บทที่ 5 เกียรติยศของประเทศชาติ
เวลาตีสองสี่สิบนาที เสี่ยวซือประสบความสำเร็จโดยที่ไม่ถูกสงสัยหรือถูกไล่ตาม ตั้งแต่หนีออกจากไนต์คลับมาจนถึงสถานที่สุดท้ายที่เป้าหมายอยู่คือถนนริมหาด แต่กระนั้นเธอก็ยังไม่รู้ว่าหายนะที่จะพรากชีวิตเธอนั้นได้ใกล้เข้ามาแล้ว
ในค่ำคืนที่ดึกดื่นเงียบสงัด ห่าออกไปสามร้อยเมตร เสี่ยวซือได้ทิ้งรถไว้แล้วเดินเท้าต่อ เธอเดินย่องอย่างระมัดระวังตลอดทาง ในที่สุดก็มาถึงสถานที่ลอบยิงที่กำหนดไว้
เธอเปิดประเป๋าทรงยาว หยิบปืนไรเฟิล M21 อาวุธที่ใช้ลอบสังหารในวันนี้ออกมา พร้อมกับติดอุปกรณ์เก็บเสียง Sionics และสวมแว่นตาไนต์วิชั่น ส่วนมือของเสี่ยวซือก็กำลังถอดประกอบชิ้นส่วนต่างๆ อย่างคล่องแคล่ว ไม่ถึงสิบวินาที ทั้งหมดก็เรียบร้อย
พอปรับจุดโฟกัสของปืนเรียบร้อย เสี่ยวซือก็เล็งไปที่เป้าหมายซึ่งอยู่ห่างไปสี่สิบเมตร กลุ่ม X ที่เข้าพวกกับฝั่งญี่ปุ่นยืนอยู่หน้าวิลล่าสุดหรูของคาเมดะ อิจิโร่ ดูเหมือนคนชั่วที่มือทั้งสองข้างเปื้อนเลือดคนนั้นจะเข้านอนแล้ว ภายในวิลล่านอกจากไฟที่ห้องนั่งเล่นแล้ว หน้าต่างห้องนอนก็ไม่มีแสงไฟเล็ดลอดออกมา ดูเหมือนว่านอกจากบอดี้การ์ดที่คุ้มกันแล้ว คนในวิลล่าส่วนใหญ่คงพักผ่อนกันหมด
พอมองลอดผ่านแว่นไนต์วิชั่น จุดสีแดงก็ชี้ตรงไปที่หมายเลขบ้านอย่างถูกต้อง การปรับไนต์วิชั่นเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ
เสี่ยวซือใส่ซองกระสุน และทุกอย่างก็เรียบร้อย เธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋า แล้วกดหมายเลขลงไปอย่างรวดเร็ว
เสียงต่อสายดังขึ้นไม่กี่ครั้ง เป็นอันว่าโทรติดเรียบร้อยแล้ว แล้วหน้าต่างที่ชั้นสองก็มีแสงบางๆ ลอดออกมา ประจวบกับเสียงแหบแห้งที่ดังออกมาจากในโทรศัพท์ “โมชิโมชิ...”
“คุณคาเมดะ?” สำเนียงโตเกียวของเสี่ยวซือชัดเจนมาก สำหรับสายลับแล้ว การที่สามารถใช้ได้มากกว่าเจ็ดภาษานั้นถือเป็นสิ่งสำคัญ
“ใช่...แล้วคุณคือ?” เสียงแหบของ คาเมดะ อิจิโร่ ตอบกลับมา
“ฉันเจ้าหน้าที่โยโกะ จากสำนักงานตำรวจโตเกียวค่ะ เราพบหมายเลขโทรศัพท์ของคุณจากศพของคุณวาตานะเบะ มาซาโยชิ...”
“อะไรนะ?” คาเมดะร้องเสียงดังออกมา “คุณพูดอะไร? ศพ? เกิดอะไรกับวาตานะเบะ?”
