ออร่าสีทองระเบิดออกมาจากทั่วร่างกาย ราวกับเขากลายเป็นดาวตกที่พุ่งตรงเข้าชนกับอุกกาบาตยักษ์ วินใช้หมัดขวารวมพลังไว้ทั้งหมดแล้วชกเข้าใส่มันแบบสุดแรงเกิด
ตูม!!!
เปรี้ยง!!
บรึ้มมมมม!!
วินาทีที่กำปั้นกระทบอุกกาบาต เกิดแสงสว่างวาบขึ้นทันตา อุกกาบาตยักษ์ร้าวอย่างรวดเร็วและแตกระเบิดออกจากภายใน เสียงดังสนั่นหวั่นไหวสะเทือนทั้งอาณาจักร คลื่นโซนิคบูมระเบิดตูมแผ่ขยายเป็นวงกว้าง รัศมีของมันกระจายออกทั่วท้องฟ้า นี่คือภาพการระเบิดครั้งใหญ่ที่สุดที่ผมเคยได้เห็นกับตาตนเอง เศษอุกกาบาตใหญ่เกือบทั้งหมดกระจายตัวออกไปตามแรงระเบิดข้ามพ้นเขตที่อยู่อาศัยเกือบทั้งหมด มีเพียงเศษเล็กเศษน้อยที่ร่วงกราวตกลงมาในตัวเมือง จากนั้นมีอีกสิ่งหนึ่งที่ร่วงตามลงมา นั่นคือร่างของเด็กหนุ่มที่ไหม้ดำจากแรงระเบิดและเปลวไฟ เขากำลังลอยละลิ่วตกลงมาจากฟากฟ้าแบบไร้ซึ่งสติ…
ฟิ้ว~~~~~!!
ไวยิ่งกว่าความคิด ผมพุ่งตัวออกไปกระโดดเพื่อรับตัวเพื่อนได้ทันก่อนที่เขาจะตกถึงพื้น
"วิน! เป็นไงบ้างเพื่อน ยังไม่ตายใช่ไหม?!"
เมื่อพวกเราลงถึงพื้น ร่างของเขานอนนิ่งในวงแขนของผม เสื้อผ้าขาดวิน เนื้อตัวเปรอะเลอะไปด้วยคราบเขม่า ผมเอาหน้าแนบไปที่หน้าอกของวิน เลยทำให้รู้ว่าเขายังไม่ตาย แต่ก็ร่อแร่เต็มที่ ผมพยายามเทโพชั่นฟื้นฟูให้ดื่ม แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล ผมจึงรีบแบกเขาขึ้นหลังเพื่อไปหาพวกน้ำให้ช่วยฮีลให้
ทันทีที่ลุกขึ้นยืนผมรู้สึกถึงเสียงพึมพำรอบตัวและสายตาที่จับจ้องมองมา ไม่ว่าจะเป็นจากคนพื้นโลกหรือคนจากฟ้า ทุกคนต่างกำลังสับสนและถกเถียงกันว่า 'เด็กหนุ่มหายนะคนนี้ แท้จริงแล้วเป็นอย่างไรกันแน่?' คืนแห่งโศกนาฏกรรมนั้นมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมก็ไม่รู้รายละเอียดหรอก แต่ผมเชื่อในตัววินที่เขาบอกว่า มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด และการกระทำของเขาวันนี้ก็ช่วยตอกย้ำให้รู้ว่าเพื่อนสนิทของผมยังเป็นคนเดิมเสมอมา
"ฉันควรจะดีใจใช่ไหม?"
"เขาใช่คนเดียวกับคืนนั้นแน่เหรอ?"
"คืนนั้นฉันเกมโอเวอร์ สูญเสียทั้งเงินและไอเท็มสำคัญเพราะมันคนเดียว"
"ถ้าฉันโห่ร้องดีใจตอนนี้ ฉันจะถูกเพ่งเล็งรึเปล่า?"
"คืนนั้นเขาทรมานสามีฉันอย่างโหดร้าย...จนทุกวันนี้กลายเป็นคนซึมเศร้าไปเลย"
"แต่วันนี้เขาช่วยชีวิตทุกคนเอาไว้นะเว้ย...!"
