เมื่อนอนเต็มอิ่มแล้ว หลังจากมีเรื่องวุ่นๆ รวมทั้งต้องดูแลคนไข้เด็กเล็กที่มีอาการช็อก หมอนิลลี่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าผลการตรวจดีเอ็นเอของคนในเพิงพี่ก๊อกแก๊กออกแล้ว และมูมู่คงได้ทำการวิเคราะห์ผลแล้วว่าเป็นอย่างไร จึงได้เดินไปหามูมู่
"มูมู่ขอผลการตรวจดีเอ็นเอของพี่ก๊อกแก๊กกับภรรยาหน่อยนะ"
เมื่อได้ยินคำสั่งมูมู่ก็รีบหันไปหาดร.นิลลี่ พร้อมผลที่ได้การวิเคราะห์ไว้แล้ว "ออกแล้วจริงๆ ด้วย" นิลลี่คิดในใจ
พอดีเย็นวันนี้มีนัดสอนการทำซีพีอาร์ให้ลูกศิษย์ ทั้งสองอยู่แล้วและผลก็ไม่ได้ด่วนอะไร งั้นรอประชุมพูดคุยกันคืนนี้ก็ได้
พอตกช่วงบ่ายแก่ๆ ดร.นิลลี่ก็ได้ยินคนเดินเข้ามาในละแวกบ้านและส่งเสียง
"เห้ยเป็นไงบ้างว่ะ ได้อะไรบ้างไหม ไอ้ณัฐกับไอ้รวย"
เมื่อนิลลี่หันไปมอง เสียงสารวัตรพลนั่นเองที่เดินเข้ามาแล้วหยุดที่เพิงของรวย ได้ทักทายและสอบถามกับคนทั้ง 2
"ยังเลยหว่ะเพื่อน เมื่อวานพึ่งปล่อยหุ่นยนต์เก็บหลักฐานออกไปเอง แล้วทำไมวันนี้เอ็งขึ้นมาแล้วหว่ะ"
"ก็ใจร้อนอยากรู้ข่าวคราวว่าได้อะไรไหม รวมทั้งคิดถึงคนในบ้านหลังนี้อ่ะ"
รวยได้ยินแบบนั้น แอบอมยิ้ม ศึกชิงนางเริ่มอีกแล้ว พอดีจังหวะหมอนิลลี่เดินมาถึงที่เพิงพอดี
"สวัสดีค่ะ สารวัตร ขึ้นมาได้จังหวะพอดี วันนี้ผลดีเอ็นเอของเพิงต้องสงสัยออกพอดีเลยค่ะ"
"สวัสดีครับ คุณหมอ คิดถึงจัง"
"ไอ้เว่อร์ เออว่าไงนะ แม่หมอได้ผลการตรวจดีเอ็นเอแล้วหรือ"
"ใช่ค่ะ แต่ขอเก็บผลไว้ก่อน ไหนๆ วันนี้สารวัตรก็ขึ้นมาแล้ว ขอเรียนเชิญมานั่งเรียนการทำซีพีอาร์ด้วยกันเลยค่ะ รวยด้วย แล้ววันนี้ขออนุญาตเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารเย็น แล้วค่อยประชุมกันต่อเรื่องผลดีเอ็นเอ ดีไหมคะ"
"ยินดีอย่างยิ่งเลยครับ ได้เรียนซีพีอาร์กับคุณหมอคนเก่งด้วย ยิ่งยินดีใหญ่" สารวัตรตอบ
"แล้วถ้าวันนี้ประชุมเลิกดึก ก็ขอเชิญพักที่บ้านได้เลยนะคะ หรือจะนั่งสังเกตการณ์ที่เพิงกับคุณณัฐก็ได้ค่ะ"
"ก็ดีเหมือนกันไม่ได้ มานอนเล่นนั่งเล่นบนดอยนี้มานานแล้ว งั้นผมไม่ปฏิเสธคำเชิญครับ"
"ก็ดีเหมือนกัน เอ็งจะได้มานั่งเฝ้าดูเองว่ามีอะไรน่าสนใจน่าติดตามไหม"
แล้วหมอนิลลี่ก็ขอตัวเข้าบ้านไปเตรียมอุปกรณ์สำหรับสอนซีพีอาร์ ปล่อยให้ชายหนุ่มทั้งสามนั่งคุยกันอยู่ที่เพิง นอกจากนั้นแล้วก็ยังไปเตรียมอาหารเย็นไว้ด้วย พอถึงเวลาปั๊ปก็มีเสียงดังขึ้น
