Descargar la aplicación

Capítulo 29: การรอคอย

สี่โมงเย็น…

ฉันเริ่มร้อนใจที่ยังไม่เห็นการปรากฏตัวของคนที่พวกเรากำลังรอคอย ถึงกับต้องแอบมาโทรสายตรงถึงคนคนนั้นเลยทีเดียว

"คุณเซนอยู่ไหนคะเนี่ย"

"ออกมาจากโรงงานแล้วครับ อีกชั่วโมงนึงคงถึงครับ"

ฉันได้ยินแต่เสียงเรียบๆของเขาตอบกลับมา แต่ไม่รู้ทำไม เหมือนว่าในโทนเสียงนั้นเขากำลังดีใจที่ได้ยินเสียงฉัน เอ นี่ฉันรู้สึกไปเองหรือเปล่า หลอนเข้าข้างตัวเองหรือเปล่าวะเรา หรือเพราะฉันเองนั่นล่ะที่ดีใจที่ได้ยินเสียงเขา ก็ตั้งแต่คืนวันเสาร์เรายังไม่ได้คุยกันเลย

เฮ้อ สงสัยว่าวันนี้ทั้งวันฉันจะคิดถึงคนท้ายทอยขาวคนนี้มากไป

งั้นรีบตัดบทดีกว่า

"โอเคค่ะ งั้นเดี๋ยวเจอกันนะคะ"

วันนี้ฉันแทบไม่มีสมาธิในการทำงานเลย ต้องเลิกหลอนเรื่องคุณเซน และต้องเลิกกังวลเรื่องปฏิบัติการสำคัญในวันนี้เสียที

ยังไงๆเราก็ยังมีเวลา ฉันต้องทำใจเย็นๆ

"เดี๋ยวครับคุณลิน" แต่เสียงที่เรียกไว้นั้นทำฉันแปลกใจ แหม เดี๋ยวก็เจอกันแล้ว ค่อยคุยกันก็ได้นี่นา

"คะ"

"คุณลิน เอ่อ ร่างกายยังโอเคไหมครับ" น้ำเสียงนั้นดูประหม่า และออกเก้อเขินที่จะถาม

"คะ? ร่างกาย?" เค้าหมายถึงอะไรของเค้า

"คือ เอ่อ หลังจากเอ่อ เหตุการณ์ที่ผับน่ะครับ คุณลินมีอาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัวมากไหมครับ เห็นคืนนั้นคุณลินออกสเต็ปแบบไม่ยั้งเลยน่ะครับ ตามข้อเข่าน่าจะเคล็ดขัดยอกอยู่บ้าง" คราวนี้น้ำเสียงดูยั่วเย้า

"คุณเซน! นี่คือเป็นห่วงหรือเยาะเย้ยคะ"

ประโยคแรกเหมือนจะเป็นห่วง แต่ประโยคถัดมานี่ โอ้ย น่าเบื่อมาก!

"งั้นวางหูนะคะ เดี๋ยวค่อยคุยกัน"

ฮึ กล้ามขาวก็กล้ามขาวเหอะ ถ้าชอบมาบูลลี่กันเรื่องความสูงวัยอย่างนี้ก็ต้องมีงอนกันบ้าง

คุณเซนจะมาทันหรือไม่ทันปฏิบัติการสำคัญของวันนี้ฉันก็ไม่สนแล้ว

งอน!

สี่โมงครึ่ง…

รอไม่ไหวแล้ว โทรอีกทีดีกว่า

"คุณเซนถึงไหนแล้วคะเนี่ย" ฉันรีบถามไปเมื่อเขากดรับสาย ทำไมครั้งนี้กว่าจะรับสายนานมาก สงสัยคุณเซนคงจะเผลองีบหลับมาในรถ