"แกก็พูดได้สิ แกไม่ได้อยู่ด้วยวันนั้นนี่หว่า เขามันปีศาจชัดๆ"
'ผมอยากตะโกนโต้แย้งออกไป แต่นั่นจะกลายเป็นยิ่งแย่รึเปล่า ผมควรทำยังไงดี วิ่งหนีตอนนี้จะยิ่งน่าสงสัยไหมหว่า' ผมคิดว้าวุ่นอยู่ในใจ และแล้วก็มีคนที่ผมไม่อยากได้ยินเสียงเขาที่สุดตะโกนออกมา
"นั่นไงเด็กหนุ่มหายนะ! ข้าจำรอยสักเปลวไฟที่แขนขวาของเขาได้ ไม่ผิดตัวแน่นอน เขาคือปีศาจในคืนโศกนาฏกรรม!!" รอธฟิลด์ตะโกนดังลั่น ผมอยากปากล้วยไปอุดปากเขาอีกครั้งเป็นบ้า แต่มีผู้คนขวางอยู่เยอะเกินไป
"แกหุบปากซะเดี๋ยวนี้เลย!!" ไนท์ฮอว์กดึงเอาผ้าสกปรกมาจากที่ไหนสักแห่งและมัดปากรอธฟิลด์ไม่ให้พูดอีก จากนั้นหัวหน้าบาร์เทลก็เดินถึงตัวและใส่กุญแจล็อกมนตราให้กับรอธฟิลด์
"อู้อี้! อู้อี้! อู้-อี้!" เหมือนรอธฟิลด์อยากพูดอะไรสักอย่าง แต่หัวหน้าบาร์เทลตัดบทด้วยการบอกว่า
"ลอร์ดรอธฟิลด์ ข้าขอจับกุมท่านในข้อหาพยายามฆ่าคนนับหมื่น โดยการใช้เวทมนตร์โบราณขั้นสูง [อุกกาบาตยักษ์ล้างเผ่าพันธุ์] ท่านก่อเหตุซึ่งๆ หน้าและมีประจักษ์พยานนับไม่ถ้วนขนาดนี้ ข้าคิดว่าเป็นเหตุผลเพียงแล้วล่ะนะที่จะบังคับใช้กุญแจล็อกมนตรากับท่าน"
ขณะที่หัวหน้าบาร์เทลและกลุ่มอัศวินของเขากำลังเดินคุมตัวรอธฟิลด์ออกไป จู่ๆ ฝูงชนได้แหวกออกเป็นทางให้กับคณะอัศวินประมาณ 20 คนเดินทัพตรงเข้ามาอย่างพร้อมเพรียงกัน เบื้องหน้าอัศวินหน่วยนั้น มีอัศวินคนหนึ่งผมสีทอง รองทรงแซกกลาง หน้าตาเจ้าเล่ห์ เขาสวมชุดเกราะสีเงินประดับด้วยผ้าคลุมสีน้ำเงินเข้ม เข็มกลัดผ้าคลุมนั้นเป็นรูปตราสัญลักษณ์ราชวงศ์คาเอลุมสีทองแวววับเด่นเป็นสง่าอยู่
"เซอร์ซีเพียส ท่านพาหน่วยอัศวินองครักษ์มาทำอะไรที่นี่?"
ซีเพียสไม่ตอบคำถามบาร์เทล แต่กลับถามกลับว่า "คุณบาร์เทล เหตุไฉนคุณถึงไม่จับตัวอาชญากรไปด้วยงั้นหรือ?"
"ข้าทำการจับกุมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านไม่เห็นรึไงกัน?"
"ข้าไม่ได้หมายถึงลอร์ดรอธฟิลด์ ข้าหมายถึงเด็กหนุ่มหายนะ
คนนั้นต่างหาก" ซีเพียสชี้มาทางผมซึ่งกำลังแบกวินอยู่บนหลัง
"...."
'เอาล่ะสิ งานเข้าแล้ว ทำยังไงดีวะเนี่ย' ผมคิดร้อนรนอยู่ในใจ
หัวหน้าบาร์เทลยืนครุ่นคิดหน้านิ่วคิ้วขมวด เหมือนกำลังตัดสินอยู่ว่าจะมองวินในฐานะอะไรดี
'ฮีโร่ในวันนี้ หรือ ปีศาจในอดีต'
ผมไม่รอให้ใครตัดสินชะตาชีวิตแทนทั้งนั้น เผ่นก่อนดีที่สุด เรื่องอื่นไว้ว่ากันทีหลัง ผมรีบจับมือของวินตวัดนิ้วเปิดวินโดวส์ และเอานิ้วของเขาจิ้มกดปุ่ม [ล็อกเอาท์] ทันที
ติ๊ง!