“คืออย่างนี้ค่ะ...เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนคุณวาตานาเบะ มาซาโยชิ ถูกฆาตกรรมที่โรงแรม ตอนนี้ทางตำรวจกำลังทำการตรวจสอบ พวกเราโทรหาคุณเพราะต้องการทราบ...โมชิโมชิ...ทำไมเสียงหายไปล่ะ?” เสี่ยวซือพูด ‘โมชิ’ ไปสองครั้งก็วางสาย จากนั้นเธอก็ถอดแบตโทรศัพท์ออกอย่างคล่องแคล่ว มือก็หยิบเอาบัตรโทรศัพท์แบบเติมเงินที่ซื้อจากร้านค้าข้างทางในโตเกียวออกมาทำลาย แล้วเก็บลงกระเป๋าไป
ลมยามค่ำคืนพัดมาเบาๆ เวลาก็ผ่านไปอย่างช้าๆ ตอนนี้ทำได้แค่รอเท่านั้น หากภายในสิบนาทีไม่มีใครมา คงต้องใช้วิธีบุกเข้าไปในวิลล่าเพื่อลอบสังหารแล้ว คาเมดะ อิจิโร่ มีบอดี้การ์ดดูแลตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ชายที่น่ากลัวคนนี้หวงชีวิตของตัวเองเหลือเกิน จากข่าวที่แหล่งข่าวแจ้งบอกว่า วิลล่าแห่งนี้มีการคุ้มกันที่แน่นหนามาก หากจะเข้าไปสังหารเขาคงเป็นเรื่องที่ตึงมืออยู่ไม่น้อย ดังนั้นแผนล่องูออกจากถ้ำจึงเป็นแผนที่ดีที่สุด เสี่ยวซือทราบดีว่าไม่ว่าโทรศัพท์สายนั้นจะจริงหรือปลอม คนระดับสูงในกลุ่ม X ก็จะต้องลงมืออย่างแน่นอน จิ้งจอกเฒ่าอย่างคาเมดะ อิจิโร่ ถ้าไม่ไปตรวจสอบที่สถานีตำรวจก็ต้องออกมาหาสมาชิกคนอื่นๆ แน่นอน และก่อนหน้านี้ เธอได้ขโมยเครือข่ายการสื่อสารของโตเกียวเอาไว้แล้ว ซึ่งภายในหนึ่งชั่วโมงนี้จะไม่มีใครสามารถโทรออกได้
แน่นอนว่าไม่ถึงสามนาทีจากนั้น ก็มีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นในวิลล่า ไฟห้องนอนและห้องนั่งเล่นสว่างขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้หัวใจของเสี่ยวซือนั้นรู้สึกมีความสุข เพราะเป้าหมายจะออกมาเร็วขึ้น เธอจึงผ่อนลมหายใจให้สงบลง แล้วเสี่ยวซือที่หมอบซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ก็กระชับปืนแน่น ปืนไรเฟิล M21 ล็อกเป้าไว้เหนือประตู เพื่อรอเป้าหมายออกมาอย่างใจจดใจจ่อ
เธอล็อกเป้านั้นไว้ประมาณสิบนาที ประตูของวิลล่าก็เปิดออก ชายสวมชุดสูทคนหนึ่งเดินออกมาก่อน แล้วมองไปรอบๆ
การซ่อนตัวถือเป็นจุดแข็งของเสี่ยวซือ ในขณะนั้นร่างการของเธอได้ผสานเข้ากับเงาของพุ่มไม้ ไร้ซึ่งการขยับเขยื้อน ทำให้คนที่เดินผ่านไปมาหากไม่เข้ามาใกล้เกินกว่าห้าเมตร ก็ไม่มีทางพบเธอแน่นอน
