Descargar la aplicación

Capítulo 77: ผมรอได้

"ทำไมเซนเอ่อ…"

"เลวจัง…" ผมต่อคำให้เธอเพราะรู้ว่าเธอไม่กล้าพูดมันออกมา "เลวใช่ไหม ผมเลวมากใช่ไหม ไปต่อยคนที่เค้ารักไม่พอ ยังมาเอากับน้องสาวเค้าอีก"

"คือ…" คนข้างๆอ้ำอึ้ง แน่ล่ะสิ คงไม่นึกว่าผมจะเป็นคนเลวแบบนี้ แต่ผมคงปิดบังเธอเรื่องนี้ไม่ได้ ผมคิดจะจริงจังกับคุณลินเลยอยากให้เธอรับรู้ตัวตนที่แท้จริงของผมที่แม้มันจะเป็นอดีตไปแล้วก็ตาม

ตอนนี้เราสองคนนั่งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แดดร่มลมตกแล้ว ลมแผ่วๆจากแม่น้ำพัดโชยมาเป็นระยะๆพอให้ชื่นใจ หลังจากที่ผมบอกคุณลินว่าเราควรจะต้องคุยกันอย่างจริงจัง เธอจึงแนะนำให้เรามาคุยกันที่นี่ ณ ร้านอาหารที่ดัดแปลงมาจากโรงสีเก่าบนเกาะเกร็ดซึ่งไม่ไกลจากคุกบางขวางนัก เราจอดรถไว้ที่ท่าเรือของวัดริมแม่น้ำแล้วพากันนั่งเรือข้ามฟากของร้านมา

ช่วงเวลาบ่ายแก่ๆของวันอาทิตย์อย่างนี้ผู้คนยังบางตา เราเลือกโต๊ะที่เป็นแบบนั่งกับพื้นบนชานไม้ที่ยื่นลงไปในแม่น้ำ การจัดวางโต๊ะเว้นระยะแบบห่างๆกันของทางร้านทำให้สัมผัสได้ถึงความเป็นส่วนตัว ผมนึกชื่นชมคุณลินอยู่ในใจที่รู้จักสถานที่ดีๆแบบนี้ บรรยากาศที่เงียบสงบๆอย่างนี้เหมาะที่ผมจะเล่าเรื่องราวทั้งหลายในอดีตของผมให้คุณลินฟัง เรื่องราวที่ผมและครอบครัวเก็บเป็นความลับไว้ถึงสิบห้าปี

และก็แน่นอนแม้จะจำมันได้ดีแค่ไหน แต่ผมก็ไม่ได้เล่าอย่างหมดเปลือกถึงอารมณ์และความรู้สึกทั้งหมดในคืนนั้น ผมเล่าแค่สั้นๆว่า หลังจากที่ผมเห็นภาพบาดตาบาดใจของฝนกับฝรั่งอเมริกันคนนั้น ผมก็กลับมาเสพยากับเมฆที่บ้านของฝน และเนื่องจากฤทธิ์ยาเสพติดทำให้ผมเผลอไปมีอะไรกับน้องสาวของฝนด้วยความเข้าใจผิด

"ลินจะด่าผมยังไงก็ได้ ผมไม่มีอะไรจะแก้ตัว ยอมรับผิดทุกอย่าง" ผมรู้สึกสลดใจจริงๆเมื่อนึกย้อนไป

"แป๊บนะคะ ขอเวลาตั้งตัวครู่หนึ่ง" เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหันหน้าเหม่อมองไปยังแม่น้ำด้วยสายตาที่จริงจังและสับสน

ผมไม่เคยเห็นสีหน้าและท่าทางที่ยากจะบรรยายถึงความรู้สึกของคุณลินในแบบนี้มาก่อน หลายครั้งที่เธอดูอ่อนไหวและขี้แยก็จริง แต่ทุกครั้งเธอก็จะปรับตัวปรับใจกลับมาเป็นคุณลินที่ร่าเริงได้อย่างรวดเร็ว

แต่ครั้งนี้ดูจะต่างออกไป…

การต้องมารับรู้อดีตที่ไม่งดงามนักของผมคงเป็นเรื่องหนักหนาสำหรับเธอพอสมควร คุณลินเป็นคนละเอียดอ่อน ไม่น่าจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ได้ง่ายๆ

เราเงียบกันไปพักใหญ่ ผมปล่อยให้เธอได้ใช้เวลาครุ่นคิดตามสบาย แล้วคุณลินถึงค่อยๆอ้ำๆอึ้งๆเอ่ยออกมา

"ยังไงดี… คือ..." แล้วก็ถอนหายใจใหญ่เฮือกใหญ่อีกครั้ง "เฮ้อ! ช่างมันเถอะค่ะ เรื่องมันผ่านมาสิบห้าปีแล้ว" ในที่สุดเธอก็ทำหน้าปลงอย่างจริงจัง

ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกบ้าง มองเธอด้วยสายตาขอบคุณ ไม่นึกว่าความกังวลใจที่เก็บไว้มาแสนนานจะจบง่ายๆอย่างนี้ อดีตที่ผมเฝ้าระแวงมาตลอดนับสิบปี อดีตที่ไม่อยากเปิดเผยให้ใครรู้ ความผิดพลาดที่ผมไม่อยากให้อภัยตนเอง

"อารมณ์วัยรุ่นอะเนอะ ก็เละเทะไปเรื่อยเปื่อย" เธอยิ้มแห้งๆปลอบใจผม และก็คงปลอบใจตัวเองด้วยมั้งที่เผอิญมารู้จักกับผู้ชายนิสัยไม่ดีอย่างผม