เนื่องจากคุณถูกจับตามองมากเกินไป และกำลังอยู่ใน
อีเว้นท์สำคัญ
คุณจึงไม่สามารถล็อกเอาท์ได้ค่ะ!
'ฉิบหาย...อ๊าก อะไรเนี่ย ทำไมเป็นงี้' ผมครวญครางในใจ
"คุณบาร์เทล ดูเหมือนคุณจะตัดสินใจไม่ได้นะ งั้นข้าจะช่วยคุณเอง" ซีเพียสชูใบประกาศจับของวินขึ้นมา
"ทุกคนจงฟัง! ใบประกาศจับนี้มิใช่เควสล่าค่าหัวธรรมดาทั่วไป ขอให้ทุกคนสังเกตว่ามีตราสัญลักษณ์สีทองรูปมงกุฏกับปีกประทับอยู่ ซึ่งทุกคนรู้ดีว่านี่คือสัญลักษณ์ของราชวงศ์คาเอลุม นั่นหมายความว่านี่คือ เควสจากพระราชา"
เสียงฮือฮาของผู้คนดังขึ้น และเหมือนเริ่มจะเห็นด้วยกับการที่ว่าวินนั่นคืออาชญากรที่ต้องจับกุมตัวเช่นกัน
"ใบประกาศจับนี้จึงมีสิทธิ์เทียบเท่ากับ ประกาศิตของพระราชา มันผู้ใดกล้าขัดขวาง เท่ากับเป็นกบฏ!!"
คำว่า 'กบฏ' เหมือนเป็นคำตัดสินให้ทุกคนต้องเห็นด้วยและทำตาม ผมไม่รู้ว่ามีคนที่จะยืนหยัดเพื่อวินสักกี่คน จะมีคนที่ซาบซึ้งกับสิ่งที่เขาทำวันนี้บ้างหรือไม่ แต่ทุกคนคงเลือกที่จะเงียบเอาไว้เป็นดีที่สุด
"เซอร์ซีเพียส…!" หัวหน้าบาร์เทลแค่นเสียงเรียก
"มีอะไรหรือคุณบาร์เทล จะต่อต้านพระราชางั้นเหรอ?" ซีเพียส
ตอบกลับด้วยท่าทางจองหอง
"ข้าไม่…! แต่เด็กหนุ่มคนนี้… วันนี้เขาช่วยชีวิตผู้คนนับหมื่นนะ"
ซีเพียสเดินเข้ามาใกล้บาร์เทล วางมือบนบ่าและพูดว่า
"ข้ารู้ ข้าเฝ้าดูเหตุการณ์จากอีกฟากของเมืองอยู่ ข้าเข้าใจความรู้สึกคุณดี แต่ไม่ว่ายังไงเขาต้องถูกจับกุมไปขึ้นศาลก่อน แต่คุณไม่ต้องห่วง เพราะความดีความชอบของเด็กหนุ่มจะถูกเก็บไปพิจารณาคดีด้วยแน่นอน เขาอาจได้รับการอภัยโทษก็เป็นได้นะ"
'ทำไมผมไม่เชื่อที่หมอนี่พูดเลยฟะ หรือเพราะหน้าตาเขาขี้โกงหว่า?' ผมคิดในใจ
เผียะ!
มีลูกหินก้อนเล็กลอยมาโดนแก้มผม ผมหันไปมองทันที ไนท์ฮอว์กนั่นเอง แต่เขาอยู่ห่างกับผมพอสมควร เขาเอานิ้วจิ้มที่ปาก เป็นเชิงบอกให้อ่านปากเขาดูผมจึงแอบเปิดใช้งานสกิล [ดักฟัง] โดยเล็งที่ปากของไนท์ฮอว์ก
"ไอ้บื้อเอ๊ย...สถานการณ์แบบนี้ แกล็อกเอาท์หนีไม่ได้หรอกเว้ย ตอนที่มาโลกนี้เขาไม่ได้สอนแกรึไงวะ ฮึ่ย ข้าละเบื่อสมองไร้รอยหยักของแกจริงจริ๊ง.."
