Unduh Aplikasi

Bab 4: ได้เวลาเข้าวัด

ถึงแม้กูณฑ์จะสัญญากับเคียวว่าจะหาวิธีช่วย แต่ต้องเข้าใจก่อนว่าชีวิตเด็กม.สามมีอะไรให้ทำมากกว่านั่งหาวิธีปล่อยผีให้เป็นอิสระ เขาต้องเรียนหนังสือตั้งแต่แปดโมงถึงสี่โมงเย็น แถมวันเสาร์อาทิตย์ก็ยังต้องเรียนพิเศษต่ออีก

ตอนนี้กูณฑ์กำลังทำการบ้านวิชาคณิตอยู่ ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว เขาเขียนและลบอยู่หลายครั้ง ไม่แน่ใจว่าคำตอบที่ได้จะถูกหรือเปล่า

"ทำหน้าเครียดเชียว" แม่ทัก ขณะเอานมขึ้นมาให้ดื่ม "พักหน่อยไหม ลูก"

"วางไว้เลยครับแม่" กูณฑ์ว่า "ผมต้องแก้โจทย์นี้ให้เสร็จ"

"อย่านอนดึกนะ" แม่ย้ำอย่างเป็นห่วงก่อนออกไป

สุดท้ายกูณฑ์ก็ต้องยอมแพ้ นี่คงเป็นผลพวงที่ไม่ตั้งใจเรียนมาตลอดแน่ ๆ พอเขาพลิกหาดูว่าโจทย์นี้ต้องแก้ยังไง ก็เจอถ้อยคำบาดใจ

"เรื่ิงนี้นักเรียนคงได้เรียนไปแล้วสมัยมัธยมศึกษาปีที่หนึ่ง ดังนั้นเราจึงจะไม่ขอพูดซ้ำ"

"เรียนไปแล้วตอนไหนวะ" กูณฑ์พึมพำ คนเขียนรู้ดีกว่าเขาที่เป็นคนเรียนเองเสียอีก แต่ต่อให้เรียนไปแล้วก็ลืมไม่ได้หรือไง กูณฑ์หยิบมือถือขึ้นมาพร้อมค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต แต่กูเกิ้ลก็ดูเหมือนไม่มีคำตอบ บางทีเขาควรจะไปหาหนังสือเรียนเก่า ๆ มาเปิดดู เขาลุกขึ้นออกจากห้องและไปที่ห้องเก็บของ

"นายคิดหาวิธีช่วยฉันได้แล้วเหรอ" เคียวทักอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นกูณฑ์

กูณฑ์ถอนหายใจ เขาลืมเจ้านี่ไปเสียสนิท

"ฉันจะมาหาหนังสือเรียน ฉันต้องทำการบ้าน"

"การบ้าน งานที่ครูสั่งให้มาทำที่บ้านน่ะหรอ"

"ใช่" กูณฑ์กระแทกเสียง

"ไม่เห็นต้องหงุดหงิดเลย ฉันช่วยนายทำก็ได้นะ"

กูณฑ์พ่นลมหายใจอย่างดูถูก ขนาดอีบุ๊คยังไม่รู้จักจะมาทำโจทย์เลขยาก ๆ ได้ยังไง

"นายทำไม่ได้หรอก" กูณฑ์บอกปัด ก่อนจะลงมือหาหนังสือต่อไป

"ดูถูก" เคียวว่า "ฉันเป็นภูตหนังสือเชียวนะ อย่างน้อย ๆ ฉันก็ช่วยนายหาได้ ฉันรู้จักหนังสือทุกเล่มในนี้เลยนะ"

"นายตอนนี้ไม่มีแขน ไม่มีขาด้วยซ้ำ" กูณฑ์พูดอย่างดูถูก "จะช่วยหาได้ยังไง"

ความจริงแล้วเขาก็รู้สึกหลอนอยู่เหมือนกันที่ต้องมาคุยกับหนังสือแบบนี้ ถึงจะมีคนพูดว่าหนังสือเป็นเพื่อนแก้เหงาก็เถอะ แต่ถ้ามีเพื่อนแบบนี้ กูณฑ์ขอเหงาต่อดีกว่า