เมื่อชายที่เดินออกจากประตูวิลล่าคนแรกไม่พบความผิดปกติใดๆ เขาก็กลับเข้าไปด้านในแล้วส่งสัญญาณ จากนั้นที่ประตูก็ปรากฏชายสวมชุดสูทซึ่งล้วงมือไปในกระเป๋ากางเกงข้างหนึ่ง และในขณะเดียวกันไฟในห้องนั่งเล่นของวิลล่าก็ดับลง
ริมฝีปากของเสี่ยวซือยกยิ้มขึ้น ดูเหมือนว่าบอดี้การ์ดเหล่านี้จะเป็นมืออาชีพ พวกเขารู้ว่าแสงสว่างมีผลต่อการมองเห็น แต่ในมือของเสี่ยวซือคือปืนไรเฟิลที่เป็นอาวุธสังหารซึ่งใช้งานได้ยี่สิบสี่ชั่วโมง มันมีแสงอินฟาเรดที่ใช้ในความมืด เธอเล็งข้ามจุดสีแดงที่เป็นชายสวมชุดสูทสองคนไปที่ประตูทางด้านหลัง
ช่วงกลางคืนที่เงียบสงัด เวลานี้ยังมีเงาร่างของคนเคลื่อนไหวอยู่ แล้วที่ปากประตูก็ปรากฏร่างของชายสวมหมวก เขาเป็นผู้ชายรูปร่างผอม ในมือถือเสื้อโค้ทตัวใหญ่เอาไว้ ในชั่วพริบตาเสี่ยวซือก็มองออกทันทีว่านั่นคือ คาเมดะ อิจิโร่ เป้าหมายปรากฏตัวแล้ว นิ้วชี้ของเสี่ยวซือกระตุกเบาๆ อยู่ที่ไกปืน
เสี่ยวซือหายใจเข้าลึกๆ รอคอยจังหวะที่จะลงมือสังหาร
รถที่อยู่ด้านล่างของวิลล่าส่งเสียงคำรามออกมา รวมทั้งนกฮูกที่กำลังร้องไปมาอยู่ตัวหนึ่ง ทำให้ฟ้าที่ดูมืดสลัวในค่ำคืนนี้ทวีคูณความน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม
รถบ้านอาร์วีสีดำคันหนึ่งค่อยๆ ขับออกมา แล้วเหล่าบอดี้การ์ดที่อยู่ตรงบันไดก็เดินเข้ามาที่รถ จากนั้นก็เอาหลังแนบไปกับรถ แล้วเดินไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง
ในขณะที่ผู้คุ้มกันของคนขับลงมาจากรถ ก็เปิดประตูด้านที่ติดกับบันไดเอาไว้ แล้วบอดี้การ์ดสองคนก็ทำสัญญาณมือ เมื่อเสี่ยวซือมองผ่านแว่นไนต์วิชั่น ก็รู้ทันทีว่านั่นเป็นสัญญาณบอกว่า ปลอดภัย!
ในนาทีนั้นเอง คาเมดะ อิจิโร่ ก็เดินออกมาจากด้านหลังของบอดี้การ์ด แล้วจุดสีแดงก็ล็อกเป้าไว้กลางหว่างคิ้วของเขาอย่างแม่นยำ
เธอจะเสียเวลาไม่ได้อีก หลังจากที่ยืนยันแล้วว่าถูกตัว ก็ไม่ได้ลังเลอีกต่อไป นิ้วชี้ของเสี่ยวซือกดลงไปเบาๆ
เสียง ‘ฟู่ว!’ ดังขึ้นปลุกคืนที่เงียบสงบของโตเกียวขึ้นมา แล้วตรงกลางหว่างคิ้วของ คาเมดะ อิจิโร่ ก็ปรากฏหลุมดำขึ้น!
