ดวงใจปักษา5
ตอน แย้มนาม
"...มาแม่นางน้อยเราออกไปนั่งพูดคุยกัน ที่ตรงชายป่านั่นกันดีกว่า เรามีเรื่องที่จักสอบถามเกี่ยวกับตัวเจ้า เพราะใบหน้าของเจ้าช่างคล้ายกับใครคนนึงที่เรารู้จัก...."
...ทั้งสามพากันออกเดินมานั่งที่ชายป่าด้านนอกติดกับธารน้ำที่ไหลมาจากน้ำตก เมื่อมาถึงก็พากันนั่งที่ก้อนหินใหญ่ตรงชายป่า
" พญาสุวรรณเบญกาย ก็ได้เอ่ยปากถามกับดรุณีน้อยทันที เมื่อเห็นนางที่นั่งลงเรียบร้อยแล้ว
"คำถามแรกที่เราอยากรู้จากเจ้าและต้องเป็นความจริงเท่านั้น เจ้าห้ามโกหกเรา "
" พ่อแม่ของเจ้าคือใคร? "
" เอ่อ...ข้ามิรู้จักนามของพ่อข้า เพราะข้านั้นอยู่กับแม่มาแต่เล็ก แม่ของข้านามว่า...ท่านแม่ศิรินภา...😟"
" เจ้า!..เจ้าว่ากระไรนะ?!! ศิรินภาอะไร..เจ้าพูดมาให้ชัดๆซิ?😒😒 "
" เอ่อ..ท่านอย่าทำอะไรข้านะ..แม่ข้ามีนามเต็มว่า 'ศิรินภาจันทร์ฉาย'😐😐"
" ศิรินภาจันทร์ฉาย..เจ้าเป็นลูกของนางจริงรึ?!! "
" พญาสุวรรณเบญกาย ร้อนรนในอกเมื่อได้รับรู้ว่า ดรุณีน้อยตรงหน้านั้นนางเป็นราชธิดาในพระนางเจ้าศิรินภาจันทร์ฉาย "
"นี่มันอะไรกันแล้วเหตุไฉนศิรินภาจันทร์ฉายนางถึงได้พาลูกมาอยู่ในป่าเยี่ยงนี้? ใครกันนะที่ทำให้นางต้องหอบลูกมาหลบซ่อนตนอยู่ในป่าเยี่ยงนี้!!...?' มันเกิดเรื่องราวอันใดกับนครนาคินทร์กันนะ🤔🤔🤔 "
" คำถามที่สอง...เจ้ารู้จักกับน้องของข้านานรึยัง? "
" เราพึ่งรู้จักและพบเจอกันครั้งนี้ครั้งแรก!! ท่านพี่..ท่านอย่าทำอันตรายนางเลยนะ..แม้นข้าพึ่งจะพบและรู้จักกับนาง แต่ความรู้สึกของข้ามันเหมือนว่า...ข้ากับนางนั้นรู้จักกันมานาน!! " วายุภักดิ์ตอบและพูดออกมาจากใจจริง กับความรู้สึกลึกๆ ที่ตนนั้นมีให้แก่'เจ้านางน้อย...'
" พี่บอกและรับปากเจ้าไปแล้วนี่!!..วายุภักดิ์!! เจ้าแห่งเวหาเยี่ยงเรายึดถือในคำสัจจ์..!! "
" ข้า..ขอบพระทัยท่านพี่ ที่ท่านกรุณาต่อข้าและนาง "
"เอาล่ะๆ ...เจ้าอย่าพึ่งมาขัดข้า ข้าจักสอบถามดรุณีน้อยนี่ต่อ.."
" เจ้าตอบข้ามาทีเจ้านางน้อย ว่าเจ้านั้นมีนามว่ากระไร? "
ดรุณีน้อยตรงหน้า มีทีท่าอึกอัก เหมือนมิกล้าจักตอบคำ ในสิ่งที่ถาม.. "ตอบเรามาเถิด เรามิได้คิดจักทำร้ายอะไรเจ้าเราเพียงแค่อยากจักรู้เท่านั้น.."
" เอ่อ..ข้านั้นมีนามว่า ' มณีจันทร์..เอ่อออ...รัตนาวดีมณีจันทร์ฉาย " คือชื่อที่แม่ของข้าตั้งให้!!😔😔😔
" จันทร์ฉาย' ศิรินภาจันทร์ฉาย' คือแม่ของเจ้า ส่วนเจ้าชื่อ 'มณีจันทร์ฉาย' " ที่เจ้าบอกเรามานี่..เจ้ามิได้โกหกเราแน่นะ?!!"