"ให้ฉันงอกแขน งอกขาก็ได้" พอเคียวพูดจบ เขาก็งอกแขน งอกขาออกมา

กูณฑ์ตบเคียว เคียวร้องออกมาด้วยความเจ็บ แต่มันไม่ใช่ความผิดของเขานะ หนังสือพูดได้ เขาก็แทบจะรับไม่ได้อยู่แล้ว นี่ยังมางอกแขน งอกขาออกมาอีก

"เจ็บนะ"

"เห็นแล้วสยอง"

"ล้อเล่นนิดหน่อยเอง" เคียวว่า ก่อนจะเปลี่ยนร่างให้ดูคล้ายกับมนุษย์ "ตกลงนายจะให้ฉันช่วยไหม บอกหน่อยว่าเรื่องอะไร

ขืนไม่ยอมตอบ เจ้านี่คงกวนไม่เลิกแน่

"เรื่องพีทาโกรัส นายรู้เหรอ"

"พีทาโกรัสเป็นนักคณิตศาสตร์และนักปราชญ์ชาวกรีกโบราณ มีชีวิตอยู่ในช่วงประมาณห้าร้อยเจ็ดสิบปีถึงประมาณสี่ร้อยเก้าสิบห้าปีก่อนคริสตกาล เป็นที่รู้จักในนามเจ้าของทฤษฎีบทพีทาโกรัส" เคียวท่องออกมา "ถูกไหม"

กูณฑ์ไม่รู้จะตอบยังไง ขนาดทฤษฎีเขายังจำไม่ได้ เขาจะไปจำประวัติคนคิดทฤษฎีได้ยังไง

"ว่าไง" เคียวถามย้ำ

"ฉันไม่รู้" กูณฑ์ว่า "อีกอย่างฉันไม่ได้อยากรู้ประวัติเขา ฉันอยากรู้ทฤษฎีที่เขาคิดต่างหาก"

"แล้วทำไมไม่บอก" เคียวพูดพลางกอดอก เสร็จแล้วเขาก็ร่ายยาวเรื่องทฤษฎีพีทาโกรัสให้กูณฑ์ฟัง

"นายรู้ได้ยังไง" กูณฑ์พูดอย่างไม่อยากเชื่อ ขนาดเขาไปเรียนยังจำเรื่องพวกนี้ไม่ได้เลย แต่เจ้านี่กลับจำได้ น่าหมั่นไส้ชะมัด

"ก็ฉันบอกแล้วไงว่าเป็นภูตหนังสือ อะไรที่อยู่ในหนังสือ ฉันจำได้หมดแหละ" เคียวยืดอกอย่างภูมิใจ "ทฤษฎีนั่น ฉันอ่านไม่รู้กี่รอบแล้ว จะจำไม่ได้ได้ไง"

แววตาของกูณฑ์เป็นประกาย "งั้นฉันไม่หาแล้ว นายช่วยสอนการบ้านให้ฉันหน่อยสิ"

เคียวขมวดคิ้ว "นายจะให้อะไรตอบแทนฉันล่ะ"

ผีนี่เขี้ยวเหมือนกัน เห็นหน้าซื่อ ๆ ไม่คิดว่าจะมีมุมนี้ด้วย กูณฑ์ต้องระวังคำพูดให้ดี สัญญากับพวกผีนี่ไว้ใจได้ที่ไหน

"ว่าไงล่ะ" เคียวถามย้ำ

"นายอยากได้อะไรล่ะ" กูณฑ์ถาม

"นายบอกว่านายจะช่วยฉันให้ได้ไปเกิดใหม่ ไม่ใช่เหรอ" เคียวทวงสัญญา

"ก็ช่วงนี้มันยุ่ง ๆ น่ะ" กูณฑ์ว่า รู้สึกผิดนิดหน่อยเหมือนกัน

"งั้นฉันจะช่วยนายทำการบ้าน แต่นายต้องหาวิธีปลดปล่อยฉันนะ"

