Unduh Aplikasi

Bab 56: งานอภิเษก

การจัดเตรียมงานอภิเษกนั้นเป็นงานใหญ่ พวกวิทยาธรต่างพยายามช่วยกันเต็มที่ เพราะพวกเขาไม่ได้จัดงานรื่นเริงแบบนี้มานานแล้ว กูณฑ์พยายามเข้าไปช่วย แต่ถูกพวกนั้นปฏิเสธ ใครจะกล้าให้พระสหายของพระราชามาช่วยงานกันล่ะ

"แปลกดีเหมือนกันนะที่รากษสตนนั้นไม่ตามนายมา" กูณฑ์รำพึงกับว่าที่เจ้าบ่าว

"คงคิดว่าได้ไม่คุ้มเสียกระมัง" มลพูดโอ่ ๆ สำหรับรากษสตนนั้น แม่เขาก็เป็นแค่หญิงบ้าที่ใช้การอะไรไม่ได้ ไม่คู่ควรกับที่ต้องออกยกทัพตาม แต่ต่อให้มา มลก็ไม่กลัว เขาจะบี้ให้เหมือนบี้แมลงวันเลย

การเตรียมงานเป็นไปอย่างดี ไม่มีอุปสรรคอะไร มลตั้งใจจะจัดงานเล็ก ๆ เพื่อจะได้เก็บเงินไว้ใช้ยามจำเป็น แต่พวกข้าราชบริพารไม่เห็นด้วย งานอภิเษกของพระราชาจะจัดเล่น ๆ ได้อย่างไร งานนี้จึงจัดเป็นงานใหญ่เต็มที่ ใหญ่มากเสียจนไปเข้าหูคนคนหนึ่ง จะว่าคนก็ไม่ถูกนัก น่าจะเรียกว่าอสูรตนหนึ่งมากกว่า

"เจ้าว่าอย่างไรนะ" ชยังกูรถามอย่างไม่อยากเชื่อหู สายของเขารายงานว่ามล ลูกเขยของเขาได้ขึ้นครองเมืองและกำลังจะอภิเษกสมรสกับผู้หญิงอื่น ถ้าอย่างนั้นลูกสาวเขาก็ไม่ได้เป็นเอกน่ะสิ

"ก็ตามนั่นแหละพระเจ้าค่ะ" คนนำข่าวมาบอกตัวสั่นงันงก "พระเจ้ากมลธิราชจะอภิเษกกับอุสา ข่าวว่านางเป็นพระธิดาของฤๅษีที่พระองค์ทรงเรียนวิชาด้วยพระเจ้าค่ะ"

"ให้ตายสิ" ชยังกูรคราง เป็นลูกหลานคนอื่นยังพอคุย "ขู่" กันได้ แต่พวกฤๅษีนี่เขาไม่กล้ายุ่งด้วยจริง ๆ

"แต่ข่าวว่าบิดานางสิ้นแล้วนะพระเจ้าค่ะ"

ชยังกูรโบกมือห้าม สำหรับเผ่าพันธุ์อื่น ตายไปแล้วก็จบ แต่ฤๅษีเป็นผู้บำเพ็ญฌาน ต่อให้ตายไปแล้วก็ยังจำอดีตชาติได้อยู่ ไม่รู้ตอนนี้ไปเกิดเป็นอะไร แต่ถ้าไปเกิดเป็นพรหม เขาไม่แย่เอาเหรอ แค่เทวดาก็สู้ไม่ได้แล้ว

"ช่วยไม่ได้ ข้าจะให้แม่ของแก้วประไพสอนนางเรื่องวิธีปรนนิบัติสามีและดูแลเมียหลวงก็แล้วกัน" ชยังกูรพูดอย่างยอมแพ้

แก้วประไพไม่ค่อยพอใจนักที่รู้ว่าตนต้องไปแต่งงานกับวิทยาธรที่ชื่อมล แน่ล่ะว่าเธอไม่เคยรักใคร่อะไรเขาจริง ๆ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็ล้วนแต่เกิดจากมนตร์เสน่ห์ทั้งนั้น เมื่อมนตร์คลาย เธอก็ไม่อยากจากบ้านเมืองที่แสนคุ้นเคยนี้ไป ไปอยู่ในที่ที่เธอไม่รู้จัก แถมยังต้องไปเป็นเมียน้อยเขาอีกด้วย