"ติดไฟแดงอยู่แยกบางนาครับ" เสียงนิ่งๆนั่นตอบกลับมาท่ามกลางเสียงรบกวนรอบข้าง

"ตายแล้ว จะทันมั้ยคะเนี่ย อยู่ตั้งแยกบางนาแน่ะ" ฉันโวยวายกลับไปด้วยความลืมตัว

"ทันครับ ทันแน่นอน" แต่แล้วคำรับปากอย่างเป็นมั่นเหมาะนั้นก็ทำเอาใจฉันชื้นขึ้น

ฉันเชื่อมั่นในตัวคนหัวตั้งคนนี้ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร แม้คุณเซนจะหยอกล้อฉันบ่อย แต่ฉันก็แยกออก ว่าอันไหนเค้าพูดจริง อันไหนเค้าแค่ล้อเล่น และทุกครั้งที่เค้าพูดจริง เค้าก็ทำจริง

"แค่นี้ก่อนนะครับ คุยไม่ค่อยสะดวก"

"โอเค งั้นเดี๋ยวเจอกันค่ะ"

หลังจากวางหูไป ฉันก็เพิ่งนึกขึ้นมาได้ ทำไมเค้าถึงคุยไม่สะดวก แล้วทำไมเสียงรบกวนรอบข้างมันดังมาก นี่คุณเซนเปิดกระจกรถรึ แอร์รถเสียหรือเปล่านี่ แต่ปกติพี่สมานเค้าก็ดูแลรถดีนี่นา เอ หรือเป็นเพราะคุณเซนไม่ค่อยจะได้ใช้รถบริษัท พี่สมานจึงละเลยเรื่องตรวจเช็ครถ ปกติถ้าเค้ามาทำงานที่ออฟฟิศก็มาด้วยจักรยาน ไม่เคยต้องให้พี่สมานไปรับส่งที่บ้าน คุณเซนจะใช้รถบริษัทก็ต่อเมื่อต้องไปโรงงานหรือไปพบลูกค้า

อือม์ แต่ช่างเถอะ คุณเซนบอกว่ามาทันแน่นอน ฉันก็ควรคีพคูลและเชื่อใจเขา

สี่โมงสี่สิบห้า…

โอ้ย คุณเซนอยู่ไหนเนี่ย โทรไปก็ไม่รับ อีตาบ้า ไหนบอกว่าจะมาถึงทันแน่ๆ

วุ้ย โมโหแล้วนะ คนอะไรสัญญาแล้วไม่เป็นสัญญา รับปากแล้วก็ทำไม่ได้

งอน งอน งอน!

ตอนห้าโมงเย็น…

"พี่เพ็ญ อย่าเพิ่งกลับค่า"

ฉันตะโกนข้ามโต๊ะออกไปเมื่อเห็นพี่เพ็ญฝ่ายจัดซื้อของเราเก็บข้าวของบนโต๊ะเสร็จแล้ว และกำลังเดินไปที่ทางเดินกลางห้องเพื่อตรงไปยังประตูทางออก เสียงตะโกนของฉันทำเอาทุกคนในออฟฟิศหันหน้ามามองพี่เพ็ญเป็นตาเดียวกัน หลายคนกรูเข้าไปขวางทางพี่เพ็ญไว้ไม่ให้เดินต่อ

พี่เพ็ญจะกลับบ้านก่อนไม่ได้ พี่เค้าต้องอยู่ร่วมปฏิบัติการพิเศษของเราในวันนี้ ฉันได้รับสัญญาณด่วนจากสุกรีมาแล้วว่าปฏิบัติการกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้

และแล้วในที่สุดคนที่พวกเรารอคอยก็ปรากฏกายขึ้นที่ประตูทางเข้าออฟฟิศ

ท่านประธานบริษัทยืนอยู่ที่นั่นพร้อมกับเค้กก้อนใหญ่มากในมือ ตัวเค้กตกแต่งอย่างสวยงามด้วยครีมสีชมพู มีดอกกุหลาบน้ำตาลเทียมสีแดงประดับโดยรอบ และมีเทียนห้าสิบสองเล่มปักอยู่ด้านบน