"ไม่ใช่แค่วันนี้นะ" กูณฑ์ต่อรอง "ช่วงนี้ฉันงานทับมาก ถ้าเคลียร์ไม่หมดก็คงไม่มีอารมณ์หาวิธีปล่อยนายหรอก"

"เอางั้นก็ได้"

หลังจากนั้นเคียวก็มาเป็นติวเตอร์ส่วนตัวของกูณฑ์ เขาคอยกระซิบอธิบายเนื้อหาต่าง ๆ ให้กูณฑ์ฟัง ทำให้ช่วงนี้กูณฑ์ทำแบบฝึกหัดทั้งที่โรงเรียนและบ้านได้ดีขึ้น จะไม่ดีได้ยังไง มีคนมาอธิบายเนื้อหาให้ฟังขนาดนี้ ตอนนี้กูณฑ์เลยพกหนังสือผีสิงไปทั่วจนดูเหมือนเด็กเนิร์ด

"น่าเสียดายที่ฉันเอานายเข้าห้องสอบไม่ได้" กูณฑ์ว่า เขาอยากให้เคียวเป็นภูตปากกาเหลือเกิน ห้องสอบไม่อนุญาตให้เอาหนังสืออะไรเข้าทั้งนั้น แม้ว่าจะเป็นหนังสือที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอบก็เถอะ

"อย่าทุจริตสิ" เคียวดุ

"ก็มันยากนี่" กูณฑ์งอแง

"ยากก็ต้องพยายาม รู้ไหม"

"ให้ตายสิ พูดมากชะมัด"

"ก็นายให้ฉันติวให้"

พวกเขาไม่รู้เลยว่าพ่อแม่กำลังปรึกษากันอย่างเป็นกังวลอยู่นอกห้อง

"ลูกเราช่วงนี้แปลก ๆ ไปนะคะ เรศ" วาสนาพูดกับสามี

"ยังไงล่ะ วาส"

วาสนากัดริมฝีปาก "เขาเหมือนจะพูดคนเดียวตลอดเวลา ฟังสิคะ"

"เขาอาจคุยโทรศัพท์กับเพื่อนก็ได้" วาเรศให้เหตุผล

"มันไม่ใช่แค่วันนี้นะคะ" วาสนาว่า "เขาพูดคนเดียวมาตั้งนานแล้ว แถมตอนนั้นก็ไม่ได้คุยมือถือด้วย ฉันว่าลูกอาจจะเครียดมากไปหรือเปล่าคะ เรากดดันลูกมากไปไหม"

วาเรศขมวดคิ้ว "สมัยนี้การแข่งขันมันสูงจริง ๆ ขนาดยังไม่เข้ามหา' ลัยนะ ผมว่าเดี๋ยววันอาทิตย์นี้เราไปเที่ยวกันดีกว่า เจ้ากูณฑ์จะได้พักผ่อนด้วย"

"กูณฑ์จะยอมไปเหรอคะ เห็นว่าวันจันทร์นี้มีสอบเก็บคะแนน" วาสนาว่า ตอนแรกเธอก็ดีใจอยู่หรอกที่ลูกหันมาตั้งใจเรียน แต่พฤติกรรมที่แปลกจนพลิกหน้ามือเป็นหลังมือทำให้เธอกังวลอยู่ไม่น้อย ไหนจะชอบแบกหนังสือไปไหนต่อไหน ไหนจะชอบพูดและหัวเราะคนเดียวอีก ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอมั่นใจว่ากูณฑ์ต้องดีใจแน่ที่พ่อจะพาไปเที่ยว ก็งานของวาเรศยุ่งอยู่น้อยเมื่อไหร่ ขนาดจะมากินข้าวด้วยกันยังแทบไม่มีเวลา แต่ตอนนี้เธอไม่แน่ใจเสียแล้ว กูณฑ์เปลี่ยนไปมากจนดูเหมือนจะไม่ใช่ลูกชายคนเดิมของเธอเลย เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นก็จริง แต่เธอก็ยังกังวล