แต่นี่เป็นอีกข้อที่ผมชอบคุณลิน ความมีวุฒิภาวะของเธอทำให้ผมสบายใจ แม้บางครั้งเธอจะร่าเริงเกินวัยไปมาก แต่เมื่อถึงเวลาอันควรเธอก็สามารถกลับมานิ่งและสามารถเข้าใจกับสถานการณ์ได้ดีทุกครั้ง

การเจอคนที่คุยกันรู้เรื่องแล้วมันสบายใจอย่างนี้นี่เอง ผมรักคนไม่ผิดจริงๆ

"เซนใจร้อนไปนิ้ด ทั้งเรื่องคุณฝรั่ง แล้วก็เอ่อ… เรื่องน้องของคุณฝน" รู้ว่าเธอพยายามจะไม่ทำให้ผมรู้สึกแย่จนเกินไป

"เรื่องคุณฝรั่งนั่นผมไม่ได้ใจร้อนอะ ลินจำที่บาหลีได้ไหม เรื่องคนของขายสร้อยที่มาถือโอกาสจับข้อมือของลินน่ะ ผมเคยบอกลินแล้วว่าผมไม่ชอบเห็นใครมาแตะต้องผู้หญิงที่ผมรัก" ผมทำหน้าตาสุภาพบุรุษจริงจังกลบเกลื่อนความห่ามในอดีตของตัวเอง

"อุ่ย ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะก็มา" เธอล้อยิ้มๆปนหน้าแดง แต่ก็ไม่วายแอบสั่งสอนผมกลับ "อารมณ์ห้าวไม่ยอมให้ใครรังแกน่ะ เอาไว้ใช้ป้องกันตัวค่ะ ไม่ใช่ให้เอาไว้ไปหาเรื่องคนอื่น"

"ก็ตอนนั้นผมมันวัยรุ่นด้อยเดียงสา แต่ตอนนี้โตแล้วครับ ไม่ทำแล้วครับ" ผมหัวเราะฝืดๆ

แล้วเราก็เงียบกันไปอีกครู่ ผมรู้ว่าคุณลินยังมีเรื่องติดค้างในใจอีกหนึ่งเรื่อง

"ส่วนเรื่องน้องสาวของฝน… คือ… ยังไงก็เลวเนอะ" ผมเป็นฝ่ายเอ่ยออกมาก่อน ไม่รู้จะพูดซ้ำอีกทำไมให้ตัวเองรู้สึกแย่ และคุณลินเธอก็คงไม่ได้รู้สึกดีเท่าไหร่

แต่ไม่รู้สิ ผมยังอยากจะระบายความรู้สึกนี้กับใครสักคนที่ผมไว้ใจ มันเป็นความรู้สึกผิดที่เป็นตราบาปอยู่ในใจของผมมาโดยตลอด

"ก้อ… เฮ้อ… เรื่องแบบนี้พูดยากค่ะ" คนข้างๆถอนหายใจยาวหน้าตาสับสน

"ลินคงไม่รู้หรอกว่าผมรู้สึกผิดขนาดไหน แต่ตอนนั้นผมกลับเอาแต่โทษยา โทษฝน พอหลังๆผมมาคิดดู ผมว่ามันไม่ใช่เพราะยาอย่างเดียวหรอก คือ…ลึกๆแล้วผมอาจใช้น้องสาวของฝนเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นฝนมากกว่า" ในที่สุดผมก็เผยตัวตนในตอนนั้นออกมา

คุณลินสบตาผมด้วยแววตาเข้าใจ เงียบไปอีกครู่ แล้วถึงค่อยๆพูดออกมาอย่างช้าๆ

"ในตอนนั้นมันคงเป็นแค่ความคิดชั่ววูบของเด็กวัยรุ่นคนนึงนะคะเซน ลินว่าคนเราอาจจะทำพลาดกันได้ อาจรู้สึกแย่กับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือเราต้องรับผิดชอบกับการกระทำของเรา"

ผมมองคุณลินด้วยความรู้สึกรักมากๆอีกครั้ง เราคิดเหมือนกัน…

เหตุการณ์ในคืนนั้นจบลงตรงที่ผู้หญิงที่เป็นรักแรกของผมกลับมาเจอผมในสภาพที่เมายาเละเทะและกำลังนอนกอดก่ายกับน้องสาวของเธอบนโซฟา อุปกรณ์เสพยาที่วางตกเรี่ยราดอยู่บนพื้นยืนยันสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้เป็นอย่างดีโดยที่ฝนไม่ต้องถามใคร แม้จะตกใจและเสียใจอย่างมากมายกับภาพที่เห็นตรงหน้า แต่ฝนก็ยังมีสติพอที่จะพยายามพาผมซึ่งกำลังมีสติเลอะเลือนออกไปเรียกแท็กซี่เพื่อพาผมไปส่งบ้าน

ฝนรู้จักบ้านของผมดีเพราะผมเคยพยายามจะพาเธอเข้าบ้านอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่ตอนนั้นฝนก็ปฏิเสธในวินาทีสุดท้ายทุกครั้ง แถมยังกำชับไม่ให้ผมแพร่งพรายเรื่องที่คบกับเธอให้ที่บ้านรู้ ทั้งพ่อและคุณมะพร้าวไม่เคยรู้ว่าที่ผมหายออกจากบ้านไปบ่อยๆตอนกลางคืนนั้นผมหายไปไหน

