Télécharger l’application

Chapitre 19: Chapter 4.3

ผมรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเลยหลังจากได้ฟังนับสองพูดออกมาแบบนั้น

ควินซ์จะเขินงั้นเหรอ

ผมจะได้เห็นควินซ์เขินเหรอ!

อยากเห็นชะมัด

(อย่าเพิ่งรีบมโน ฟังผมให้จบก่อน อย่าเพิ่งไปคิดทำยังไงให้พี่ควินซ์เขิน) ใครมโน พูดให้มันดีๆ (ไปคิดก่อนว่าทำยังไงถึงจะทำให้พี่ควินซ์เชื่อว่าป๋าชอบเขาจริงๆ ฮ่าๆๆ อันนี้สิยาก ก๊ากกก)

ผมหน้าตึง "ขำมากนักรึไง"

(แน่สิ แค่คิดว่าป๋าเดินไปบอกพี่ควินซ์ว่าชอบ พี่เขาคงจับป๋าโยนเข้าโรงพยาบาลแล้ว) เสียงดูสะใจเหลือเกินนะ

"ยังอยากแต่งงานกับไอ้เก้าอยู่มั้ย!"

ปลายสายกลั้วหัวเราะ (ไม่เป็นไร งานแต่งผมยังรอได้ แต่งานแต่งพี่ควินซ์สิ... ฮ่าๆ เอ๋ พี่เขาว่าจะรีบหาเจ้าสาวมาแต่งปีนี้รึเปล่านะ ป๋าอยากจะยืดเวลาแกล้งผมกับพี่เก้าต่อก็ได้นะ หึๆๆ)

"นับสอง!" เส้นเลือดบนขมับของผมแทบจะปริแตกกับคำยั่วยุของน้องชาย

(ว้ายๆ โมโหซะแล้ว ไปให้พี่เก้าปลอบดีกว่า แง๊ พี่เก้าาา ป๋าดุนับอีกแล้ววว)

(พี่ทอดเฟรนซ์ฟรานอยู่ อย่าเพิ่งกอด น้ำมันจะกระเด็น)

โว้ย! โดนสวีตหวานใส่อีก ฮึ่ย

ผมรีบกดตัดสายก่อนที่จะได้ยินอะไรที่มันแสลงหูไปมากกว่านี้ ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างหงุดหงิดแต่ทำอะไรไม่ได้ ยกมือขึ้นปลดเนคไทออกแล้วโยนมันทิ้งลงบนโต๊ะทำงานจากนั้นก็หยิบกระเป๋าตังค์กับกุญแจรถเดินออกไปหน้าห้อง

"ควินซ์ ไปกินข้าวกัน" พูดโพล่งออกไปแล้วก็มองคนร่างสูงโปร่งที่กำลังจัดแฟ้มงานให้เข้าที่อยู่

"จะไปร้านไหน" ถามแล้วยันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้

"ยังไม่รู้เหมือนกัน" ผมเอามือหนึ่งล้วงกระเป๋าแล้วอีกมือก็โยนกุญแจรถเล่น "ขับรถไปก่อน เดี๋ยวค่อยคิด"

ตอนนี้ในหัวของผมมันสับสนไปหมดเพราะคำพูดของนับสอง เลยยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีกับตัวเอง แล้วยิ่งออกมาเจอหน้าควินซ์ยิ่งคิดไม่ออกหนักกว่าเดิมว่าควรจะบอกชอบเขายังไง จะทำยังไงให้เขารู้ว่าผมชอบเขาจริงๆ

ให้ผมไปเล่นหุ้นเอากำไรร้อยล้านยังไม่เครียดเท่านี้เลย!