‘ปังๆ!’ เสียงปืนดังขึ้นชัดเจนสองนัด ความเร็วของเสี่ยวซือนั้นไวมาก แต่บอดี้การ์ดและผู้คุ้มกันของคนขับเองก็รวดเร็วมากเช่นกัน พวกเขาชักปืนและยิงออกมาแทบจะเป็นจังหวะเดียวกัน ทำให้เสี่ยวซือต้องเปลี่ยนที่ซ่อน เพราะวิถีของกระสุนสองนัดนั้นพุ่งเข้ามาในพุ่มไม้ที่เธอซ่อนอยู่
003 สมควรได้เป็นสายลับคนแรกของหน่วย ด้วยความเร็วที่น่าตื่นตาตื่นใจและประสบการณ์การลอบสังหารที่โชกโชนประกอบกับปืนไรเฟิลที่ใช้ซุ่มยิงในตอนกลางคืน การเคลื่อนไหวที่ไหลลื่นของเสี่ยวซือ ทำให้เธอสามารถหลบกระสุนสองนัดนั้นได้ เสี่ยวซือย่อตัวหลบไปที่สนามหญ้าด้านข้างด้วยขาข้างเดียว จากนั้นมือข้างหนึ่งก็เหนี่ยวไกยิงปืนออกไปสองนัด แล้วกระสุนก็เจาะไปที่ศีรษะของบอดี้การ์ดทั้งสองคน
ด้วยเทคนิคในการยิงที่แม่นยำ ทำให้บอดี้การ์ดที่เหลือตกใจเป็นอย่างมาก จนมือหยุดชะงักไป ท่ามกลางความมืดมิดในเวลากลางคืน จิตใจของพวกเขาเริ่มหวาดวิตก และสับสนวุ่นวายขึ้น
เสี่ยวซือยกยิ้มขึ้นมา มือข้างหนึ่งดึงเอาปืน Colt 2000 ที่ติดไว้ที่ขาออกมา แล้วใช้มือทั้งสองข้างยิงปืน จากนั้นเสียงปืนก็ดังออกมาจากปืนทั้งสองกระบอก ทันใดนั้นทั้งถนนก็ตกอยู่ในความเงียบสงัด
การลอบสังหารและการซ่อนตัวที่สมบูรณ์แบบ บอดี้การ์ดทั้งสี่และเป้าหมายถูกจัดการเรียบร้อย ภารกิจเสร็จสิ้น!
เสี่ยวซือหนีออกไปจากถนนนั้นอย่างรวดเร็ว สองนาทีจากนั้นรถแฮมเมอร์ ก็ออกตัวไปพร้อมกับกลุ่มควัน มุ่งสู่ถนนเลียบชายหาด
หลังจากขับรถมาได้ยี่สิบนาที เสี่ยวซือก็เหยียบเบรกทันที แล้วรถยนต์ก็จอดอยู่ห่างจากซอยเล็กๆ ซอยหนึ่ง เมื่อเธอเปิดประตูรถลงไป ก็มีรถเบนซ์เอส500 สีดำคันหนึ่งจอดอยู่หน้าซอย เสี่ยวซือเดินลงไปเพื่อไปสตาร์ทรถคันใหม่ หลังจากออกห่างมาได้สองช่วงถนน เธอก็หยิบรีโมทคอนโทรลสีดำขึ้นมา และกดมันลงไปอย่างไม่ลังเล
‘ตู้ม!’ เสียงระเบิดดังขึ้น รถแฮมเมอร์ที่โชคร้ายได้ถูกระเบิดเป็นผงไปเสียแล้ว
เสี่ยวซือขับรถออกไปบนถนนหลวง พลางมองนาฬิกา ขณะนี้เป็นเวลาตีสามสิบนาที ปฏิบัติการทั้งหมดจบลงกำลังดี
เธอหยิบโทรศัพท์ออกมา เปลี่ยนการ์ดใบใหม่แล้วต่อสายไปถึงหลี่หยาง แต่สายกลับไม่ว่าง ทำให้เสี่ยวซือขมวดคิ้วขึ้นมา ท้ายที่สุดก็เลือกที่จะส่งข้อความไปแจ้งข่าวกับหน่วยปฏิบัติการว่า “เป้าหมายถูกกำจัดแล้ว อพยพทันที โปรดชี้แนะด่วน”
พันเอกหลิวกั๋วหมิงแห่งนาวิกโยธินมองรายงานที่ถูกส่งมาในมือ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบว่า “ปฏิบัติการณ์แมวภูเขาเสร็จสิ้นแล้ว เจ้าหน้าที่กลุ่มที่สองเข้าประจำที่ ปฏิบัติการณ์ฆ่าปิดปาก เริ่มขึ้นได้”
