"ท่านต่อไปครับ"ชายหนุ่มขานเรียกลูกค้าคนต่อไปด้วยความเบื่อหน่ายในร้านสะดวกซื้อ
"สวัสดีคะ เจอกันอีกแล้วนะคุณพนักงาน"หญิงสาวผู้เป็นลูกค้าคนถัดไปกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้มที่สดใส
"เออ คุณคือคุณนิมโพทาร์ ใช่ไหมครับ"ชายหนุ่มที่กำลังก้มหน้าจะคิดเงินก็เงยหน้าขึ้นมามองลูกค้าตรงหน้า ก่อนจะทำท่าทางนึกเล็กน้อยแล้วตอบกลับไป
"ใช่แล้วค่ะ แต่เรียกชื่อตรงๆก็ได้นะคะ"
"ครับ"ชายหนุ่มขานรับแล้วกดหน้าคิดเงินต่อ
"...."
"ทั้งหมด 4 รายการ 142 มีเธี่ยมครับ"หลังจากคิดเงินสดเค้าก็ยื่นของให้พร้อมกับเรียกเก็บเงิน
"จ่ายบัตรค่ะ"เธอก็ยื่นบัตรให้
"เรียบร้อยครับ โอกาสหน้ามาใหม่นะครับ"ชายหนุ่มคืน
"ก่อนจะไปขอทราบชื่อ? ได้ไหมคะ"เอชาเน่รับบัตรและถุงสินค้าแล้วทำท่าจะเดินออกไป แต่ก็หันกลับมาถามบางอย่าง
"ครับ?"ชายหนุ่มทำอะไรไม่ถูกกับคำถามที่กระทันหันนี้
"ได้ไหมคะ?"เธอถามซ้ำอีกครั้ง
"เออ แจ็กเกอร์ ดีลักค์ครับ"เค้าที่เห็นเธอถามย้ำอีกครั้งจึงตอบออกไป
"ขอบคุณคะ"เอชาเน่หลังจากที่ได้คำตอบก็เดินออกจากร้านไป
ชายหนุ่มที่ก็มองตามเธอที่ค่อยๆห่างออกไป
"ไม่เลวหนิพี่ชาย"ลูกค้าคนที่ต่อแถวด้านหลังเอชาเน่ที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเดินขึ้นมาข้างหน้าต่อจากเธอแล้วแซวชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มกรุ่มกริ่ม
หลังจากเอชาเน่ออกมาจากร้านสะดวกซื้อเธอก็เดินไปยังร้านกาแฟนแห่งนึงที่อยู่ไม่ไกลนัก
"ได้ข้อมูลมาไหมพี่"เอชาเน่เดินเข้านั่งที่โต๊ะเดียวกับผู้ชายคนนึงก่อนจะเยถามขึ้น
"อืม คนๆนี้หน้าสนใจอย่างที่เธอพูดไม่มีผิด นอกจากชื่อกับประวัติข้อมูลเล็กน้อยแล้ว ข้อมูลประวัติอื่นในระบบเหมือนจะเป็นข้อมูลปลอมหมดเลย"ชายหนุ่มผมสีขาวหน้าตาหล่อเหลาตอบคำถามของเธอพลางหยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมาเปิดดู
"แล้วพี่ได้เจาะลึกเข้าไปไหม"
"มาขนาดนี้แล้วพี่หรอจะไม่ทำ แต่ขนาดใช่เครือข่ายตระกูลเราแล้วสิ่งที่ได้ก็คือนี้"ชายหนุ่มผมขาวยื่นแฟ้มหน้านึงให้เอชาเน่อ่าน
"ความลับราชการระดับสูงสุด"
"ความลับราชการระดับสูงสุดงั้นหรอ นี้มันหมายความว่ายังไงกันพี่"เมื่อเอชาเน่ได้อ่านมันก็ถึงกับเบิกตากว้าง แต่กิริยานี้กับทำให้เธอดูน่ารักมากกว่าเดิม
"ก็ตามที่เธอเห็น ความลับราชการระดับสูงสุด ข้อมูลของคนๆนี้ถูกรัฐบาลควบคุมไว้อย่างแน่นหนามีเพียงผู้เกี่ยวข้องไม่กี่คนที่เข้าถึงได้ สรุปก็คือชายคนนี้เป็นที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลอย่างลึกซึ้งแน่นอน ว่าแต่สิ่งที่เธอส่งมาแน่ใจนะว่าถูกต้อง"