"อ้าว สวัสดีครับ สารวัตร" เสียงตุ๊ดตู่ วิ่งเข้ามาในบ้าน
"สวัสดีไอ้ตุ๊ดตู่ วันนี้ขอฝากตัวเป็นศิษย์น้องอีกคนนะ"
"เย้ วันนี้มีศิษย์น้องตั้ง 2 คนแหนะ ดีใจจัง เข้าห้องเรียนกันครับ ผมตื่นเต้นอยากเรียนเร็วๆ ศิษย์น้องณัฐอยู่ไหน รีบเข้าห้องเรียนด่วน"
แล้วตุ๊ดตู่ก็วิ่งหลาเข้าในตัวบ้านมาหาแม่หมอของเขาก่อนใคร ปล่อยให้สามหนุ่มที่เดินกึ่งวิ่งตามมาจากเพิงหน้าบ้าน พอเข้ามาในบ้านทุกคนก็ตกใจว่าอุปกรณ์การสอนซีพีอาร์นั้นพร้อมมาก มีทั้งหุ่นฝึกหัดรุ่นใหม่ มีทั้งเครื่องทำซีพีอาร์อย่างดี
"มาพร้อมกันแล้วนะคะ วันนี้มีนักเรียน 4 คนนะคะ ดังนั้นเลยเตรียมเครื่องมือไว้ให้ 2 ชุด จะได้ซ้อมกันจนคล่อง เพื่อไว้ใช้กับคนเดือดร้อนจริงๆ"
"ตื่นเต้น ตื่นเต้น" เสียงตุ๊ดตู่ยังตื่นเต้นไม่หาย
"เอาเริ่มกันเลยนะคะ ก่อนอื่นเราต้องดูว่าคนไข้หมดสติหรือไม่โดยทำการเขย่าตัวและเรียกคนไข้ แบบนี้นะ"
แล้วดร.นิลลี่ก็เข้าไปที่หุ่นพร้อมทำท่าเขย่าหุ่นพร้อมส่งเสียงเรียก "คุณๆ"
"เมื่อเรียกแล้วไม่ตอบ น่าจะหมดสติ ก็ต้องทำการตรวจว่าคนไข้หายใจหรือไม่และมีอะไรอุดทางเดินหายใจไหม"
พร้อมสาธิตให้ดูด้วยการเอาหน้าหรือมืออังบริเวณจมูกดูว่ามีการหายใจหรือไม่ และสำรวจบริเวณจมูกในลำคอว่ามีอะไรติดค้างอยู่หรือไม่
"ถ้ามีอะไรติดค้างที่คอให้ทำการล้วงออกมา อ้าวเข้าใจไหมคะ ลองทำตามแค่นี้ก่อน"
ทั้งสี่คนทำตามคุณครูโดยมีมูมู่คอยบันทึกข้อมูลการทำของคนทั้งสี่และวิเคราะห์ให้หมอนิลลี่ดู
"โอเค มากเลยทั้งสี่คนทำได้ถูกต้องและคล่องแคล่วแล้ว"
"ต่อไปก็มาตรวจว่ายังมีชีพจรหรือหัวใจยังเต้นอยู่ไหม"
แล้วหมอนิลลี่ก็สาธิตการจับชีพจรตามเส้นเลือดใหญ่ของร่างกาย
"พอตรวจทั้งหมดแล้วแน่ใจว่าคนไข้หมดสติ ไม่หายใจ ไม่มีอะไรติดอยู่ที่ลำคอ หัวใจหยุดเต้น ก็ต้องทำซีพีอาร์ โดยจะสอนการทำซีพีอาร์อย่างง่ายก่อนนะคะ และการใช้เครื่องอย่างง่ายทำอย่างไร"
"ดีใจจังผมจะได้ลองใช้เครื่องปั๊มหัวใจด้วย" ตุ๊ดตู่พูดด้วยความดีใจ
"ตามวิธีใหม่ถ้าเราไม่มีถังออกซิเจนหรือตัวช่วยเรื่องการหายใจ ไม่ต้องทำอะไรให้ไปปั๊มหัวใจอย่างเดียวค่ะ ไม่ต้องเป่าปากเหมือนแบบเก่าแล้วนะคะ"
"สมัยผมเรียนเมื่อหลายปีก่อนยังต้องเป่าปากอยู่เลย แหมเสียดาย ถ้าเจอสาวๆ อดจูบปากเลย" สารวัตรพูดทีเล่นทีจริง
