บทที่ 898 : ไม่เป็นไร ด่าเถอะ
ต่างประเทศ
ณ โรงแรมที่พักของนักกีฬาปิงปอง
หน้าตาทุกคนที่ก่อนหน้านี้หม่นหมองอิดโรย บัดนี้พลันเปลี่ยนเป็นสดใสขึ้นมาทันตา หัวหน้าคณะกรรมาธิการกีฬาปรากฏตัวแล้ว นี่ย่อมเป็นกองเสริมผู้ไร้พ่ายของพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย! เมื่อเห็นหัวหน้าคณะกรรมาธิการกดแท็ก @SARFT และผู้บริหารของหน่วยงาน พวกเขาก็รู้แล้วว่าควรทำอย่างไร นี่คือโอกาสโต้กลับแล้ว!
คนไม่เยอะเท่านาย?
ด่าไม่ได้อย่างนาย?
แต่พวกเราร้องเรียนเบื้องบนได้ว้อย!
ความบันเทิงกับการกีฬาไม่ได้แยกออกจากกันอย่างเด็ดขาด วงการกีฬากับ SARFT ก็ชัดเจนว่ามีกิจข้องเกี่ยวกันบ่อยครั้ง หัวหน้าเฉียนเป็นคนใหญ่คนโต ไม่มีทางที่จะไม่รู้จักเจ้าหน้าที่ใน SARFT สักคนสองคนหรอก!
สถานการณ์จะพลิกกลับแล้ว!
ไอ้คนแซ่จาง! คราวนี้เป็นนายที่ต้องเอ่ยคำขอโทษ!
“ไป!”
“ตามหัวหน้าเฉียนไป!”
“ใช่! ร้องเรียนมันเลย!”
“เราไปลงชื่อร้องเรียนพร้อมกัน!”
“ฮ่าๆ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าคราวนี้จะทำอะไรมันไม่ได้!”
“คนลงชื่อร้องเรียนเยอะขนาดนี้ SARFT ต้องลงมือแน่!”
ในเวลาไม่กี่นาที เวยป๋อของเหล่าคนในวงการกีฬาก็มีความเคลื่อนไหว ก้าวตามรอยเท้าหัวหน้าเฉียน!
หานลี่ “ลงชื่อร้องเรียนละครตลก ‘จัดไป’ ของจางเย่ที่ คืนส่งปี BTV”
หลี่ฉี “ลงชื่อร้องเรียนจางเย่ ละครตลก ‘จัดไป’ ตามลิงก์นี้…” ใส่ที่อยู่เว็บไซต์
หลิวอีเฟิงเข้าไปบ่นที่หน้าเว็บของ SARFT โดยตรง “จางเย่เหยียดหยามกีฬาปิงปองต่อสาธารณะ ใช้ชื่อเสียงและความเป็นที่รู้จักมาชักนำสังคมให้เกิดความเกลียดชัง สาดโคลนใส่จิตวิญญาณแห่งกีฬาจนเสื่อมเสีย ควรต้องมีคนมาจัดการหรือไม่? พวกเราขอเสนอให้แบนการแสดงทั้งหมดของจางเย่!”
พวกนักกีฬาในอินเทอร์เน็ตก็แห่กันออกมา!
แชมป์แบดมินตันคนเดิมก็มาร้องเรียนเช่นกัน!
สิบคน!
ยี่สิบคน!
สามสิบคน!
เมื่อเห็นสถานการณ์พลิกผัน คนในวงการกีฬาก็ยิ่งเพิ่มจำนวนและยิ่งส่งเสียงดัง ทั้งหมดพากันลงชื่อร้องเรียนว่าละครตลก ‘จัดไป’ ของจางเย่ละเมิดกฎอย่างร้ายแรง! มีเจตนาบ่อนทำลายการกีฬาแห่งชาติ!
ไฟรบของคนในวงการกีฬาลุกโชนขึ้นมาแล้ว!
เมื่อชาวเน็ตเห็นดังนั้น ก็กรีธาทัพด่าอีกระลอก!
“เชี่ย! อะไรกันวะ!”
“กล่าวหาคนอื่นหน้าด้านๆ! ตอนพวกนายด่าเพลงของอาจารย์จางว่าห่วยทำให้แข่งแพ้นั่นไม่ใช่สาดโคลนใส่เขารึไง? อาจารย์จางตอกกลับแค่ประโยคเดียวก็แม่งหาว่าทำให้จิตวิญญาณกีฬาเสื่อมเสียแล้ว? อะไรคือจิตวิญญาณวงการกีฬา? ก็แค่อุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อตัวเองนี่? พวกนายพูดอะไรต้องเป็นตามนั้นงั้นสินะ?”