แต่เอ้อ ทำไมคุณเซนคนถือเค้กเธอหัวกระเซอะกระเซิงขนาดนั้น ทรงผมทรงใหม่รึ เหงื่องี้ซกเชียว เสื้อเชิ้ตสีขาวเปียกเป็นจุดๆ สงสัยแอร์ในรถบริษัทจะเสียจริงๆ

งั้นหายงอนละ ในที่สุดคนตัวสูงก็กลับมาออฟฟิศทันตามสัญญา

"แฮปปี้เบิร์ดดดดด…เดย์ยยยย ทูยูว์ววววว…"

แล้วเสียงโซปราโน่อันทรงพลังของสุกรีลูกทีมของฉันก็ก้องกังวาลนำเพลงท่วงทำนองที่คุ้นหูดังขึ้น สุกรีคือผู้ที่ฝักใฝ่กับการร้องเพลงมากที่สุดในออฟฟิศเราแล้ว เธอเป็นผู้นำในการร้องเพลงในวาระสำคัญต่างๆของบริษัท

และทั่วทั้งออฟฟิศก็ดังก้องตามมาด้วยเสียงร้องเพลงของพนักงานคนอื่นๆที่ร้องโทนต่างๆกันไปเรื่อยเปื่อยคนละโทนสองโทน บางคนกำลังเดินตามหลังคนถือเค้กเข้ามาบ้าง หรือบางคนก็ผละจากโต๊ะทำงานของตัวเองเดินเข้ามาตรงกลางทางเดินบ้าง

คุณเซนเดินถือเค้กด้วยใบหน้ายิ้มน้อยๆตรงเข้ามาหาคนที่กำลังยืนนิ่งอึ้งอยู่ที่ทางเดินกลางห้องนั้น คนที่พวกเราพยายามอย่างเป็นที่สุดที่จะไม่ให้เค้ากลับบ้านไปซะก่อน

และโดยที่ไม่มีใครคาดคิด พี่เพ็ญถึงกับร้องไห้โฮออกมา!

"แฮปปี้… เบิร์ดดดด… เดย์ยยยย…. ทูวววว… ยูว์ววววว…"

เมื่อสิ้นเสียงเพลง และโดยที่ไม่มีใครต้องบอก พี่เพ็ญก็บรรจงก้มลงเป่าเทียนทั้งห้าสิบสองเล่มนั่นทั้งน้ำตา

ฉันแอบสังเกตคนตัวสูงที่เป็นคนถือเค้กก้อนโตนั้น ก็เห็นเขายังคงยิ้มน้อยๆด้วยแววตาอ่อนโยนภายใต้แว่นใสนั่น

ซึ้งใจล่ะสิคะคุณเซน

และเมื่อเทียนดับหมดแล้ว ฉันจึงเดินเข้าไปโอบพี่เพ็ญไว้หลวมๆพลางยื่นกระดาษเช็ดหน้าให้พี่เพ็ญซับน้ำตา สาวใหญ่วัยห้าสิบสองหมาดๆจึงได้เริ่มเฉลยความในใจด้วยอาการสะอึกสะอื้น

"พี่รอคอยมาทั้งวัน ไม่เห็นมีใครพูดถึง พี่นึกว่าไม่มีใครจำวันเกิดพี่ได้" พี่เพ็ญเริ่มต้นระบายความอัดอั้น

"โดยเฉพาะน้องลิน ไหนว่าน้องลินมีตารางจดวันเกิดของทุกคน พี่ก็คิดอยู่ว่า ทำไมปีนี้น้องลินถึงลืม ปีที่แล้วน้องลินก็ไม่ลืมนี่นา น้องลินไม่เห็นเคยลืมวันเกิดใคร แล้วทำไมน้องลินถึงได้ลืมวันเกิดพี่"

เจ้าของวันเกิดหันมามองฉันด้วยสายตาน้อยใจขั้นรุนแรง ก่อนที่จะหันไปหาคนอื่นๆและหว่านสายตาน้อยใจขั้นเบาๆไปทั่ว