"จะขับรถเอง?" นัยน์ตาสวยตวัดมองพวงกุญแจรถในมือผม

"อืม" ดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือ "ตอนนี้ก็ดึกแล้ว รถไม่น่าติด" น่าจะขับได้สบายๆ นะ คิดว่างั้น

ควินซ์พยักหน้าแล้วหยิบเสื้อสูทตัวนอกมาถือไว้ก่อนจะหยิบกระเป๋าเดินตามหลังผมเข้ามาในลิฟต์ ยื่นมือไปกดเลขชั้นจอดรถ

"พรุ่งนี้มีงานอะไรบ้าง" ผมถามอย่างเคยชินพลางมองตัวเลขที่กำลังไล่ระดับลง

"พรุ่งนี้มีแค่แจกงานแล้วก็สั่งงานให้หัวหน้าแผนก เหมือนกับทุกครั้งก่อนไปจีน" ควินซ์ว่าอย่างสบายๆ แล้วขยับหมุนคออย่างเมื่อยล้า "จะไม่เข้าบริษัทก็ได้ โทรสั่งให้คนมาเอางานที่โต๊ะกูเลยก็ได้"

"พูดแบบนี้พรุ่งนี้มึงจะไม่เข้าบริษัทแล้วหนีไปเดทใช่มั้ย" สีหน้าของผมตึงขึ้นทันควัน

"กูอยากไปนวดตัวไปสปาต่างหาก ปวดคอ" ยกมือขึ้นนวดหลังคอแล้วเบ้ปากเหมือนเจ็บ "อยากไปจีนแบบสบายๆ ตัวมีแรงเดินช้อปปิ้ง"

ควินซ์เป็นคนที่บ้าช้อปปิ้งมากและสามารถเดินช้อปได้ทั้งวัน ตอนไปทำงานที่อังกฤษมันก็ช้อปตั้งแต่เก้าโมงเช้ายันสี่ทุ่มถึงจะกลับมาโรงแรม

แน่นอนว่าผมต้องนอนรออยู่ที่โรงแรมอยุ่แล้ว ใครมันจะไปเดินตามไหวกัน

แต่ครั้งนี้ผมจะต้องลองเดินช้อปปิ้งกับมัน

จะไปเปย์มันนี่แหละ! เปย์จนกว่าจะได้ควินซ์นั่นแหละ หึหึ

"งั้นพรุ่งนี้ไม่ต้องเข้าบริษัทแล้วกัน" ผมว่าแล้วกดรีโมทปลดล็อกรถหรูสีน้ำเงินเข้มตรงหน้า "ถือว่าพักผ่อนเอาแรงก่อนขึ้นเครื่องไปจีน"

"มึงพูดจริงนะ" ควินซ์มีสีหน้าสดใสขึ้นมาทันทีแล้วยิ้มตาปิด "บอสช่างเป็นคนดีจริงๆ เลย น่ารักว่ะ"

นะ น่ารักเหรอ

ควินซ์ ควินซ์กำลังชมผมอ่ะ!

ผมเปรยตามองมันเล็กน้อยแล้วเบือนหน้าไปทางอื่นพยายามเก๊กหน้าขรึมไม่สนใจแต่ในใจคือลิงโลดวิ่งลงทุ่งลาเวนเดอร์แล้ว และผมก็นึกถึงคำพูดนับสองที่ให้ผมพยายามทำตัวดีๆ กับควินซ์

หมายถึงต้องเอาอกเอาใจสินะ!

"พรุ่งนี้มึงจะไปไหน นวดแผนไทย? สปาตัว?" ถามพลางก้าวขึ้นรถประจำตำแหน่งคนขับ ควินซ์เปิดประตูรถและสอดตัวเข้ามานั่งแล้วเอากระเป๋ากับเสื้อตัวนอกไปวางที่เบาะหลังก่อนจะตอบผม

"ไปนวดแผนไทยก่อนตอนเช้าแล้วบ่ายไปทำสปา" ควินซ์ค่อนข้างเป็นผู้ชายที่ดูแลตัวเองหนักมาก สปาตัวสปาผิวสปาหน้าคอร์สหน้าใสขัดผิดขัดหน้าก็ไปทำหมด ค่อนข้างเป็นผู้ชายเจ้าสำอางเลย "ถามทำไม จะไปด้วย?"