"ลูกไม่ไปไม่ได้หรือเพคะ เสด็จแม่"

ผู้เป็นแม่ลูบหลังลูกสาว "เขาเป็นสามีของลูกแล้ว จะไม่ไปได้อย่างไร"

"แต่เขายังไม่เคยล่วงเกินลูกเลยนะเพคะ" แก้วประไพเถียงอย่างไม่ยอมแพ้ เป็นความจริงแท้ ๆ.พวกเขาไม่ได้มีอะไรกัน

"ถึงอย่างนั้น ประชาชนก็คิดอย่างนั้นไปแล้ว ลูกเป็นของเขาไปแล้ว"

แก้วประไพซุกอกผู้เป็นแม่ "ลูกกลัว"

อีกฝ่ายเชยคางขึ้น "ลูกแม่น่ารักแบบนี้ พระองค์ต้องเอ็นดูแน่จ้ะ"

ในที่สุดแก้วประไพก็เดินทางไปหามลพร้อมขบวนเสด็จและจดหมายฝากตัว

มลแปลกใจที่ได้รับจดหมาย ตั้งแต่เขาขึ้นครองราชย์ยังไม่มีเวลาสร้างสัมพันธไมตรีกับเมืองใดเลย ไหนจะต้องไปช่วยแม่ ไปตามอุสา และตอนนี้เขาก็ต้องทำให้อุสาเคยชินกับหน้าใหม่ของเขาอีก แต่เมื่อมีคนส่งจดหมายมา ขอเป็นมิตรด้วย เขาก็สั่งให้อาลักษณ์อ่าน

"ถึงพระเจ้ากมลธิราช ก่อนอื่นพ่อขอแสดงความยินดีด้วยที่ลูกได้ขึ้นครองราชบัลลังก์ที่เป็นสิทธิ์ของลูกอย่างชอบธรรม อันพระราชานั้นเปรียบเหมือนพระอาทิตย์ และพ่อเองก็ทราบว่าลูกมีดวงจันทร์ของลูกอยู่แล้ว แม้จะไม่เคยเห็นหน้า แต่พ่อก็รับรู้ด้วยหัวใจว่าเจ้าหญิงอุสาคงกอปรไปด้วยรูปสมบัติและคุณสมบัติ คู่ควรเป็นนางแก้วของจักรพรรดิอย่างลูกทุกประการ แต่ถึงกระนั้นพระจันทร์ก็ไม่ควรอยู่โดดเดี่ยว สมควรมีดาราน้อยเป็นบริวาร พ่อจึงได้ส่งแก้วประไพ ลูกสาวที่พ่อรักเสมอดวงใจมาให้เจ้าช่วงใช้ หวังว่าเจ้าจะเห็นแก่พ่อและเมตตานางด้วย จาก ชยังกูร มหาเทวาสูร"

หลังจากที่อาลักษณ์อ่านจบ มลถึงกับนิ่งอึ้ง พูดอะไรไม่ออก เขาเข้าใจความนัยของจดหมายฉบับนี้ดี อีกฝ่ายอยากให้เขารับแก้วประไพเป็นชายาอีกองค์หนึ่ง ความจริงก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เขาเป็นพระราชาจะมีสนมกี่คนก็ได้ อุสาเองก็ไม่ได้มีทีท่าเป็นคนขี้หึง แต่ปัญหามันอยู่ที่ใจเขา เขาอยากเดินตามรอยเท้าพ่อ อยากเป็นคนที่ได้ชื่อว่าโง่ มีเมียแค่คนเดียว แต่การปฏิเสธเทวาสูรไม่ใช่สิ่งดี ถึงเขาจะเคยสู้ชนะมาแล้วครั้งหนึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าจะชนะตลอด ไม่สร้างศัตรูเป็นดีที่สุด

"เราจะทำอย่างไรดี" มลปรึกษาเสนาอำมาตย์ ซึ่งพวกเขาก็เห็นพ้องต้องกันว่าควรจะรับนางมาเป็นชายารอง

ดังนั้นมลจึงเชิญแก้วประไพให้ไปอยู่อีกตำหนักหนึ่งและจัดกานางกำนัลให้ไปปรนนิบัติอย่างดี ส่วนเขาไปเล่าเรื่องให้อุสาฟัง