"คุณหมอเขาบอกว่าไม่ต้องเป่าปากแล้วก็ไม่ต้องเป่าไง" คุณณัฐแกล้งยั่วเพื่อน
"อ้าวเดี๋ยวแยกกันเป็น 2 กลุ่มเลยนะคะ กลุ่มนึงหมอจะสาธิตให้ดู อีกกลุ่มมูมู่จะเป็นคนทำให้ดูคะ"
ได้เรื่องแหย่กันอีกตามเคย สารวัตรกับณัฐไม่ยอมกันเลยอยู่ด้วยกันและตามหมอนิลลี่ไป ส่วนตุ๊ดตู่อยู่กับรวยและดูมูมู่สาธิต หลังจากดูการสาธิตการปั๊มหัวใจอย่างถูกต้องแล้วหมอนิลลี่ก็ให้ทุกคนลองปฏิบัติ ซึ่งหุ่นที่เตรียมมาให้สามารถตอบสนองทันทีว่าทำการกดถูกต้องหรือไม่ ทำให้สามารถฝึกปฏิบัติกันได้เองและง่าย จนสามารถทำได้
"ต่อไปจะเป็นการสอนการใช้เครื่องปั๊มหัวใจแบบง่าย แบ่งเป็น 2 กลุ่มเหมือนเดิมนะ"
"ผม 2 คนขอตามแม่หมอเหมือนเดิมนะครับ" เสียงสองหนุ่มแย่งกันพูด
"สลับกันบ้างเถอะค่ะ จะได้เรียนรู้กับอาจารย์ทั้ง 2 คนไง อ้าวตุ๊ดตู่มาหาพี่มา"
"อดอยู่ใกล้ๆ คุณหมอเลย" สารวัตรพึมพำ
แล้วทุกคนได้ดูการสาธิตและการปฏิบัติกันเองจนสามารถใช้ได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว
"วันนี้พอแค่นี้นะคะ หุ่นนี่จะวางไว้ที่ห้องนี้ จำนวน 1 ตัว ทุกคนสามารถมาทบทวนวิธีการทำซีพีอาร์ได้ด้วยตนเองนะคะ เพราะหุ่นตั้งโปรแกรมไว้ให้ตอบสนองถูกผิดได้อยู่แล้ว หรือไม่แน่ใจสามารถตามหมอหรือมูมู่ได้ตลอดเลยค่ะ"
"สนุกมากเลย พี่หมอ ไว้ผมมาฝึกอีกนะครับ"
"ได้เลยจ้า แต่วันนี้พอแค่นี้เนอะ เดี๋ยวพักสักแพร๊พแล้วเรารับประทานอาหารเย็นด้วยกัน"
"ดีใจจังวันนี้ได้รับประทานอาหารฝีมือคุณหมอ" สารวัตรกล่าว
"เหมือนกันรู้จักกันตั้งนานยังไม่เคยได้ชิมฝีมือแม่หมอเลย" ณัฐพูด
"หา แกเจอกันทุกวันแต่ยังไม่เคยได้ชิมฝีมือคุณหมอหรือ ฮา ฮา ฮา"
"เออ ทำไมวะ มันแปลกตรงไหน"
"ไม่ค่อยได้ทำอาหารทานหรอกค่ะ ส่วนใหญ่อาศัยคนอื่นทำให้กิน หรือมูมู่เป็นคนทำ นานๆ จะลงมือเอง ฝีมือไม่แน่ใจว่าจะทานกันได้ไหม"
"ให้เวลาพักก่อนสัก 15 นาที แล้วเดี๋ยวมาทานอาหารกันค่ะ"
อาหารเย็นวันนั้นหมอนิลลี่ผู้ซึ่งทำอาหารไม่เป็น กับต้องมาลงมือทำอาหารเองเพราะเกรงใจคนอื่น ก็เลยทำอย่างง่ายๆ คือ ข้าวผัดหมู ไข่ดาว และก็แกงจืดเต้าหู้ โดยเมื่อทุกคนพร้อมกัน และลงมือรับประทานอาหารนั้น
"ฝีมือพี่หมอนี่ แปลกๆ นะ" ตุ๊ดตู่บอก
"แปลกที่ว่านี่กินได้หรือไม่ได้อ่ะ"
"กินได้ครับ แต่รสชาติมันงงๆ ไม่เหมือนข้าวผัดที่เคยกินเท่านั้น" แล้วก็ทำหน้างงๆ ณัฐได้โอกาสพูดเสริมว่า