"อืม" กดเปิดหลังคารถเพื่อจะได้รับลมเย็นๆ อ้อ รถของผมเป็นบีเอ็มรุ่นใหม่ล่าสุด ราคาก็เบาๆ ยี่สิบล้าน คันนี้พี่ออสตินซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดปีที่แล้ว ส่วนวันเกิดปีนี้เขาให้เกาะส่วนตัวในอเมริกามา ราคาราวๆ พันล้านได้ แน่นอนว่าผมตกใจจนหัวใจเกือบหยุดเต้นเหมือนกัน

อันที่จริงพวกพี่ๆ เขาก็ดูแลผมดีนะ ถึงจะไม่ได้แสดงออกคลั่งรักจะเป็นจะตายแบบที่ทำกับนับสองก็เถอะ ผมโตกว่านับสองซ้ำยังเด็กกว่าพวกพี่เขาแค่ปีเดียวเองด้วย มันคงกระอักกระอ่วนไม่น้อยถ้าผมได้รับความรักแบบนับสอง

ผมคลั่งนับสองก็จริงแต่ยังไม่เท่าพี่ไอกับพี่ออสติน ยังมีสติมากกว่านิดนึง...มั้งนะ

"กูชวนตั้งหลายครั้งไม่เห็นสนใจ" ควินซ์ทำหน้าแปลกใจ

"ตอนนี้สนใจแล้วไง"

สนใจมึงนะ ไม่ได้สนใจไอ้นวดแผนทงแผนไทย

"งั้นกูจองเผื่อมึงเลยแล้วกัน" เสียงทุ้มใสว่าแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าไลน์

"เอาห้องส่วนตัวนะ" เตือนก่อน

"เออ ร้านที่กูไปนี่เกรดระดับโรงแรมห้าดาวเลย มึงพอใจแน่ไอ้ป๋า" แขวะเข้าให้แล้วก็บ่นงึมงำ "เกรดห้าดาวไม่พอ ราคาแม่งก็ห้าดาวอีก"

"แพงมากเหรอ" ผมถามอย่างสนใจพลางหักพวงมาลัยแซงรถที่ขับช้าเป็นเต่า

"หลักหมื่น"

"ถูกดีออก"

"มึงมันคนรวยมั้ย ไอ้ป๋า" คนหน้าสวยแว้ดใส่แล้วเท้าคางมองวิวด้านข้างยกมือขึ้นเสยผมที่พัดปลิวไปตามลม "ถึงมึงจะให้เงินเดือนกูเยอะ แต่ใช่ว่ากูจะรวยนะ"

"มึงรวยได้ถ้ามึงเก็บเงิน ควินซ์" ผมส่ายหัวไปมา "มึงเล่นเอเงินไปช้อปปิ้งหมด เงินจะเหลือให้มึงมั้ย"

ควินซ์ทำงานเก่งและเก่งรอบด้านแต่ข้อเสียสุดๆ คือใช้เงินไม่ยั้งมือ เรียกว่าฟุ่มเฟือยในระดับหนึ่ง ไม่เป็นหนี้ไม่เงินติดลบก็จริงแต่เงินเก็บเองก็ไม่เยอะ

เคยบอกให้เอาเงินไปลงทุนหุ้นลงทุนซื้อหลักทรัพย์ก็ไม่เอา บอกจะเอาไปซื้อเสื้อผ้าไปซื้อคอนโด

คนถูกบ่นทำหน้าสลด "ของมันต้องมี มึงเข้าใจมั้ย"

ผมหัวเราะเบาๆ ในลำคอแล้วยื่นมือไปเปิดเพลงให้มันคลอไปเบาๆ "มึงอยากมีเงินใช้ตลอดชีวิตมั้ย"

"ใครบ้างที่ไม่อยากมีเงินใช้ตลอดชีวิต" มันหันมามองผมเหมือนผมคือคนโง่ที่ถามอะไรโง่ๆ อีกแล้ว "แล้วมึงมีคำแนะนำรึไง อยากมีเงินใช้ตลอดชีวิตเนี่ย"

บีบพวงมาลัยแน่นขึ้น รู้สึกเหงื่อซึมออกมาตามไรผมนิดๆ...

"มาเป็นแฟนกูสิ"


Chapitre 20: Chapter 4.4

[ควินซ์]

"กูว่าพรุ่งนี้มึงไม่ต้องไปนวดแผนไทยกับกูแล้ว"

"เดี๋ยวสิ"

"ไปโรงพยาบาลตรวจสมองหน่อยเถอะ ดูท่าจะมีปัญหาแล้ว"

ผมหัวเราะเบาๆ จริงๆ แล้วอยากจะหัวเราะให้ปอดโยกอยู่เหมือนกันนะ เมื่อกี้ว่ายังไงนะ ให้ไปเป็นแฟนมันเนี่ยนะ ตลกแล้ว มันคงแกล้งผมสินะ

