App herunterladen

Kapitel 22: Chapter 5.1

บทที่ 5

[นับหนึ่ง]

เลิกเป็นเพื่อนแล้วมาเป็นคนรัก

ผมรู้สึกตื่นเต้นกับคำนี้ที่กำลังวนเวียนอยู่ในหัวซะจนลิ้นแข็งลิ้นคับปากพูดไม่ออกเลยขอตั้งสติสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนเพื่อที่ผมจะได้พูดออกไปอย่างชัดเจนไม่มีสะดุด

"และเปลี่ยนจากเพื่อน..."

ผัวะ! โครม!

เอ๊ะ เอ๋!?!

จู่ๆ ก็เจ็บแปลบไปครึ่งหน้าและเซล้มกระแทกไปกับโซฟาด้านหลัง ผมยกมือขึ้นจับบริเวณที่ปวดแล้วหันไปมองหน้าควินซ์อย่างมึนงงปนไม่เข้าใจว่ามันต่อยผมทำไม

"ควินซ์..."

นี่ นี่เป็นครั้งแรกที่ควินซ์ลงไม้ลงมือกับผม!

"ไม่ต้องมาเรียกชื่อกู!" เสียงเกรี้ยวกราดตะคอกกลับจนผมสะดุ้งแล้วหุบปากฉับทันทีและได้แต่มองร่างสูงโปร่งตรงหน้าตาปริบๆ

"..."

ควินซ์ตัวสั่นด้วยความโกรธและมองผมราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ "จู่ๆ มึงเป็นบ้าอะไรขึ้นมา!"

เอ่อ ทำไมควินซ์ต้องโกรธด้วย ผม ผมทำอะไรผิดวะ

เมื่อผมอึกอักเพราะยังสับสนอยู่ว่าตัวเองทำอะไรผิดพูดอะไรผิดก็ยิ่งทำให้ควินซ์โมโหมากกว่าเดิม คนหน้าสวยแค่นยิ้มแล้วส่งเสียงเหอะออกมาเบาๆ "ได้! มึงอยากเลิกคบกับกูใช่มั้ย ได้! ไอ้เหี้ย! อยากตัดเพื่อนใช่มั้ย เออ!"

"เฮ้ย ไม่ใช่นะ!"

ผมเบิกตาโตขึ้นมาทันทีเมื่อรับรู้และเข้าใจแล้วว่าคำพูดของตัวเองนั้นกำลังทำให้ควินซ์เข้าใจผิดอย่างแรง รีบลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อจะคุยแก้ไขความเข้าใจผิดแต่ควินซ์ผลักผมออกอย่างแรง

"ถอยไป!" ผลักผมออกเสร็จก็ก้าวขายาวๆ เดินออกจากห้องไปโดยไม่เหลียวหลังกลับมาอีก

"ควินซ์!" รีบตามไปสิ ผมรีบตามเขาออกไป

ปกติควินซ์ไม่ใช่คนเดินเร็วแต่ตอนนี้เดินไปนู้นแล้วจนผมยังอึ้งและตามเขาแทบไม่ทัน แต่ผมก็เบาใจเรื่องหนึ่งเพราะที่นี่ห่างจากถนนใหญ่หารถกลับไม่ได้ ยังไงซะควินซ์ก็ไปไหนไม่ได้

"ควินซ์! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!" ผมตะโกนเรียกเสียงดัง

เจ้าของชื่อยังคงเดินต่อไปแถมยังเร่งเท้าเดินหนีผมอีก ผมแสยะยิ้มเพราะยังไงควินซ์ก็หนีไปไหนไม่รอด... ซะที่ไหน!

จู่ๆ บริเวณหน้าร้านก็มีแท็กซี่เคลื่อนเข้ามาจอด เมื่อควินซ์เห็นก็รีบวิ่งไปหารถแล้วผลักคนที่น่าจะเป็นคนโทรเรียกรถให้มารับเข้าไปและสอดตัวเองเข้าไปนั่งตามจากนั้นก็ปิดประตูดังโครมก่อนจะหันไปพูดอะไรกับคนในรถสักอย่าง

"ควินซ์!" ผมร้องเสียงหลงอย่างไม่อยากจะเชื่อการกระทำบ้าบิ่นของควินซ์

เท้าของผมหยุดลงได้แต่ยืนโง่งมอยู่ตรงลานจอดรถอย่างทำอะไรไม่ได้ ได้แต่มองรถแท็กซี่เคลื่อนออกจากร้านไปอย่างรวดเร็วและพาควินซ์จากไป มิหนำซ้ำก่อนจะไป ไอ้เลขาตัวแสบยังหันกลับมาเปิดกระจกและชูนิ้วกลางใส่ผมอีก

"ไปตายซะ ไอ้คนเฮงซวย!"

มันจะมากไปแล้วนะ ควินซ์!