เช้าวันรุ่งขึ้นผมตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกมึนงงและสับสน พยายามทบทวนความทรงจำอันเลือนรางในค่ำคืนนั้นของตัวเอง ก็มองเห็นเป็นภาพของผมนั่งสูบยาอยู่กับเมฆ แล้วก็มีภาพของฝนผสมกับภาพของน้ำที่ครวญครางด้วยความสุขอยู่ใต้ร่างของผมสลับกันเข้ามาเป็นห้วงๆ แล้วท้ายสุดก็ตัดเป็นภาพใบหน้าที่กำลังตกใจอย่างสุดขีดของฝน สลับกับเสียงร้องไห้ของน้ำ ทุกอย่างมันดูพร่ามัวไปหมด ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ากลับมาที่บ้านได้อย่างไร คุณมะพร้าวบอกผมว่ามีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งพาผมมาส่งในตอนเกือบจะเช้ามืด บอกว่าให้ดูแลผมให้ดีเพราะผมเผลอไปเสพยา แล้วเธอก็รีบกลับไป ไม่ได้บอกชื่อไว้

แล้วฝนก็หายออกไปจากชีวิตของผมนับตั้งแต่นั้นมา เธอลาออกจากผับของพ่อไอ้เวฟแล้วพาน้ำออกจากบ้านเช่าหลังนั้นไปอยู่ที่อื่น เรื่องมันก็น่าจะจบลงแค่นั้นที่เราทุกคนต่างแยกย้ายกันไป

แต่มันก็ไม่จบเพราะเมฆพี่ชายของฝนไม่ยอมปล่อยผมไปง่ายๆ เขาไปเฝ้าดักรอผมทุกที่ที่คิดว่าผมมีโอกาสจะโผล่ไป เมฆน่าจะแอบตามดูชีวิตผมมานานแล้วโดยที่ทั้งฝนและผมไม่รู้ตัว และแล้วผมติดกับดักการล่อลวงขายยาของเมฆอย่างง่ายดาย เพียงเพราะมีความหวังว่าเมฆจะเป็นสะพานเชื่อมให้ผมเจอฝนอีกครั้งได้ จากที่เคยตามเมฆไปเสพยาที่บ้านเช่าหลังนั้น ตอนหลังๆผมเริ่มแอบเสพยาในบ้าน

ซึ่งในที่สุดเรื่องนี้ก็ไม่รอดพ้นสายตาของพ่อและคุณมะพร้าว ด้วยความอ่อนแอเกินเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจของผมในตอนนั้นทำให้พ่อตัดสินใจขั้นเด็ดขาดส่งผมไปอยู่กับคุณตาคุณยายที่ญี่ปุ่นในทันทีที่รู้เรื่อง พ่อบอกว่ามันเป็นวิธีเดียวที่จะแยกผมออกจากการก่อกวนของเมฆได้ พ่อต้องการให้ผมได้เริ่มต้นชีวิตใหม่

"มิน่าล่ะ… เซนถึงไปอยู่ญี่ปุ่นยาวเลย คุณราเชนทร์นี่ใจเด็ดจริงๆ" หญิงสาวข้างๆผมพึมพำขึ้นมาหลังจากรับฟังเรื่องราวของผมอย่างมาพักใหญ่

ตอนนี้ฝนเริ่มตกปรอยๆแล้ว เราจึงเขยิบถอยจากริมชานโล่งเข้ามาบริเวณใต้หลังคาของชานระเบียงไม้นั้น เครื่องดื่มเย็นๆถูกยกมาเสิร์ฟแก้วแล้วแก้วเล่า แต่เรื่องราวของผมก็ยังไม่จบลง

เราทั้งสองนั่งมองฟังเสียงฝนกระทบสายน้ำกันอย่างเงียบๆอีกครู่ ผมจึงเอ่ยขึ้นมาเบาๆ

"และผลจากความเลวของผมในคืนนั้น ก็ทำให้เราได้เจ้าเรนมาในวันนี้"

"เรน…" คุณลินพึมพำ ก่อนจะหันมามองผมด้วยแววตาสงสัยอย่างปิดไม่มิด

"วันที่พ่อโทรศัพท์ไปบอกผมที่ญี่ปุ่นว่าลูกผมคลอดแล้ว ตอนนั้นผมมองออกไปที่นอกหน้าต่างแล้วก็เห็นฝนกำลังตกพรำๆ ผมเลยบอกพ่อไปว่าอยากให้ลูกของผมชื่อเรน"

ชื่อนี้ทำให้คุณลินเธอเผลอยิ้มออกมาน้อยๆ "เจ้าสุดหล่อเกิดวันฝนตกนี่เอง"

"แต่ถ้าแม่เค้ายังอยู่ ผมรู้ว่าเค้าคงไม่ชอบชื่อนี้หรอก" ผมนึกไปถึงอดีตอีกเรื่องที่เก็บไว้อย่างลึกสุดใจ

น้องสาวของฝนตั้งท้องตอนผมมาอยู่ญี่ปุ่นแล้ว แต่เรื่องมันคงไม่น่าสลดใจเช่นนี้ถ้าน้ำไม่ได้พบว่าตัวเองตั้งท้องตอนกำลังถูกจำคุก!

หลังเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับผมวันนั้น แม้ฝนจะพยายามพาตัวเองและน้องสาวหนีไปอยู่ที่อื่น แต่ถึงอย่างนั้นน้ำก็ยังไม่สามารถรอดพ้นเงื้อมมือของพี่ชายแท้ๆได้ น้ำถูกตำรวจจับขณะที่ถูกเมฆหลอกให้ไปส่งยาเสพติดให้ ในขณะที่เมฆหลบหนีไปได้ น้ำถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลาห้าปี

ฝนเป็นคนนำเรื่องน้ำตั้งท้องมาบอกกับพ่อของผม เธอตัดสินใจแล้วว่าอยากให้ครอบครัวของเราเป็นผู้เลี้ยงดูเด็กที่กำลังจะเกิดมา เพราะตัวเธอเองก็กำลังประสบกับความยากลำบากจากการพยายามหนีจากการตามรังควานของพี่ชาย

