หากพูดถึงประเทศออร์เลสต์ ใคร ๆ ต่างก็คงจะนึกถึงเหมืองแร่ ไวน์เลิศรส บทเพลงท้องถิ่น ไม่ก็วรรณกรรมชื่อดัง ทว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดซึ่งทุกสายตาที่จับจ้องมายังประเทศนี้เห็นพ้องต้องกันได้หมดก็คือภาพลักษณ์ที่เปี่ยมไปด้วยความสุขสงบ แทบจะไม่มีข่าวอื้อฉาวจากเหตุการณ์ทางลบใด ๆ เป็นประเทศที่หากใครเป็นโจรวิ่งราวขึ้นมาเขาคนนั้นจะถูกมาว่าเป็นแกะดำ
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงแล้ว ประเทศออร์เลสต์ก็เป็นประเทศที่อุดมไปด้วยสังคมมนุษย์ตามปกติทั่วไป เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น เพียงแต่ว่ามีระบบที่จัดการยับยั้งภัยต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุมมากเพียงเท่านั้นเอง
ลึกลงไปใต้ดินของอาคารบริษัทขนส่งธรรมดาแห่งหนึ่ง ศูนย์บัญชาการใหญ่ขององค์กรคอสมอสถูกก่อตั้งไว้อย่างลับ ๆ องค์กรนี้คือเบื้องหลังทั้งหมดของความสงบสุขในประเทศ ดำเนินการโดยที่ปิดบังการมีอยู่ไว้ได้อย่างมิดชิดขนาดที่ทางรัฐบาลหรือเหล่าขุนนางกับราชวงศ์เองก็ยังไม่รู้ คนในตำแหน่งใหญ่ ๆ ที่รู้กันจริง ๆ ก็เพียงไม่กี่คนซึ่งสามารถนับด้วยนิ้วมือสองข้างได้
สมาชิกขององค์กรคอสมอสแต่ละคนต่างก็ทำหน้าในแบบฉบับที่ตนเองถนัด ทว่าทั้งหมดนั้นก็ล้วนแต่มุ่งสู่เป้าหมายในการยับยั้งกีดขวางสิ่งใด ๆ ก็ตามที่มีสัญญาณว่าจะเป็นภัยต่อประเทศกันหมดทั้งสิ้น
แอนเซลนั่งขมวดคิ้วเป็นปมอยู่ในห้องประชุมขององค์กร ดวงตาสีแดงเป็นประกายงดงามราวกับเม็ดทับทิมสบเข้ากับดวงตาของชายแก่ผู้เป็นประธานกลุ่มสมาชิกเบื้องบนซึ่งมีหน้าที่ทำการบริหารองค์กร ด้วยความที่แอนเซลเป็นดาวเด่นในการประชุมซึ่งรวมตัวสมาชิกระดับสูงมามากมายในครั้งนี้ ในโต๊ะกลมเขาจึงถูกจัดให้นั่งอยู่ไม่ห่างจากประธานองค์กรและสมาชิกคนสำคัญอื่น ๆ มาก
"แอนแซล พวกเราทุกคนในนี้ต่างคาดหวังในตัวคุณ เราเดิมพันความสำเร็จของภารกิจระดับเอสนี้ไว้กับคุณนะ คูณก็รู้ว่าเราเชื่อมั่นในความสามารถคุณมากแค่ไหน"
ชายแก่เคราขาวในเสื้อคลุมยาวสีดำซึ่งทำให้เขาดูราวกับเป็นพ่อมดผู้น่าเกรงขามกล่าวขึ้นด้วยเสียงที่แหบกร้านตามวัย
"ครับ"
แอนเซลยังคงสบตากับชายแก่อย่างมั่นคงแน่วแน่ เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความหล่อคมมีเสน่ห์นั้นเปล่งสง่าราศีออกมาอย่างที่ใครเทียบไม่ได้ นอกจากนี้การแต่งกายที่ใช้เน็กไทซึ่งมีสีแดงเช่นเดียวกับสีดวงตารวมถึงสวมชุดสีดำล้วนเช่นเดียวกับสีผมยังให้ความรู้สึกเด็ดเดี่ยวอย่างบอกไม่ถูกด้วย
"เอาล่ะ ตอนนี้ในเมื่อได้ฟังรายละเอียดเกี่ยวกับภารกิจนี้แล้ว ไหนคุณลองสรุปออกมาให้ผมฟังหน่อยซิ"
ถึงแม้ว่าทุกคนในที่นี้จะรู้ถึงความเป็นมืออาชีพของแอนเซลดี อย่างไรก็ตามประธานองค์กรผู้มีนิสัยรอบคอบระมัดระวังขั้นสุดคนนี้ก็ยังไม่นิ่งนอนใจจนกว่าจะตรวจสอบแล้วได้รับรู้กับตาหรือหูตนเองจริง ๆ ว่าลูกน้องเข้าใจในภารกิจอย่างถี่ถ้วน