"ข้าไม่ได้ตั้งใจจะรับนางเป็นชายาจริง ๆ อยู่ ๆ ข้าก็ไปนอนกอดนาง เทวดาจงใจกลั่นแกล้งข้าแท้ ๆ" ว่าแล้วมลก็ลอบด่าเทวดาในใจ ทำสงครามกับพวกอสูร ก็ทำไปสิ ทำไมต้องให้เขาเดือดร้อนด้วย

อุสาเองก็ยังเป็นอุสา เธออ่อนโยน ใจดีเสมอ เด็กสาวเพียงแต่ยิ้ม ไม่พูดอะไร

"แต่เจ้าไม่ต้องห่วงนะ" มลยืนยัน "ข้าไม่ยอมให้นางมาเทียบบารมีเจ้าในวันอภิเษกหรอก"

อุสาส่ายหน้าช้า ๆ "ทำแบบนั้นไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือเจ้าพี่ พ่อนางไปยกนางให้เจ้าพี่แล้ว เจ้าพี่ควรเมตตาเอ็นดูนางให้มาก"

"แต่ข้า.." มลเริ่ม

"ได้โปรดเถิด เจ้าพี่" อุสาอ้อนวอน "ถือว่านางเป็นน้องคนหนึ่งของข้าก็ได้"

"ถ้าเจ้าเต็มใจ ข้าก็ไม่ขัด"

***

ในที่สุดมลจึงต้องจัดงานอภิเษกสมรส ตัวเขา อุสา และแก้วประไพพร้อมกัน ตัวเขานั่งตรงกลาง อุสานั่งฝั่งขวา แก้วประไพนั่งฝั่งซ้าย พอจบพิธีแต่งงาน เจ้าสาวทั้งสองก็พากันกับตำหนักของตัวเอง ถึงให้เจ้าบ่าวอย่างมลงง ไม่รู้จะไปหาคนไหนดี หากถามว่าเขารักใครมากกว่า ก็คงจะเป็นอุสาที่เห็นกันมาตั้งแต่เล็ก แต่หากเขาไปหาอุสา ด้วยนิสัยของเธอ ต้องไล่ให้เขากลับไปหาแก้วประไพแน่ ราชาวิทยาธรเลยแก้ปัญหาด้วยการไปนอนค้างคืนกับกูณฑ์และเคียว นอกจากจะไม่ทำให้ใครน้อยใจแล้ว ยังจะได้ใช้เวลาคืนสุดท้ายกับเพื่อนผู้ร่วมทุกข์อีกด้วย

กูณฑ์รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยที่เพื่อนมาขอนอนด้วย แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะนี่เป็นวังของมล เขาเองต่างหากที่เป็นเพียงผู้อาศัย แต่พอมลพลิกตัวไปมา ไม่หลับสักที เด็กหนุ่มก็อดถามไม่ได้

"นอนไม่หลับเหรอ"

"คืนพรุ่งนี้ ข้าจะไปนอนกับใครดี" มลรำพึง

"นอนคนเดียวไม่ได้หรือไง" กูณฑ์พูดเยาะ ๆ."โตจนป่านนี้แล้ว"

"ไม่ใช่นอนแบบนั้น" มลพูดอย่างขัดเขิน ถึงเขาจะพร่ำบอกกูณฑ์ว่าตัวเองโตแล้ว แต่เขาก็มียางอายเหมือนกันนะ

เด็กหนุ่มเข้าใจความนัยของคนอายุน้อยกว่าทันที

"นี่" กูณฑ์พูดด้วยท่าทางเหมือนพี่กำลังสอนน้อง "ฉันไม่รู้หรอกนะว่าทำไมคนหิมพานต์ถึงแต่งงานกันเร็วนัก จะว่าอายุสั้นก็ไม่ใช่ แต่นายรู้ไหม มนุษย์อย่างเราศึกษาเรื่องใหม่ ๆ มามาก การรีบร้อนมีเซ็กส์ เอ่อ เสพสังวาสทั้งที่อายุยังไม่ถึงสิบแปด มีผลกระทบทางลบต่อร่างกาย" ความจริงแล้วกูณฑ์ก็ไม่รู้หรอกว่ามันมีผลจริงไหม แต่เขาไม่สบายใจที่จะจินตนาการว่าเด็กที่เขารักเหมือนน้องชายน้องสาวจะมีอะไรกัน ทั้ง ๆ ที่หากพวกเขาอยู่ในโลกภายนอก พวกเขายังเรียนไม่จบมัธยมเลยด้วยซ้ำ มลถูกบังคับให้เป็นผู้ใหญ่มามากพอแล้ว ไหนจะถูกบังคับให้ทำสงคราม เห็นพ่อตายต่อหน้า แล้วยังต้องมาครองเมืองอีก มลควรจะมีชีวิตวัยเด็กบ้าง และวัยเด็กที่ว่าคงหายไปทันที ถ้ามลได้เป็นพ่อคน

