บทที่ 6 : ซักเสื้อผ้า!
----------------------------------------------------------------
Teepo >> แปล
CM >> ตรวจ
TurKish_TEA >> เช็ก + เกลา
********************************
วันอาทิตย์
ยามเช้า เจ็ดนาฬิกา
จางเย่ตื่นเต้นดีใจจนนอนไม่หลับทั้งคืน มัวแต่พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงวาดฝันถึงอนาคตอันสวยงาม ทันใดนั้นเขาได้ยินเสียงที่ประตู คนที่มีกุญแจห้องนี้มีแค่เขากับเจ้าของห้องเช่าเท่านั้น แม้แต่พ่อแม่ก็ยังไม่มี ไม่ต้องถามก็รู้ว่าแขกที่ไม่ได้เชิญต้องเป็นคุณน้าเจ้าของห้องอย่างแน่นอน
ห้องเล็กๆ นี้ไม่มีห้องรับแขก เปิดประตูมาก็เจอเตียงนอนทันที
เสียงทรงเสน่ห์แบบผู้ใหญ่ของเหราอ้ายหมิ่นลอยมา “เจ้าหนู หลับอยู่เหรอ?”
จางเย่แตะจมูกแล้วพลิกตัว “ตื่นแล้วครับ มาหาผมมีอะไรเหรอ?”
เหราอ้ายหมิ่นนั่งลงบนเตียงนอนก่อนยิ้มแล้วกล่าว “ในเมื่อนายได้งานที่สถานีวิทยุแล้ว พรุ่งนี้จะไปรายงานตัวเริ่มงาน ค่าเช่าที่ค้างพี่สาวไว้ไม่ควรต้องจ่ายหรอกเหรอ?” พูดจบก็หยิบเครื่องคิดเลขออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ราวกับเล่นกล จิ้มจึกๆ อยู่สองสามที “เดือนนี้มีค่าอินเทอร์เน็ตด้วย นายต้องจ่ายเพิ่มอีกแปดสิบ”
จางเย่อ้าปากหาว “คุณพูดว่าอะไรนะ?”
เหราอ้ายหมิ่นกล่าวซ้ำ “ได้ยินไม่ชัด? ฉันบอกว่าค่าเช่าเดือนนี้รวมเบ็ดเสร็จสองพันหกร้อยหกสิบหก”
จางเย่กล่าว “ไม่ใช่ ประโยคแรกที่คุณพูดตอนเข้ามาน่ะอะไร?”
เหราอ้ายหมิ่นกะพริบตาปริบ “ประโยคแรก? เจ้าหนู หลับอยู่เหรอ?”
จางเย่พลิกตัวดึงผ้าห่มคลุมโปงทันที “หลับอยู่!”
“เฮ้ย แกไอ้เด็กเวร!” เหราอ้ายหมิ่นอึ้งก่อนรู้สึกตัว ยกมือขึ้นตบผลัวะใส่ต้นขาของจางเย่ที่อยู่ใต้ผ่าห่ม “อยากเจ็บตัวใช่ไหม? ลุกขึ้น! อย่ามาแกล้งตายใส่เหล่าเหนียงนะ! ไม่มีปัญญาจ่ายค่าเช่าก็เก็บกวาดทำความสะอาดทำงานบ้านให้ฉันซะ! ใช้คืนมาทีละนิดทีละหน่อย!”
จางเย่บอกอย่างหน้าไม่อาย “ผมขอนอนต่อก่อนนะ”
“ฉันให้เวลานายครึ่งชั่วโมง แปดโมงฉันจะรอนายอยู่ที่บ้าน” เหราอ้ายหมิ่นเดินจากไปด้วยสีหน้ามึนตึง
มาเจอเจ้าของห้องเช่าที่รักเงินทองเท่าชีวิต จางเย่ได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน ก็เดือนนี้ใครใช้ให้เขาไม่มีเงินจริงๆ ล่ะ ต้องคลานลุกจากเตียงมาแปรงฟันล้างหน้า
จริงสิ ดูแหวนเกมหน่อยดีกว่าว่าเป็นอย่างไรบ้าง อนาคตข้างหน้าจะได้เป็นคนดังหรือไม่ก็ต้องพึ่งพาอาศัยเจ้านี่สถานเดียวเท่านั้น
เมื่อเปิดขึ้นมาดู เขาก็พบว่าค่าชื่อเสียงของตัวเองเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดฝัน เมื่อวานนี้เขาซื้อลอตเตอรี่ไปหนึ่งแสนจนทำให้เหลือค่าชื่อเสียงแค่ 99,983 จุด แต่ตอนนี้มันกลับเพิ่มมาเป็น 99,999 แล้ว ไม่ต้องถามก็รู้ว่านี่ต้องเกี่ยวข้องกับการสัมภาษณ์งานอย่างแน่นอน เขาทำได้ดีถึงขนาดนั้น ทั้งยังท่อง ‘บทเพลงแห่งนกนางแอ่นผู้กล้าหาญ’ ที่โด่งดังที่สุดของกอร์กี้ออกไปอีก ทำให้ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้นนิดหน่อย ตอนนี้ขาดอีกแค่หนึ่งจุดเขาก็จะสามารถเสี่ยงลอตเตอรี่ได้แล้ว ค่าชื่อเสียง — ในทางทั่วไปถือเป็นเรื่องที่ธรรมดาสามัญ แต่ในมุมมองของเกมกลับเป็นคำที่คลุมเครือมาก อืม ยังไม่รู้ชัดเลยว่าค่าชื่อเสียงนี่สุดท้ายแล้วเพิ่มขึ้นได้อย่างไร ไปทำงานบ้านให้คุณน้าเจ้าของห้องดีกว่า ดูสิจะได้ค่าชื่อเสียงไหม ขอแค่แต้มเดียวก็พอ!