"ใช่แล้วหนูมั่นใจ1000%เลย ในตอนที่ประตูกำลังจะเปิดหนูสัมผัสได้ถึงการใช้เวทมนต์บางอย่างที่ประตู จากนั้นเหตุการณ์ก็เป้นไปตามที่ทุกคนเห็น แล้วสัญชาตญาณของหนูก็บอกให้หันไปมองทางนั้นแล้วก็เจอกับแผ่นหลังของคนๆนี้ที่กำลังเดินจากไป"เมื่อเอชาเน่คิดถึงเหตุการณ์เมื่อหลายวันก่อนเธอก็เชื่อว่าชายคนนั้นเป็นคนทำให้เกิดเหตุการณ์ผิดปกตินั้น
"ถ้าเป็นอย่างที่เธอว่าชายคนนี้ก็อยู่อย่างน้อยระดับ 5 เลยนะ"
"ระดับ 5! เป็นไปไม่ได้ ระดับ 5 ที่ไหนจะมาเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ ต่อให้เจ้าตัวยอมทำ พวกคนที่นั่งเก้าอี้แล้วชี้นิ้วในสภาคงไม่ยอมหรอก ระดับ 5 เลยนะ เป็นระดับระดับเดึยวกับพ่อของพวกเราเลยนะ"เอชาเน่ที่ได้ยินคำพูดของชายผมขาวถึงกับตกใจ โดยปกติแล้วผู้พิชิตจะแบ่งระดับความแข็งแกร่งได้เป็น 1-6 ดาว และเธอรู้ดีว่าระดับ 5 ดาวนั้นแข็งแกร่งและสำคัญต่อมนุษย์แค่ไหนเพราะพ่อของเธอก็เป็นระดับ 5 เช่นเดียวกัน ถึงแม้เธอจะเชื่อว่าแแจ็กเกอร์ ดีลักค์คนนั้นจะมีความลับบางอย่างแต่การเป็นระดับ 5 นี้มันก็เหลือเชื่อเกินไปสำหรับเธอ
"ก็ถ้าชายคนนั้นเป็นคนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ประหลาดนั้นจริงมันก็มีแค่ความเป็นไปได้นี้เท่านั้นแหละ"
"นี้มัน..."เอชาเน่ที่ไม่สามารถปฏิเสธสิ่งที่ชายตรงหน้าพูดตอบโต้กลับไปไม่ถูก
"เรื่องนี้เอาไว้เท่านี้ก่อนพี่มีธุระต้องไปทำก่อนไปหละ ยังไงก็ตามช่วงนี้ก็อย่าเข้าใกล้คนๆนี้เกินไปหละ"ชายหนุ่มผมขาวลุกขึ้นเดินจากไป
"พี่ นี้ธุระอีกแล้วหรอ วันก่อนก็ทำหนูเกือบแย่ไปแล้วนะ อย่างน้อยวันนี้ก็จ่ายค่ากาแฟก่อนสิพี่"เอชาเน่พยายามเรียกชายหนุ่มกลับมาแต่ชายหนุ่มยังคงเดินออกพลางโบกมือให้เธอ จนเธอต้องยอมกลับมานั่งจ๋อยที่เดิม
"ระดับ 5 นี้มันจะเป็นไปได้ด้วยหรอเนี้ย"
กลางดึกคืนนั้น ชายคนนึงกำลังอ่านข้อความบนโทรศัพท์มือถือบนยอดตึกแห่งนึง
'เรื่องวันก่อนขอบคุณมาก หลังจากที่รายงานส่งมาก พวกเบื้องบนก็วุ่นวายกันใหญ่ทั้งเรื่องอสูรระดับ 4 ที่ออกมาจากประตูและเรื่องที่แกยอมเคลื่นไหว แต่ฉันจัดการให้แล้ว แล้วก็มีคนจากตระกูลนิมโพทาร์พยายามเจาะข้อมูลของแก แกจะให้จัดการเป็นพิเศษไหม'
"นิมโพทาร์ เอชาเน่ นิมโพทาร์"
"จะทำอะไรก็ทำไปเถอะ เพราะยังไงเธอก็ไม่อาจรับรู้ถึงความจริงของโรงละครที่หลอกลวงแห่งนี้ได้"
แจ็กเกอร์กล่าวออกมาหลังจากที่ได้อ่านข้อความนั้นก่อนที่ร่างกายเค้าจะค่อยๆสลายกลายเป็นฝุ่นสีดำแล้วสลายหายไปท่ามกลางความมืด
ในขณะเดียวกัน ณ ชายแดนของดินแดนที่ 7 มีเสียงกรีดร้องและระเบิดมากมายไม่ไกลจากกำแพงขนาดใหญ่
