เมื่อความทรงจำของฉันดับสูญ2
"...ทิวาได้แต่ทอดถอนหายใจ กับเรื่องราวต่างๆ ที่มันวิ่งเข้ามาในหัว กับความนึกคิด ชีวิตนี้คนเราดิ้นรนแสวงหาอะไรกัน!!.."
แล้วความนึกคิดหนึ่ง ก็ได้วิ่งเข้ามาในหัวอีกรอบ กับชะตาชีวิตและเรื่องราวของตนเอง
"สิ่งที่ผ่านมาในปีที่แล้ว มันช่างเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า เรื่องราวที่เขานั้นรู้มาจากฝัน และในขณะที่นั่งฝึกสมาธินั้น"
"มันคือเรื่องจริงและได้เกิดขึ้นมาแล้วในปลายปีที่แล้ว" เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น มันตรงกับที่เขารับรู้และเคยพูดกับแฟนคนรักบ่อยๆ"
"ในเรื่องราวต่างๆ แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นแบบไม่รุนแรงในบางเหตุการณ์"
"แต่มันก็เป็นเรื่องที่ใช้ยืนยันได้ว่าเขานั้นไม่ได้มโนไปเอง และเขาไม่ได้บ้า!! แล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับเขาอีกเนี้ยในปี2562...!! "
............
ทิวา นั่งนึกทบทวนกับเรื่องราวที่เขาได้พบเห็นทั้งในฝัน และในขณะฝึกนั่งสมาธิ อยู่ๆความคิดคำนึง ก็ได้แว๊ปเข้ามาในหัว
"มันเป็นเรื่องราวของการทำงานในชีวิตประจำวันของเขา ซึ่งเขาเห็นเป็นภาพในหัว ในขณะที่กำลังทำงานในโรงแรมฝ่ายบริการงานจัดเลี้ยง ได้มีคณะครูอาจารย์คณะหนึ่ง มาใช้บริการที่โรงแรมเพื่อจัดงานสัมมนาอบรมเด็ก ใน 'โครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติ' มาใช้บริการ
โดยตัวของทิวาเองนั้น เป็นผู้คอยบริการดูแล ในเรื่องอาหารเครื่องดื่มในเวลาพักเบรคของคณะครูแลพเด็กๆที่มาสัมมนานั้น ตลอดเวลาสามวัน ที่ทิวาประจำงานในจุดบริการนี้ ถือว่าดีและได้รับคำชมจากคณะอาจารย์ที่มาอบรมในชุดนี้
ตัวทิวาเองได้รับรู้ในชะตาของอาจารย์ท่านหนึ่งในคณะ "รับรู้ว่าอาจารย์ผู้หญิงท่านนี้ จะมีเคราะห์กรรมหนัก จะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ขึ้น หลังจากจบงานสัมมนาไปแล้วราวๆเดือนนึง"
"ทำให้อาจารย์'เอ๋' นั้น พลาดโอกาสจากการไปร่วมงานที่ต่างประเทศ และทิวายังเห็นไปอีกว่า อาจารย์เอ๋นั้น "จะถูกรถชนประสานงา" "จนบาดเจ็บหนักอาจถึงขั้นพิการหรือกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไป ในวันสุดท้ายของงานอบรมสัมมนา"
"ขณะที่ทิวานำบิลเอกสาร แจ้งบัญชีรายจ่ายค่าอบรมไปให้ อาจารย์เอ๋เซ็นรับทราบกับรายจ่ายทั้งหมด"
"พร้อมกับแนบใบติชมของการบริการไปด้วย พร้อมใบกระดาษเล็กๆ ที่ทิวาเขียนชื่อตัวเองเอาไว้ เพื่อให้คณะอบรมระบุชื่อพนักงานบริการลงในใบตริตรองติชมพิจารณาการบริการ ของทางโรงแรม"
ในใบกระดาษแผ่นเล็กๆนั้น ทิวาได้เขียนโน๊ตด้านหลังกระดาษเอาไว้ว่า
" อาจารย์คับ อาจารย์พี่เอ๋ขอให้ใจเย็นๆ อย่าขับรถไวนะคับ ผมไม่อยากให้พี่เอ๋เกิดอุบัติเหตุจนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา " และลงชื่อแนบท้ายในวงเล็บเอาไว้อีกขึ้นว่า (ทิวา)
หลังจากที่อาจารย์เอ๋ ได้เซ็นเอกสารการเงิน และเขียนใบติชมเรียบร้อย อาจารย์พี่เอ๋ก็ส่งเอกสารที่เซ็นให้กับทิวา หลังจากรับเอกสารบัญชีเรียบร้อย ทิวาก็เดินเอาเอกสารไปส่งคืนออฟฟิต เพื่อส่งต่อไปให้กับฝ่ายบัญชีได้ลงบัญชีเอาไว้
จากนั้นทิวาจึงกลับมาทำหน้าที่จัดเก็บของช่วยคณะอาจารย์ต่อไป จนเก็บของเสร็จเรียบร้อย อาจารย์พี่เอ๋ก็เรียกทิวาเอาไว้ก่อน พร้อมกับทักสอบถามทิวาว่า
" เธอเป็นหมอดูหรอ ถึงได้รู้ว่าพี่ขับรถไวและเร็ว "
" ป่าวคับ ผมไม่ได้เป็นหมอดู มันเป็นเพียงแค่ความรู้สึกและมีภาพเข้าให้เห็นในหัวคับ " ทิวาตอบอาจารย์เอ๋ไปแค่นั้น
แล้วทิวายังได้บอกไปอีกว่า "พี่คับ...ให้ระวังอีกเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับอุปกรณ์การแสดง ที่ทางช่างทำส่งให้นั้น ช้าจนอาจจะมีปัญหาในการไปแสดงที่ต่างประเทศ และการแสดงครั้งนี้จะมีเด็กคนหนึ่งไม่สบายที่นู้นด้วย!! จนอาจจะอดร่วมงานแสดง...!"