ทันใดนั้น ตรงทางเดินก็มีเสียงตะโกนดังลั่น “จางน้อย!”
จางเย่เพิ่งรู้ตัวว่าแปดโมงแล้วจึงรีบสวมรองเท้าแตะวิ่งไปบ้านของคุณน้าเจ้าของห้องทันที ทั้งตึกสำนักงานและตึกพักอาศัยต่างมีทางเดินเป็นแนวยาว ตามทางเดินเส้นนี้แทบทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของเหราอ้ายหมิ่น การเป็นเจ้าของห้องชุดยี่สิบกว่าห้องในเมืองหลวง ในย่านที่ที่ดินแพงยิ่งกว่าทองแบบนี้ ต้องนับว่าเธอเป็นเศรษฐีนีน้อยตัวจริงเสียงจริง แต่น่าแปลกที่ทั้งจางเย่และผู้เช่าคนอื่นซึ่งอยู่ที่นี่มานาน กลับไม่เคยเห็นพี่สาวใหญ่เหรามีญาติพี่น้องที่ไหน เพื่อนก็ไม่มี ทั้งไม่ได้แต่งงานและไม่มีลูก ไม่มีใครเคยเห็นพี่สาวใหญ่เหราทำงาน ดังนั้นในสายตาของทุกคน เจ้าของห้องเช่าคนงามนี้จึงเป็นปริศนามาก ไม่มีใครรู้ว่าเธอร่ำรวยขนาดนี้ได้อย่างไร
บ้านของเหราอ้ายหมิ่นอยู่บนชั้นนี้เช่นกัน เป็นห้องชุดแบบลอฟต์*ที่ใหญ่ที่สุดในชั้น เหมือนคอมเพล็กซ์ขนาดเล็ก ชั้นบนและล่างรวมกันมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าหนึ่งร้อยตารางเมตร
จางเย่เปิดประตูแล้วเข้าไปข้างในทันที “คุณน้าเจ้าของห้อง ผมมาแล้ว”
เหราอ้ายหมิ่นเหน็บแนม “ชาติก่อนเป็นหมูหรือไงห๊ะ? อืดอาดยืดยาดเสียจริงกว่าจะลุกจากเตียงได้!”
จางเย่อธิบาย “เมื่อวานดีใจมากไปหน่อยครับ นอนไม่หลับทั้งคืน ตอนนี้ยังง่วงอยู่เลย”
“ก็แค่ตำแหน่งดีเจวิทยุเล็กๆ ไม่ใช่เรอะ ทำท่าซะ?” เหราอ้ายหมิ่นตอกเข้าให้ “วงการวิทยุตอนนี้มันไม่เหมือนเมื่อยี่สิบปีก่อนหรอกนะ สมัยนี้มีทั้งโทรทัศน์ทั้งอินเทอร์เน็ต จะเหลือคนฟังวิทยุสักกี่มากน้อย?”
จางเย่เข้าใจดีเช่นกันว่าวงการวิทยุได้ผ่านจุดรุ่งโรจน์ไปแล้ว เขาถอนหายใจ “เฮ้อ ถ้าแม่ให้ผมเกิดเร็วกว่านี้สักห้าสิบปีก็คงจะดีหรอก จะได้ทันคว้าโอกาสดีๆ กับเขาบ้าง”
เหราอ้ายหมิ่นหัวเราะเยาะ “แม่นายเพิ่งจะห้าสิบ จะให้นายเกิดเร็วกว่านี้ห้าสิบปีได้ยังไง? นายคิดว่าแม่นายเป็นนางพญางูงั้นสิ!”
จางเย่ “...”
เจ๊ปากอสรพิษยิ่งพูดยิ่งร้าย!
เหราอ้ายหมิ่นเริ่มออกคำสั่ง “เลิกพูดจาไร้สาระ รีบๆ ทำงานได้แล้ว!”