"ข้าไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อน"

"จริงนะ ไม่เชื่อถามเคียวดูสิ" กูณฑ์ยืนยัน เขาส่งกระแสจิตไปให้เคียว ให้ช่วยบอกตามที่เขาพูด

"ถูกแล้ว" เคียวช่วยคนรัก "ร่างกายนายจะอ่อนแอเอานะ แล้วไหนจะอุสากับแก้วประไพอีกล่ะ รอไปหน่อยเพื่อความปลอดภัยดีกว่า"

มลขมวดคิ้ว "แต่พวกเสนาอำมาตย์คงอยากให้ข้ารีบมีโอรส"

"พ่อนายก็มีลูกยาก" กูณฑ์ว่า "พวกเขาคงเข้าใจ ไม่ว่าอะไรหรอก"

"ช่างเถิด" มลว่า "แล้วพรุ่งนี้พวกเจ้าจะไปกันเลยไหม"

กูณฑ์กับเคียวมองสบตากันและพยักหน้า

"ต้องลากันแล้วล่ะ" เคียวว่า

"ช่ายย" กูณฑ์ลากเสียง

"ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ข้าจะให้ของขวัญเจ้านะ" มลตั้งใจยกทองคำส่วนหนึ่งให้เพื่อนใหม่

"ไม่ต้องหรอก" กูณฑ์รีบปฏิเสธ

"นี่เป็นพระบัญชาของราชาวิทยาธร เจ้ากล้าขัดหรือ ประเดี๋ยวก็ขังคุกเสียเลย" มลหยอก

กูณฑ์หัวเราะ "เอ้า เอาก็เอา"

วันรุ่งขึ้นกูณฑ์กับเคียวไปกล่าวลาจันทประภา อุสาและแก้วประไพ จันทประภาขอบใจที่ทั้งสองช่วยเหลือมลมาตลอด และเสนอว่าจะไปคุยกับมลให้มอบตำแหน่งดี ๆ ให้ แต่ทั้งสองปฏิเสธอย่างสุภาพ ส่วนอุสากล่าวอำลาทั้งน้ำตา พร้อมย้ำไม่ให้พี่ ๆ ลืมเธอ ซึ่งเด็กทั้งสองก็รับคำด้วยดี ส่วนแก้วประไพเพียงแต่อวยพรให้ทั้งสองโชคดี

กูณฑ์กล่าวคาถาเปิดมิติที่วโรดมทิ้งไว้ให้โดยมีเคียวคอยตรวจดูว่าพูดคาถาถูกหรือเปล่า พอประตูมิติเปิดออก มลก็ดึงตัวเพื่อนทั้งสองไปกอดอีกครั้ง

"อย่าลืมข้านะ"

"ไม่หรอกน่า"

และหนึ่งภูตหนึ่งมนุษย์พร้อมหีบทองก็ก้าวผ่านประตูมิติ ไปสู่โลกปัจจุบันพร้อม ๆ กัน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


Load failed, please RETRY

Status Power Mingguan

Rank -- Peringkat Power
Stone -- Power stone

Membuka kunci kumpulan bab

Indeks

Opsi Tampilan

Latar Belakang

Font

Ukuran

Komentar pada bab

Tulis ulasan Status Membaca: C56
Gagal mengirim. Silakan coba lagi
  • Kualitas penulisan
  • Stabilitas Pembaruan
  • Pengembangan Cerita
  • Desain Karakter
  • Latar Belakang Dunia

Skor total 0.0

Ulasan berhasil diposting! Baca ulasan lebih lanjut
Pilih Power Stone
Rank NO.-- Peringkat Power
Stone -- Batu Daya
Laporkan konten yang tidak pantas
Tip kesalahan

Laporkan penyalahgunaan

Komentar paragraf

Masuk