"ไอ้ควินซ์!" นับหนึ่งหันมาถลึงตาใส่ผมเหมือนโกรธ "กูจริงจังอยู่นะ"

"กูก็จริงจังอยู่" ยิ้มอ่อนแล้วยักคิ้ว "จริงจังที่จะพามึงไปตรวจเช็กสมอง" ว่าแล้วก็ยกมือขึ้นเคาะที่หัวตัวเองเบาๆ

แอบเห็นเส้นเลือดบนขมับของไอ้หนึ่งมันปูดโปนขึ้นมาวับๆ ...ดูเหมือนจะโกรธจริงๆ แล้วแฮะ แต่มันจะโมโหจะโกรธทำไม ในเมื่อมันก็แค่พูดเล่นเอง

"ฮึ่ย" พ่นลมหายใจออกมาอย่างโมโหแต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากขับรถให้เร็วขึ้นเพื่อระบายความหงุดหงิด "จะกินข้าวร้านไหน!"

อ้าว นี่มันพาลนี่ครับ

"แล้วแต่มึงสิ" ผมไม่อยากเสนอเพราะดูจากอารมณ์ของนับหนึ่งแล้ว พูดอะไรไปคงไม่ถูกใจ

ขอนั่งเงียบๆ ดีกว่า

นับหนึ่งขับรถหน้าบึ้งไปตลอดทางเลย แถมยังขับกวนตีนคันอื่นปาดหน้าไปอีกหลายคันจนผมได้แต่ยิ้มอ่อนส่ายหัวไปมากับการแสดงออกแบบเด็กๆ ของนับหนึ่งและในระหว่างนั้นผมเองก็คุยแชทนัดแนะกับทางร้านนวดแผนไทยจองคิวจองห้องให้เสร็จสรรพ

เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกทีจะเห็นว่าเส้นทางที่นับหนึ่งขับมาจะเป็นทางริมแม่น้ำแล้ว อืม แถวนี้มีอยู่สองร้านประจำที่มันชอบมากินข้าว ร้านแรกเป็นร้านบนบกตั้งริมแม่น้ำ ส่วนร้านที่สองจะเป็นล่องเรือไปตามแม่น้ำและนั่งทานอาหารบนดาดฟ้าเรือ แต่ร้านที่สองต้องจองล่วงหน้าและรอบล่องเรือคือหนึ่งทุ่มครึ่งและจะกลับเข้าฝั่งตอนสี่ทุ่มครึ่ง ตอนนี้ใกล้สี่ทุ่มครึ่งแล้วก็คือเรือใกล้เข้าฝั่งและจะปิดร้านปิดครัวแล้ว

สรุปคือวันนี้คงได้ไปกินร้านแรกที่ตั้งอยู่บนบก ร้านนี้วิวสวยอาหารอร่อย

ผมคิดแบบนั้นนะจนตอนที่มาถึงทางแยก ไอ้หนึ่งกลับเลี้ยวไปทางร้านที่สอง... เดี๋ยวๆ มึงจะไปช่วยเขาเก็บร้านรึไง!

"ทำไมมาทางนี้" อดไม่ได้ที่จะถาม

"อยากมา" อ้าว กวนตีนแล้ว

"ร้านมันจะปิดแล้ว" ขมวดคิ้วแล้วเอ่ยเตือนอย่างหวังดี

"กูจะกินร้านนี้และร้านต้องเปิดให้กู" นับหนึ่งว่าหน้าตายและเอาแต่ใจ แววตาดดันเอาเรื่องดูท่าทางยังโกรธผมอยู่แน่ๆ แต่มันจะโกรธทำไมวะ ไม่เข้าใจ

"ร้านมันปิดแล้วหนึ่ง" ผมย้ำ

"ก็กูจะกิน"

เออ แล้วแต่มึงเลยครับ เชิญครับเพื่อน ไม่ขัดครับ

ผมยักไหล่ทำหน้าเมื่อยใส่มันแล้วนั่งเงียบๆ เล่นโทรศัพท์ไป จากนั้นไม่ถึงห้านาทีพวกเราก็มาถึงลานจอดร้านของร้านอาหารที่มีรถจอดเรียงรายเต็มไปหมดพร้อมกับลูกค้าที่เดินออกมาจากร้านอาหาร