ริมฝีปากของผมเม้มเข้าหากันอย่างหงุดหงิด ยกมือขึ้นเสยผมตัวเองแล้วทึ้งมันอย่างแรงด้วยความหงุดหงิด ล้วงกระเป๋าหยิบบุหรี่ขึ้นมาจะสูบแต่นึกได้ว่าไม่มีไฟแช็กอยู่ที่ตัวจึงขยำกล่องบุหรี่และปาทิ้งลงพื้น

บัดซบเอ๊ย! นี่มันบ้าอะไรวะ!

ในระหว่างที่ผมกำลังยืนหงุดหงิดอยู่นั้นก็มีเสียงจากด้านหลังถามขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ

"เอ่อ คือ... เรือ เรือพร้อมแล้วครับ ขึ้นเรือได้เลยครับ"

ผมหันกลับไปถลึงตาใส่

"ขึ้นเรือบ้านแกสิ!"

"เอ่อ.."

"เมียกูหนีไปแล้วเห็นมั้ย!"

ปัดโธ่เว้ย!

จะสารภาพรักแต่ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้วะ!

----

"เห ทำไมกลับบ้านมาได้เนี่ย"

เสียงทุ้มแหบของเด็กหนุ่มดังขึ้นพร้อมกับใบหน้างงๆ ของนับสองโผล่เข้ามาในสายตาของผม ไม่ได้ตอบน้องชายได้แต่ถอนหายใจแล้วก็ถอดรองเท้าเงียบๆ

ตอนนี้ผมกลับมาถึงบ้านแล้วทั้งที่คิดว่าวันนี้จะไปนอนคอนโดแต่คิดอีกที...กลับบ้านดีกว่า เฮ้อ

"นี่ก็บ้านพี่ ทำไมพี่จะกลับไม่ได้" ผมสวนกลับไปแล้วถอนหายใจเหมือนหมดอะไรตายอยาก "ในครัวมีอะไรกินบ้าง"

"ยังไม่ได้กินข้าวเย็นมาอีกเหรอ นี่จะเที่ยงคืนแล้วนะ" นับสองตำหนิแล้วขมวดคิ้ว "พี่ควินซ์ไม่เตือนรึไงว่าให้พี่กินข้าว"

พอได้ยินชื่อนี้แล้วท่าทางของผมยิ่งห่อเหี่ยว หน้าตาซึมเป็นหมามากกว่าเดิมเสียงทอดถอนหายใจยิ่งดังขึ้นไปอีกจนนับสองเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความสงสัย

"เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า"

ไม่รู้ว่าควรดีใจหรือเสียใจดีที่น้องใส่ใจและถามไถ่ขนาดนี้

ตั้งแต่ที่พวกเราปรับความเข้าใจกันในหลายๆ เรื่องเมื่อหลายปีก่อนทำให้เราสนิทกันมากขึ้น นับสองเองก็ปรับปรุงตัวดีขึ้นมาก แน่นอนว่าผมต้องปรับปรุงตัวเยอะมากแต่มันก็ทำให้ผมเลี้ยงน้องได้ดีขึ้นมาก เป็นเรื่องน่ายินดี

นับสองดูแลใส่ใจคนรอบข้างมากขึ้น ตอบแทนความรักความเอาใจใส่ของทุกคนอย่างเท่าเทียม(พี่ชายสามคนน่ะแบ่งความรักให้อย่างเท่าเทียมแต่กับไอ้เวรเก้านี่ลำเอียงสุด อิจฉาครับ!) อันนี้เป็นเรื่องที่พี่ชายอย่างผมที่เลี้ยงน้องมาตั้งเล็กแต่น้อยปลื้มปริ่มจนน้ำตาไหลจริงๆ

ผมรู้ดีว่าตัวเองกับพี่ไอศูรย์น่ะเลี้ยงนับสองมาตามใจขนาดไหนและผิดขนาดไหน นับสองมีนิสัยเสียยังไง พวกผมรู้ดีที่สุด ต่อให้เอาแต่ใจ พวกผมก็จะมองว่ามันน่ารักเสมอ น้องทำผิดก็แล้วไง ไม่ผิด

โชคดีที่โตมานับสองไม่ได้เสียคนขนาดนั้น เอ่อ จริงๆ อาจจะมีเสียคนไปช่วงหนึ่งแต่น้องก็กลับมาได้.... ต้องขอบคุณไอ้เก้า (ชิ ไม่อยากจะขอบคุณมันหรอกนะแต่ก็ต้องขอบคุณ)

"คิดอะไรอยู่ ผมถามป๋าอยู่นะ" เสียงเรียกอีกครั้งของนับสองทำให้ผมหลุดจากภวังค์ห้วงความคิด