“ไอ้พวกเวรตะไลนี่!”
“โมโหว่ะ! คนเชี่ยอะไรกันวะ!”
“ฉันก็ว่างั้น! พวกคนวงการกีฬาประสาทกลับกันไปหมดแล้วเรอะ?”
“ด่าไม่ได้ สู้ไม่ได้ ก็ร้องเรียนผู้ใหญ่? หืม? แพ้เขาก็ฟ้องแม่ว่างั้น?”
“หน้าไม่อาย!”
“เชี่ย ด่ามันต่อแม่งเลย!”
“รอดูก่อนเถอะ สถานการณ์ไม่ค่อยดีแล้ว!”
“นั่นสิ แต่ละคนลงชื่อร้องเรียน อาจารย์จางอาจจะเดือดร้อนก็ได้นะ!”
“ใช่ แถมหัวหน้าคณะกรรมาธิการกีฬายังมาเป็นคนลงชื่อร้องเรียนเองอีก นี่มัน…”
“ชื่อพวกเจ้าหน้าที่ SARFT ที่หัวหน้ากรรมาธิการกีฬานั่น @ ไป ต้องเป็นคนที่เขารู้จักแน่ วันนี้พวกนักกีฬาหรือขนาดแชมป์กับพวกโค้ชก็ยังออกมาต่อต้าน ทาง SARFT จะอยู่เฉยได้เหรอ? คงต้องหาทางเล่นงานอาจารย์จางแน่!”
“จะลงโทษยังไงนะ?”
“ไม่รู้สิ หรือว่าจะแบนจางเย่จริงๆ?”
“คงไม่รุนแรงขนาดนั้นหรอกมั้ง?”
“อาจจะสั่งให้จางเย่ขอโทษวงการกีฬารึเปล่า?”
“บัดซบ! ไอ้พวกระยำหมาเอ๊ย!”
ฮาฉีฉีกับพวกจางจั่วหน้าถอดสี!
สองสามีภรรยาเฉินกวงกับฟ่านเหวินลี่ก็รู้สึกหวั่นใจแทนจางเย่!
ในชั่วขณะนั้น เสียงก่นด่าของเหล่าแฟนคลับจางเย่ก็เริ่มหยุดลง เริ่มไม่แน่ใจว่าควรด่าต่อดีหรือไม่ พวกเขากลัวว่าถ้าหากยังวิวาทต่อ อาจทำให้จางเย่เดือดร้อนและถูกลงโทษหนักกว่าเดิม เป็นหลักฐานให้คนจากทาง SARFT มาตรวจสอบได้ว่า ที่ไอ้คนพวกนั้นกล่าวหาเป็นเรื่องจริง——ใช้ชื่อเสียงของตนชักจูงสังคม?
เมื่อชาวเน็ตเริ่มอ่อนกำลัง เหล่าคนวงการกีฬาก็ยิ้มเยาะ!
ตอนนี้เอง หัวหน้าคณะกรรมาธิการกีฬาคนนั้นโพสต์เวยป๋ออีกครั้ง ทั้งยังแท็กพูดกับจางเย่โดยตรง “@จางเย่ จงมาขอขมาภายในครึ่งชั่วโมงนี้!”
อย่างรวดเร็ว จางเย่ตอบกลับมาทันที “หึหึ แล้วถ้าผมไม่ทำล่ะ?”
หัวหน้ากรรมาธิการกีฬา “ก็ลองดูสิ”
จางเย่หัวเราะ “โอเค วันนี้ผมจะลองดูหน่อยแล้วกัน!”
คำตอบนี้ทำให้ชาวเน็ตต้องอ้าปากค้าง!
“เช็ด!”
“อาจารย์จางโคตรคนจริงเลย!”
“ท้าชนหัวหน้าคณะกรรมาธิการกีฬา?”
“ฉิบหายแล้ว!”
“สวรรค์! อาจารย์จาง ใจเย็นๆ นะ! ใจเย็นก่อน!”
“นั่นสิ ใจร่มๆ ไว้!”