หลังจากรู้เรื่องน้ำตั้งท้อง พ่อบินมาถึงญี่ปุ่นเพื่อมาคุยเรื่องนี้กับผมด้วยตนเอง และสั่งห้ามผมกลับไทยอย่างเด็ดขาดตามที่ฝนขอร้องเอาไว้ และพ่อเองก็เห็นด้วยกับเธอ ฝนบอกว่าพี่ชายของเธอไม่ใช่คนปกติ เมฆคบกับพวกมีอิทธิพลมากมาย เขาไม่ปล่อยพวกเราไปง่ายๆแน่ๆ พ่อรับปากกับผมอย่างมั่นเหมาะว่าจะจัดการเรื่องของน้ำให้ จะหมั่นไปเยี่ยมและดูแลน้องสาวของฝนแทนผม ขอแค่ให้ผมตั้งใจเรียนและใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่นให้ดีที่สุด

โชคร้ายที่คนเป็นแม่อย่างน้ำไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าลูกชายที่เพิ่งจะเกิด อาจเนื่องด้วยสภาวะจิตใจที่ไม่ปกติเพราะต้องติดคุกบวกกับสภาพร่างกายที่อ่อนแออย่างหนักทำให้น้ำเสียชีวิตขณะคลอดเจ้าเรน พ่อและคุณมะพร้าวจึงรับตัวเจ้าเรนออกจากโรงพยาบาลมาอยู่ที่บ้านของเราในทันที

"โถ เจ้าเรน…" น้ำเสียงของคนข้างๆผมนั้นไม่เพียงแต่เวทนาเจ้าเรนอย่างสุดซึ้ง ตาโตๆคู่นั้นก็มีน้ำตาคลอแสดงถึงความในใจอย่างไม่ต้องมีคำบรรยาย "มิน่า… ทุกคนถึงเก็บเรื่องนี้เป็นความลับมาเป็นสิบปี"

"ผมไม่รู้จะเล่าเรื่องนี้ให้ลูกฟังยังไง เลยอยากรอให้ถึงเวลาที่เรนจะโตพอก่อน"

"…"

เราทั้งคู่นั่งเงียบกันไปอีกครู่หนึ่ง ก่อนที่คุณลินจะถอนหายใจยาวแล้วเอ่ยถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

"แล้วตอนเจ้าเรนรู้เรื่อง เจ้าเรนว่ายังไงบ้างคะ ไม่อยากจะนึกถึงภาพนั้นเลย โถ เด็กขนาดนี้คงทำใจได้ยากมากๆ"

ผมมองตากลมโตนั้นอย่างเอ็นดู คุณลินเธอรู้จักลูกชายผมน้อยไป เหมือนกับที่ผมก็รู้จักลูกชายของตัวเองน้อยไป!

หลังจากที่เจ้าเรนเป็นฝ่ายเอ่ยถามเรื่องนี้ขึ้นมาในวันนั้นตอนที่เราอยู่ที่ห้องออกแบบของบริษัทกัน ผมจึงนำเรื่องนี้กลับไปปรึกษาพ่อ และพ่อผมก็เห็นด้วยที่ผมควรจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ลูกชายฟังอย่างตรงไปตรงมา

ผมกับเจ้าเรนจึงตกลงใจนั่งสูบบุหรี่คุยกันเบาๆที่บ่อปลาในคืนถัดมา ลูกเข้มแข็งกว่าที่ผมคิดไว้เยอะ เจ้าเด็กน้อยนั่งฟังเรื่องราวในอดีตของพ่อตัวเองอย่างเงียบๆตั้งแต่ต้นจนจบ สูบบุหรี่จนหมดมวน แล้วถึงได้พูดขึ้นมาขณะจ้องหน้าผมว่า

'พ่ออย่าคิดมากนะ เรื่องมันผ่านไปนานแล้ว'

"โห เท่อ่า คิดถึงความรู้สึกของพ่อมากกว่าความรู้สึกของตัวเอง" เสียงใสข้างๆดังขึ้น

ผมยิ้มเมื่อเห็นตากลมๆคู่นั้นเบิกกว้างอย่างโล่งใจ คุณคนนี้เค้าเป็นแฟนคลับของลูกชายผม คุณลินสามารถพูดชื่นชมเจ้าเรนได้ตลอดเวลา

"เจ้าเด็กนั่นแกร่งกว่าที่ผมคิด ต้องขอบคุณคุณปู่กับคุณมะพร้าวจริงๆที่เลี้ยงเค้ามาได้ดีขนาดนี้ ถ้าเป็นผมเลี้ยงเองไม่น่าจะรอด" ผมเสหัวเราะ ถึงไม่ต้องบอกตรงๆ คุณลินก็คงรู้ว่าผมภูมิใจในตัวลูกชายขนาดไหน

"ขอบคุณนะคะที่เซนเล่าเรื่องนี้ให้ลินฟัง ขอบคุณที่เซนให้เกียรติลิน" คนตาโตเอื้อมมือมาบีบมือของผมเบาๆ

"ผมรู้ว่าลินอาจทำใจยอมรับผมในเรื่องนี้ยาก ผมเข้าใจดี แต่ผมก็ต้องซื่อสัตย์กับตัวเองและกับลิน"

คำพูดของผมคงน่าประทับใจพอควร คุณลินเขาถึงกับยิ้มหวาน

"เซนอย่าคิดมากค่ะ จริงของเจ้าเรนนะคะ เรื่องมันผ่านไปนานแล้ว เซนและครอบครัวก็ได้รับผิดชอบอย่างดีที่สุดแล้ว"