มองเลยไปด้านหลังจะเห็นเรือริเวอร์ไซต์จอดเทียบท่าอยู่ อ้อ มันเป็นเรือสำราญที่มีสองชั้น ชั้นบนเป็นพื้นที่ดาดฟ้าและชั้นล่างเป็นห้องแอร์เย็นๆ

นับหนึ่งจอดรถในบริเวณที่ยังว่างและปลดสายเข็มขัดนิรภัยออกก่อนจะหันมาพูดกับผมด้วยใบหน้านิ่งๆ "ลง"

"มึงคิดจะทำอะไร" ผมถามอย่างระแวงแต่ก็เปิดประตูก้าวลงจากรถ

"ตามมาเถอะ" นับหนึ่งกดปิดหลังคารถเเละกดล็อกรถ

ผมได้เเต่ถอนหายใจเเละส่ายหัวขณะเดียวกันก็เดินตามหลังร่างสูงไปติดๆ เดินจนมาถึงบริเวณหน้าร้านซึ่งมีพนักงานต้อนรับกำลังยืนส่งลูกค้าอยู่

นับหนึ่งเดินตรงเข้าไปหาพนักงานด้วยท่าทางอันธพาลไม่น้อย…

"ร้านปิดแล้วครับคุณลูกค้า…" พนักงานหันมาพูดยังไม่ทันจบประโยค

"ขอคุยกับเจ้าของร้าน" พูดตัดบทด้วยใบหน้าเย่อหยิ่ง "ไปเรียกมา"

"คือว่า…" สีหน้าของเด็กพนักงานอึ้งไปเล็กน้อยและจะปฏิเสธ

นับหนึ่งเปิดกระเป๋าเงินเเล้วหยิบเเบงค์เทาออกมาห้าใบ "ไปเรียกมา เร็วๆ"

"…" ผม

รู้แล้วว่ารวย ไอ้เหี้ย

เด็กหนุ่มรับเงินไปแบบมึนๆ งงๆ เเล้วก็ตอบรับเดินนำไปพบเจ้าของร้าน ผมนิ่วหน้าเเล้วคว้าเเขนนับหนึ่งไว้เพื่จะถามให้รู้เรื่องว่าจะทำอะไร

"มึงจะทำอะไร หนึ่ง"

"กินข้าว ล่องเรือ" ตอบหน้าตายสนิท

"แต่ร้านจะปิดแล้ว!" ผมตอกย้ำ "แล้วเรือมันล่องเเค่วันละครั้ง"

"งั้นกูจะจ่ายเพิ่ม เหมาร้าน ล่องเรืออีกรอบ" นับหนึ่งถึงต้นเเขนตัวเองออกจากมือผมเเละเปลี่ยนมาจับมือผมเเทน

ซึ่งมันทำให้ผมเลิ่กลั่กไม่น้อย

"มึงกำลังทำอะไรอยู่กันเเน่" ทำอะไรเอาเเต่ใจเกินไปแล้ว "เหมาเรือทำไม"

นับหนึ่งหันกลับมามองผมเเล้วเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ

"เพื่อดินเนอร์กับมึงไง ควินซ์"


Load failed, please RETRY

État de l’alimentation hebdomadaire

Chapitres de déverrouillage par lots

Table des matières

Options d'affichage

Arrière-plan

Police

Taille

Commentaires sur les chapitres

Écrire un avis État de lecture: C19
Échec de la publication. Veuillez réessayer
  • Qualité de l’écriture
  • Stabilité des mises à jour
  • Développement de l’histoire
  • Conception des personnages
  • Contexte du monde

Le score total 0.0

Avis posté avec succès ! Lire plus d’avis
Votez avec Power Stone
Rank 200+ Classement de puissance
Stone 12 Pierre de Pouvoir
signaler du contenu inapproprié
Astuce d’erreur

Signaler un abus

Commentaires de paragraphe

Connectez-vous

tip Commentaire de paragraphe

La fonction de commentaire de paragraphe est maintenant disponible sur le Web ! Déplacez la souris sur n’importe quel paragraphe et cliquez sur l’icône pour ajouter votre commentaire.

De plus, vous pouvez toujours l’activer/désactiver dans les paramètres.

OK