ตอนนี้ทุกคนเงียบกริบ ฉันแอบมองไปที่คนตัวสูงอีกรอบ คุณเค้ายังคงยืนถือเค้กตัวเกร็งและกำลังมองไปที่พี่เพ็ญอย่างเลิ่กลั่กนิดๆ ฉันเดาเอาว่าสไตล์อย่างคุณเซนน่าจะอึดอัดและทำตัวไม่ถูกกับสภาวะดราม่าเยี่ยงนี้ แต่เธอก็คงไม่กล้าขัดพี่เพ็ญ และไม่กล้าวางเค้กลงก่อนที่พี่เพ็ญจะพูดจบ

"พี่อยู่ตัวคนเดียว เพื่อนๆญาติพี่น้องคนอื่นๆเค้าก็มีครอบครัวของตัวเองกันหมดแล้ว ไม่มีใครจำวันเกิดพี่ได้ จะมีก็แต่ที่ทำงานของเรานี่แหละที่ฉลองวันเกิดให้พี่ มันเป็นเวลาที่พี่รอคอยทุกปี มันเป็นเวลาที่พี่จะได้รู้สึกว่าพี่เป็นคนสำคัญกะเค้าบ้าง" พี่เพ็ญตัดพ้อทั้งน้ำตายาวเหยียด

ฉันเองก็อึ้งไป ไม่นึกว่าสิ่งที่พวกเราทำกันเป็นประจำเพื่อบรรยากาศชื่นมื่นเล็กๆน้อยในบริษัทจะมีคุณค่าทางจิตใจต่อคนบางคนมากขนาดนี้ ประเพณีนี้เรามีกันมานานแล้ว หากปีนั้นวันเกิดใครตรงกับวันเสาร์อาทิตย์ก็ซวยไป และถ้าอาทิตย์ไหนมีคนเกิดมากกว่าหนึ่งคน อาทิตย์นั้นเค้กก็จะถูกรวมเป็นเค้กก้อนเดียว และคุณราเชนทร์ก็สนับสนุนเรื่องเงินในการซื้อเค้กมาตลอด

และการที่ฉันเป็นตัวตั้งตัวตีในการฉลองเล็กๆน้อยๆเพื่อทุกๆคนในทุกๆปี ก็เพียงเพราะมันเป็นความชอบส่วนตัวของฉัน ชอบที่จะได้ทำการ์ดอวยพรให้เหมาะกับบุคลิกของเจ้าของวันเกิด แล้วส่งการ์ดให้สุกรีไปล่าลายเซ็นพร้อมคำอวยพรจากเพื่อนร่วมออฟฟิศ ชอบที่ได้เลือกซื้อเค้กน่ารักๆ ชอบที่จะได้ฟังสุกรีส่งเสียงโซปราโน่ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์สไตล์โอเปร่า ก็เท่านั้น…

"ชั้นนึกว่าคุณเซนจะมาไม่ทันซะแล้ว"

ฉันเงยหน้าขึ้นยิ้มให้กับคนตัวสูงข้างๆ ขณะยืนรอพี่เพ็ญตัดเค้กขนาดยักษ์แบ่งแจกจ่ายกัน

แม้แต่ละคนจะได้กินเค้กชิ้นจิ๋วมากๆ เพราะเราต้องแบ่งเค้กเป็นเกือบห้าสิบก้อนเท่ากับจำนวนพนักงาน แต่เราก็กินมันแค่พอเป็นพิธีเพื่อเสริมบรรยากาศ

"ทันสิครับ ยังไงผมก็ต้องมาให้ทัน อ้อ ขอบคุณครับ" คนตัวสูงยิ้มตอบฉันนิดๆ ก่อนจะหันไปหาพี่เพ็ญที่ยื่นเค้กชิ้นจิ๋วที่มาบนกระดาษทิชชู่มาให้ จากนั้นก็ป้อนเค้กจิ๋วเข้าปากตัวเองในทันที

"คุณเซน! กินแค่นี้ก็ต้องให้เลอะปาก" ฉันอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปเช็ดครีมที่เลอะอยู่ที่ขอบปากเรียวนั้นอย่างฉับพลันโดยไม่ทันได้คิดอะไร