จางเย่ถลกแขนเสื้อขึ้น “ได้เลย คุณบอกมาเลยว่าจะให้เก็บกวาดตรงไหนบ้าง วันนี้ผมจะจัดการงานบ้านของคุณให้เอง”
“เช็ดกระจก กวาดพื้น ซักผ้าปูที่นอน แล้วก็เสื้อผ้าฉันทั้งหมดด้วย” เหราอ้ายหมิ่นหย่อนก้นลงบนโซฟา รินน้ำชาให้ตัวเองอย่างสบายอารมณ์ นั่งไขว่ห้างวางมาดเจ้าของห้องเต็มที่ วันนี้เธอสวมเชิ้ตกระโปรงที่ไม่ได้ทันสมัยตามแฟชั่นกับรองเท้าส้นเตี้ยสีดำ แต่งตัวดูเชยนิดหน่อย แต่คนสวยจะใส่อะไรก็ยังสวย
เฮ้อ ทำงานเถอะ
จางเย่ลงมือปัดกวาดเช็ดถู
เหราอ้ายหมิ่นเป็นพวกปากว่างไม่ได้ เดี๋ยวๆ ก็ต้องจิกกัดจางเย่เสียทีหนึ่ง “นายถูประสาอะไรน่ะ ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามาทำชุ่ยๆ น่ะ!”
“ไม่ได้ชุ่ยนะ”
“พอแล้วๆ ไปซักเสื้อผ้าไป!”
จางเย่เดินไปที่ห้องน้ำ ถอนใจก่อนหยิบเก้าอี้ซักผ้ามานั่ง พวกที่ซักเครื่องได้ เขาก็โยนใส่เครื่องซักผ้าไป ส่วนพวกที่สีตกหรือซักเครื่องไม่ได้ จึงได้แต่แช่ไว้ซักมือทีละชิ้นๆ ตลอดเช้าจางเย่ไม่ได้อยู่ว่างเลย
ช่วยไม่ได้นี่นะ ติดหนี้เลยไร้ซึ่งสิทธิมนุษยชน
เที่ยงวัน
เมื่อจางเย่เสร็จงานทุกอย่าง หลังของเขาก็ปวดเมื่อยไปหมด
"เสร็จแล้วเหรอ?" เหราอ้ายหมิ่นเหลือบมองเสื้อผ้าที่ตากไว้ที่ระเบียง พูดอย่างพอใจโดยไม่ปากร้ายใส่ซึ่งหาได้ยากนัก "อืม ไม่เลวนี่ ใช้ได้ เที่ยงนี้ก็อยู่กินข้าวละกัน" เธอวางคัมภีร์โบราณ ‘ซานไห่จิง*’ ในมือลงก่อนเดินไปที่ครัวเพื่อทำอาหาร การมีอยู่ของ ‘ซานไห่จิง’ ไม่ได้ถูกเกมปรับเปลี่ยนไป โลกนี้มีทั้งสิ่งที่คงเดิมและเปลี่ยนแปลง จางเย่ได้แต่เรียนรู้และทำความคุ้นเคยกับรายละเอียดทุกอย่างไปอย่างช้าๆ
จางเย่ดีใจมาก เขากินแต่บะหมี่สำเร็จรูปมาตั้งหลายวันแล้ว ในที่สุดก็จะได้กินข้าวเป็นมื้อจริงๆ เสียที เขานั่งพักบนเก้าอี้ สูดลมหายใจเข้าปอดสองสามเฮือก ก่อนจะเปิดหน้าจอของแหวนเกมขึ้นมา พบว่าค่าชื่อเสียงของตัวเองเพิ่มขึ้นหนึ่งจุดจริงๆ ครบหนึ่งแสนจุดแล้ว!
คุณน้าเจ้าของห้องให้แต้มเขามางั้นสิ? ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาคาดการณ์ไว้จะถูกต้อง!
คำอธิบายค่าชื่อเสียงของแหวนเกมมีอยู่ว่า : ค่าชื่อเสียงของผู้เล่นเพิ่มขึ้นได้จากความนิยม ประสบการณ์ ความสำเร็จ ความเคารพนับถือ ความเชื่อถือ การเป็นที่รู้จักของผู้เล่น รวมไปถึงปัจจัยอื่นๆ พูดอีกอย่างก็คือเมื่อมีคนเชื่อถือ นับถือหรือยอมรับเขา ค่าชื่อเสียงของเขาก็จะเพิ่มขึ้นหนึ่งจุด และค่าชื่อเสียงจากแต่ละคนยังสามารถเพิ่มซ้ำได้อีก รู้ได้อย่างไรน่ะเหรอ? ก็เพราะการสัมภาษณ์เมื่อวานนี้ มีกรรมการทั้งหมดแปดคน แต่ค่าชื่อเสียงของจางเย่กลับเพิ่มขึ้นจาก 99,983 เป็น 99,999 เท่ากับเพิ่มมาสิบหกจุด นั่นหมายความว่าหลังจากที่จางเย่ท่องบทความหนึ่งพันคำแบบไม่มีสคริปต์ออกไป ทุกคนเพิ่มค่าชื่อเสียงให้กับเขาแปดจุด และหลังจากที่จางเย่ท่อง ‘บทเพลงแห่งนกนางแอ่นผู้กล้าหาญ’ ออกไป ทั้งแปดคนก็เพิ่มค่าชื่อเสียงให้กับเขาอีกแปดจุด ตัวเลขตรงกันพอดีเปะ!