"ภารกิจระดับเอครั้งนี้สืบเนื่องมาจากข้อมูลของทางสายข่าวที่บ่งชี้หลักฐานว่ามีการค้าอาวุธเวทมนตร์ในวงกว้างเกิดขึ้นในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา โดยทางเราสืบสาวต่อแล้วก็พบเจอว่ามีการเกี่ยวโยงกับตระกูลฟอร์เทีย ประจวบกับที่มีรายงานเข้ามาว่าช่วงนี้ตัวดยุคฟอร์เทียมีการมีการเคลื่อนไหวแปลก ๆ ครับ เพราะฉะนั้น ภารกิจของผมคือการแทรกซึมเข้าไปใกล้ดยุคเพื่อที่จะหยุดยั้งการค้าน่าสงสัยซึ่งมีโอกาสจะนำไปสู่ภัยใหญ่หลวงได้สูง และเช่นเดิมตามแนวทางขององค์กรเรา ผมจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จลุล่วงโดยที่ไม่จะเหลือร่องรอยของหลักฐานความชั่วที่เกิดขึ้นในประเทศนี้ใด ๆ ให้เล็ดลอดออกสู่สาธารณชนได้ครับ"
"เยี่ยม" ชายแก่เอ่ยเรียบ ๆ "ขั้นแรกของภารกิจนี้ คุณต้องหาทางเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของคฤหาสน์ฟอร์เทียให้ได้ หากดูเอกสารที่แจกไว้ให้บนโต๊ะ คุณจะเห็นรายชื่อของคนที่ทำงานในตำแหน่งต่าง ๆ ภายใต้ตระกูลฟอร์เทีย หกคนเหล่านี้คือคนที่ถูกคัดมาแล้วว่ามีตำแหน่งการงานซึ่งจะเอื้อประโยชน์ต่อภารกิจได้ดี อีกทั้งแต่ละคนยังมีปัญหาน่าปวดหัวในชีวิตที่เราสามารถนำไปกระตุ้นให้พวกเขาตัดสินใจลาออกได้ด้วยการแลกเปลี่ยนข้อเสนอ นี่จะช่วยเปิดทางให้คุณเข้าไปแทนที่ตำแหน่งของพวกเขาในคฤหาสน์ฟอร์เทีย"
"อืม… จะให้ผมเลือกสินะครับว่าอยากเอาตำแหน่งไหน"
แอนเซลดึงสายตามาเพ่งความสนใจไปยังแผ่นเอกสารหกแผ่นตรงหน้า มือที่มีผิวพรรณขาวผ่องจนแทบซีดหยิบแผ่นกระดาษขึ้นมากวาดตาอ่านข้อมูลทีละใบ เมื่อดูครบทั้งหมดแล้ว เขาจึงทำสีหน้าครุ่นคิดพลางกอดอกเสาะหาตัวเลือกที่น่าจะเหมาะสมที่สุด แอนเซลคิดไปคิดมาจนในที่สุดก็สรุปได้ว่าในบรรดาหกคนนี้ เขาดูจะรู้สึกดึงดูดและสนใจกับตำแหน่งผู้อารักขาส่วนตัวของลูกชายคนโตของดยุคมากที่สุด
"ผมเลือกตำแหน่งผู้อารักขาส่วนตัวของ อิลเลียส ฟอร์เทีย ครับ ผมคิดว่าตำแหน่งนี้คงจะเอื้อแก่ภารกิจได้โดยที่ไม่ดูน่าสงสัยเกินไปครับ เพราะหากเลือกตำแหน่งที่รับใช้ใกล้ชิดกับดยุคมากจนเกินไป เกรงว่าดยุคคงจะสังเกตได้ในไม่ช้าว่ามีการเคลื่อนไหวน่าสงสัยดำเนินอยู่ครับ"
เขาหาเหตุผลมาสนับสนุนรองรับการตัดสินใจของตัวเองได้อย่างเป็นมืออาชีพ ชายแก่พยักหน้ายอมรับพร้อมกับกล่าว
"ได้ ทางเราจะส่งคนไปจัดการกับผู้อารักขาคนปัจจุบันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นคุณก็เตรียมตัวถูกรับเข้าไปเป็นผู้อารักขาคนใหม่ได้เลย ฝีมืออย่างคุณคงจะไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว" ชายแก่กระแอมเล็กน้อยก่อนจะยกระดับเสียงให้ดังขึ้นจากเดิม "เอาล่ะ ตอนนี้ผมขอประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการ ภารกิจระดับเอเพื่อสยบการเคลื่อนไหวน่าสงสัยของดยุคฟอร์เทียโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการค้าอาวุธเวทมนตร์ในวงกว้างนั้นได้ถูกมอบหมายให้ แอนเซล เดมอร์ เป็นผู้ดูแลหลักของภารกิจเต็มตัวแล้ว"
~
คืนวันเดียวกันนั้น
แสงสลัวจับอยู่บนใบหน้าสิ้นหวังซึ่งค่อย ๆ ดูมีหวังขึ้นมาของชายคนหนึ่งในเครื่องแบบตามฉบับผู้อารักขาที่รับใช้ขุนนาง ตราสีทองบนอกซ้ายพร้อมสัญลักษณ์รูปดอกบัวนั้นบ่งบอกถึงความเป็นตระกูลฟอร์เทีย
ภายในห้องที่มีเพียงแสงของเปลวเทียนลุกโชนอยู่บนโต๊ะระหว่างชายผู้นั้นกับอีกฝ่ายที่สวมสูทเรียบร้อยมาเพื่อพบหน้าเจรจากับเขา บรรยากาศซับซ้อนเกินบรรยายกำลังลอยอบอวลอยู่ภายใต้เงามืด และแต่ละฝ่ายต่างได้รับผลประโยชน์ตามที่ตนเองต้องการ