"แม้เจ้าเรนจะไม่ได้เกิดมาจากความรักในตอนแรก แต่การเกิดมาของเจ้าเรนก็ทำให้เกิดความรักขึ้นอีกครั้งในครอบครัวของเรา เจ้าเรนคือของขวัญที่พิเศษสุดที่ทำให้ผมหันกลับมาเข้าใจพ่อและรักพ่อของตัวเองมากขึ้น"

ผมพูดประโยคเดียวกันนี้กับลูกในคืนนั้น ผลก็คือเจ้าวัยรุ่นนั่นโผเข้ากอดผมแน่น น้ำตาที่ซึมออกมาจากตาคู่สวยของลูกชายนั้นทำให้ผมตระหนักได้ว่า ความรักในครอบครัวจะช่วยเยียวยาทุกสิ่งจริงๆ

"ซึ้งอ่า…" และก็แน่นอน คนขี้ซึ้งตรงหน้าผมคนนี้ก็คงจะไม่พลาดการเข้าร่วมซึ้งด้วยอย่างแน่นอน ตาโตๆตรงหน้าช่างฉายความอ่อนโยนยิ่งนัก น่ารักจังเลย… อยากดึงตัวเข้ามาจุ๊บจังเลย…

แต่แล้วจู่ๆตาโตใสซื่อนั่นก็เปลี่ยนเป็นตาเจ้าเล่ห์ และยิ้มอ่อนมุมปากนั่นก็ทำให้ผมหนาวๆร้อนๆชอบกล

"แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ ชื่อเรนนี่ได้แรงบันดาลใจมาจากตอนฝนตกจริงๆหรือคะ หรือว่า… มาจากรักแรกที่ยังจำฝังใจไม่ลืมกันแน่"

"อ่อ… เอ้อ…" ผมเริ่มตะกุกตะกัก มองจากดาวอังคารก็รู้คำตอบ

นี่คุณป้าเขาตั้งใจเปลี่ยนจากโหมดซึ้งเป็นโหมดหึงแล้วใช่ไหม ผมงี้ตั้งตัวไม่ทันเลย

"เซนยังรักคุณฝนอยู่ใช่ไหมคะ"

โอ้โห! นี่ตรงเข้าประเด็นใหม่โดยไม่คิดจะอ้อมค้อมกันเลยนะครับคุณป้า แต่ชอบครับชอบ เคลียร์ๆกันไปรวดเดียวเลย ให้มันจบที่รุ่นเรา

"ช่างมโนจริงนะเราเนี่ย ใครบอกลินว่าผมยังรักฝนอยู่ ผมไม่ได้รักเค้าแล้ว" ผมถือโอกาสเอื้อมมือไปจับปอยผมที่ปรกหน้าลงมาบนหน้าผากเธอไปบรรจงทัดหูอย่างเบาๆ

นั่นคือความสัตย์จริง รักครั้งแรกก็คือรักครั้งแรก ตัวผมในวันนี้ไม่ใช่ตัวผมในวันนั้นอีกต่อไป

และอีกอย่างที่ผมไม่ได้พูดออกไปก็คือ เรื่องของฝนกับผมไม่มีวันเป็นไปได้ ฝนรักน้องสาวของเธอมาก แล้วผมก็ไปทำอย่างนั้นกับน้ำ ฝนเธอไม่มีวันจะรักผมได้อีกอย่างแน่นอน

"ไม่รักแล้วที่ผ่านมาไปตามจีบเขาอีกทำไมคะ"

เฮ้ย! บ้าบอ คุณป้าไปเอามาจากไหนเนี่ย!

รู้สึกอยากโอบร่างผอมๆของคนตรงหน้าเข้ามากอดปลอบใจให้หายจากอาการมโนเหลือเกิน หันไปมองรอบๆ แม้ลูกค้าของร้านจะยังคงบางตาเนื่องจากฝนตก แต่เอาเถอะนี่มันที่สาธารณะ คงต้องงดการแสดงความรักใคร่กันอย่างออกนอกหน้าเอาไว้ก่อน

หันกลับมาจ้องหน้าคนข้างๆต่อ อาการซึ้งเรื่องเจ้าเรนหายไปแล้ว ตอนนี้ตาโตๆนั่นกำลังฉายแววหาเรื่องผมเต็มที่

แหม่ ผมไม่เคยคิดจะจีบฝนรอบสองหรอก ก็ผมยังมีคุณลินอยู่ในใจ ผมจะไปจีบคนอื่นได้ยังไง

"คือผมรู้สึกผิดกับฝนมาตลอด รู้สึกผิดจนไม่รู้จะรู้สึกยังไง สิ่งที่ทำทดแทนได้ก็คือตั้งใจมอบความรักให้กับเด็กคนนี้ แล้วก็ตั้งใจไว้ว่าหากมีโอกาสได้เจอฝนอีกครั้ง ผมจะพยายามทำดีกับเธอให้มากที่สุด จะดูแลเธอให้ดีเพื่อชดเชยกับความผิดในตอนนั้น"

"อ่อ มิน่าล่ะ ที่เซนหายหน้าไปนี่ก็เพราะหายไปทำดีลบล้างความผิดมานี่เอง" คนตาโตพยักหน้าหงึกหงักแบบเข้าอกเข้าใจ แววตาน้อยใจนั่นก็เปลี่ยนเป็นแววตาล้อเลียนเป็นประกายวิบวับแทน

เอ่อ คุณป้าปรับโหมดได้รวดเร็วมากครับ คุณป้าเป็นคนเข้าใจอะไรง่ายจัง

"แล้วเราล่ะ ที่ผ่านมาหายไปอยู่ไหนมาเอ่ย" ผมทำแววตาล้อเลียนวิบวับกลับบ้าง ผมรู้ทุกอย่างนะครับคุณป้า