ในเมื่อเข้าใจแล้วว่าค่าชื่อเสียงมาได้อย่างไร ต่อไปก็เหลือแค่เสี่ยงลอตเตอรี่ ลองดูสิว่าคราวนี้จะได้อะไร!
จางเย่หวังอย่างมากว่าจะเปิดได้ไอเทมที่เปลี่ยนให้เขาเป็นยอดมนุษย์ ถ้าคนทั้งโลกเคารพบูชาเขา เขาก็จะยิ่งมีความสุข แต่คิดๆ ดูแล้วมันคงเป็นไปไม่ได้หรอก คนที่โดนแมงมุมกัดจนพิษเข้าตัวกลายเป็นสไปเดอร์แมน คนที่โดนเหล็กฝังร่างกลายเป็นไอรอนแมน คนที่คลุกคลีกับค้างคาวก็กลายเป็นแบทแมน อืม ถ้าทั้งหมดนี้เป็นหลักการทางวิทยาศาตร์ล่ะก็ จางเย่รู้สึกว่า...ความเป็นไปได้ที่ตัวเขาเองจะกลายเป็นมาม่าแมนมันสูงกว่าอย่างอื่นจริงๆ!
กดซื้อลอตเตอรี่ ชื่อเสียง 100,000 จุด กลายเป็นศูนย์ทันที!
หน้าจอลอตเตอรี่ปรากฏขึ้น จางเย่เป่าเพี้ยงบนกลางฝ่ามืออย่างตั้งใจ ก่อนถูมือเข้าหากัน แล้วกดปุ่มให้วงล้อเริ่มทำงาน!
เริ่มหมุนแล้ว!
เข็มบนวงล้อหมุนอย่างรวดเร็ว!
“หมวดพิเศษ! ออกหมวดพิเศษนะ!” จางเย่ลุ้นกับตัวเอง เมื่อดูจากขนาดของพื้นที่ ต่อให้คนโง่ก็ยังรู้เลยว่าหมวดพิเศษนี่มีโอกาสได้ยากที่สุด แม้เขาจะไม่รู้ความหมายของคำอธิบายเกมที่เขียนไว้ว่า “เพิ่มสิทธิ์ในซื้อของในร้านค้า” แต่ในเมื่อเป็นของที่ได้ยากสุดขีด ถ้าได้มาต้องไม่ผิดหวังแน่!
ทว่า โชคดีหนึ่งถึงสองเปอร์เซ็นต์นั่นกลับไม่หล่นใส่จางเย่ เมื่อเข็มหยุดลง มันยังคงชี้ไปที่หมวดใช้แล้วทิ้งที่ใหญ่ที่สุดเหมือนเดิม
หีบสมบัติ (เล็ก) ปรากฏขึ้น!
เปิดหีบออก แสงจ้าพร่าตาสว่างวาบ!
ด้านในมีของที่ดูเหมือนพลาสเตอร์ปิดแผลวางอยู่!
【สติกเกอร์โชคร้าย】:แสดงผลเมื่อติด ทำให้โชคร้ายติดตัว ระยะเวลาแสดงผลห้านาที
(ผู้แปล : *ลอฟต์ หมายถึงห้องชุดที่มีสองชั้นหรือมีชั้นลอยมีบันไดอยู่ภายในตัวห้อง
*คัมภีร์ซานไห่จิงหรือตำนานภูผามหานที เป็นตำราที่ว่าด้วยภูมิศาสตร์และสัตว์ประหลาดตามตำนานจีนโบราณ)
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
CM :จางน้อยซักผ้าเป็นนะเนี่ย รู้จักแยกผ้าด้วย 555 อ่านมาหลายเวอร์ชันมาก สรุปว่าเวอร์ชันจีนเถื่อนหื่นสุด เวอร์ชันฉีเตี่ยนนี่ประโยคบรรยายความงามเจ๊เหราวับๆ แวมๆ โดนตัดเรียบ 555
TurKish_TEA : จางน้อยมีความเป็นทาส เอ๊ยพ่อบ้านพ่อเรือน 555