"แย่แล้ว มันติคอร์ 3 ตัวกำลังมุ่งมาทางนี้"ชายคนนึงได้ร้องตะโกนเตือนคนอื่นท่ามกลางสนามรบที่เต็มไปด้วยอสูร
"มันติคอร์ ระดับ 4 นี่ ปกติพวกนี้มันไม่รวมกลุ่มกันไม่ใช่หรอ"
"ผู้พิชิตระดับ 5 ยังไม่มาสักคนหรอแบบนี้พวกเราได้ตายหมู่ยกคณะกันแน่"
"แย่แล้วแบบนี้พวกเราต้องรีบถอยทัพก่อน"
"อ๊ากกก ช่วยด้วยแขนชั้น"
หลังจากเสียงเตือนเมื่อครู่ เหล่าผู้พิชิตที่กำลังต่อสู้กับอสูรอยู่ต่างก็เสียสมาธิทำให้บางคนเสียท่าโดนเล่นงาน แต่ทว่าจู่ๆก็มีสิงโตสีครามกระโจนเข้าใส่่อสูรที่กำลังพยามกระชากแขนของคนๆนึงให้ขาดอยู่
อ๊ากกกก
หลังจากที่สิงโตตัวนั้นกระโจนเข้าใส่อสูรก็กลายเป้นเปลวเพลิงสีครามแผดเผาอสูรตนนั้นจนกรีดร้องและดิ้นทุรนทุราย
"การโจมตีนี้มันไม่ผิดแน่"
ทหารคนนึงที่เห็นเหตุการณ์หันไปมองทางที่สิงโตสีครามกระโจนมา ก็พบกับชายวัยกลางคนผมสีขาวที่คาบซิก้าไว้ในปากกำลังกอดอกมองสถานการณ์ตรงหน้าอยู่
"เห มันติคอร์ 3 ตัวเลยงั้นหรอ คราวนี้คงมีแผลไปให้เอช่าน้อยของเราบ่นอีกแน่นอน"
ชายคนนั้นสูดซิก้าเข้าไปสูดใหญ่ก่อนจะอ้าปากปล่อยทิ้งออกมา แต่ก่อนที่ซิก้าแท่งนั้นจะร่วงถึงพื้นปลายที่ถูกเผาด้วยความร้อนจนกลายเป็นเถ้าจู่ๆก็มีไฟสีครามลุกขึ้นมากลืนกินซิก้าจนกลายเป็นเถ้าหมดทั้งแท่ง
"เพลิงสีครามพรจากทวยเทพเอ่ย จงกลายเป็นราชันแห่งสัตว์ป่าแล้วกลืนกินเหยื่อของเจ้า"
"เลโอเน่บูคาลัซ"
ชายวัยกลางยื่นมือข้างนีงออกมาข้างหน้าแล้วร่ายคาถาแล้วเกิดวงเวทไปทั่วสนามรบ จากนั้นเมื่อคาถาจบก็มีสิงโตสีครามเหมือนหมู่ครู่โผล่ออกมาจากวงเวทแล้วกระโจนเข้าแผดเผาเหล่าอสูรทั่วสนามรบจนหมด
"ไชโยเรารอดแล้ว"
"ท่านโพมีเธี่ยนทรงโปรด"
"ฉันรอดชีวิตแล้วนะเพื่อน ฉันรอดชีวิตแล้ว
"ขอบคุณที่ช่วยชีวิตค่ะ ท่านอาเซน่อน"
หลังจากที่เห็นเหล่าอสูรถูกเผาจนหมดเหล่าผู้ที่เหลือรอดจากสมรภูมิก็ส่งเสียงกู่ร้องกัน บ้างก็ยินดีกับชีวิตที่มีอยู่ บ้างก็โศกเศร้ากับสหายที่เสียไป และบ้างก็ขอบคุณชายวัยกลางคนที่ช่วยชีวิตตน
"สติกันก่อนเหล่าผู้พิชิตเอ่ย ของจริงกำลังจะมาแล้ว"อาเซน่อนผู้นั้นได้ตะโกนเตือนสติเหล่าทหารผู้ที่กำลังสัมผัสกับชีวิตที่เหลือรอดของตน
คว๊ากกกกกก
ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องของอสูรดังมาจากไม่ไกล
"มาแล้ว ทุกคนเตรียมพร้อมรบ คนที่บาดเจ็บหนักให้ถอยไปอยู่แนวหลัง ฉันให้สัญญาชีวิตของพวกแก ราชสีห์เพลิงคราม อาเซน่อน นิมโพทาร์ ผู้นี้จะปกป้องให้เอง!!!"
จบตอน
มีความเห็นเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้ใช่รึเปล่า คอมเมนต์มาได้เลยไรต์อยากฟัง