"กินได้สบายครับ รสชาติคงแบบคนกรุงเทพหน่ะ ศิษย์พี่ ไม่มีอะไรหรอก"
พูดเสร็จณัฐก็รีบหลบหน้า เพราะอาหารมื้อนั้นรสชาติไม่ธรรมดาจริงๆ จะว่าไม่อร่อยก็ไม่ใช่ จะอร่อยก็ไม่เชิง บอกไม่ถูก แต่สุดท้ายก็กินกันจนหมดเกลี้ยงอยู่ดี
หลังอาหารก็ได้เวลาประชุมบอกผลการตรวจดีเอ็นเอและประชุมวางแผนการทำงานกันต่อไป
"อ้าว ลองทายสิว่าผลการตรวจออกมาเป็นอย่างไรบ้าง"
"ดูจากสีหน้าของคุณหมอ ผมว่าได้เบาะแสบางอย่างแล้วแน่เลย" สารวัตรบอก
"ใช่ค่ะ ผลการตรวจดีเอ็นเอ ออกมาพบว่าแม่นิ่มภรรยาของพี่ก๊อกแก๊กเกี่ยวข้องกับคอกหมูที่ตายค่ะ"
"หา เป็นคนที่ผมไม่คิดถึงเลย ดูท่าทางเป็นผู้หญิงอ่อนแอขนาดนั้น" ณัฐพูด
"หมอเองก็แปลกใจและตกใจมากค่ะ ว่าเป็นแม่นิ่มได้อย่างไร มิน่าพวกคุณถึงไม่เก็บตัวอย่างเส้นผมมาให้"
"แต่ผมกลับไม่แปลกใจเลยนะครับ เพราะสภาพของเพิงหลังนั้นมีอะไรแปลกๆ แน่ๆ" รวยเสนอความคิดเห็น
"คนร้ายนี่เก่งนะ ใช้ผู้หญิงที่อยู่กับชายพิการเป็นคนลงมือ ทำให้เบี่ยงเบนความสนใจได้เยอะเลย ทำให้ทุกคนคิดไม่ถึง" สารวัตรออกความเห็นเช่นกัน
"แล้วหุ่นยนต์เก็บหลักฐานวางแผนไว้การเก็บหลักฐานเพิ่มเติมอย่างไรบ้างครับ" สารวัตรพลหันมาถามทางหมอนิลลี่
"พวกเราก็ทำตามที่สารวัตรแนะนำคะ แต่เพิ่มจำนวนของหุ่นยนต์เนื่องจากได้วางแผนไว้ว่าให้กลับมาส่งหลักฐานวันละครั้ง นี่ก็ใกล้จะกลับมาสำหรับหลักฐานรอบแรกแล้วคะ"
"แล้วพอได้หลักฐานมาคุณหมอต้องใช้เวลานานเท่าไหนครับถึงจะพอบอกอะไรได้บ้าง"
"แล้วแต่จำนวนของหลักฐาน ความยากง่ายด้วยคะ บอกไม่ได้ แต่นี่เดี๋ยวกลับมาก็จะทำการวิเคราะห์เลยค่ะ พรุ่งนี้ช่วงสายๆ ก็น่าจะมีผลอะไรบางอย่างบ้างแล้ว"
"งั้นก็คงต้องรอถึงพรุ่งนี้ช่วงสายถึงจะรู้ว่ามีอะไรหรือไม่ ก็คงต้องรบกวนคุณหมอด้วยนะครับ" สารวัตรคำนวณเวลา
"เอาหล่ะ ยังไงเราก็มีข้อมูลได้บุคคลเพิ่มมาบ้างแล้ว ข้าว่าแยกย้ายกันไปพักผ่อนดีไหม" ณัฐเอ่ยบ้าง อยากให้หมอนิลลี่ได้พักสักหน่อย ก่อนที่หลักฐานจะมาแล้วทำให้หมอไม่ได้นอนอีก
"ผมว่าคุณหมอไปนอนสักงีบก่อนหุ่นยนต์เก็บหลักฐานจะกลับมาดีกว่าครับ เพราะผมรู้นิสัยคุณหมอพอได้หลักฐานมาก็จะลุยทำการวิเคราะห์เลย" ณัฐหันมาสั่งดร.นิลลี่
"ก็ดีเหมือนกันค่ะ คืนนี้ดูท่าทางก็คงจะยาวอีกตามเคย"
หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไป โดยตุ๊ดตู่กลับบ้าน สามหนุ่มก็ไปนั่งสังเกตการณ์ที่หน้าบ้านรวมทั้งรอให้หุ่นยนต์เก็บหลักฐานบินกลับมาด้วย