"เอ่อ..." คราวนี้ตาโตๆนั้นหลุบลงมองพื้น สีหน้าดูขัดเขินอยู่ชั่วอึดใจก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มกว้าง แล้วเธอก็ยื่นหน้าเข้ามาหาผม คราวนี้ตาโตนั่นฉายแววจริงจังมาก

"ไปตามหารักแท้มาค่ะ"

"แล้วเจอไหมครับ" ผมทำหน้านิ่งจ้องตาเธอตอบกลับไป

"ไม่เจอค่ะ ก็เลยกลับมา"

อือม์ คุณป้าตรงๆดีครับ ชอบครับชอบ

"ที่สวนองุ่นงานหนักอะดิ" ผมอมยิ้ม

"เค้าเรียกไร่ไวน์ค่ะ เก๋ๆค่ะไร่ไวน์"

"ผมนึกอยู่แล้วว่าลุงคนงานสวนองุ่นแกไม่น่่ารักเท่าผมหรอก" ผมยังคงอมยิ้มอยู่

"ก็จริงค่ะ" คนตาโตยอมรับโดยง่ายดาย แล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ "เซนน่ารักชนะขาดลอย"

"นั่นไง รู้อยู่แล้วก็ยังไปเสี่ยงอีก ไม่คิดเหรอว่าถ้าผมรู้แล้วผมจะโกรธแค่ไหน นี่ซีเรียสนะ" ผมเปลี่ยนมาแกล้งทำเสียงดุ ทำหน้าจริงจัง

"นี่ก็ซีเรียสค่ะ ลินอยากจะชัดเจนกับตัวเองให้มากๆว่าใจของเราอยู่กับใครกันแน่ มันสำคัญกับเรื่องความสัมพันธ์มากๆ" หน้าตานั่นซีเรียสตามที่บอกจริงๆ

"แล้วไม่กลัวเหรอว่าถ้าลินกลับมาผมก็อาจจะไม่รอแล้ว" ผมยังแกล้งทำหน้าจริงจังอยู่

"กลัวสิคะ แต่ยังไงก็ต้องเคลียร์ใจตัวเองให้ได้ก่อนค่ะ แล้วถ้าเซนจะไม่รอ ก็ไม่ใช่ความผิดของเซน"

"อือม์…" ผมแกล้งทำสีหน้าครุ่นคิด

"แล้วก็มีรายละเอียดอีกอย่างที่เซนอาจจะไม่อยากรู้ หรืออาจจะไม่เชื่อ แต่ลินอยากจะบอก"

"เรื่อง?"

"ลินอยู่คนละบ้านกับก้องนะคะ และก็ไม่เคยมีโมเม้นต์จีบกันด้วย วันๆได้แต่กวาดขี้ม้า ถอนหญ้าที่แปลงผัก แล้วก็รีดนมวัว"

"ฮ่า ฮ่า" ผมอดหัวเราะเสียงดังไม่ได้ นึกภาพคุณลินรีดนมวัวไม่ออกเลยจริงๆ แล้วนี่เคล็ดขัดยอกไปมากแค่ไหนเนี่ย อายุป่านนี้แล้วคิดยังไงจะไปทำไร่ทำสวน กะจะมีไวน์ฟรีกินไปตลอดชีวิตอะดิ

"ผมไม่รู้หรอกว่าเรื่องจริงๆมันเป็นยังไง เพราะผมไม่เห็นกับตา แต่เอาเป็นว่าผมเชื่อตามที่ลินบอก"

ตาโตๆคู่นั้นเบิกโตขึ้นไปอีกขณะจ้องมองผมอย่างประหลาดใจ

"จริงอะ เซนเป็นผู้ชายที่โคตรหัวสมัยใหม่เลย" สีหน้าคุณป้าดูดีใจสุดขีด นี่คงไม่คิดว่าจะพ้นผิดได้ง่ายๆอย่างนี้อะดิ

"แต่… นี่ไม่คิดจะหึงกันบ้างเลยเหรอคะ" แล้วสีหน้านั่นก็เปลี่ยนเป็นน้อยใจ

อะไรของเค้าวะครับนี่ สรุปป้าต้องการอะไรจากผมครับ

"หึงไปเรียบร้อยแล้วครับ โกรธมากด้วยครับ ช่วงนั้นก็เลยเลิกติดต่อลินไงครับ"

ผมโกรธจริงๆนะตอนนั้น โกรธมาก เจ็บในใจมากด้วย ถึงผมจะรู้ๆอยู่ว่าคุณลินเธอเป็นฝ่ายอยากกลับไปหาลุงก้องนั่นในตอนแรก แต่ก็นึกไปเองว่าเธอน่าจะเปลี่ยนใจแล้วหลังจากเรามีความสัมพันธ์กัน

"ก็ตอนนั้นเซนหายหน้าไปเหมือนกัน ใครจะไปรู้ล่ะคะ ก็นึกว่าตามจีบคุณฝนอยู่" น้ำเสียงงอนนิดๆเริ่มมาละ คิดจะพลิกเกมล่ะสิท่า ผมไม่ยอมหรอกครับคุณป้า

"แล้วไม่คิดจะถามกันหน่อยเหรอครับ ทุกทีเห็นชอบพูดชอบถามอะไรตรงๆ แต่ตอนนั้นทำไมมโนไปเอง แหม่ ทำตัวเป็นนางเอกในนิยายไปได้" ผมทำน้ำเสียงตำหนิกลับไป "แล้วผมก็ไม่ใช่พระเอกนิยายที่จะมาคอยคลั่งรักนางเอกนะครับ ผมมีบริษัทต้องรับผิดชอบ มีลูกวัยรุ่นต้องเลี้ยงดู ตอนนั้นผมกำลังกังวลเรื่องเจ้าเรน เพราะฝนเขากลับมาแล้ว ผมสับสนจะว่าเล่าเรื่องแม่ให้ลูกฟังยังไงดี"