อย่างไรก็ตาม จางเย่กลับไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไร เขามองนาฬิกาที่บ้านแวบหนึ่ง จากนั้นก็โพสต์เวยป๋อ “ตอนนี้ห้าทุ่มยี่สิบนาที นับถอยหลังครึ่งชั่วโมงสินะ? เริ่มเลยก็แล้วกัน เหลือเวลาอีกยี่สิบเก้านาทีสามสิบวินาที!”
ชาวเน็ตเดือดพล่านในทันใด!
“สุดยอด!”
“โคตรชน!”
“รักจางเย่เพราะแบบนี้แหละ!”
“บ้าดีเดือดชะมัด!”
“ฉันล่ะตื่นเต้นจริงๆ! อาจารย์จางดุร้ายเกินไปแล้ว!”
“อาจารย์จาง! คุณหล่อมาก!”
พอเห็นดังนั้น หัวหน้ากรรมาธิการก็ถึงกับผงะ!
ฮาฉีฉีกับพวกจางจั่วตกใจจนเหงื่อแตกท่วมตัว!
หนิงหลันอึ้งไปแล้ว!
ฟ่านเหวินลี่สูดลมหายใจเย็นเยียบ!
เพื่อนๆ ของจางเย่มากมายแทบหัวใจวาย ฉิบหายเอ๊ย ทำอะไรของนายน่ะ!
อีกด้านหนึ่ง คนฝั่งวงการกีฬาเริ่มรู้สึกร้อนรนขึ้นมา ไม่มีใครคาดคิดว่าจางเย่จะป่าเถื่อนอย่างนี้! ขนาดหัวหน้าเฉียนมาเองไอ้หมอนี่ก็ยังกล้าท้าทายรึ! ไอ้คนแซ่จาง! วันนี้นายแม่งไปกลืนดินปืนมารึไง?
หัวหน้ากรรมาธิการกีฬาเกรี้ยวกราด “ได้! ได้! ได้!” เขาถึงพูดสามครั้งติด!
แล้วฉับพลันนั้นเขาก็หมดโอกาสจะพูดอะไรอีก เพราะโดนกองทัพเกรียนถล่มด่าจนเวยป๋อถูกกลืนหายไปในฝูงชนนับหมื่นพัน คำด่าเหล่านั้นถึงกับเรียกได้ว่าท่วมฟ้าบังตะวัน!
“ไสหัวไปให้พัน!”
“ไอ้พวกผู้บริหารวงการกีฬา บังอาจมารังแกอาจารย์จางของฉันเหรอ? บัดซบ!”
“เป็นหัวหน้าแล้วไง! ปู่ทวดแกสิ!”
“มากร่างอะไรแถวนี้? ไสหัวกลับไปเลย!”
“จะมาข่มเหงอาจารย์จาง? นายมีสิทธิ์อะไรวะ!”
“ที่นี่ไม่ใช่วงการกีฬาของพวกแก ไม่ใช่สวนหลังบ้านของแก ไม่ใช่ใครๆ ก็ต้องไว้หน้าแก! กร่างมาแบบนี้ ฉันให้ศูนย์คะแนนว่ะ!”
บรรยากาศหดหู่พลันเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราดในพริบตา ชาวเน็ตบุกตะลุยรุมทึ้งหัวหน้าเฉียน! เดิมทีเหล่ากองทัพเกรียนยังกังวลว่าการลงชื่อร้องเรียนของไอ้พวกเวรนี่จะทำให้อาจารย์จางเดือดร้อน พวกเขาจึงยังไม่กล้าพูดอะไร ยังไม่กล้าด่าต่อ แต่เมื่อเห็นจางเย่ยืนหยัดท้าชนกับหัวหน้ากรรมาธิการกีฬา เลือดในกายพวกเขาก็เดือดพล่าน! ขนาดอาจารย์จางยังไม่กลัวเกรง แล้วพวกเขาจะเกรงกลัวอะไร?
บัดซบเอ๊ย!
ลุยแม่งเลย!
ชาวเน็ตนับไม่ถ้วนยกทัพดาหน้าเข้าไป!
มีชาวเน็ตบางส่วนที่เดิมทีมามุงเพื่อความสนุก ไม่เข้าข้างใคร แต่พอเห็นเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ก็ต้องกู่ร้องตะโกน “ไอ้เชี่ยเอ๊ย ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ! ฉันจะไปช่วยจางเย่!”
“ไปด้วยเหมือนกัน!”
“ฉันเอาด้วย!”
“แม่งเอ๊ย พวกเอ็งจะเอาไปฟ้องทางการงั้นเหรอ?”