หมอนิลลี่เข้าไปพักผ่อนนอนได้สักงีบ หุ่นยนต์เก็บหลักฐานชุดแรกก็กลับมา พอนำข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์และมูมู่ทั้งหมดแล้วก็ปล่อยให้หุ่นยนต์ได้พักแล้วก็ปล่อยออกไปใหม่ในช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น
หมอสาวน้อยก็อดนอน ตามระเบียบ ต้องนั่งรวบรวมหลักฐานที่ได้มาวิเคราะห์ร่วมกับหลักฐานต่างๆ ที่มีแล้วมา สรุปอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งผลการวิเคราะห์เป็นที่น่าสนใจยิ่ง จนเธออดใจรอให้ถึงช่วงสายไม่ไหว เมื่อเธอทำการวิเคราะห์ข้อมูลเสร็จก็รีบไปปลุกชายหนุ่มทั้งสาม ทั้งที่ยังเป็นเวลาตีสามอยู่เลย เพื่อมาวิเคราะห์วางแผนต่อว่าจะทำอะไร
"ตื่นๆ ค่ะ มีผลวิเคราะห์ออกแล้ว" นิลลี่มาเรียกทั้ง 3 คนที่เพิงหน้าบ้าน
"มีอะไรหรือครับ ดูตื่นเต้น รีบร้อนชอบกล แสดงว่าเจออะไรแน่นอน" ณัฐขยับมาตอบแล้วก็รีบลุกขึ้น
"ไปกัน ไอ้พล ไปฟังหมอนิลลี่เขาบอกผลการวิเคราะห์ข้อมูล ไปพี่รวย ตื่นๆ" แล้วณัฐก็หันไปปลุกเพื่อนและรวย
เมื่อทั้ง 4 คนพร้อมกันที่บ้านของนิลลี่แล้ว
"มูมู่ฉายผลทั้งหมดลงโปรเจคเตอร์นะ" หมอนิลลี่หันไปสั่งมูมู่
"อืม" เมื่อสารวัตรเห็นข้อมูลถึงกับอึ้ง หันไปมองรวย ส่วนณัฐยังมองข้อมูลไม่ออกว่ามีอะไรน่าสนใจ
"หุ่นยนต์ของคุณหมอนี่ใช้ได้เลยครับ หาข้อมูลเก่งสุดๆ" พลเอ่ยปากชมหมอนิลลี่
"ข้อมูลมันมีอะไรน่าสนใจว่ะ ไอ้พล"
"แกก็รอคุณหมอเล่าให้ฟังสิว่ะ ใจเย็น"
"แสดงว่าสารวัตรมองเห็นแล้วใช่ไหมค่ะ ว่าข้อมูลเป็นอย่างไร เอางั้นคุณณัฐฟังนะคะ จากหลักฐานตอนนี้เราพบว่า มีคนเข้าออกที่เพิงของพี่ก๊อกแก๊กจริงและคนดังกล่าวนั้นเกี่ยวข้องกับไร่ฝิ่นด้วย เพราะมีการเดินทางไปมาระหว่างทั้ง 2 ที่นอกจากนั้นยังพบลายนิ้วมือของคนดังกล่าวอยู่ด้วย และหุ่นยนต์ได้เก็บตัวอย่างมาเพื่อรอตรวจดีเอ็นเอด้วย คงต้องรอทำพรุ่งนี้ก่อนถึงจะรู้ว่าเป็นอย่างไร"
"แล้วคนที่เข้าออกที่ว่านี่จากข้อมูลตอนนี้บอกได้ไหมว่าเป็นใคร"
"เดี๋ยวต้องรอผลดีเอ็นเอก่อนค่ะ ถ้าเป็นคนในหมู่บ้านก็คงบอกได้เลย เพราะเรามีข้อมูลครบแล้ว แต่ถ้าเป็นคนนอกหมู่บ้านคงต้องพึ่งสารวัตรค่ะ"
"แต่ผมว่ายังไงรอผลก่อนก็ได้ครับ" สารวัตรว่า