"ไม่มีอะไร" หลบตาแล้วเดินผ่านน้องไปยังห้องครัว

นับสองเดินตามมาแล้วกวาดมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า "สภาพหงอยเป็นหมาขนาดนี้ พี่ควินซ์ด่ามารึไง"

"ดูออกขนาดนั้นเลย" ผมหันไปจ้องหน้านับสองคอแทบหัก

"ทุกครั้งเวลาป๋าโดนพี่ควินซ์สวดพี่ควินซ์บ่นก็เป็นแบบนี้" ชี้นิ้วขึ้นลงแล้วส่ายหัว "นั่งซึมไปเป็นวันๆ เลยด้วย"

"ไม่ขนาดนั้นมั้ย พูดเหมือนป๋ากลัวควินซ์มากอ่ะ" ผมเถียงแล้วรีบเดินหนี

นับสองยิ่งเดินตามติด "ผมก็เห็นป๋ากลัวพี่ควินซ์จริงๆ นี่หว่า" น้องเดินตามผมมาถึงในครัวและยืนกอดอกมองผมที่กำลังหาของกินในตู้เย็นไม่ยอมจากไปง่ายๆ ทำไมเวลาแบบนี้ไอ้เก้ามันไม่มาตามน้องผมกลับไปเนี่ย

"ป๋าไม่ได้กลัว!" จริงๆ นะ ทำไมผมต้องกลัวไอ้ควินซ์ด้วย

พยายามเมินนับสองแล้วหยิบน้ำผลไม้กับชามผักสลัดออกมาจากตู้เย็น เดินเบี่ยงหลบน้องชายตัวดีไปนั่งที่โต๊ะทานอาหาร แต่น้องมันก็ยังตามมานั่งข้างๆ

"ไม่มีอะไรทำรึไง" ผมอดไม่ได้ที่จะออกบปากไล่อ้อมๆ

"ไม่ไปจนกว่าจะรู้ว่าพี่กับพี่ควินซ์ทะเลาะอะไรกันมา" นับสองโคลงศีรษะไปมาเล็กน้อย "ปกติถ้าพวกพี่ทะเลาะกันวันนี้ พรุ่งนี้ก็ดีกันแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่เห็นต้องทำหน้าเครียดขนาดนี้เลย"

พอนับสองพูดแบบนี้แล้วผมก็พาลคิดถึงวันพรุ่งนี้ที่เราตกลงกันตั้งแต่แรกว่าจะไม่เข้าบริษัทก็ปวดหัวขึ้นมา พรุ่งนี้ควินซ์ไม่เข้าบริษัทแน่ๆ แล้วไอ้ร้านสปงสปาร้านนวดที่ควินซ์ชอบไปมันร้านไหน ผมก็ไม่รู้อีก

คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจหยิบน้ำสลัดงาเทราดใส่ผักแล้วตักกินโดยไม่พูดไม่จาจนนับสองยิ่งขมวดคิ้ว

"ทะเลาะกันหนักเลยเหรอ" น้องถามเสียงเบา

"ไม่เชิง" ถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก "พี่พูดชวนให้เข้าใจผิดเอง ควินซ์เลยโกรธ"

"ยังไง"

จนแล้วจนรอดผมก็เล่าตั้งแต่ต้นจนจบให้นับสองฟังซึ่งน้องก็นั่งฟังเงียบๆ ไม่ขัดอะไร จนกระทั่งผมเล่าจบ... นับสองก็ยังไม่พูดอะไรจนผมหวั่นใจขึ้นมา

"พี่ควรทำยังไง" อดไม่ได้ที่จะถามก่อนอย่างคนไม่รู้จะทำยังไง

อันที่จริงผมตามควินซ์ไปถึงบ้านเขาแล้วด้วยแต่อีกฝ่ายไม่ได้กลับบ้าน แถมคอนโดควินซ์ในกรุงเทพมีเป็นสิบ ผมก็ไม่รู้จะไปตามที่ไหน โทรหาก็ปิดเครื่องหนี สุดท้ายผมเลยต้องกลับบ้านมาก่อน เฮ้อ

"อันที่จริงผมก็อยากด่าพี่เหมือนกัน" นับสองส่ายหัวไปมา "พูดอะไรโง่จริงๆ เลย"

มึงด่ากูแล้วครับน้อง

นับสองเคาะโต๊ะไปมาอย่างใช้ความคิดแล้วอดไม่ได้ที่จะแขวะผม "ปกติเห็นเรื่องรักๆ ใคร่ๆ มีตลอดคู่ควงไม่ขาดสายแต่ทำไมพอเป็นพี่ควินซ์ถึงทำตัวเหมือนเด็กสิบสี่เพิ่งมีความรักได้เนี่ย"

ใบหูของผมแดงก่ำแล้วพูดระรัว "คู่ควงพวกนั้นไม่มีแล้วเถอะ แล้วอีกอย่างคนพวกนั้นเป็นคนเข้าหาพี่ก่อน พี่ไม่เคยจีบใคร"