“ฉันเองก็ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว! พวกนายด่าจางเย่ตอนสัมภาษณ์ก่อน จางเย่ได้บ่นอะไรหรือยัง? เปล่าเลย! เขาก็แค่ด่ากลับตรงๆ! พวกนายก็ยังด่าเขาตอบนี่ แต่พอด่าสู้ไม่ได้ก็ร้องแรกแหกกระเชอ? เรียกหาผู้ใหญ่? วิ่งไปฟ้องแม่? เห็นไอ้คนวงการกีฬาอย่างพวกนายแล้วน่ารำคาญเป็นบ้า! แพ้แล้วพาลโทษว่าเพลงจางเย่ไม่เพราะ ด่าไม่ได้ก็ร้องเรียนฟ้อง SARFT สิ่งมีชีวิตที่น่ารังเกียจที่สุดก็คือคนอย่างพวกนายนี่แหละ!”
“ไป! ช่วยเหลือจางเย่!”
……
ที่บ้าน
เสียงมือถือพลันลั่นดังขึ้น!
จางเย่กดรับสาย “ฮัลโหล ตาเหยา”
น้ำเสียงเหยาเจี้ยนไฉร้อนใจ “นายไปทะเลาะกับผู้บริหารการกีฬานั่นทำไมหา!”
“ทำไมล่ะ?” จางเย่ถามยิ้มๆ “ฉันไม่สนหรอกว่าเขาเป็นใคร!”
“ฉันล่ะยอมนายเลย!” เหยาเจี้ยนไฉว่า “นายก็บ้าดีเดือดเกินไปแล้วนะ! วงการกีฬาทำอะไรนายไม่ได้ แต่ SARFT ทำได้นะ นายไม่กลัว SARFT ออกคำสั่งแบนอีกรอบรึไง?”
จางเย่ “ก็ไม่กลัวจริงๆ นั่นแหละ”
เหยาเจี้ยนไฉ “...”
จางเย่เสริมอีกประโยค “ต่อให้สั่งแบนฉันจริง ฉันก็จะลากไอ้คนแซ่เฉียนที่มาแหย็มฉันวันนี้ไปด้วย!”
แล้วทันใดนั้น เหยาเจี้ยนไฉก็ร้องขึ้น “แย่แล้ว! นายดูเวยป๋อสิ!”
“มีอะไรเหรอ?”
“ไอ้หมอนั่นมัน @ คุยกับเจ้าหน้าที่ SARFT แล้ว!”
จางเย่ตามไปดู ก็จริงดังว่า
บัญชีทางการของ SARFT “ได้รับเรื่องแล้ว กำลังดำเนินการ”
ผู้ช่วยผู้กำกับการ SARFT คนหนึ่ง “กำลังทำการตรวจสอบ หากพบว่าเป็นความจริง จะมีการลงโทษสถานหนัก! การกระทำที่ดูหมิ่นต่อจิตวิญญาณการกีฬาเช่นนี้ ไม่อาจมองข้าม!”
หัวหน้าฝ่ายจัดการ SARFT อีกคนหนึ่ง “เห็นรายงานร้องเรียนแล้ว ผมส่งเรื่องให้เบื้องบนแล้ว! อีกสักครู่จะมีคำตอบให้กับเหล่าสหายวงการกีฬา จะต้องมีคำอธิบายที่ดีให้กับเรื่องนี้แน่นอน!”
ชาวเน็ตพลันสับสนร้อนรน!
“แย่แล้ว!”
“อาจารย์จางลำบากแล้ว!”
“ดำเนินการแล้ว? เชี่ย!”
“ไอ้ขี้หมา! ฉันก็ร้องเรียนคนวงการกีฬานะ! ไอ้การสัมภาษณ์สดหลังแข่งนั่นมันก็ดูหมิ่นจิตวิญญาณดนตรีเหมือนกันนี่!”
“ไอ้คนพวกนั้นมันรวมหัวกัน!”
“ใช่! พวกมันรู้จักกันหมด! มันต้องเข้าข้างวงการกีฬาแน่นอน!”
“ท่าไม่ดีแล้ว!”
“เลิกด่ากันเถอะ อย่าหาเรื่องให้อาจารย์จางกันอีกเลย!”
“นี่ก็ระยำเกินไปไหม? จะสู้ก็ควรสู้กันแบบยุติธรรม ด่ามาก็ด่ากลับมันเรื่องปกตินะ? พวกนายแม่งเล่นสกปรกว่ะ!”