"แต่ข้อมูลที่ได้นั้น มีอะไรมากกว่านั้นค่ะ คือ พอก๊อกแก๊กได้รับการรักษาจนพอที่จะเดินเหินได้ หมอพบว่าก๊อกแก๊กและภรรยาเองก็มีการเดินทางไปที่ไร่ฝิ่นด้วย ซึ่งตรงนี้ก็งงเหมือนกันว่าไปทำอะไรที่นั่น ทั้งที่ก็มีคนลึกลับไปมาตลอด"
"อ่อ หรือจริงๆ เขาไม่ได้พิการ" ณัฐเริ่มสงสัย
"เขาพิการจริงค่ะ ผลการตรวจบอกอย่างนั้น ไม่มีทางปลอมเป็นคนพิการแล้วมูมู่ตรวจไม่พบค่ะ"
"ได้ข้อมูลมาเพิ่มเยอะทีเดียว แค่ปล่อยหุ่นออกไปวันเดียว มัวแต่งมเข็มในมหาสมุทรกันอยู่ตั้งนาน" สารวัตรกล่าวเสริม
"ข้อมูลมีแค่นี้ค่ะ รอผลตรวจดีเอ็นเอก็ต้องรอเวลาสักวันนึง ตอนนี้ก็ต้องรอหุ่นยนต์เอาหลักฐานมาเพิ่ม แต่ก็ไม่น่าจะมีอะไรมากไปกว่านี้ในช่วง 1-2 วันนี้"
"เอางี้แล้วกัน เดี๋ยววันนี้ผมลงไปที่สถานีตำรวจก่อนไปสะสางงาน สั่งงานลูกน้อง แล้วเดี๋ยวช่วงเย็นผมจะขึ้นมาอยู่ที่นี่สักอาทิตย์ จะได้ช่วยเก็บข้อมูลและอาจจะช่วยคุณหมอวิเคราะห์ผลด้วย" สารวัตรเริ่มวางแผนการสืบเสาะต่อ
"มีคนช่วยวิเคราะห์ข้อมูลก็ดีเหมือนกันค่ะ 2 หัวดีกว่าหัวเดียว ดูแล้วสารวัตรเองก็มีความรู้ในการวิเคราะห์ผลด้วยแอพลิเคชั่นไม่น้อย"
"แล้วผมกับพี่รวยจะให้ช่วยทำอะไรได้บ้างครับ"
"ยังไงก็ยังต้องการคนอยู่ดี หุ่นยนต์ก็ทำงานได้บางส่วน คนก็ต้องมาคอยเก็บรายละเอียดเพิ่มเติม เอ็งกับไอ้รวยก็นั่งเก็บข้อมูลของเพิงหลังนั้นต่อไป"
"เกือบลืม ข้ารู้จักกับคนในเพิง ไว้ข้าจะเข้าๆ ออกๆ รวมทั้งคุณหมอก็เข้าๆ ออกๆ เพิงนั้นได้เพราะช่วยรักษาอาการป่วยของคนเพิงนั้นไว้" ณัฐเริ่มช่วยวางแผนการทำงาน
"ดีงั้นทุกคนช่วยกันเก็บข้อมูล จะได้หาตัวคนร้ายได้เร็วขึ้น" สารวัตรว่า
"ส่วนข้อมูลเรื่องคุณนิ่มเป็นคนเอาเชื้อโรคไปปล่อยใส่หมูคงยังเก็บไว้ก่อน จะได้จับคนสั่งการได้ ไม่งั้นบอกตอนนี้ คนร้ายจะไหวตัวทัน" รวยช่วยเสริม
"ตามนี้แล้วกัน แยกย้าย" สารวัตรบอก
เนื่องจากใช้เวลาคุยกันนานพอสมควร ฟ้าสางพอดี ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ส่วนของตน ส่วนสารวัตรก็เดินทางลงไปที่สถานีตำรวจ
หมอนิลลี่เองอดนอน และก็ช่วงนี้คนไข้มาหาที่บ้านน้อยเนื่องจากถูกขับไล่ และชาวบ้านส่วนใหญ่ก็เชื่อพ่อหมอมากกว่าหมอนิลลี่ เลยมีเวลาไปอาบน้ำอาบท่ากินข้าวเช้าและพักผ่อนสักงีบ
อย่างน้อยก็มีข้อมูลอะไรออกมาบ้างที่พอจะบอกว่าเป็นข่าวดีและคลายปมออกมาได้บางส่วนแล้ว รอลุ้นกันต่อไปว่าปมจะถูกคลายออกมาได้หมดหรือไม่
อ่านแล้วชอบไหม เพิ่มในคลังหนังสือเลยสิ!