บทนำ ก่อนหนานฉู่
ท่ามกลางความวุ่นวาย เสียงประหลาดนับไม่ถ้วนยังคงดังก้องอยู่ในหูของสายลับ003 ภาพสถานที่เกิดเหตุย้อนกลับเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ ราวกับฉายภาพยนตร์ ถังเสี่ยวซือกำหมัดแน่น พลางใช้นิ้วมืออีกข้างคลำหาปืน Colt 2000 ที่อยู่กับตัวมาหลายปีอย่างยากลำบาก เธอทำอะไรไม่ถูกราวกับร่างกายเต็มไปด้วยสารปรอท ทำให้ไม่มีเรี่ยวแรงใดๆ ความรู้สึกกดดันอย่างหนักทำให้สมองเธอมึนงง เธอกัดริมฝีปากล่างของตัวเองจนกลิ่นเลือดจางๆ ลอยคลุ้งออกมา เป็นการเตือนตัวเองให้มีสติลืมตาขึ้น เพราะชีวิตนี้จะไม่มีโอกาสได้ลืมตาขึ้นมาอีก
“รายงาน รายงาน ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว” มีคนก้าวขึ้นหน้ามาเปิดเปลือกตาของเธอขึ้น นอกจากนี้ยังทดสอบการเต้นของหัวใจและตรวจชีพจรของเธอ ก่อนจะตอบไปยังปลายสายอย่างใจเย็นว่า “เป้าหมายตายแล้ว ขอถอนกำลัง”
“ตายเหรอ?” ทันใดนั้นเสี่ยวซือก็รู้สึกว่ามีเสียงฟ้าผ่าดังขึ้นในร่าง ตายเหรอ ตัวเองเข้าใจชัดเจนว่ายังมีชีวิตอยู่ ยังได้ยินเสียงพวกเขาพูดกัน ทำไมคนคนนี้ถึงบอกว่าเธอตายแล้วล่ะ? หรือว่าทหารนาวิกโยธินจะประสิทธิภาพต่ำมากจริงๆ ถึงได้ไม่รู้ว่า เธอตายหรือยังไม่ตาย
ไม่ได้! จะตายแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวแบบนี้ที่นี่ไม่ได้ ความปรารถนาที่จะมีชีวิตอย่างแรงกล้าของเธอถูกทำลายลงด้วยแรงระเบิดซี4 เธอใช้แรงทั้งหมดสูดลมหายใจเฮือกหนึ่ง ดวงตาเริ่มมืดมัว ในปากก็เต็มไปด้วยเลือดสดๆ ทำให้เสียงของเธอ ฟังดูเหมือนอ่อนแรง “ฉัน...มีพิมพ์เขียว HK48...ของอิหร่าน...ฉัน...มี...”
‘ตู้ม!’ ความมืดที่ไม่มีสิ้นสุดแผ่ขยายออกไปทันที คอของเสี่ยวซือมีอาการเจ็บอยู่ครู่หนึ่ง ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต เธอมองเห็นเพียงว่าตนเองถูกดึงขึ้นมาจากกายหยาบ นาวิกโยธินที่สวมยูนิฟอร์มกำลังเตะร่างเธออย่างรุนแรง
“ถอย!”
เสียงสั้นๆ ครั้งหนึ่งดังขึ้น ก็มีดวงวิญญาณคนตายดวงหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศของเมืองโตเกียว
ท่ามกลางความมืดมิดมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา แล้วนกอินทรีตัวสีดำก็พุ่งตัวลงบนกิ่งก้านของต้นไม้ ร้องออกมาด้วยเสียโหยหวน เข้ากันพอดีกับความรู้สึกเกลียดชังที่ลอยอยู่ในอากาศ ราวบทเพลงแห่งความสิ้นหวัง
ด้านบนมีฟ้า ด้านล่างมีดิน ชีวิตของฉันเพื่อประเทศชาติ แต่สุดท้ายฉันกลับตายอย่างอนาถ!
ฉันตายอย่างอนาถ!
ฉันตายอย่างอนาถ!