"ส่วนงานในครั้งหน้ารอบหน้าตัวอาจารย์พี่เอ๋จะไม่ได้รับผิดชอบ แต่จะเป็นพี่อาจารย์ผู้หญิงอีกท่านนึง ที่ได้รับมอบให้รับผิดชอบงานนี้ต่อ...."
พูดจบ ทิวาทำทีจะปลีกตัวหนี แต่คณะอาจารย์ได้เรียกเอาไว้ พี่เอ๋และอาจารย์ที่อยู่ด้วย ได้สอบถามถึงทางแก้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุต่อตนเอง
ทิวาจึงบอกให้อาจารย์พี่เอ๋ "ไปปล่อยปลาหน้าเขียง5-9ตัว และถวายสังฆทาน พร้อมจัดชุดดอกไม้ธูปเทียนไปไหว้พ่อพญายมราช"
บอกเสร็จทิวาก็เดินไปที่รถเข็นอุปกรณ์ เพื่อเตรียมนำไปส่งคณะอาจารย์ที่รถ...
ภาพในหัวก็ตัดมาเป็นอีกช่วงวาระหนึ่ง...
"เหล่าคณะครูอาจารย์คณะนี้ ได้กลับมาเปิดใช้บริการที่โรงแรมอีกครั้ง เป็นงานจัดเลี้ยงสังสรรค์ โดยมีคณะอาจารย์และเด็กๆ มาร่วมกันหมดทุกคน ยกเว้นอาจารย์พี่เอ๋คนเดียว ที่ไม่ได้มาร่วมในงานครั้งนี้"
และภาพก็เปลี่ยนมาที่อาจารย์ผู้หญิงคนนึง อายุราว43-45ปี แกเดินตรงเข้ามาหาทิวา พร้อมกับทักทายทิวาว่า
" น้องคะ จำพี่ได้ไหมคะ? พี่มาร่วมงานอบรมครั้งก่อนไง และน้องก็ทักพี่ว่า พี่จะได้รับช่วงงานต่อ.."
"และครั้งนี้ที่พี่พาคณะอาจารย์ และเด็กๆมาจัดเลี้ยงสังสรรค์ที่นี่ นั่นเพราะพี่คิดถึงน้องคำพูดของน้อง"
"และจะมาขอบคุณกับคำเตือน ที่น้องได้บอกกับพวกพี่ในครั้งก่อน และจะทำการขอบคุณน้องอย่างเป็นทางการ ต่อแขกที่มาร่วมงาน และท่านประทานในพิธี มีของจะมอบให้เธอด้วยนะ..."
" ทิวา ได้แต่ฟังที่อาจารย์ผู้หญิงคนนั้นพูด เพราะไม่เข้าใจที่แกพูดถึงเรื่องราวเหล่านั้น จึงได้แค่รับฟัง "
จนมีเพื่อนที่ร่วมงานได้เข้ามาคุยกับพี่ผู้หญิงคนนั้น แล้วบอกแกว่า "ตัวทิวานั้นจำอะไรไม่ได้ครับ เพราะพึ่งจะออกมาจากโรงพยาบาล เหตุเพราะว่าเกิดเหตุรถเก๋งมาชนมอเตอร์ไซค์ของทิวา จนความจำเสื่อม!!...."
คำๆนี้มันดังก้องอยู่ในหัวของทิวา
" ความจำเสื่อม "
******************************