"...."
'อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ยังมิวายจะโดนด่าอีกตู คร้าบๆ ผมขอโทษที่มัวแต่ใจร้อนในทุกเรื่องคร้าบ'
"ในเวลาแบบนี้ ถ้าคนจากฟ้าอย่างแกอยากล็อกเอาท์ละก็ มีสองวิธีที่แกจะทำสำเร็จ หนึ่งคือแกต้องคลี่คลายสถานการณ์ให้ได้ สองคือแกต้องหลบหนีให้พ้นจากสายตาคนหมู่มาก แกเตรียมตัวให้พร้อมละกันไม่ว่าทางไหนก็ตาม เข้าใจรึยัง? ไอ้หัวมีไว้กั้นหู"
"...."
"เอาล่ะ ทุกคนหลบทางไปได้แล้ว!" ซีเพียสตะโกนพลางโบกมือไล่ เพื่อให้หน่วยองครักษ์ทั้งหมดเดินเรียงแถวเข้ามาได้ ผู้คนต่างรีบหลีกหนีแหวกทางให้เขาเดินตรงมายังผมได้โดยสะดวก จากคนแน่นเอี๊ยดกลายเป็นทางโล่งโจ้งในไม่กี่วินาที ผมเอามือล้วงในกระเป๋าเล็กตรงเอวเผื่อเอาไว้ก่อน ซึ่งในนั้นบรรจุระเบิดควัน ระเบิดพริกไทย ฯลฯ ไว้อย่างครบถ้วน
ตุบ... ตุบ... ตุบ...
กึก
หน่วยอัศวินเดินมาได้ครึ่งทางก็ต้องหยุด เพราะมีชายผู้บ้าคลั่งคนหนึ่ง เดินออกไปยืนจังก้าขวางทางเอาไว้ด้วยท่าทางที่กวนอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง
"แกคือไนท์ฮอว์กแห่งสมาคมโจรเร้นเงาสินะ" ซีเพียสถาม "มีอะไร โจรโสโครกแบบแกวันนี้ทำให้ข้าประหลาดใจมากพอดูเลย กับแผนการเปิดโปงลอร์ดรอธฟิลด์เนี่ย แล้วนี่จะทำอะไร? อยากเป็นฮีโร่? หรือแก...อยากเป็นกบฏล่ะหือ?"
"เปล๊า~! ไม่ได้อยากจะเป็นกบฏแม้สักนิดเดียว ยังไงซะคาเอลุมก็คือบ้านเกิดของข้า ข้าเคารพพระราชาและเหล่าราชวงศ์เสมออยู่แล้ว แต่พอดี๊~พอดีข้าแค่อยากยืนตรงนี้เท่านั้นเอง ลมมันเย็นดีนะตรงจุดนี้...ฮึ้บ เฮ้อ สบายดีจังเลย~!" ไนท์ฮอว์กบิดขี้เกียจโชว์ต่อหน้าซีเพียส
"แกจะมาเล่นตลกอะไรอีก?! หลบไปเดี๋ยวนี้!"
"ตลกเหรอ? ไม่ได้จะมาเล่นตลกเลย แต่พูดถึงเรื่องตลกละก็ เมื่อสักครู่มีเรื่องตลกมากเกิดขึ้นด้วย ข้าว่าแกก็เห็นนะ คือไอ้ตอนที่อุกกาบาตยักษ์ตกลงมาเนี่ย ไหงพระราชาที่ประชาชน เคารพรัก ถึงไม่ทำอะไรเลยสักอย่างก็ไม่รู้ จะทำเป็นกางบาเรียสักหน่อยก็ไม่ได้ บ๊ะ! ข้านี่อึ้งไปเลยวะ เคี๊ยก เคี๊ยก เคี๊ยก โอ๊ย~! ยังดีนะที่พวกเรามีฮีโร่ตัวจริงอยู่ด้วย ไม่งั้นขำไม่ออกแน่นอน"
"...."