"ลืมไป...พี่เคยจีบไอ้จินแต่ก็จีบไม่ติด" ทำไมต้องขุดเรื่องเก่าเก็บมาแขวะกันด้วย! "ผมเชื่อแล้วว่าพี่จีบใครไม่เป็นจริงๆ"

"อย่าพูดดังได้มั้ย" ผมเอ็ดนับสองเบาๆ "แล้วตกลงมีคำแนะนำให้พี่มั้ย"

"ตอนนี้คิดไม่ออก" ยักไหล่แล้วหยิบแก้วน้ำผลไม้ของผมไปกิน

ผมถามเชิงขู่ "อยากรีบแต่งงานกับไอ้เก้ามั้ย"

"โอเค ผมคิดออกแล้ว" น้องผมมันกลับกลอกที่หนึ่ง!

พยายามข่มอารมณ์ไม่ให้ง้างมือตบกะโหลกน้องชายสุดที่รัก หันกลับมากินสลัดผักต่อเงียบๆ ปล่อยให้นับสองนั่งคิดไป น้องเงียบไปพักหนึ่งได้แล้วค่อยพูดขึ้น

"ยังไงพรุ่งนี้พี่ควินซ์ก็ต้องไปทำงาน พี่ต้องหาโอกาสอธิบายกับพี่ควินซ์ตรงๆ ไปเลย ไม่อยากเป็นเพื่อนไม่ใช่ตัดเพื่อนแต่อยากเปลี่ยนสถานะจากเพื่อนมาเป็นคนรักต่างหาก"

"พรุ่งนี้พี่กับควินซ์ไม่เข้าบริษัท" ผมว่าเสียงอ่อย "พวกเรานัดจะไปร้านนวดแผนไทยร้านสปากัน"

"งั้นพี่ก็ตามไปง้อพี่ควินซ์ที่ร้านสิ" นับสองดีดนิ้วดังเป๊าะ "จ่ายเงินค่าคอร์สค่านวดค่าสปาให้พี่ควินซ์ หาจังหวะอธิบายยังไงพี่ควินซ์ก็ยอมฟังอยู่แล้ว พี่ควินซ์เขายอมพี่จะตาย บางทีตอนนี้พี่ควินซ์อาจจะนั่งเครียดที่ตัวเองเผลอต่อยหน้าพี่อยู่ก็ได้"

ผมจินตนาการถึงภาพควินซ์กำลังทำหน้าเครียดเพราะผมทันควันจากนั้นก็หลุดยิ้ม

แน่นอน ควินซ์ต้องคิดถึงผมและแคร์ผมอยู่แล้ว ตอนนี้ต้องหายโกรธผมแล้วแน่ๆ หรือบางทีอาจจะกำลังคิดมาง้อผมก่อนก็ได้นะ!

"ควินซ์เขาแคร์พี่มากใช่มั้ย" ผมถามอะไรโง่ๆ ออกไป

"แน่นอนสิ ดูไม่ออกรึไง"

เออ ดูไม่ออก!

ดูออกจะถามมั้ย

"แล้วมันมีโอกาสที่ควินซ์จะแอบชอบพี่อยู่บ้างมั้ย แบบแอบชอบอยู่ลึกๆ อะไรแบบนี้" ผมถามอย่างตื่นเต้นและมองนับสองอย่างคาดหวังในคำตอบ

น้องทำหน้าครุ่นคิดแล้วพยักหน้า

"ผมว่ามีโอกาสที่พี่ควินซ์จะชอบพี่นะ"

ตึกตัก ตึกตัก

"แต่อาจจะเลิกชอบไปแล้วรึเปล่า เพราะพี่ผมมันคนเจ้าชู้วววว"

ให้ความหวังและตัดความหวังกันขนาดนี้

ต่อยกันสักยกมั้ย นับสอง!


Load failed, please RETRY

Wöchentlicher Energiestatus

Rank -- Power- Rangliste
Stone -- Power- Stein

Stapelfreischaltung von Kapiteln

Inhaltsverzeichnis

Anzeigeoptionen

Hintergrund

Schriftart

Größe

Kapitel-Kommentare

Schreiben Sie eine Rezension Lese-Status: C22
Fehler beim Posten. Bitte versuchen Sie es erneut
  • Qualität des Schreibens
  • Veröffentlichungsstabilität
  • Geschichtenentwicklung
  • Charakter-Design
  • Welthintergrund

Die Gesamtpunktzahl 0.0

Rezension erfolgreich gepostet! Lesen Sie mehr Rezensionen
Stimmen Sie mit Powerstein ab
Rank NR.-- Macht-Rangliste
Stone -- Power-Stein
Unangemessene Inhalte melden
error Tipp

Missbrauch melden

Kommentare zu Absätzen

Einloggen