"เอ่อ… ก็จริง" ยอมรับง่ายๆอีกแล้ว "แล้วตอนนี้อะคะ เลิกหึงแล้วหรือคะ"

"ก็ลินกลับมาแล้ว ก็เลิกหึงแล้ว ผมไม่ค่อยมีเวลาว่างจะมานั่งหึงใครนานๆ" ผมคิดอย่างนั้นจริงๆ หลังๆมานี่เวลาของผมมีค่ามากขึ้นเรื่อยๆ บริษัทของผมกำลังขยายใหญ่โต เรื่องงานสำคัญมากสำหรับผม

"แล้วยังโกรธลินอยู่หรือเปล่าคะ"

"ก็ถ้ายังโกรธอยู่ ก็คงไม่ไปหาลินที่ร้านที่ร้านดอกไม้หรอกครับ"

ผมได้เรียนรู้แล้วว่า ถ้าเรารักใครจริงๆ เราจะยอมรับสิ่งที่เค้าทำไม่ถูกใจเราได้

"เซนโคตรน่ารักเลยอะ" มือผอมๆคู่นั้นกอดแขนข้างนึงของผมไว้อย่างประจบประแจง ตาโตๆคู่นั้นมีน้ำตาคลอขึ้นมาอีกแล้ว คุณป้าเธอนี่ซึ้งง่ายจริงๆ

"ซึ้งอะดิ เจอผู้ชายดีๆแบบผม" อดที่จะเอื้อมมือเขี่ยจมูกมนๆเนียนๆนั้นเล่นไม่ได้

"จริงค่ะ นี่ว่าก้องเป็นคนดีแล้ว แต่เหมือนเซนจะเป็นคนดีกว่าอีก" น้ำเสียงนั่นช่างประจบประแจง

แต่อ่าว แล้วจะพูดถึงลุงนั่นอีกทำไมวะเนี่ย ไหนว่าจบกันไปแล้ว

"ยังไงผมก็เป็นคนดีเทียบกับลุงสวนองุ่นเค้าไม่ได้หรอกครับ เค้ารักสัตว์ รักธรรมชาติปานนั้น" ผมอดไม่ได้ที่จะทำน้ำเสียงสะบัด ทำไมต้องเอาผมไปเปรียบเทียบกับลุงนั่นวะ

"อุ่ย อย่าเพิ่งงอนน้า" น้ำเสียงนั่นอ้อนอ่อนเป็นที่สุด "ลินแค่เผลอดีใจอะค่ะ ไม่นึกว่าในวัยขนาดนี้จะยังมีผู้ชายดีๆพากันมาสนใจ"

คำสารภาพตรงๆเรื่องวัยนั่นทำเอาผมงอนไม่ลงเลยจริงๆ ไม่รู้ว่าเป็นแผนถ่อมตัวของคุณป้าให้ดูน่าเอ็นดู หรือคุณป้าเธอคิดยังงั้นจริงๆ

"เซนงอนลินไม่ได้แล้วน้า เพราะเดี๋ยวลินก็จะไม่มีเวลามาง้อเซนแล้วน้า"

คำพูดนั่นทำเอาผมใจหายวาบ จริงสินะ เธอจะไม่อยู่แล้ว…

"ลินจะไปจริงๆหรือครับ" คราวนี้เป็นผมที่กำลังทำเสียงทอดอ่อนบ้าง

"ก้อ…" แววตานั่นฉายแววใจหายเช่นกัน ตอนคุณลินเธอตัดสินใจเธอคิดถึงผมบ้างไหมนะ

"ลิสาเล่าให้ผมฟังแล้วว่าลินกำลังคิดจะไปเรียนต่อ"

หลานสาวของคุณลินมาหาผมที่บ้านเพื่อที่จะบอกเรื่องนี้กับผมด้วยตัวเอง เธอมาหลังจากที่ผมคุยกับเจ้าเรนที่บ่อปลาในคืนนั้น ผมกับลูกชายไม่ได้คุยกันเฉพาะเรื่องของแม่เจ้าเรน เราเปิดใจคุยกันหลายเรื่อง เรื่องความสัมพันธ์ของผมคุณลินและฝนก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่ลูกชายของผมยังค้างคาใจ และหลังจากนั้นเจ้าเรนก็คงไปคุยกับลิสา เจ้าเด็กวัยรุ่นสองคนนี่คงอยากให้เราเป็นครอบครัวเดียวกัน

"ก็ยังไม่ได้ให้คำตอบกับทางมหาลัยนะคะ ลินก็ยังกำลังคิดๆดูอยู่ คือจะริเรียนในวัยรักก็ไม่น่าจะง่าย"

น้ำเสียงที่ยังลังเลของคุณลินทำให้เกิดประกายแห่งความหวังวูบขึ้นมาในใจผม

นี่ผมจะยับยั้งเธอไว้ดีหรือเปล่า คุณลินยังไม่ได้ตัดสินใจแน่นอน ถ้าผมรักเธอ ผมก็ควรจะรั้งเธอไว้สินะ

ไม่ เธอกำลังจะมีทางเลือกที่ดี มีอนาคตในเรื่องหน้าที่การงาน ผมจะรั้งเธอไว้ได้ยังไงกัน อย่าเห็นแก่ตัวสิโว้ย แค่สามปีเอง ทำไมผมจะรอคุณลินไม่ได้

"ผมรอได้" ในที่สุดผมก็ตัดสินใจโพล่งขึ้นมา "แค่สามปีผมรอลินได้ครับ"