"เดี๋ยวผมไปคุยกับกูณฑ์เอง" วาเรศว่าพลางเคาะประตู "กูณฑ์ ขอพ่อเข้าไปนะ ลูก" บ้านหลังนี้ต้องเคาะประตูก่อนเข้าห้องส่วนตัวของคนอื่นเสมอ เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นห้องส่วนตัว

"แป๊บนะครับ พ่อ" กูณฑ์ตะโกนออกมา "นายรีบกลับไปเป็นหนังสือได้แล้ว" เขาพูดเบา ๆ กับเคียว

"ไม่อะ" เคียวว่า

"พ่อฉันจะเข้ามาแล้ว" กูณฑ์พูดอย่างร้อนรน

"ก็ให้เข้ามาสิ" เคียวว่าพลางแลบลิ้นใส่

"เดี๋ยวพ่อฉันก็จับนายถ่วงน้ำหรอก"

"ไม่กลัว"

กูณฑ์ถอนหายใจ เตือนแล้วไม่ฟัง เขาเปิดประตูออก

"ทำไมนานจังลูก" วาเรศถามด้วยท่าทีสบาย ๆ แต่สายตาสอดส่องมองไปรอบห้อง

"เอ่อ ห้องมันรกน่ะครับ" กูณฑ์แก้ตัว

"ได้ข่าวว่าเรียนหนักเหรอ เรา" วาเรศถาม

"ก็ไม่หนักมากหรอกครับ พอได้อยู่"

"วันอาทิตย์นี้ไปเที่ยวกันไหม ลูก"

"วันจันทร์ผมมีสอบ" กูณฑ์ว่า ใจหนึ่งเขาก็อยากไปเที่ยว อีกใจก็อยากอ่านหนังสือทบทวนอีกรอบเพื่อความมั่นใจ

"พักวันเดียวไม่เป็นไรหรอก" วาเรศคะยั้นคะยอ

"พ่อนายพูดถูก" เคียวแทรกเข้ามา "ต่อให้นายไม่พัก ฉันก็จะพัก ไม่สอนหนังสือให้นายแล้ว"

"พูดมาก" กูณฑ์พูดอย่างลืมตัว

วาเรศคิ้วกระตุก ต่อให้อยากอยู่บ้านแค่ไหนก็ไม่ควรพูดคำนี้ออกมา เขาสูดหายใจลึก ๆ เพื่อคุมอารมณ์

"วันนี้ลูกคงอารมณ์ไม่ดี ไปเที่ยวสักหน่อยนะ ลูก"

"ขอโทษครับ" กูณฑ์ว่า พลางทำตาเขียวใส่ผีที่ตอนนี้แลบลิ้นปลิ้นตาล้อเลียนเขาอยู่ "แล้วพ่อจะพาผมไปไหนล่ะครับ"

"แล้วกูณฑ์อยากไปไหนล่ะ"

ปกติแล้วกูณฑ์คงเลือกไปเดินห้าง กินข้าว ดูหนัง แต่ตอนนี้เขาอยากกำจัดเจ้าผีกวนประสาทนี่ไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

"สำนักหมอผีมีไหมครับ" กูณฑ์ถาม พลางส่งสายตาอาฆาตให้เคียวที่หน้าซีดลงทันที กูณฑ์ยิ้มเยาะในใจ สมน้ำหน้า เล่นกับใคร ไม่เล่น

"หมอผี" วาเรศทวนคำอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ปกติลูกเขาแอนตี้ไสยศาสตร์จะตาย สงสัยเรียนหนักจนเบลอไปแล้วมั้ง

"ครับ" กูณฑ์ยืนยันหนักแน่น "ยิ่งเก่งยิ่งดี"

วาเรศใช้หลังมือแตะหน้าผากลูก "ตัวก็ไม่ร้อนนี่"

กูณฑ์ปัดมือพ่อออก "ผมไม่ได้ไม่สบายสักหน่อย"