"อ๊ะ เปล่าๆ เปล่านะ ข้าไม่ได้จะกบฏอะไร ข้าแค่อยากมายืนตรงนี้เฉยๆ แล้วก็อยากเล่าเรื่องตลกนี้ให้ทุกคนได้นึกถึงอีกครั้งหนึ่งเท่านั้นเอง อดีตที่ผ่านมาคืนแห่งโศกนาฏกรรมนั้น แท้จริงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ข้าว่าบางทีเรื่องราวอาจจะไม่ใช่อย่างที่พวกเราคิดก็ได้ เมื่อคิดจากการกระทำของเด็กหนุ่มในวันนี้ ไม่เห็นมีเหตุผลอะไรเลยที่จะต้องโผล่ออกมาเสี่ยงตายช่วยพวกเราทุกคน ซ้ำยังเสี่ยงที่จะถูกจับอีก เห็นเขาเป็นคนแบบนี้แล้ว ข้าเองก็ชักไม่แน่ใจแล้วว่าคืนนั้นเขาทำผิดจริงรึเปล่า… หรือมันเป็นแผนการของใครกันแน่?"
เสียงผู้คนรอบข้างเริ่มฮือฮาพูดคุยถกเถียงกันอีกครั้ง
"ฮึ่มม…" ซีเพียสโมโหเส้นเลือดปูด "สรุปแกคิดจะขัดประกาศิตพระราชาใช่ไหม?! ทหาร...!"
ก่อนที่ซีเพียสจะพูดสั่งการจบ มีคนกลุ่มหนึ่งเดินออกมาจากฝูงชน แก๊งค์สี่สาวของน้ำ เรย์ แนนซี่ มะนาวนั่นเอง พวกเธอเดินมาหยุดอยู่ข้างไนท์ฮอว์ก
"พวกเราก็อยากมายืนตรงนี้เหมือนกัน" น้ำพูดและเพื่อนของเธอพยักหน้าเห็นด้วย
จากนั้นก็มีนักผจญภัยอีก 4-5 คนเดินออกมา "พวกเราก็ด้วย" "อยากยืนตรงนี้นานๆ เลย"
มีคนพื้นโลกเดินตามออกมาอีก
"ขะ... ข้าด้วย"
"ฉันก็เช่นกัน"
"ฉันด้วย"
"ข้าด้วย หึหึหึ" นักรบคนหนึ่งก้าวเดินออกมา เขาหันมายิ้มให้ผมพร้อมกับหัวเราะในลำคอ ทำเอาผมเซอร์ไพรส์มาก เขาคือ 'ลุงปื้ด' นั่นเอง ไม่น่าเชื่อว่าศัตรูที่คิดจะล่าค่าหัววินในวันวานจะเป็นพันธมิตรของเราในวันนี้ เห็นแบบนี้แล้วโคตรซึ้งเลย พับผ่าสิ แถมลุงปื้ดไม่ได้มาคนเดียว แต่ดึงหูไอ้จ้อยที่ดูเหมือนลังเลอยู่ให้ออกมาด้วยแบบไม่เต็มใจ
"หนูด้วย!" "ผมด้วยครับ!" "พวกเราด้วย!" คราวนี้เซอร์ไพรส์กว่า เพราะกลุ่มเด็กชายและหญิงตัวเล็กที่อายุไม่น่าจะเกิน 10 ขวบ ก้าวเท้าออกมาด้วยสายตาที่มุ่งมั่นและท่าทีขึงขัง
'โอ…' ผมรู้สึกเหมือนฝุ่นจะเข้าตา มันตื้นตันใจเหลือเกิน
"ข้า...ข้าก็ด้วย" เสียงอ่อนแรงแต่สุขุมดังมาจากคุณปู่คนหนึ่ง ที่เดินค้ำใช้ไม้เท้าเข้ามาอย่างเชื่องช้า คนที่อยู่ในแถวออกมาช่วยพยุงท่านอีกแรง ท่านไม่ได้เดินไปอยู่ข้างหลังแต่เดินมาอยู่ข้างหน้าไนท์ฮอว์กเลย
"คุณปู่เฮอร์นันเดส ผู้ใหญ่บ้านอย่างท่านทำไมถึง…?" ซีเพียสส่งเสียงถาม "ท่านเสียลูกชายไปในคืนนั้นด้วยไม่ใช่รึไง?"
