีแล้วก็ใส่ใจความรู้สึกคนรอบข้างก่อนเสมอ มันใจดีกับทุกคนที่เข้าหามัน เหมือนมึงเลย แต่ก็เพราะว่ามันเป็นคนแบบนั้นมันโดนเพื่อนที่อยู่รอบๆ ตัวเอาเปรียบเสมอ ยิ่งเวลาที่กูอยู่กับมันนะกูนี่โคตรเหนื่อยใจเลย เอะอะก็ข้าวช่วยหน่อย ขอดูด้วย ขอลอกอัน ขอยืมอันนี้ ฝากซื้อนู้นนี้แต่ไม่ยอมจ่ายคืนค่าของคืน เอาเปรียบมันทุกๆอย่าง"
"..."
"และที่เจ็บปวดที่สุดคงเป็นเรื่องที่แฟนคนแรกของมันนอกใจไปคบกับเพื่อนอีกคนของมันนั้นแหละ เป็นผู้ชายหน้าตาดีปากหวานแต่สันดานแย่ฉิบหาย มาลอกคบกับไอ้ข้าวทั้งๆ ที่มันไม่ได้ชอบผู้ชายสักนิด เห๊อะนึกถึงแล้วกูอยากจะย้อนเวลากลับไปตั้นหน้ามันอีกสักครั้งจังเลยไอ้เวรเอ้ย"
ดินสอพูดเล่าด้วยสีหน้าโมโหจัด ราวกับว่าอยากจะทำอย่างที่ปากพูดจริงๆ หากว่าย้อนกลับไปได้ ในตอนที่เขารู้วันนั้นเขาหัวเสียจนตามรุ่นพี่คนนั้นไปถึงบ้าน แล้วก็ชกหน้าไปทีจนคนโดนสลบเหมือด ต้องไปเสียค่าปรับอยู่โรงพักข้อหาทำร้ายร่างกายปผลายบาท หากแต่พ่อแม่ไม่ได้ดุด่าอะไรเพราะรู้ดีว่าเขาเป็นคนที่ว่า ถ้าไม่โกรธหรือเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ เขาจะไม่ทำอะไรแบบนั้นเลย
"เพราะแบบนั่นสินะถึงได้เข้าใจความรู้สึกเรากัน"
ยูตัสพยักหน้ารับทันที เขากระจ่างแจ้งแล้วว่าทำไมคำพูด และคำแนะนำของน้ำข้าวมันถึงได้ดูเข้าอกเข้าใจเขานัก
"แล้วไอ้ที่ว่าข้าวไม่ใช่คนอ้วนนี่..."
เอ็กที่ข้องใจกับรูปร่างของน้ำข้าวที่ดินสอได้พูดบอกว่า เมื่อก่อนข้าวไม่ใช่คนอ้วนก็เอ่ยปากเลิกคิ้วมองหน้าเพื่อนเกลอทันทีอย่างสงสัย โดยที่ตรีมเองก็เท้าคางรอฟังคำตอยอยู่เช่นกัน
"ก็เพราะกูนี่แหละ"
"ยังไง?"
คลิกเลิกคิ้วมองคนพูดด้วยสีหน้าเป็นคำถาม คนอื่นๆที่รอฟังก็ทำหน้าไม่ต่างกัน
"ก็กูเป็นคนบอกมห้มันไปทำอะไรก็ได้ที่มันทำให้คนอื่นเลิกมาวุ่นวายกับชีวิตเราสักที"
ดินสองพูดบอกเสียงอ่อนอก พลางส่ายหน้าไปมาอย่างคนอ่อนใจ เขามันผิดเองที่พูดอะไรไม่เจาะจงแบบนั้นจนเพื่อนโตมาเป็นอย่างทุกวันนี้
"ข้าวก็เลยเพิ่มน้ำหนักตัวน่ะหรอ?"
ยูตัสพูดถามขึ้นเมื่อเริ่มจะเข้าใจที่มาที่ไปของน้ำหนักตัวของคนอ้วนแล้ว
"ใช่ ไม่ใช่แค่เพิ่มน้ำหนักตัวนะมันยังเพิ่มนิสัยปิดกั้นไม่เอาใครเข้ามาด้วย ทำให้ตอนที่เรียนมอ.ปลายอยู่มันมีแค่กูเป็นเพื่อนอยู่คนเดียวไง"
พูดจบดินสอก็ถอนหายใจออกมา เพราะรู้สึกผิดมากกับความคิดของตัวเองในตอนนั้น ตอนนี้ก็ทำได้แค่สั่งไอ้หมูอ้วนให้มันลดน้ำหนักเท่านั้น แต่ก็อย่างที่เห็นว่ามันคัดค้านเขาหัวชนฝา และยังเอาแต่บอกเขาว่า 'รอให้มันได้เจอคนที่ชอบมันในแบบที่ตัวมันเป็นก่อน' อีก
คิดแล้วก็เพลียใจ
"โคตรเหี้ย"
เอ็กพูดขึ้นพลางส่ายหน้าไปมาเบาๆ
"ใคร? แฟนเก่ามันหรอ?"
ดินสอหันไปมองหน้าคนพูด แล้วเลิกคิ้วถามขึ้น
"ไม่ มึงอ่ะเหี้ย"
ตรีมตอบกลับแทนพลางส่ายหน้าระอาใส่ ไม่ใช่ว่าแฟนเก่ามันไม่เหี้ยนะ แต่เพื่อนเขามันก็เหี้ยเหมือนกันที่ทำให้คนๆ หนึ่งกลายร่างมาได้ขนาดนี้ เป็นคำพูดที่ส่งผลกับจิตใจโดยตรงเลยที่ทำให้คนฟังรับมาทำตามได้
"เออ ทุกวันนี้กูยังรู้สึกผิดกับตัวเองเลยที่ทำให้คนน่ารักแบบมันกลายมาเป็นคนแบบนี้"
ดินสอไม่คิดจะคัดค้านคำด่าของเพื่อน เพราะเขาเองก็รู้ตัวดีว่าตัวเองเป็นเพื่อนที่แย่ขนาดไหน เขาถึงได้พยามหาทางอ้อมลดน้ำหนักให้มันไปในตัวอย่างการเดินมาเขาที่คณะทุกเย็นจนมันเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อวานนี่แหละ
ยูตัสที่ได้รับรู้เรื่องราวฝังใจของน้ำข้าวก็ยิ่งสนใจเขาไปใหญ่ เพราะมันกำลังจะเป็นแบบอย่างให้เขาได้ก้าวเดินต่อไปได้โดยที่ตัวเองไม่จำเป็นต้องฝืนอย่างทุกวันนี้
"โคตรชอบเลยว่ะ..."
#ลูกหมูของยูตัส
Twitter :
https://twitter.com/dao_25?s=09
— Bab baru akan segera rilis — Tulis ulasan