“นี่หรือเกียรติของวงการกีฬา? นี่หรือคือน้ำใจนักกีฬา? น่าขำ!”
“ไอ้พวกลูกหมา!”
ที่บ้านของจางเย่
เหยาเจี้ยนไฉกำลังร้อนรนอยู่ในสาย “นายดูสิ! หาเรื่องเดือดร้อนแล้วไหมเล่า!”
จางเย่พูดด้วยเสียงเฉยเมย “ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันโทรไปลองถามดู วางก่อนนะ”
พอวางสายเสร็จ จางเย่ก็ค้นหารายชื่อผู้ติดต่อ แล้วโทรหาอู๋เจ๋อชิง
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด รับแล้ว
จางเย่กะพริบตาปริบๆ ถาม “อู๋ นอนหรือยัง”
ปลายสาย อู๋เจ๋อชิงกล่าว “ตอนแรกก็นอนแล้ว แต่ที่หน่วยงานโทรมาปลุกค่ะ”
จางเย่กระแอมเล็กน้อย “รู้เรื่องแล้วใช่ไหม?”
อู๋เจ๋อชิงตอบ “รู้เมื่อกี้ ทะเลาะกับวงการกีฬาสินะคะ?”
“ใช่” จางเย่กล่าว “ตอนนี้พวกวงการกีฬามันลงชื่อร้องเรียนผม มีผู้บริหารวงการกีฬาแซ่เฉียนคนหนึ่งไม่รู้มาจากไหน มาหาเรื่องกร่างใส่ผมในเวยป๋อ ผมก็เลยตอกกลับไป เอ่อ เห็นเวยป๋อของ SARFT บอกว่า กำลังดำเนินการเรื่องนี้อยู่”
อู๋เจ๋อชิง “ค่ะ”
จางเย่เอ่ยถาม “แล้วผมต้อง?”
อู๋เจ๋อชิงถามกลับ “ต้องอะไรคะ?”
จางเย่อธิบาย “ผมหมายถึง คุณว่าตอนนี้ผมควรต้องทำยังไงครับ?” เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณอู๋จะว่ายังไง และไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะเป็นปัญหาบานปลายใน SARFT ไหม เขาจึงอยากถามความคิดเห็นของอู๋เจ๋อชิงดูก่อน
ทว่าประโยคต่อมาของอู๋เจ๋อชิงกลับทำให้จางเย่รู้สึกสุขสม!
อู๋เจ๋อชิงตอบอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด “ไม่เป็นไร ด่าเถอะ”
ไม่เป็นไร?
ให้ฉันด่าต่อได้?
คำพูดนี้จางเย่ฟังแล้วเบิกบานเหลือเกิน “ได้ ผมรู้แล้ว!”
อู๋เจ๋อชิงหัวเราะเบาๆ “ด่าเสร็จแล้วรีบพักผ่อนนะคะ อย่านอนดึกนักล่ะ”
“ครับผม” จางเย่รับปาก
สมกับเป็นอู๋ของฉันจริงๆ!
เขารักคุณอู๋ที่สุดก็ตรงนี้ เวลามีเรื่อง อู๋เจ๋อชิงไม่เคยบ่นว่าเขา พวกคำพูดที่ว่า อย่าด่าคนสิ ล่วงเกินคนน้อยๆ หน่อยสิ ผูกมิตรกับคนในสายงานให้มากเข้าสิ อู๋เจ๋อชิงไม่เคยพูดเลย แทบทุกเรื่องที่จางเย่ทำ คุณอู๋ล้วนสนับสนุนเขา กระทั่งการด่าทอผู้คน อย่างเรื่องนี้ หากเป็นคนอื่น คงบ่นเขาซ้ำซากว่า ‘ทำไมไปทะเลาะกับวงการกีฬาอีกแล้วล่ะ’ หรือ ‘แม้แต่หัวหน้าคณะกรรมาธิการกีฬาก็ไปด่าได้ไง’ อย่างแน่นอน แต่อู๋เจ๋อชิงไม่ใช่ เธอเพียงแต่พูดอย่างสุขุมนุ่มนวลมาหนึ่งประโยค ‘ไม่เป็นไร ด่าเถอะ’ !
นี่ก็คืออู๋เจ๋อชิง!
นางฟ้ารองบังคับการที่จางเย่รักลึกซึ้งสุดก้นบึ้งหัวใจ!