"อุ่ย…" คนตัวสูงสะดุ้ง สายตาเรียวนั่นดูเลิ่กลั่ก

"เอ่อ ขอบคุณครับ" แล้วตาเรียวก็เปลี่ยนเป็นดูเก้อเขิน ก่อนผู้เป็นเจ้าของจะยกมือขึ้นเสยผมที่หล่นมาปรกหน้าผาก

"วันนี้คุณเซนลืมใส่เจลมาหรือคะ หรือตั้งใจทำผมทรงใหม่ อ้อ ขอบคุณค่ะ"

ฉันอดสงสัยเรื่องทรงผมของคุณเซนไม่ได้ ก่อนจะหันไปรับเค้กจิ๋วมาจากพี่เพ็ญ แล้วเอาเข้าปากทันทีเช่นกัน

นี่ฉันยังไม่เคยเห็นคุณเซนมาออฟฟิศด้วยผมปรกหน้าเลย ตั้งแต่เข้าทำงานใหม่ๆจนถึงวันนี้ เธอก็มาทำงานด้วยทรงหัวตั้งเด่ตลอด

"เลอะครับเลอะ" คนหัวตั้งทำหน้าจริงจังชี้ไปที่มุมปากด้านซ้ายของฉันบ้าง

"อุ่ย…" ฉันรีบแลบลิ้นออกมาเลียเจ้าครีมที่ติดอยู่ตรงมุมปากให้กลับเข้าปากไปยังรวดเร็ว

สาบานได้ว่าฉันแอบเห็นคนตาเรียวนั่นมองฉันแปลกๆหนึ่งแวบ เอ่อ…เป็นสายตาแปลกๆที่เซ็กซี่ยังไงไม่รู้แฮะ

"ว่าไงคะ ผมทรงใหม่หรือคะ นี่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นคุณเซนโหมดผมปรกหน้าในที่ทำงานเลยนะคะ" ฉันรีบดึงบรรยากาศแปลกๆระหว่างเราให้กลับไปวุ่นวายเรื่องทรงผมต่อ

"อ๋อ เมื่อเช้าก็ใส่เจลมาตามปกตินั่นแหละครับ เผอิญเมื่อกี้ตอนมาถึงรีบไปหน่อย ถอดหมวกกันน็อคแล้วลืมจัดทรงผม เห็นคุณสุกรีอุตส่าห์ลงไปยืนรออยู่ที่หน้าประตูตึก ผมก็เลยรีบวิ่งอย่างเร็วขึ้นมาบนออฟฟิศก่อนเลย"

หมวกกันน็อค?

"เดี๋ยวนะคะ นี่คุณเซนนั่งมอเตอร์ไซค์มาจากแยกบางนาหรือคะ!"

"ครับ ก็ผมกลัวจะมาไม่ทัน เห็นตอนคุณลินโทรไปน้ำเสียงคุณลินร้อนใจ"

ตายแล้ว ลงทุนขนาดนั้นเชียว! โถ พ่อแก้มบุ๋มของฉัน

"โธ่ คุณเซน… การแว้นมอเตอร์ไซค์จากบางนามาทองหล่อนี่ไม่ใช่ใกล้ๆนะคะ"

"ยังไงผมก็ต้องมาให้ทันวันเกิดคุณเพ็ญศรีวันนี้ ผมเคยเรียนรู้แล้วว่า สำหรับคนบางคนการที่เราจำวันเกิดเค้าได้ มันสำคัญสำหรับเค้าขนาดไหน" คนกล้ามขาวกลับเข้าสู่โหมดพูดจาเรียบๆแต่จริงจัง ตาเรียวนั้นมองไปทางพี่เพ็ญด้วยความเอ็นดู