"ก็เห็นลูกเพ้อก็นึกว่ามีไข้" วาเรศแซว

"โอ๊ย! พ่อ ผมแค่จะหาหมอผีเอง ไม่ได้เพ้อสักหน่อย" กูณฑ์ทำหน้าเง้าอย่างเด็กที่ถูกขัดใจ ตอนนี้เคียวเป็นฝ่ายกลั้นหัวเราะ

"แล้วทำไมอยู่ ๆ ถึงอยากหาหมอผีล่ะ" วาเรศถาม

"ก็ช่วงนี้ผมรู้สึกซวย ๆ ยังไงชอบกล เลยจะไปให้หมอดูหน่อยว่าผมมีวิญญาณตามหรือเปล่า ถ้ามีจะได้จับถ่วงน้ำเสียให้เข็ด" เขาจ้องเคียวที่กำลังหัวเราะอย่างมาดร้าย เคียวหุบปากฉับทันที

วาเรศคิ้วขมวด "พ่อไม่รู้จักสำนักอะไรพวกนี้หรอก น้อยมากจะเป็นของจริง ส่วนใหญ่ก็หลอกลวงกันทั้งนั้น พ่อว่าถ้าลูกไม่สบายใจ พ่อพาไปวัดดีกว่า"

"วัดเดี๋ยวนี้ก็หลอกลวง" กูณฑ์บ่น แม้เขาจะเป็นพุทธตามทะเบียนบ้าน แต่ก็ไม่ค่อยศรัทธาในตัวพระพุทธศาสนานัก เหตุเพราะมีคนใช้ศาสนาบังหน้าหากินอยู่ทุกวัน วัดเดี๋ยวนี้ก็เป็นพุทธพาณิชย์เสียเยอะ ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินเข้าวัดโดยไม่สนใจศีลธรรม

"พูดอย่างนี้หลวงปู่ท่านจะน้อยใจเอานะ" วาเรศเตือน

"พ่อจะพาผมไปหาหลวงปู่เหรอครับ" กูณฑ์ถาม สีหน้าสดใสขึ้นมาทันที

หลวงปู่ที่ว่าเป็นปู่แท้ ๆ ของกูณฑ์ ท่านบวชตอนกูณฑ์ยังจำความไม่ได้เพื่อรับใช้พุทธศาสมานานแล้ว แต่โยมแม่ของท่านหรือทวดของกูณฑ์ต้องการให้ท่านแต่งงานมีครอบครัวเสียก่อน ท่านจึงมาแต่งกับคุณย่าและให้กำเนิดพ่อของกูณฑ์ พอแต่งแล้วท่านก็เกิดกิเลส เป็นห่วงลูกเมียจนตัดใจบวชไม่ได้ จนพ่อของกูณฑ์มีครอบครัวของตัวเอง ลงหลักปักฐานได้ ท่านจึงได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ในที่สุด

ปู่เป็นหนึ่งในพระไม่กี่รูปที่กูณฑ์ไหว้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจ ไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่เพราะท่านเป็นพระปฏิบัติที่วางตัวดี

"ผมจะไปหาหลวงปู่ครับ" กูณฑ์ว่า


Load failed, please RETRY

Status Power Mingguan

Rank -- Peringkat Power
Stone -- Power stone

Membuka kunci kumpulan bab

Indeks

Opsi Tampilan

Latar Belakang

Font

Ukuran

Komentar pada bab

Tulis ulasan Status Membaca: C4
Gagal mengirim. Silakan coba lagi
  • Kualitas penulisan
  • Stabilitas Pembaruan
  • Pengembangan Cerita
  • Desain Karakter
  • Latar Belakang Dunia

Skor total 0.0

Ulasan berhasil diposting! Baca ulasan lebih lanjut
Pilih Power Stone
Rank NO.-- Peringkat Power
Stone -- Batu Daya
Laporkan konten yang tidak pantas
Tip kesalahan

Laporkan penyalahgunaan

Komentar paragraf

Masuk