"เซน…" เธอพึมพำ มองผมด้วยสายตาอบอุ่น

"ผมไม่รู้ว่าท้ายสุดลินจะตัดสินใจยังไง ซึ่งผมก็ต้องเคารพการตัดสินใจของลิน แต่ไม่ว่าลินจะเลือกทางไหน ผมก็พร้อมทุกทาง ลินจะไปเรียนต่อ ผมก็รอได้ หรือจะไม่ไปเรียนแล้วเรามาคบกันจริงจัง ผมก็พร้อม ลินอาจจะอยากมีลูกเลยตอนนี้ เราก็ควรมาหาหนทางกัน" ผมพูดความในใจทั้งหมดออกมารวดเดียวพร้อมกับทำสายตากรุ้มกริ่มในประโยคสุดท้าย ก็เห็นคนตาโตเค้าหน้าแดงขึ้นมานิดๆ

"หรือเราจะรีบมีลูกกันก่อน แล้วลินก็ไปเรียนต่อก็ได้ มีลูกแฝดเลยก็ดีนะครับ หญิงคนชายคน" ผมเสนอแนะไปอีกหนึ่งทางเลือก

คราวนี้คนหน้าแดงนิดๆก็กลายเป็นคนหน้าแดงก่ำ

และหลังจากหน้าแดงไปพักใหญ่ คุณลินเธอก็เริ่มตั้งตัวได้

"แล้วจะทิ้งลูกไว้ให้เซนเลี้ยงหรือคะ ไม่เอาอะ เซนทำแต่งาน จะเอาเวลาที่ไหนมาเลี้ยงลูกคะ"

"ก็ให้พ่อกับคุณมะพร้าวเลี้ยงไงครับ ผลงานที่ผ่านมาของพวกเค้าลินก็เห็นอยู่" ผมพยายามโอ้อวดความสามารถของครอบครัวผมเพื่อจูงใจคนหน้าแดงตรงหน้า

"อือม์ จริงด้วย ถ้าปล่อยลูกของเราให้คุณปู่กับคุณมะพร้าวเลี้ยง ลูกเราก็จะน่ารักและอัจฉริยะเหมือนเจ้าเรน" และคุณลินเธอก็คล้อยตาม

"นั่นล่ะครับประเด็น เจ้าเรนมันก็อยู่ มันก็ต้องมีหน้าที่เลี้ยงน้องบ้างไรบ้าง"

คราวนี้คุณลินเธอหัวเราะกว้าง "ฮ่า ฮ่า จริงค่ะ ให้ครอบครัวนั้นเค้าเลี้ยงกันไป เพราะถ้าเราสองคนเลี้ยงกันเอง ลูกเราอาจเป็นเด็กไม่น่ารักนะคะ"

"ครับ คิดดูให้ดีๆน้า" ผมส่งสายตาเชื่อมบวกประกายวิบวับอย่างที่สุดออกไป

"ขอบคุณค่ะสำหรับข้อเสนอ ลินจะขอนำกลับไปพิจารณานะคะ"

ผมและคุณลินยิ้มให้กันก่อนที่จะได้ยินเสียงฟ้าร้องคำรามดังก้องตามมา เราทั้งสองต่างสะดุ้งตกใจหันหน้าไปมองสายฝนที่ตกหนักขึ้นพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย

คุณลินเธอเอนตัวมาพิงไหล่ผมด้วยท่าทีสบายๆ แล้วผมก็ได้ยินเสียงเพลงเบาๆจากริมฝีปากอิ่มนั่น

"แค่อยากจะรู้ว่าตรงที่เธอยืนนั้น… มีฝนตกไหม สบายดีไหม เธอกลัวฟ้าร้องหรือเปล่า… ถ้าตรงนั้นไม่มีใคร ชั้นพร้อม ชั้นพร้อมจะไป…"

สายฝนไม่เพียงแต่นำความรักครั้งแรกมาให้ผม แต่สายฝนยังนำพาเจ้าลูกชายตัวแสบมาเป็นความหมายของชีวิตให้ด้วย และที่สำคัญ… เพลงของสายฝนยังทำให้ผมตกหลุมรักผู้หญิงคนข้างๆนี้อีกต่างหาก

ผมไม่รู้ว่าคุณลินกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ที่แน่ๆผมจะรอคุณลินเหมือนกับที่เจ้าเรนและพ่อรอผม คุณปู่กับคุณหลานเขาอดทนรอให้ผมกลับมาหาพวกเขาด้วยใจเต็มร้อย รอให้ผมแกร่ง รอให้ผมเข้มแข็งพอและกลับมาอย่างไม่ลังเลใจ

ซึ่งผมก็อยากรอให้คุณลินพร้อมเต็มร้อยในความสัมพันธ์ของเราเช่นกัน พ่อผมกับลูกชายผมรอผมมาสิบกว่าปี พวกเขายังรอได้ แล้วนี่แค่สามปี ทำไมผมจะรอคุณลินไม่ได้

กับบางสิ่งบางอย่าง มันก็คุ้มค่าที่จะรอ…


next chapter
Load failed, please RETRY

Estado de energía semanal

Rank -- Ranking de Poder
Stone -- Piedra de Poder

Desbloqueo caps por lotes

Tabla de contenidos

Opciones de visualización

Fondo

Fuente

Tamaño

Gestión de comentarios de capítulos

Escribe una reseña Estado de lectura: C77
No se puede publicar. Por favor, inténtelo de nuevo
  • Calidad de escritura
  • Estabilidad de las actualizaciones
  • Desarrollo de la Historia
  • Diseño de Personajes
  • Antecedentes del mundo

La puntuación total 0.0

¡Reseña publicada con éxito! Leer más reseñas
Votar con Piedra de Poder
Rank NO.-- Clasificación PS
Stone -- Piedra de Poder
Denunciar contenido inapropiado
sugerencia de error

Reportar abuso

Comentarios de párrafo

Iniciar sesión