คุณปู่ส่งสายตาแข็งกร้าวไปที่ซีเพียส ซึ่งทำให้เขาถึงกับหงอลงในทันที
"ถูกแล้ว เขาจากข้าไปในคืนนั้นและป่านนี้เขาก็ยังเป็นวิญญานรอการเกิดใหม่อยู่ ข้าเองก็คิดถึงเขามากยิ่งนัก แต่ถึงอย่างนั้น..." คุณปู่เว้นช่วงนิดหนึ่ง หันมามองที่วินและพูดต่อว่า
"ข้าอยู่มานาน...นานเกินกว่าที่จะนิ่งเฉยกับลางสังหรณ์ตนเอง ทุกสิ่งที่ข้าได้เห็นในตัวเด็กหนุ่มคนนี้ แววตา ท่าทาง การกระทำของเขาทั้งหมดนั้น มันทำให้ข้าเชื่อในตัวเขา สายตาของข้าไม่เคยมองคนผิดหรอก เจ้าก็รู้ดีเรื่องนั้นไม่ใช่รึไง ซีเพียส?"
"...."
"นี่ๆ คุณปู่คนนั้นเป็นใครเหรอ? ทำไมถึงทำให้คนระดับซีเพียสที่เป็นหัวหน้าหน่วยองครักษ์ไม่กล้าหือ"
"คุณปู่เฮอร์นันเดสเป็นคนที่กว้างขวางและมีอิทธิพลสูงมากใน
คาเอลุม สมัยวัยหนุ่มท่านเป็นหัวหน้าหน่วยฝึกอัศวินสุดโหด อัศวินทุกคนในเมืองนี้เคยโดนท่านตบกบาลกันมาแล้วทั้งนั้น ไม่สำคัญว่าจะมาจากชนชั้นสูงหรือต่ำ เมื่อท่านอายุมากขึ้น ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นหนึ่งสมาชิกสภาสูงสุดของอาณาจักร เคยเป็นหนึ่งในคณะที่ปรึกษาของราชวงศ์ มิหนำซ้ำท่านยังเป็นคนก่อตั้งมูลนิธิเพื่อคนยากไร้ เป็นคนออกทุนสร้างโรงเรียน 'จากพื้นสู่โลก' ให้เด็กชนชั้นล่างได้มีความรู้ ความดีของท่านนับไม่หวาดไม่ไหวเลย และสุดท้ายในบั้นปลายชีวิตท่านจึงมารับตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านของเมืองเนี่ยแหละ"
"โห….คุณปู่ไม่ธรรมดาแฮะ"
หลังจากที่คุณปู่เฮอร์นันเดสพูดจบ ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นมากมายก้าวเดินออกมาช่วยกันยืนขวางเอาไว้ ทั้งคนพื้นโลกและคนจากฟ้าต่างค่อยๆ ทยอยกันเดินออกมาต่อแถวกันจนเต็มพื้นที่ไปหมด รวมแล้วคร่าวๆ น่าจะหลายร้อยคนเลยทีเดียว
ผมที่เห็นภาพเหตุการณ์แบบนี้ตรงหน้า ถึงกับน้ำตาคลอเบ้า ผมซาบซึ้งแทนวินจริงๆ อยากให้มันเห็นชะมัดว่ามีคนที่พร้อมจะเชื่อใจในตัวเขา เพิ่มมากขึ้นขนาดนี้…
ซีเพียสที่เห็นคนออกมาขวางหลายร้อยคนแบบไม่กลัวฝ่าฝืนคำสั่งพระราชา ทำให้ท่าทางของเขาตอนนี้เหมือนอกจะแตกตาย เส้นเลือดปูด หน้าแดงก่ำ เหงื่อแตกพลั่ก ลมหายใจหอบถี่ สักพักหนึ่งเขาก็ตัดสินใจพูดอย่างเคียดแค้นออกมา
"คอยดูนะ เรื่องมันไม่จบแค่นี้แน่ คนผิดยังไงก็ต้องถูกตัดสินโทษอยู่วันยังค่ำ...เฮอะ!" เขาหันหลังสะบัดผ้าคลุมและเดินจากไป หน่วยอัศวินองครักษ์ก็เดินแถวเรียงสี่ตามกลับไปด้วย
ติ๊ง!
[ระบบแจ้งเตือนเพลเยอร์ใหม่]
ขณะนี้คุณสามารถล็อกเอาท์ออกจากเกมได้แล้วค่ะ!
เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ระบบจึงส่งแจ้งเตือนมาบอก ผมเงยหน้ามองฟ้าและรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อรู้สึกตัวคุณปู่เฮอร์นันเดส
ก็เดินเข้ามาใกล้แล้ว
"กลับขึ้นฟ้าไปก่อนเถอะ ไปพักรักษาตัวก่อน พวกเจ้าคงเหน็ดเหนื่อยทั้งกายและใจเป็นแน่... เอ้อ อีกอย่างนึงฝากบอกเพื่อนของเจ้าด้วยว่า 'ข้าผู้ใหญ่บ้านเฮอร์นันเดส พร้อมจะรับฟังเรื่องราวของเขาเสมอ' หากกลับมาเมื่อไร แวะไปหาข้าด้วยนะ"
"ได้ครับ ผมจะบอกเขาให้" ผมใช้มือของวินตวัดเปิดวินโดวส์และกด [ล็อกเอาท์] ให้ทันที ร่างของวินเปลี่ยนเป็นแสงพุ่งวาบขึ้นสู่ท้องฟ้า ส่วนตัวผมเองก็ล้าเต็มทีแล้ว จึงกดล็อกเอาท์ออกบ้างเช่นกัน แต่ก่อนจะกด ผมหันไปก้มหัวโค้งขอบคุณคุณปู่เบาๆ ส่งยิ้มให้วิสเปอร์ ให้น้ำและสาวๆ สุดท้ายหันมาตะเบ๊ะให้ไนท์ฮอว์ก จากนั้นก็กดปุ่ม [ล็อกเอาท์]
แวบ!
วู้ม---!
...
.....
ผมกระพริบตาปริบๆ จากนั้นเมื่อหายสลึมสลือ ผมลืมตาโพล่งรีบเปิดฝาล็อกเครื่องแคปซูลแล้วลุกออกไปทันที อยากจะคุยกับวินใจจะขาด และผมก็เห็นเขายืนหน้าเครื่องตนเองหันหลังให้ผมอยู่
"เฮ้ย~! ไอ้วิน ไอ้เพื่อนยาก ไอ้เพื่อนซี้ นายนี่มันโคตรเจ๋งเลยว่ะเพื่อน!" ผมเข้าไปกอดคอวินจากข้างหลัง เอามือขยี้หัวเบาๆ "หลังจากที่นายสลบไปนะ โห เรื่องราวแม่งโคตรน่าประทับใจ เดี๋ยวฉันจะเล่าให้ฟังเองว่ามีอะ..."
"นั่นใครวะ?"
ตรงหน้าประตูทางเข้าห้องมีผู้ชายในชุดสูทสีดำยืนพิงกำแพงอยู่ ชายคนนี้ตัวสูงใหญ่ล่ำบึ้กหุ่นเหมือนนักมวยปล้ำไม่มีผิด เขาหัวโล้น ไม่มีคิ้ว และใส่แว่นตาดำแม้จะอยู่ในห้องก็ตาม ส่วนที่เด่นที่สุดของเขาเห็นจะเป็นรอยสักบนใบหน้า ที่ลากยาวตั้งแต่ขมับลงมาจนถึงแก้ม
"ผมจำคุณได้ คุณคือหนึ่งในผู้ติดตามของยูกินะ" วินพูดขึ้น
เขาขยับตัวเล็กน้อยก้าวออกจากกำแพงที่พิงอยู่ และพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า
"ฝาเครื่องแคปซูลมันล็อกออโต้ ทีแรกฉันคิดจะทุบให้พังไปเลยเพื่อลากตัวพวกแกออกมา แต่บอสบอกว่าเสียดายเครื่องราคาแพง..." พูดจบเขาขยับก้าวหนึ่งก้าวมาทางพวกเรา ผมกับวินสะดุ้งเฮือกทันที
ผมกลืนน้ำลายหนึ่งเอื๊อก ผมสัมผัสได้เลยว่าออร่าของนักสู้ที่แท้จริงนั้นเป็นเช่นไร ทุกการกระทำของชายคนนี้มันช่างน่าเกรงขาม
แกร๊ก
เขาเดินไปเปิดประตูถือค้างไว้และพูดว่า
"บอสรอเจอพวกแกอยู่ และฉันบอกได้เลยว่าเขากำลังหงุดหงิดมากที่โดนเด็กลูบคม..."