" ข้าจักโกหกท่านไปทำไม แม่ข้าสอนข้าไม่ให้พูดโกหก และการโกหกคือสิ่งที่ข้าเกลียดที่สุดด้วย "
..........................
..ครั้นได้ยินรับรู้ในชื่อของนาง ครุฑาหนุ่มน้อยก็มีสีหน้ายิ้มๆ และนึกในใจ "ชื่อนางนั้นช่างไพเราะและเหมาะสมกับผิวพรรณของนางซะจริงๆ แม่ดรุณีน้อย" วายุภักดิ์คำนึงคิด...☺☺☺
"ข้าฝ่ายพญาสุวรรณเบญกายนั้น ก็ใคร่ควรคิดในใจ 'ข้าจักบอกเรื่องนี้แก่ท่านอาดีรึไม่นะ กับเรื่องราวของนาง ที่นางต้องมาระเหเร่ร่อนหลบซ่อนผู้คนเยี่ยงนี้' จันทร์ฉายทำไมกันนะชะตาของเจ้าถึงได้เป็นเยี่ยงนี้ แล้วพี่นางของเจ้าล่ะนางไปทำอะไร? ทำไมถึงปล่อยให้เจ้ากับลูกต้องมาระเหเร่ร่อนหลบซ่อนอยู่ในป่าเยี่ยงนี้!!!"
" ข้าขอบน้ำใจเจ้ามากนะ มณีจันทร์ ที่เจ้านั้นตอบคำถามของเราตรงๆ และมิโกหก " 'เอาล่ะ..นี่เพลานี้ก็ใกล้จักค่ำแล้ว ข้าว่าเจ้ากลับบ้านไปหาแม่เจ้าเสียเถิด หากค่ำมืดมามันจะอันตราย"
"ส่วนเจ้า!!..วายุภักดิ์" เราก็สมควรกลับกันได้แล้ว กว่าเราจักกลับไปถึงนครฉิมพลีเพลาก็คงจักมืดมัวพอดี..."
ครั้นเมื่อได้บทสรุป พญาสุวรรณเบญกายก็ชวนวายุภักดิ์ผู้น้องชายนั้นกลับยังนครฉิมพลีทันที...
" พวกข้ากลับเมืองของข้าก่อนละนะแม่ดรุณีน้อย " พญาสุวรรณเบญกายกล่าวลาต่อดรุณีน้อย พร้อมกับสยายปีกอันใหญ่โตโผบินขึ้นสู่ท้องนภาไปก่อน พร้อมทิ้งคำเอ่ยสุดท้ายว่า " รีบๆ ตามไปนะวายุภักดิ์!! "
" เอิ่ม..เจ้านางน้อย เจ้าจักกลับบ้านเยี่ยงไร ให้ข้าไปส่งเจ้าก่อนได้รือไม่? "
"มิเป็นไรดอก บ้านของข้าอยู่ที่นี่ เจ้ากลับไปเสียเถอะ พี่ชายเจ้าบินไปไกลแล้ว มิต้องห่วงข้าดอก ข้าเดินไปแค่เพียงนี้ก็ถึงบ้านข้าแล้ว!! "
" ถ้างั้น..ข้ากลับก่อนนะ'เจ้านางน้อย'เราเป็นเพื่อนกันได้รือไม่? เจ้ารังเกียจข้าหรือป่าว? ข้าขอเป็นเพื่อนกับเจ้านะเจ้านาง!!? "
" ก็ได้!..ข้ารับปากจักเป็นเพื่อนกับเจ้า..เจ้ากลับไปได้แล้ว..ไปสิ! "
วายุภักดิ์..ยังสองจิตสองใจว่าจะกลับดีหรือไม่ แต่เมื่อได้ยินที่นางรับปากใบหน้าที่ซึมๆ ก็คลี่ยิ้มออกมา พร้อมกับคำกล่าวลาก่อนจะบินขึ้นฟ้าไป...
" ข้ากลับก่อนนะเจ้านาง วันหน้าข้าจักมาเล่นกับเจ้าอีก☺☺☺"
วายุภักดิ์กางสยายปีกพร้อมสะบัดยกตัวขึ้นสู่ท้องฟ้าไป ส่วนนาง'เจ้านางน้อย' นางก็ได้แต่เงยหน้ามองตามร่างของวายุภักดิ์ที่บินไปบนท้องฟ้าจนหายลับตาไป จากนั้นนางจึงหันหลังกลับและเดินมุ่งหน้าตรงไปที่ผาม่านน้ำตก นางเดินผ่านเข้าในม่านน้ำตกแล้วก็หายตนไป...ฯ
*****************************