ฉันเห็นด้วยกับคุณเซนนะ เห็นพี่เพ็ญร้องไห้โฮออกมาวันนี้แล้วก็… นึกไม่ถึงเลยจริงๆ

ความตื่นเต้นจากเรื่องวันเกิดของพี่เพ็ญทำให้ฉันลืมเรื่องที่จะเขินอายคุณเซนจากเหตุการณ์คืนวันเสาร์ไปเสียสนิท ทั้งๆที่วันนี้ทั้งวันฉันยังสับสนเรื่องที่จะขอโทษเขาหรือทำเนียนไม่รู้ไม่ชี้ดี

และเมื่อได้เจอหน้ากันจริงๆ มันก็เป็นเหมือนอย่างที่ฉันคาดเดาไว้ คุณเซนเค้าทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พูดจากับฉันเป็นปกติ นอกจากทักเรื่องของอาการการปวดเมื่อยของฉันตอนที่โทรศัพท์คุยกันแล้ว ก็ดูไม่มีทีท่าว่าคนข้างๆฉันจะรื้อฟื้นถึงเรื่องเมื่อคืนวันเสาร์อีก งั้นฉันก็ควรลืมเรื่องนี้ไปเสีย ส่วนเรื่องเสื้อเชิ้ตของเค้า เดี๋ยวฉันก็ยื่นคืนเค้าตรงๆเลยละกัน ฉวยจังหวะตอนที่คนกำลังวุ่นวายกันเนี่ยแหละ

"เราไม่มีทางรู้หรอกครับ บางคนเค้าอาจจะรอคอยวันนี้มาทั้งปีก็ได้ ขอบคุณคุณลินมากนะครับที่เป็นธุระจัดการทุกอย่างให้"

คุณเซนยังคงพูดต่อไปถึงเรื่องของพี่เพ็ญ และคราวนี้เค้าหันมามองฉัน แถมด้วยยิ้มแก้มบุ๋มให้ มันคือยิ้มหวานที่ไม่จำเป็นต้องยิ้มกว้าง ฉันสบตาดวงตายาวรีอันอบอุ่นนั้นด้วยความเข้าใจ ลืมเรื่องของตัวเองไปชั่วครู่ แล้วกลับมาสนใจเรื่องของพี่เพ็ญต่อ

ภาพหญิงสาววัยห้าสิบสองที่กำลังตัดเค้กแจกจ่ายทุกคนตรงหน้าทำเอาฉันใจหาย พี่เพ็ญกำลังยิ้มแจ่มใสทั้งๆที่ดวงตายังมีน้ำตาคลออยู่ เมื่อเช้าฉันมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องของตัวเองจนลืมใส่ใจพี่เพ็ญ ฉันไม่ได้คิดว่าวันนี้มันจะมีความหมายอะไรมากมายสำหรับเพื่อนร่วมงานสาวใหญ่คนนี้ คนที่ขี้บ่นตลอดเวลา คนที่ดูเหมือนจะต่อต้านการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างบนโลกใบนี้

บางที สิ่งที่เราไม่เคยมองเห็นคุณค่าเพราะมันเป็นแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆในชีวิตของเรา แต่สำหรับบางคนแล้ว มันกลับอาจเป็นสิ่งที่มีค่ามากมายในชีวิตของเขา

วันอันแสนจะธรรมดาของเรา อาจเป็นวันอันสุดแสนพิเศษของใครบางคน…


next chapter
Load failed, please RETRY

Estado de energía semanal

Rank -- Ranking de Poder
Stone -- Piedra de Poder

Desbloqueo caps por lotes

Tabla de contenidos

Opciones de visualización

Fondo

Fuente

Tamaño

Gestión de comentarios de capítulos

Escribe una reseña Estado de lectura: C29
No se puede publicar. Por favor, inténtelo de nuevo
  • Calidad de escritura
  • Estabilidad de las actualizaciones
  • Desarrollo de la Historia
  • Diseño de Personajes
  • Antecedentes del mundo

La puntuación total 0.0

¡Reseña publicada con éxito! Leer más reseñas
Votar con Piedra de Poder
Rank NO.-- Clasificación PS
Stone -- Piedra de Poder
Denunciar contenido inapropiado
sugerencia de error

Reportar abuso

Comentarios de párrafo

Iniciar sesión